“เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา มีรายงานว่าพบหญิงสาวกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย...”
“ข่าวด่วนรายงาน... พบหญิงสาวกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย เมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.45 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบเพียงรองเท้าผู้หญิงวางอยู่ริมราวสะพาน และมีพยานที่เห็นเหตุการณ์ให้ข้อมูลว่า ผู้ตายเป็นหญิงสาวอายุประมาณ 25-28 ปี ๆ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกระโปรงสีกรมท่า...”
ภาพข่าวตัดไปที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังฉายไฟส่องลงไปในแม่น้ำ สายน้ำดำสนิทสะท้อนเงาแสงไฟดูวังเวงน่าขนลุก
“ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างค้นหาร่างของหญิงสาวรายนี้ เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่มีผู้พบเห็นก่อนเกิดเหตุว่าเธอยืนอยู่ตรงราวสะพานเป็นเวลานาน ก่อนจะปีนขึ้นไป...”
เสียงนักข่าวหญิงสวมชุดกันฝน รายงานข่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
....
....
...
มุกไหมได้แต่นั่งกอดเข่าบนโซฟา สายตาจับจ้องไปที่ภาพบนจอทีวี ปล่อยให้แสงจากหน้าจอสะท้อนบนใบหน้าที่ซีดเซียวอยู่ตรงนั้น
“...โง่จริง ๆ”
เธอพึมพำกับตัวเองพลางถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย สายตายังคงมองภาพข่าวที่ฉายให้เห็นบริเวณสะพานที่หญิงสาวคนนั้นกระโดดลงไปด้วยความรู้สึกสับสน
จริงอยู่ ก่อนหน้านี้ที่เธอเพิ่งพูดออกมาว่าอยากตาย แต่ตอนนี้เธอกลับยังนั่งอยู่ที่เดิม และไม่รู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่บนโซฟาอยู่นานแค่ไหน
23.00 น แล้วสินะ
ภาพข่าวยังคงฉายชัดและสัมภาษณ์ผู้คนบริเวณนั้นที่เห็นเหตุการณ์ รวมไปถึงภาพสามีของผู้หญิงคนนั้นที่ร้องไห้ฟูมฟายเจียนตาย
แต่ ร้องไห้ทำไมก่อน!
ทีตอนที่เธออยู่ เขาไม่รักเธอให้มากกว่านี้ล่ะ แค่รักให้เหมือนตอนที่เคยรักกันก็แค่นั้น
แล้วเป็นไงล่ะ มาร้องไห้ในวันที่ใครอีกคนตายจากไปแล้ว จะมีประโยชน์อะไรในตอนนี้
เธอเคยมองการกระทำแบบนี้ว่าโง่มาก เคยคิดว่าคนเราจะทำอะไรแบบนั้นเพื่อคนที่ไม่รักเราแล้วไปทำไม
สู้แต่งตัวสวย ๆ แล้วหาผัวใหม่ง่ายกว่าอีก
แต่ก็นะ พอเธอคิดดูอีกที บางทีตอนที่คนเราทะเลาะกันจนขาดสติ อารมณ์ชั่ววูบอาจจะทำให้คนเราคิดฆ่าตัวตายได้ง่าย ๆ
ก็ถ้ามันถึงที่สุด…ของความเจ็บปวด
...
...
...
มุกไหมได้แต่มองเหม่อไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ภาพข่าวในทีวียังคงรายงานอย่างต่อเนื่อง แต่มุกไหมไม่ได้สนใจในเนื้อข่าวอีกแล้ว ได้แต่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปจนกระทั่ง
23.58 นาฬิกา …
ใกล้เที่ยงคืน…
เธอเหลือบไปมองนาฬิกา
แต่ถึงแบบนั้น…เขาก็ยังคงไม่กลับมาอยู่ดี
ว่าแต่…เธอกำลังรู้สึกอะไรอยู่กันแน่?
กำลังคาดหวังให้เขากลับมาในวันครบรอบและวันเกิด หรือกำลังคาดหวังให้เขาไม่ต้องกลับมาอีก?
มุกไหมมองเหม่อไปที่ระเบียง มองดูเม็ดฝนตกกระทบกับแสงไฟจากตึกสูงระยิบระยับของค่ำคืนในเมืองใหญ่ ในขณะที่เสียงฟ้าร้องจากด้านนอกยังคงดังและแรงขึ้นเรื่อย ๆ เธอได้แต่ขยับแขนกอดตัวเองแน่นขึ้น ความหนาวเย็นแล่นผ่านผิวหนังทั้งที่เครื่องปรับอากาศไม่ได้เปิดแรงมากนัก
เฮ้อ~ ถ้าคนเราสามารถย้อนอดีตเหมือนในหนังได้ก็ดีสิ
คอยดูนะ ถ้าการย้อนอดีตได้มีจริง เธอจะย้อนกลับไปเพื่อไม่รักผู้ชายอย่างเขาอีกเด็ดขาด
ทว่า…
ในจังหวะที่มุกไหม กำลังจมดิ่งกับความคิดของตัวเอง
จังหวะนั้น เสียงของนาฬิกาก็ดังขึ้น
ติ้ง~
เที่ยงคืนของวันที่ 7 เดือน 7
มุกไหมชะงักและหันมองไปที่นาฬิกาอีกครั้ง
ทันใดนั้น!!
เปรี้ยงงงง!!!
สายฟ้าฟาดจากนอกระเบียงดังสนั่น พลันมีสายแสงสว่างวาบหนึ่งจากปลายฟ้าสาดเข้ามายังที่เธอนั่ง
“อ๊ะ!”
แล้ว…ทุกอย่างในร่างกายก็วูบลงไป คล้ายกำลังแรงลมที่ไม่มีตัวตนดึงเธอเข้าไปในอวกาศ
ทุกอย่างรอบกายดูเงียบงัน…
มืดมิด…
และเย็นเฉียบ…
ในขณะที่สติของเธอกำลังจะวูบลงไปจนถึงขั้นมืดสนิท ในเสี้ยววินาทีนั้นเธอกลับได้ยินเสียงใครบางคนตะโกนเรียกชื่อเธอเสียงดัง
มุก!!