“ผมก็ไม่คิดว่าเรื่องมันจะยุ่ง เลยไม่ได้เล่าให้คุณฟังอย่างละเอียด” ฐากูรตอบภรรยาของตนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและเกรงใจอยู่ในที
“แล้วทำไมยูว์ถึงต้องยอมแต่งงานแทนด้วยล่ะ ทำไมยูว์ต้องยอม ชีวิตเป็นของยูว์นะ” คริสติน่าหันไปทางเนตรา ซึ่งรวิก็ไม่แปลกใจสักนิดที่แม่มีน้ำเสียงไม่พอใจ แม่เป็นนักสิทธิมนุษยชน เคยเข้าไปทำงานที่อินเดีย จนได้พบรักกับพ่อนั่นละ นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมพ่อถึงไม่ค่อยได้เล่าเรื่องหนี้และการแต่งงานให้แม่ฟัง
แต่มารอบนี้ คงเลี่ยงไม่ได้แล้ว ฐากูรจึงเล่าความจริงทั้งหมด รวมถึงเรื่องที่รวิปลอมตัวเป็นทนายแล้วให้มาโนชญ์ปลอมตัวเป็นเขาเพื่อลองใจเจ้าสาวด้วย
“โอ้ มายก็อด ทำไมต้องมีละครอะไรให้ยุ่งยาก ทำไมไม่ทำอะไรตรงไปตรงมา” ฟังจบ นักสิทธิมนุษยชนก็โวยวายขึ้นอีก
“ตอนนี้เรื่องมันผ่านจุดนั้นมาแล้วคริส เราต้องเดินหน้าต่อไปเรื่องลูก” ฐากูรเตือนสติ
คริสติน่าไม่เอ่ยอะไรอีก เธอหันมองเนตราอีกครั้งด้ว
