เช้าวันต่อมา เนตรารู้สึกตัวตื่นเพราะได้ยินเสียงคลื่นทะเลที่ดังอยู่ไม่ไกล เธอจึงลืมตาขึ้น ตั้งใจจะลงไปเดินเล่น เพราะตั้งแต่มาถึงภูเก็ต เมืองแห่งทะเล ยังไม่ได้เดินเล่นหรือเล่นน้ำอย่างจริงจังเลย
หญิงสาวเจ็บร้าวตรงส่วนนั้นมากกว่าเมื่อวาน เพราะเมื่อคืนรวิจัดหนัก แทบไม่ให้เธอได้พักร่างเลย เธอหันไปมองตัวการ ก็พบว่าเขาตื่นแล้ว และกำลังมองมาที่เธอด้วยแววตาหวานระยับ จนเธอต้องหลบตา
“มอนิ่งครับ” เขาทักทาย
“มอนิ่งค่ะ” เธอทักตอบ “ฉันอยากลงไปเดินเล่นที่ทะเลหน่อยค่ะ”
“เดินไหว?”
หญิงสาวส่งวงค้อนให้เขา แล้วประชด
“เดินไม่ไหว คุณก็อุ้มฉันก็แล้วกัน”
“อ๊ะ จัดให้” ไม่พูดเปล่า เขาลุกขึ้นแล้วช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มทันที
“โอ๊ย ฉันล้อเล่นคุณคาร์ล ปล่อยนะ” หญิงสาวหวีดร้องเสียงดังด้วยความตกใจ
เขาไม่ฟังเสียง อุ้มเธอออกไปที่ระเบียงเพื่อรับอากาศยามเช้าที่แสนสดชื่นด้วยกัน
“ตอนนี้จะแปดโมงกว่าแล้ว ชมทะเลจากตรงนี้ก่อนก็พอนะ คุณอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่า ผมไม่อยากให้เกินเก้าโมง เมื่อเช้าโทร.หานวล นวลบอกว่าคนไทยถือฤกษ์ยาม และเลขเก้าก็เป็นเลขมงคล”
“คุณจะทำอะไรคะ ทำไมต้องดูฤกษ์ด้วย”
“เดี๋ยวคุณก็รู้ ตอนนี้ไปอาบน้ำก่อนดีกว่า เอ๊ะ หรือจะให้ผมอาบให้” เขาส่งยิ้มมีเลศนัยมาให้ ซึ่งพอเห็นยิ้มแบบนั้น หญิงสาวก็ส่ายหน้ารัว ๆ
“ไม่ค่ะไม่ ฉันอาบเอง ปล่อยสิคะ”
"ผมอุ้มไปส่งดีกว่า”
แล้วเขาก็ทำอย่างที่พูด อุ้มเธอไปวางหน้าห้องน้ำอย่างทะนุถนอม ก่อนปิดประตูให้เขาไม่วายส่งยิ้มกรุ้มกริ่มให้
“แน่ใจนะว่าไม่ให้ผมอาบให้น่ะ”
เนตราปิดประตูใส่หน้าเขาแทนคำตอบ ตามมาด้วยเสียงล็อกกลอน คนที่อยู่ด้านนอกหัวเราะออกมาขำ ๆ ก่อนผละจากมา แล้วโทร.หามาโนชญ์เพื่อถามให้แน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางนั้นก็คอนเฟิร์มหนักแน่น
เวลาประมาณแปดนาฬิกาสี่สิบนาที เนตราก็เดินลงบันไดมาในชุดแสคสั้นสีขาวแบบเรียบ ๆ แต่งหน้าอ่อน ๆ ผมยาวสลวยรวบไว้หลวม ๆ ด้วยผ้าผืนใหญ่
หญิงสาวชะงักไปเมื่อพบว่าในห้องโถงนั้น ไม่ได้มีแค่คาร์ล แต่ยังมี ‘รวิ’ และเจ้าหน้าที่ในชุดสีกากีอีกสองนาย คนหนึ่งมีสง่าราศี ท่าทางเป็นหัวหน้า
เธอมองทุกคนในที่นั้นหน้าตาตื่น ก่อนจะมองไปที่คาร์ลด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
รวิลุกจากเก้าอี้มาจูงมือเธอ พาไปนั่งข้างกัน แล้วเอ่ยกับท่านนายอำเภอ
“ผมกับว่าที่เจ้าสาวพร้อมสำหรับการจดทะเบียนสมรสแล้วครับ”
“เดี๋ยวนะคะ” เนตรายังคงไม่แน่ใจ ยังคงลังเลใจ เธอหันไปทาง ‘รวิของเธอ’ เพื่อขอความมั่นใจอีกครั้งว่าทุกอย่างจะเป็นไปอย่างที่เขาเคยพูดใช่หรือไม่ หนี้ทั้งหมดจะถูกปลดลงจริงใช่ไหม
ทนายมาโนชญ์พยักหน้าแข็งขัน “ทุกอย่างจะเป็นอย่างที่ผมพูดกับคุณทุกประการ”
คราวนี้เธอหันไปทางคาร์ลของเธอ ก็สบเข้ากับรอยยิ้มและแววตาแสนอบอุ่น เพื่อให้เธอมั่นใจในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
เนตราก้มลงมองมือตัวเองที่วางอยู่บนตัก ในใจยังเต็มไปด้วยความสับสนในหลาย ๆ อย่าง แต่ก็รู้ดีว่าไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว เธอมีทุกคนที่บ้านเป็นเหมือนตัวประกัน เธอจะละทิ้งหน้าที่ไม่ได้
มือเรียวเอื้อมไปหยิบปากกา แล้วเซ็นชื่อตัวเองลงไปด้วยเส้นสายที่มั่นคงหนักแน่น บอกตัวเองว่า หลังจากนี้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
หลังจากนั้น รวิก็เซ็นลงไปบ้าง เป็นอันเสร็จพิธี
ท่านนายอำเภออวยพรให้ทั้งคู่ครองรักกันอย่างมีความสุขและยั่งยืน แล้วให้ใบทะเบียนสมรสแก่หนุ่มสาวคนละใบ ซึ่งรวิก็เป็นคนเก็บไว้เองทั้งหมด
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว รวิก็เชิญท่านนายอำเภอร่วมรับประทานอาหาร แต่ท่านปฏิเสธเพราะมีธุระที่อื่นต่อ โดยมาโนชญ์เป็นคนขับรถไปส่งท่าน
พอเจ้าหน้าที่กลับไป เจ้าของบ้านและดาริกาก็มาถึง
งานกินเลี้ยงเล็ก ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเองอย่างที่สุด ดาริกาคอยดูแลเทคแคร์เนตรา ท่าทางหญิงสาวจะเอ็นดูภรรยาของเพื่อนเอามาก ๆ ทำให้เนตรารู้สึกอบอุ่นใจเป็นอย่างมากด้วย
เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น หญิงสาวหยิบขึ้นมาดูแล้วก็มีสีหน้าไม่สบายใจ ตั้งแต่เธอเปิดเครื่องก็มีข้อความแจ้งเตือนว่าปภาดาพยายามโทร.หาเธอประมาณห้าสิบสายได้
เธอเดินเลี่ยงจากวงปาร์ตี้เล็ก ๆ เดินออกไปรับสายหน้าบ้าน รวิมองตามด้วยความเป็นห่วง
“ละสายตาบ้างก็ได้มั้ง” ดาริกาแซวด้วยความหมั่นไส้
“เฮ้ย เปล่า” รวิส่ายหน้าปฏิเสธ “ฉันก็แค่เป็นห่วงเขา กลัวญาติเขาจะร้ายใส่”
“แต่ตอนนี้เนตรเขามีมึงแล้วไง ไป ๆ มา ๆ เพื่อนกูกลายเป็นฮีโร่เฉ้ย” อังศุธรหัวเราะเบา ๆ
“แล้วมึงล่ะ เมื่อไหร่จะหาสาว ๆ เอาไว้คอยปกป้องซักคนวะ” ดาริกาวกมาถามหนุ่มหล่อท่าทางรักอิสระ ซึ่งเขาก็โบกมือว่อน
“ไม่เอาอะ อยู่แบบนี้ก็สบายใจ เอาไว้ดูไอคาร์ลก่อน ถ้ามันแต่งงานแล้วมีความสุข กูอาจจะยอมแต่งกับใครซักคน”
“เออ แล้วจะมีความสุขมั้ยวะไอ้คาร์ล เท่าที่ฟังมึงเล่ามา กูว่าป้าของเนตรกับแม่ปอยเปตนั่นไม่ยอมปล่อยให้เนตรมีความสุขแน่ ๆ งานนี้คนเจอศึกหนักจะเป็นเมียมึงนะ ดูแลเขาให้ดีล่ะ ผู้หญิงอย่างเนตรน่ะ กูอ่านออกนะเว้ย”
“ยังไงวะ” อังศุธรเป็นคนถาม
“เป็นคนหัวอ่อนก็จริง ยอมคนอื่นง่าย ๆ ก็จริง แต่ถึงเวลาจะเด็ดขาดขึ้นมาล่ะก็ อะไรก็ห้ามเขาไม่ได้”