หัวขโมย!

1671 Words
“ฮัลโหล ปอย” เมื่อเดินออกมาที่หน้าบ้านแล้ว เนตราก็กรอกเสียงลงไป “รับโทรศัพท์ได้ซักทีนะเนตร” ปภาดาส่งเสียงเกรี้ยวกราดลงมาทันที “หายหัวไปไหนมา ไปกับผัวแกมาเหรอ ผัวแกคนไหนอะ ไอ้คนที่ฉุดแกไปนั่นเหรอ” “นี่ปอยรู้เหรอว่าเนตรโดน...เอ่อ...โดนจับตัวไป” เนตราไม่สนคำถามเรื่อง ‘ผัว’ “รู้สิ เมื่อวานฉันเจอคุณรวิ ว่าที่เจ้าบ่าวของฉัน เขาบอกฉันเองแหละ” “ว่าที่เจ้าบ่าวของปอย?” เนตราแปลกใจเป็นอย่างมากกับคำนั้นที่ออกจากปากของญาติของตน “ใช่ ฟังนะ เนตร แกไม่ต้องแต่งงานกับคุณรวิแล้ว ดีใจมั้ย” “เนตรไม่เข้าใจ” หญิงสาวถามเสียงตระหนก นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่ “ไม่มีอะไรเข้าใจยากเลย ก็หมายความว่า ฉันจะเป็นคนแต่งงานกับเขาตามที่มันควรจะเป็นตั้งแต่แรกไงล่ะ” “ทำไมล่ะ” “ทำไมแกต้องถามด้วย แกควรจะดีใจสิ ที่จะได้ไม่ต้องอยู่กับคนที่แกไม่ได้รักน่ะ” “แล้วปอยล่ะ ปอยก็ไม่ได้รักเขานี่” “แกรู้ได้ไง เอ่อ ฉันหมายความว่า เดี๋ยวอยู่ไปนาน ๆ ก็รักเองนั่นแหละ แกกลับกรุงเทพได้เลย ฉันจะอยู่กับคุณรวิเอง” เนตรานิ่งเงียบ จับต้นชนปลายไม่ถูก “ได้ยินหรือเปล่า” ปภาดาตะคอก “ตอนนี้แกอยู่ไหน บอกให้ผัวแกมาส่งที่โรงแรมได้แล้ว มีคนมารอพบแกแน่ะ” “ใครจ๊ะ” หลุดปากถามโดยอัตโนมัติ ทั้งที่สมองยังคิดแต่เรื่องที่ปภาดาพูด ปภาดานะหรือจะแต่งงานกับ ‘รวิ’ คำที่บอกว่าอยู่ ๆ นานไปก็รักกันเองนะหรือ จะหลุดจากปากปภาดา เป็นไปได้อย่างไร “มาถึงก็รู้เองนั่นแหละ รีบ ๆ หน่อยก็แล้วกัน” รวิไม่ขัดใจภรรยา เมื่อเธอบอกว่าจะกลับไปหาปภาดา เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าหญิงสาวคนนั้นจะเล่นเกมแบบไหน โดยเขาจะเป็นคนไปส่งภรรยาด้วยตัวเอง ส่วนดาริกาก็ขอตัวกลับที่พักของตนเช่นกัน แต่ก่อนไปได้กำชับกับรวิว่า ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอก เธอพร้อมเสมอ จากนั้นจึงหันไปสวมกอดเนตรา “ยินดีต้อนรับนะคะ น้องสะใภ้คนแรกของทีมอสรพิษแห่งฟากฟ้า” เนตราเบิกตากว้าง ทำหน้าฉงน “อสรพิษแห่งฟากฟ้าเหรอคะ” ดาริกาหัวเราะสนุก “มีปีหนึ่ง ตะวันกับคาร์ลบินมาหาพี่ริก้าที่ฝรั่งเศส แล้วพวกเราก็ทำอะไรสนุก ๆ มัน ๆ ด้วยกันเยอะมาก จนเพื่อน ๆ ตั้งฉายานี้ให้ เพราะชื่อของพวกเราสามคนหมายถึงสิ่งที่อยู่บนท้องฟ้าทั้งหมดเลย สองคนนั้นแปลว่าพระอาทิตย์ ส่วนพี่ ชื่อก็แปลว่าดวงดาว” "อย่างนี้นี่เอง” หญิงสาวทำเสียงรับรู้ ก่อนยกมือไหว้อังศุธรกับดาริกา “ขอบคุณมากนะคะ ที่เมตตาเนตร” “เนตรน่ารักขนาดนี้ จะไม่ให้รักได้ไง” ดาริกาว่าพลางสวมกอดอีกครั้ง แล้วจึงปล่อย อังศุธรทำท่าจะเข้าไปกอดเนตราบ้าง แต่รวิกระแอมครั้งหนึ่งแล้วเอาตัวเข้าแทรกระหว่างกลาง จากนั้นรีบพาภรรยาไปที่รถ อังศุธรหัวเราะก๊ากคนหวงเมีย จากนั้นจึงเดินไปส่งดาริกาขึิ้นรถบ้าง โดยรับปากว่าตอนเย็นจะตามไปปาร์ตี้ที่โรงแรม ปณิตาขมวดคิ้วแปลกใจ เมื่อกลับจากข้างนอกแล้วเห็นส้มแป้น สาวใช้คนเดียวของบ้านกำลังทำความสะอาดในส่วนของห้องรับแขกอยู่อย่างขะมักเขม้น “เฮ้ย พี่ทำตั้งแต่เช้าแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมยังไม่เสร็จอีก บ้านก็แค่นี้เอง” เด็กสาวถามงง ๆ มองหน้าอีกฝ่ายที่ทั้งมันแผล็บและขะมุกขะมอม “คุณนายให้ทำสองรอบค่ะ” ส้มแป้นตอบเสียงหอบเหนื่อย ท่าทางเหมือนจะเป็นลม “ทำไมล่ะคะ” “ได้ยินว่าจะมีแขกสำคัญมาบ้านค่ะ” “แขกสำคัญ?” เด็กสาวทวนคำ “ใครคะ พ่อแม่พี่ณัฐเหรอ” “พี่ส้มแป้นก็ไม่รู้หรอกค่ะ” ตอบพลางทรุดกายลงนั่งอย่างหมดแรง เท้าแขนไปข้างหลัง ระหว่างนั้นเอง กชกรก็เดินออกมาจากข้างในบ้าน “ใครจะมาคะแม่” เด็กสาวหันไปถามมารดา “เจ้าหนี้เรา” ตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “อ้าว ก็มาไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ จนแม่บังคับพี่เนตรบินไปให้ท่าเขาถึงภูเก็ต...โอ๊ย!” ตอนท้ายเด็กสาวร้องเสียงหลงเมื่อโดนคนเป็นแม่หยิกหมับแล้วบิดเนื้อ “เจ็บนะแม่” “ถ้าเจ็บก็ช่วยจำด้วยว่าทีหลังอย่าพูดอะไรแบบนี้อีก” ปณิตาเบี่ยงกายออก “เปี๊ยกพูดผิดตรงไหนล่ะ ก็แม่ส่งพี่เนตรไปให้อีตารวินั่นเชือดจริง ๆ นี่” คนเป็นแม่คว้าหมอนใกล้มือได้ก็ทำท่าจะขว้าง แต่เด็กสาวก็ไว วิ่งไปหลบข้าง ๆ แจกันใบสวย “ขว้างมาเลยค่ะ จะได้โดนแจกันใบโปรดของแม่ มาเล้ย” “ยายเปี๊ยก!” กชกรเรียกชื่อนั้นด้วยความขัดใจ และยอมวางหมอนลงในที่สุด “จริง ๆ เลยนะแก ไม่เคยทำอะไรให้แม่สบายใจเลย ไม่เหมือนพี่สาวแก ทั้งสวยทั้งฉลาด” “สวยน่ะสวยอยู่ แต่เรื่องฉลาดนี่ไม่ค่อยแน่ใจ” ปณิตาไม่วายพึมพำ ผู้เป็นแม่ชี้หน้าคาดโทษ “อ้ะ ๆ เปี๊ยกไม่แกล้งแม่แล้ว เล่ามาค่ะว่าตกลงใครกันแน่ที่จะมาบ้านเรา” เมื่อฟังแม่จบลง เด็กสาวก็โวยวายด้วยความทึ่งแบบเหลือใจ “พี่ปอยทุเรศอะ พอรู้ว่าเขาหล่อก็เปลี่ยนใจดื้อ ๆ แบบนี้เหรอ” “ก็ปอยมีสิทธิ์นี่ เพราะเขาคือว่าที่เจ้าสาวแต่แรก ไม่ดีหรือไง ยายเนตรสุดที่รักของแกจะได้ไม่ต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักไง” คนเป็นแม่เถียงแทน “เหอะ พี่ปอยเขาคิดว่าโลกนี้เป็นของเขาคนเดียวหรือไง ถึงได้ทำอะไรตามใจแบบนี้ ระวังเถอะจะหน้าหงายกลับมา” “จะหน้าหงายได้ยังไง พี่สาวแกมีสิทธิ์ทุกอย่าง สวยก็สวยกว่ายายเนตร ผู้ชายที่ไหนจะไม่ชอบผู้หญิงสวย ๆ บ้างล่ะ” กชกรพูดด้วยน้ำเสียงภูมิอกภูมิใจในตัวลูกสาวคนโต “ถ้าคุณรวิเขาชอบพี่ปอยและไม่อยากแต่งงานกับพี่เนตรจริง เขาก็ปฏิเสธแต่แรกแล้วแม่ เท่าที่ฟังดูเขาไม่ใช่คนโง่ เขาต้องรู้อยู่แล้วว่าแม่หลอกเขาว่าพี่เนตรเป็นลูกแม่น่ะ” “รู้แล้วไงยะ ก็ไม่เห็นเขาจะว่าอะไรนี่ เถอะน่า แม่เชื่อฝีมือพี่สาวแกว่าจะทำให้คุณรวิเขาหลงใหลได้” ปณิตาส่ายหน้าไปมา แล้วลุกออกจากตรงนั้น โดยมีส้มแป้นค่อย ๆ ลุกเดินตามไป “คุณหนูเปี๊ยกขา แบบนี้คุณเนตรจะเป็นยังไงคะ จะโดนทิ้งให้เคว้งอยู่ที่ภูเก็ตมั้ยคะ” เมื่อเข้ามาอยู่ในห้องของปณิตา ส้มแป้นก็ถามปณิตาด้วยความเป็นห่วงเนตรา “เปี๊ยกไม่รู้ว่าพี่เนตรเขารู้ความจริงหรือยัง หรือรู้แล้ว พี่เขาอาจจะอยากให้เป็นไปตามที่พี่ปอยต้องการก็ได้นะ เดี๋ยวเปี๊ยกโทร.หาพี่เนตรหน่อยดีกว่า” พูดจบก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทร.ออก ถึงเนตราจะไม่ใช่พี่สาวแท้ ๆ แต่ปณิตาก็รักมากและสงสารเห็นใจอย่างที่สุด เวลาที่เนตราโดนแม่กับพี่สาวจิกใช้ เธอจะแอบช่วย และพยายามจะไม่เพิ่มความลำบากให้อีกฝ่าย แต่เนตราก็น่ารักกับเธอนัก ทำทุกอย่างให้เธอเหมือนกับที่ทำให้ปภาดาเสมอ สายติดแล้ว แล้วก็มีคนกดรับ เด็กสาวรีบกรอกเสียงลงไป “ฮัลโหล พี่เนตร...พี่อยู่กับพี่ปอยป่าวอะ” “สวัสดีครับ” ปลายสายเป็นเสียงห้าวทุ้ม “อ้าว ไม่ใช่เบอร์พี่เนตรเหรอคะ เอ...เบอร์พี่เนตรนะ” เด็กสาวเอามือถือออกห่างหูเพื่อเช็คเลขหมายและชื่อที่โชว์หน้าจอ ก็พบว่าเป็นเนตราจริง ๆ “ใช่ครับ เครื่องคุณเนตรา แต่เธอลืมไว้ที่บ้านผม” “อ้าว แล้วตอนนี้พี่เนตรอยู่ที่ไหนคะ” “น่าจะโรงแรมที่เธอพัก” “แล้วเมื่อไหร่คุณจะเอาเครื่องไปคืนพี่เนตรล่ะคะ เปี๊ยกมีธุระด่วนกับพี่เนตรค่ะ” “อืม...” อีกฝ่ายทำเสียงครุ่นคิด “เอ๊ะ เดี๋ยวนะคะ นั่นคุณรวิหรือเปล่าคะ” “ไม่ใช่” “อ้าว แล้วคุณเป็นใคร” “ผมก็เป็นคนที่คุณเนตรลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้านไง” คราวนี้เสียงที่ตอบกลับมายียวนชัด และเด็กสาวก็เริ่มหัวร้อนเสียแล้วสิ “พี่เนตรลืมไว้หรือคุณขโมยกันแน่ ขโมยล่ะสิ ถึงอ้ำอึ้งตอนถามว่าจะเอาเครื่องไปคืนพี่เนตรเมื่อไหร่ เลวเอ๊ย เครื่องพี่เนตรราคาไม่กี่พันบาทก็ยังขโมยเหรอวะ...เอาเครื่องไปคืนพี่เนตรเดี๋ยวนี้นะ ฉันสัญญาว่าจะบอกพี่เนตรไม่ให้แจ้งตำรวจจับนาย” “โอ้โห! ขอบคุณคร้าบ ไม่งั้นเสียชื่อมหาโจรอย่างผมหมดที่ต้องถูกตำรวจจับด้วยข้อหาขโมยมือถือเครื่องละห้าพันกว่าบาท” แล้ว ‘มหาโจร’ ก็หัวเราะอย่างเห็นขัน “จริง ๆ ด้วย ไอ้หัวขโมยเอ๊ย...” ปณิตาโวยวายด้วยความไม่พอใจ “เอาไปคืนพี่เนตรเดี๋ยวนี้นะ แล้วบอกให้พี่เนตรโทร.กลับเปี๊ยกด้วย” พูดจบก็กดตัดสาย แล้วหันไปทางส้มแป้นด้วยสีหน้าผิดหวัง “โทรศัพท์พี่เนตรถูกขโมยอะ อดคุยกับพี่เนตรเลย” ขณะเดียวกัน ‘โจรขโมยโทรศัพท์’ ก็ได้แต่หัวเราะขำ ๆ อยู่ในคฤหาสน์สุดหรูของตน พร้อมกันนั้นก็ชักติดใจเสียงแจ๋ว ๆ ปลายสายขึ้นมาอย่างประหลาด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD