ยินดีด้วยนะ

1194 Words
เออ แต่ก็อยู่แบบดี ๆ ก็ถูกแล้วนี่นา เธอเป็นคนดี จิตใจดี จนบางครั้งเขาก็คิดว่าเธอดีเกินไป “หัวเราะอะไรคะ” เนตราไม่เข้าใจเสียงหัวเราะนั้น “แน่ใจนะว่าอยากฟัง” เขาถามด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า เห็นแล้ว เนตราก็สะบัดหน้ากลับทันที “ไม่อยากฟังค่ะ” รวิหัวเราะเสียงดังกว่าเดิมนิดหน่อย มองเธอด้วยความหมั่นไส้ปนมันเขี้ยว นึกอยากลงโทษปากสีระเรื่อนั้นสักครั้งนัก การปรากฏตัวของสองหนุ่มสาวเรียกสายตานักท่องเที่ยวในห้องอาหารได้พอสมควร โดยเฉพาะรวินั้น ความเป็นเขามันโดดเด่นมาแต่ไหนแต่ไร เลือกโต๊ะเลือกอาหารกันได้แล้ว ทั้งคู่ก็นั่งลงตรงข้ามกันและเริ่มต้นรับประทานทันที รวิชี้ชวนให้เธอลองชิมอาหารที่เป็นอาหารท้องถิ่นของที่นี่ ซึ่งเนตราก็ชิมด้วยความเต็มใจ เธอชอบลองอาหารใหม่ ๆ อยู่แล้ว รับประทานกันไปได้สักพัก ปภาดาก็ก้าวฉับ ๆ มาหยุดยืนข้าง ๆ โต๊ะ “เนตร” เนตราเบิกตากว้างด้วยความตกใจระคนแปลกใจ ก็ไหนปภาดาบอกว่าไม่ให้เธอบอกรวิว่าเจ้าตัวอยู่ที่นี่ด้วยอย่างไรล่ะ แล้วทำไมจู่ ๆ ถึงมาปรากฏตัวที่นี่ “ปอย มาได้ไง” ปภาดายังไม่ตอบ เพราะกำลังมองรวิด้วยดวงตาเป็นประกายพึงพอใจ อังศุธรว่าหล่อแล้ว มาเจอผู้ชายคนนี้ หัวใจปภาดาก็เต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ก็รีบเก็บความรู้สึกเอาไว้ เมื่อคืน เธอโดนชายคนรักมีเซ็กส์ด้วยโดยที่เธอไม่พอใจ เขาจึงข่มขืนเธอ เพราะหึงเธอที่เธอมองอังศุธรด้วยแววตาท่าทางแบบนั้น และเช้านี้ เขาก็สั่งให้เธอทำงานบางอย่างให้เขา ไม่อย่างนั้น เธอจะโดนอีก คำสั่งของเขาคือพาเนตราออกจากโต๊ะให้ได้ เพื่อที่เขาจะได้เข้ามาคุยกับผู้ชายคนนี้ ‘ใครคะนั่น’ ‘ก็นี่ไง นักธุรกิจที่ผมบอกว่าใคร ๆ ก็ต้องการตัวเขามาร่วมลงทุนน่ะ’ ‘อ้าว แล้วเขารู้จักยายเนตรได้ยังไง’ ‘คุณไปถามกันเอาเองก็แล้วกัน...ไป รีบไปพาเนตรออกมา ผมจะได้เข้าไปทักเขาก่อนที่คนอื่นจะเข้าไป’ “ณัฐเขามาทำงานน่ะ เนตรอิ่มยัง มากับปอยทางนี้ก่อน มีเรื่องจะคุยด้วย” ไม่พูดเปล่า ดึงแขนเนตราให้ลุกขึ้นอย่างคนเอาแต่ใจและปราศจากความเกรงใจด้วย และรวิก็ไม่ชอบใจเอาเสียเลย “ให้คุณเนตรทานข้าวให้เสร็จก่อนดีกว่านะครับ” เขาท้วง “ไม่ได้หรอกค่ะ ฉันมีธุระกับเนตร อ้อ นี่คุณคงไม่รู้ว่าเนตรเป็นเด็กในบ้านของฉัน ขอตัวก่อนนะคะ” พูดจบก็ลากข้อมือเนตราออกจากตรงนั้นไปเลย รวิส่ายหน้าด้วยความระอาและรังเกียจเจ้าหล่อน พร้อมกันนั้นก็แน่ใจว่าการพาตัวเนตราออกไปนั้น เจ้าตัวน่าจะมีแผนอะไรสักอย่าง “สวัสดีครับ มิสเตอร์คาร์ล...” แล้วณัฐพัชร์ก็ก้าวเข้ามาแทนที่ รวิเงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็จำได้ว่าเป็นใคร เพราะผู้ชายคนนี้ปรากฏตัวเคียงข้างปภาดาเสมอ ปภาดาลากข้อมือเนตราออกมาด้านนอกห้องอาหาร แล้วตั้งคำถามทันที “ไปรู้จักมักจี่คนระดับนั้นได้ยังไง” “ใครจ๊ะ” เนตราถามงง ๆ “ทำไมชอบถามอะไรที่ดูโง่ ๆ ทุกทีเลยนะ เนตร” ปภาดาทำเสียงทำหน้ารำคาญ และเนตราก็หน้าเจื่อนไป “ก็เนตรไม่เข้าใจที่ปอยถาม” “เข้าใจยากตรงไหนเนี่ย ก็เมื่อกี้นั่งกินข้าวอยู่กับใครล่ะ” “คุณคาร์ล ทนายของคุณรวิไงจ๊ะ” “คาร์ล?” คราวนี้เป็นปภาดาที่ออกอาการงง “เขาไม่ได้ชื่อรวิหรอกเหรอ” เนตราส่ายหน้า “รวิคือเจ้านายเขา คือคนที่เนตรต้องแต่งงานด้วยไง” แล้วสายตาเธอก็บังเอิญมองไปทางประตูทางเข้าโรงแรม ซึ่ง ‘รวิ’ ของเธอกำลังเดินเข้ามาพอดี “นั่นไง คุณรวิ” ปภาดาหันไปมองแล้วก็ต้องเบิกตากว้าง จุดไต้ตำตออะไรได้ขนาดนี้! “หา! นั่นเหรอ เขา” “ใช่จ้ะ” “ตายละ หลบก่อนนะ” ปภาดารีบฉากหลบไปทางอื่นทันที เนตราได้แต่มองตามด้วยความไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง ก่อนจะหันกลับไปมองทาง ‘รวิ’ ที่กำลังเดินตรงมายังเธอ “คุณเนตรา” ‘รวิ’ ของเธอทักทายยิ้มแย้ม ไม่มีท่าทีว่าโกรธในการกระทำของเธอแต่อย่างใด เห็นอย่างนั้นแล้ว เนตราก็เบาใจไปเยอะ “สวัสดีค่ะ คุณรวิ” หญิงสาวพนมมือไหว้เขา “สวัสดีครับ...ได้พบกันแล้ว” เขาเอ่ยแซวยิ้ม ๆ “ดิฉันขอโทษสำหรับเรื่องเมื่อวานค่ะ” หญิงสาวยิ้มแห้ง ๆ มองเขาอย่างขอลุแก่โทษ มาโนชญ์พยักหน้า “ผมเข้าใจคุณ และไม่โกรธคุณเลยแม้แต่นิดเดียว” “ขอบคุณนะคะ คุณใจดีกับดิฉันมาก” “แล้วนี่...คุณ...เจ้าคาร์ลอยู่ไหน” “ทานมื้อเช้าอยู่ค่ะ คุณรวิมาทานด้วยกันนะคะ” มาโนชญ์รับคำ เดินตามหญิงสาวกลับเข้าไปข้างในห้องอาหารอีกครั้ง รวิกอดอกฟังณัฐพัชร์ ‘พล่าม’ ด้วยสีหน้าที่พยายามไม่แสดงออกถึงความเบื่อหน่ายที่มากเกินไป เพราะเขาก็ต้องพึ่งณัฐพัชร์ในบางเรื่อง “ผมขอคิดดูก่อนก็แล้วกัน” ชายหนุ่มแบ่งรับแบ่งสู้เมื่ออีกฝ่ายพล่ามจบ ทั้งที่ฟังแนวทางธุรกิจของเขาแล้ว ไม่มีความน่าสนใจแม้แต่น้อย มีหลายอย่างที่แสดงว่าเจ้าตัวไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจของตัวเอง มีแต่การพยายามโชว์ความคิดแบบผิว ๆ “ขอบใจคุณมากที่ให้เกียรติผม” ณัฐพัชร์เป็นคนใจร้อนและเป็นคนที่ได้ทุกอย่างดังใจมาตลอด เมื่อได้ยินคำนั้นก็รู้สึกไม่พอใจ อยากให้รวิพูดคำที่ตรงใจมากกว่านี้ “คุณรวิอยู่เมืองไทยอีกกี่วันครับ แล้วเราจะพบกันครั้งต่อไปเมื่อไหร่ดี” “ผมจะเป็นฝ่ายติดต่อคุณไปเอง...” พูดจบก็ผายมือเป็นเชิงเชิญอีกฝ่ายให้ออกไปได้แล้ว ณัฐพัชร์จำเป็นต้องลุกขึ้น โค้งให้เล็กน้อย แล้วก็เดินจากมา ณัฐพัชร์สวนกับเนตราและมาโนชญ์ เมื่อเห็นมาโนชญ์ เขาก็ทำหน้าแปลกใจ “นี่เรารู้จักไอ้บ้านี่ด้วยเหรอ เนตร” เนตราตาโตกับคำเรียกขานนั่น “รู้จักค่ะ นี่คุณรวิ...เอ่อ...” “รวิ?” ณัฐพัชร์ทวนคำแปลกใจ “คนที่ปอยบอกว่าเป็นว่าที่เจ้าบ่าวเรานะเหรอ” เนตราเงียบเป็นเชิงยอมรับ เท่านั้นเองณัฐพัชร์ก็หัวเราะสมเพช “ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าด้วยนะเนตร” จากนั้นจึงเดินหัวเราะเบา ๆ จากไป “ดิฉันขอโทษแทนเขาด้วยนะคะ” เธอหันมอง ‘รวิ’ อย่างขอลุแก่โทษ มาโนชญ์รีบโบกไม้โบกมือ “ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ถือ ผมชินแล้ว” จากนั้นมาโนชญ์ก็เดินนำหญิงสาวไปที่โต๊ะซึ่งรวินั่งอยู่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD