เนตรามองเสื้อผ้าที่ส้มแป้นจัดมาให้แล้วก็อยากจะเป็นลมตอนนี้เลย ชุดของปภาดาสวยก็จริง แต่มันเปิดเผยเนื้อตัวมากเกินไป และมันก็ไม่เหมาะกับเธอเอาเสียเลย ที่สุด หญิงสาวก็หันไปหยิบชุดของตัวเอง ซึ่งเป็นแมกซี่เดรสแบบเรียบ ๆ สีขาว ซึ่งเป็นชุดที่ปณิตาให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อสองปีก่อน
เมื่อเธอเดินเข้าไปในล็อบบี้ นักท่องเที่ยวชายชาวต่างชาติหันมองเธอหลายคน จนเธอเกิดความประหม่า แต่ก็ยังฝืนทำมั่นใจเอาไว้ โดยหารู้ไม่ว่า หน้าตาที่สวยหวานของเธอ ท่าทางเรียบร้อย บวกกับบุคลิกที่ดูเป็นคนถือตัว และโลกส่วนตัวสูง กลายเป็นความท้าทายสำหรับผู้ชาย เห็นแล้วอยากเป็นคนที่สามารถก้าวเข้าไปในโลกของเธอให้จงได้
ด้วยเหตุผลนั้น ระหว่างที่นั่งรอคุณทนายอยู่มุมหนึ่ง จึงมีหนุ่มฝรั่งใจกล้าคนหนึ่งเดินเข้าไปทักทายและแนะนำตัวกับเธอด้วยท่าทีสุภาพ ไม่คุกคาม เธอทักทายเขากลับด้วยภาษาอังกฤษที่ไม่แข็งแรงนัก แต่รอยยิ้มของเธอทำให้รวิที่มาถึงแล้วเห็นเกิดความหวงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“ขอโทษครับ” ชายหนุ่มเอ่ยแทรกบทสนทนานั้น สีหน้าเครียดขรึมและมีแววตาที่เนตราไม่ค่อยเข้าใจ
หนุ่มฝรั่งหันมองเขา ครั้นแล้วก็โค้งศีรษะให้อย่างสุภาพ ก่อนเดินจากไปด้วยสีหน้าเสียดายเห็นได้ชัด
“คุณกำลังจะแต่งงานนะ เนตรา” รวิเอ่ยเสียงดุ ภาพในอดีตบางภาพวาบเข้ามาในความคิด
หญิงสาวหน้าหวาน ตาซึ้ง ท่าทางเรียบร้อยแบบนี้ละ แต่ลับหลังเขาก็ร้ายเรื่องผู้ชายจนน่าขยะแขยง!
“แล้วคุยกับเพื่อนต่างเพศไม่ได้เลยเหรอคะ” เธอย้อนถามตรง ๆ “ผู้หญิงผู้ชายเป็นเพื่อนกันได้นี่นา”
ที่เธอพูดก็ถูก และมันก็เป็นเรื่องปกติมาก ๆ ถ้าคนเราจะมีเพื่อนผู้ชายบ้าง แต่ไม่รู้ละ เขาไม่อยากให้ใครมาวอแวกับคนหน้าหวาน ยิ้มหวาน ๆ ของเธอ ไม่ชอบ!
ก็เธอกำลังจะเป็นภรรยาเขาเขาก็มีสิทธิ์ไม่ชอบมั้ยล่ะ?
รวิให้เหตุผลแก่ตัวเองอย่างนั้น ก่อนจับมือเธอให้ลุกขึ้น
“ไปเร็ว หิวแล้ว”
เนตรารีบดึงมือออกทันที “ฉันกำลังจะแต่งงานนะคะ คุณทนาย แถมว่าที่เจ้าบ่าวก็คือเจ้านายของคุณด้วย” เธอเอ่ยอย่างตำหนิ
รวิได้สติ ว่าตัวเองกำลังสวมบทบาทไหนอยู่ จึงจำยอมปล่อยมือนุ่ม ๆ นั้นอย่างเสียดาย
“ผมขอโทษ” เขาถอยห่างเธอ แล้วผายมือให้เธอออกเดิน
“คุณรวิโทร.มาบ้างหรือเปล่าคะ” เนตราอดกังวลไม่ได้ เธอเอ่ยถามเมื่อรถแล่นออกจากโรงแรมแล้ว
“โทร.มาสิ ว่าที่ภรรยาหายไปทั้งคนนี่”
หญิงสาวหน้าเสีย “เขาโกรธมากมั้ยคะ และเขาจะไม่ยกเลิกเรื่องแต่งงานใช่มั้ยคะ”
“ก็ไม่แน่” เขาขู่
คราวนี้เธอทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ นึกภาพออกเลยว่าถ้ารวิผิดสัญญาเรื่องแต่งงาน แล้วเรียกร้องเอาเงินสดแทน ชีวิตเธอจะเป็นอย่างไร มันคงไม่มีอะไรเลวร้ายได้เทียมเท่าแน่ ๆ
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ คุณเองก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับเขานี่นา อ้อ กลัวหนี้จะไม่ได้ชำระล่ะสินะ” เขาถามเองเออเอง
“ค่ะ” เนตรายอมรับตรง ๆ อย่างไม่อาย “ฉันกลัวคุณรวิเปลี่ยนใจ ไม่แต่งงาน แล้วเรียกเอาเงินสด พวกเราต้องตายแน่ ๆ และฉันก็คงเหมือนตกนรกทั้งเป็น เพราะคุณป้ากับปอยคงจะ...” แล้วเธอก็เงียบ ไม่พูดต่อว่าป้ากับปภาดาคงจะด่าทอและทำร้ายเธอสารพัดอย่าง เพราะไม่อยากพูดเรื่องในครอบครัวให้คนนอกได้รับรู้
รวิที่ทราบข้อมูลเธอจากบิดามาบ้างแล้ว มองเธอด้วยความเข้าใจและเห็นใจมากขึ้น ต่อให้อึดอัดขัดใจเธอที่ดูเหมือนไม่ค่อยกล้าขัดขืนป้ากับลูกสาว แต่เขาก็เข้าใจวัฒนธรรมของประเทศไทยเป็นอย่างดี
“ต่อไป ฉันจะไม่ทำอะไรแบบนี้อีกแล้วค่ะ ทุกอย่างจะจบลงด้วยดี ทุกฝ่ายจะได้รับความสุขและความพึงพอใจ”
“รวมถึงคุณด้วย?”
เนตรายิ้มขื่น
“ค่ะ เพราะถ้าทุกคนมีความสุข ฉันเองก็จะ...สงบสุขเช่นกัน”
เธอใช้คำว่าสงบสุขแทนคำว่าสุข ซึ่งมันก็หมายความตามนั้นจริง ๆ เธอทำใจและปลงมานานแล้วว่าชีวิตตัวเองเกิดมาเพื่อทำให้คนรอบตัวพบเจอความสุข แล้วเธอก็จะสงบสุข
มันเป็นเช่นนั้นตลอดมา
ร้านอาหารที่รวิพาเนตราไปทานนั้น อยู่คนละหาดกับที่พัก ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของอาคารแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ติดริมทะเล ตัวร้านเปิดโล่ง ประดับประดาด้วยแสงไฟสวยงาม ที่นั่งเป็นแบบนั่งพื้น มีเบาะรองนั่งใบใหญ่ที่สามารถเอนกายได้วางไว้ให้ลูกค้า แต่ละโต๊ะมีเทียนหอมแบบแก้วไว้ให้
รวิจองที่นั่งติดริมทะเลเอาไว้ ซึ่งเขาให้มาโนชญ์ติดต่อขอจองตั้งแต่เตรียมการไว้ว่าจะมาภูเก็ตแล้ว
“โอ้โห สวยมากค่ะ” หญิงสาวอุทาน ตาเป็นประกายตื่นตาตื่นใจ และรวิก็ดีใจที่เธอชอบ
“สั่งอาหารกันนะ ผมรู้ คุณหิว”
“คุณทนายสั่งเลยค่ะ” ยกหน้าที่ให้เขาแล้วก็หันไปมองทะเลต่อด้วยความตื่นเต้นอย่างเด็ก ๆ
“ไม่ค่อยได้มาทะเลเหรอ” สั่งอาหารเรียบร้อยแล้ว เขาก็ถามคนที่สองมือวางบนกำแพงเตี้ย ๆ แล้วเอาแต่มองทะเลตาเป็นประกาย
“ไม่ค่อยได้เที่ยวค่ะ ต้องช่วยกันประหยัด คุณลุงทำงานคนเดียว แต่ต้องดูแลพวกเราทั้งครอบครัว”
“แต่ได้ข่าวว่าสมัยเรียนคุณก็ทำงานพาร์ทไทม์ไปด้วยนี่”
หญิงสาวหันขวับมามองเขาด้วยความแปลกใจ “คุณรู้ได้ยังไง”
รวิหัวเราะ “คุณคิดว่าผม...เอ่อ...เจ้านายของผมเนี่ย เขาจะไม่หาข้อมูลฝ่ายเจ้าสาวบ้างเหรอ”
“แสดงว่าคุณรวิรู้ว่าฉันไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของคุณลุงคุณป้าจริง ๆ ด้วย” เธอพึมพำด้วยความละอาย ทำหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว “แล้วแบบนี้คุณรวิเขายังจะแต่งงานเหรอคะ เขายอมง่าย ๆ เหรอคะ”