"ขึ้นมาเร็วๆ"
น้ำเสียงเร่งเร้าของเขาดังมาจากในรถสปอร์ตคันหรู มันยิ่งกลายเป็นจุดสนใจเพิ่มขึ้นไปอีก ฃจากที่สนใจเพราะเสียงแตรรถแล้ว เพราะที่นี่มีแต่พนักงานในบริษัทของเขานะซิ ฉันจึงไม่มีทางเลือกรีบเปิดประตูเข้าไปนั่งข้างคนขับทันทีตามคำสั่ง
"เรามีเรื่องต้องคุยกัน"
พี่ต้นกล้าเปลี่ยนเกียร์รถแล้วเหยียบคัทเร่งออกตัวทันที ฉันรีบคาดเข็มขัดอย่างด่วนจี๋เมื่อความเร็วมันเพิ่มขึ้น แต่ขับออกมาไม่นานก็ต้องชะลอความเร็วลงเพราะรถติดนี่แหละนะชีวิตในเมือง
"ฝนมีเรียน"
"คุยในรถเนี่ยแหละ"
"คุยเรื่องอะไรคะ"
พี่ต้นกล้าจอดรถติดไฟแดงแล้วหันมามองฉันนิ่ง หน้าตี๋ๆของเขาทำให้ฉันคิดถึงพระเอกในนิยายที่เพิ่งอ่านฟินจิกหมอนไปเมื่อคืน พอมองนานเข้าหัวใจมันเต้นตึกตัก
"แค่มองหน้าทำไมต้องทำหน้าฟินขนาดนั้น..ฉันไม่พิศวาสเธอหรอกนะยัยเฉิ่ม"
"ฝะ..ฝนไม่ได้คิดอะไรนะคะ"
"หน้าเธอมันฟ้อง..ทำไม? หน้าฉันมันตรงสเปกเธอขนาดนั้นเลย?"
"..."
ฉันไม่ตอบเขาแล้วเฉมองออกนอกหน้าต่างรถ พอดีกับที่ไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว พี่ต้นกล้ากลับมาสนใจการขับรถต่อ
"นี่..ชอบหรือไงที่ผู้ใหญ่จับคู่ให้"
"..."
"ผู้ใหญ่ถามก็ตอบ"
"โตกว่าแค่ไม่กี่ปีเอง"
ฉันพูดมุบมิบอยู่คนเดียว มองไปทางหน้าต่างไม่อยากคุยกับคนหลงตัวเองมากนัก
"ฉันได้ยินนะ...ทำไมไม่ตอบหรือเธอชอบฉันเหรอ"
"ไม่ได้ชอบนะ"
"หรือคิดจะจับฉัน..ไม่น่าจะใช่ บ้านเธอก็รวยนิหว่า"
"พี่ต้นกล้ากำลังเข้าใจฝนผิด..ฝนไม่ได้คิดจะจับพี่นะ"
"เธออาจเปลี่ยนใจเพราะฉันตรงสเปกเธอไง"
"คนอะไรหลงตัวเอง"
"แล้วทำไมต้องตามใจพวกผู้ใหญ่ขนาดนั้น เธอโตขนาดนี้แล้วควรมีชีวิตเป็นของตัวเอง"
"กะ..ก็ฝนไม่รู้จะหลีกเลี่ยงคุณแม่กับคุณป้ายังไง"
พี่ต้นกล้าจอดรถติดไฟแดงอีกครั้ง ประเทศอะไรทำไมแยกไฟแดงมันเยอะขนาดนี้เนี่ย เมื่อไหร่จะถึงที่หมายสักทีฉันรู้สึกอึดอัดจะแย่
"หึ! ยัยเฉิ่มเบ๊อะเอ๊ย!"
".."
คำก็เฉิ่ม สองคำก็เฉิ่มเบ๊อะ!!
"เอางี้..ฉันมีข้อเสนอให้เธอสั้นๆ"
"..."
"แกล้งศึกษาดูใจกันสองเดือนให้พวกผู้ใหญ่ดู หลังจากนั้นแยก เธอก็ได้ไปฝึกงานในที่ที่เธออยากไป แถมยังไม่ต้องระแวงแม่จับคู่ให้อีกไปสองเดือน"
"...."
ฉันไม่ตอบเขาแต่เก็บประโยคที่พี่ต้นกล้าพูดเมื่อกี้เอามาคิดในหัวอย่างรวดเร็ว จนรถเริ่มเคลื่อนตัวอีกครั้ง ซึ่งเขาก็ปล่อยให้ฉันอยู่ในความคิดของตัวเอง
"สองเดือนมีกฎ..ฉันจะไม่แตะเธอ ไม่ล่วงเกิน ไม่ก้าวก่าย เราจะปฏิบัติเหมือนคู่รักก็ต่อเมื่ออยู่ต่อหน้าคนของคุณแม่และคุณแม่ของพวกเราเท่านั้น"
"..."
จะว่าไปข้อเสนอของเขาก็โอเคนะ
"แต่ถ้าเธออยากล่วงเกินฉันก็ขอได้นะ ฉันไม่ติด"
คนบ้าอะไร..หลงตัวเองสุดๆ
พอรถเลี้ยวเข้ามหาลัย เขาก็จอดหน้าตึกคณะฉันแบบพอดีกับประตูเป๊ะ!! เฮ้อ!!..ในที่สุดรถก็จอดถึงที่หมาย แล้วรู้ได้ยังว่าเรียนคณะนี้
"เห็นใส่ชุดนักศึกษา คงคิดว่าเธอมาเรียน"
เออ..ฉันเพิ่งจะบอกไปว่ามีเรียน นี่ไม่ฟังกันเลยใช่ไหม
"ขอบคุณค่ะที่มาส่ง"
ฉันยกมือไหว้ขอบคุณเขา รีบปลดเข็มขัดออกแล้วปลดล็อกประตูรถเตรียมจะลง แต่เขากลับล็อกประตูอีกครั้งแล้วดึงข้อมือฉันไว้
"เอากลับไปคิดดูแล้วติดต่อฉันมา..นี่นามบัตรฉัน"
เขายื่นนามบัตรให้ฉัน แต่เห็นฉันไม่รับก็จับยัดใส่ในมือแล้วมองฉันแบบเดิมอีกครั้ง พี่ต้นกล้าทำให้ฉันตกใจอีกครั้งด้วยการที่เขาดึงฉันเข้าไปหาแล้วกระซิบข้างหูฉัน
"จำกฎเอาไว้นะ..ถ้าเธอต้องการฉันก็ไม่ขัด"
"ปะ..ปล่อยฝนค่ะ"
ฉันพยายามบิดข้อมือออกจากเขา แต่มันเหนียวจนแกะไม่ออก
"หอมดีนะ..กลิ่นเหมือนเด็ก"
เขาปล่อยมือฉันแล้วหัวเราะ..นี่เขาเห็นฉันประหม่าแล้วแกล้งหรอกเหรอ
โกรธอะ!!
ฉันรีบลงจากรถสปอร์ตของเขาแล้วปิดประตูใส่หน้าเขาอย่างแรง พี่ต้นกล้าลดกระจกลงมายิ้มมุมปากให้ฉันแถมยังยักคิ้วให้ด้วย..ดูแบดบอยสุดๆ
และพี่ต้นกล้าก็เอ่ยคำลาที่ทำให้ฉันควันออกหู
"เธอยัยเฉิ่มเบ๊อะ!! ไม่มีสัดส่วนตรงไหนที่จะทำให้ฉันเกิดอารมณ์เลย..อย่าสำคัญตัวเองผิดไปละ"
ไอ่พี่ต้นกล้า...นิสัยแบดมาก!! คืนคำที่ฉันชมในใจไปกลับมา!!..ไอ่พี่ต้นกล้าบ้า!! นิสัยเสีย!!
............
"นี่ยัยน้องหนูได้ข่าวว่ามีรถหรูมาส่งหน้าคณะเหรอ"
ลูกพีชนั่งเท้าคางถามฉันขณะที่รออาจารย์เข้ามาสอน ฉันกลอกตามองบนไม่อยากพูดถึงคนที่เพิ่งเจอ รีบเฉไฉเปลี่ยนเรื่องไปเรื่อย
"ใบป่านไม่เข้าเรียนเหรอ?"
"นางบอกแฮงค์..ฝากเลคเชอร์ให้ด้วย"
บลิ๊งที่เพิ่งเข้ามานั่งข้างฉันบ่นออกมาแทนคำตอบจากนั้นลูกพีชก็เริ่มวกกลับมาเมาท์มอยเรื่องรถสปอร์ตคันหรูที่มาส่งฉันหน้าคณะอีกครั้ง
"มีอะไรอย่าเก็บเพื่อน..เล่ามาเผื่อจะได้อัพสกิลให้"
ฟ้าใสที่นั่งตบแป้งอยู่ข้างหน้าหันหลังมาร่วมวงด้วยทันทีที่บลิ๊งพูดจบ
"บ้า! ฉันกับเขาไม่ได้ถึงขั้นนั้น"
"ทะลึ่งละยัยน้องหนู..ฉันหมายถึงประสบการณ์รัก!"
"เป็นเอามากนะแกอะ อ่านนิยายจนเก็บไปคิดเรื่องนั้นตลอดเวลาไง"
ลูกพีชส่ายหน้าไปมาส่วนอีกสองคนหัวเราะคิกคักให้กับฉัน ฉันรีบเอาชีทเนื้อหาขึ้นมาปิดหน้าแล้วแลบลิ้นออกมาแก้เขิน
"เห็นเงียบๆ แบบนี้ ในหัวคิดแต่เรื่องนี้ตลอดเวลาซินะ"
บลิ๊งแซวฉันเล่นแล้วกระดิกนิ้วไปมา หย่อนนิ้วตัวเองลงปากขวดน้ำดื่มตรงหน้าแล้วดึงเข้าออก ยัยหื่นเอ๊ย! นี่มันในห้องเรียนนะ จะเล่นทะลึ่งไปกันใหญ่แล้ว น่าจะเปลี่ยนจากกลุ่มสาวแซ่บเป็นกลุ่มสาวหื่นจอมทะลึ่งนะพวกนี้
"พอเลยพวกแก!..จารย์เข้าแล้ว"
ฉันทำตาดุส่งให้บลิ๊งที่หัวเราะคิกคัก ฟ้าใสรีบเก็บแป้ง ลงกระเป๋า จากนั้นพวกเราก็เข้าสู่โหมดเรียนทันที
.........
"ลูกชายเจ้าของบริษัทอสังหายักษ์ใหญ่เลยเหรอวะแก"
ฟ้าใสชูนามบัตรพี่ต้นกล้าขึ้นมาทันทีที่ฉันเล่าเรื่องจบและวางนามบัตรกลางวงสนทนาอย่างแรง จนคนอื่นที่นั่งใต้คณะหันมามอง
"ฟ้าหวอแกจะออก"
ลูกพีชกระดิกนิ้วให้ฟ้าใสนั่งลงแล้วรีบดึงกระโปรงทรงเอที่ร่นขึ้นมานั่นลง
"เอะอะอะไรกัน..สาวแซ่บของคณะ"
"สวัสดีค่ะพี่คราม"
พี่ฟ้าครามพี่รหัสของฉันเอง หนุ่มเดือนคณะบริหารปีสี่ เป็นหน้าเป็นตาให้แกสาขาวิชาการตลาดของเรา เขาเป็นพี่ชายที่ใจดีคนหนึ่งแต่ก็ชอบเล่นมุกทะลึ่งๆ กับกลุ่มฉันเสมอ
"ใบป่านแฮงค์อีกแล้วใช่ปะเนี่ย อยู่กันไม่ครบ"
"อื้ม สงสัยเมื่อคืนหนักทั้งเหล้าทั้งกาย คิๆ"
ฟ้าใสกระโดดออกจากโต๊ะไปเกาะแขนพี่ฟ้าครามหัวเราะคิกคัก เข้ามากลุ่มนี้มันก็จะเปลืองตัวหน่อยนะถ้าเป็นผู้ชายอะ
"พี่เห็นหิ้วเจ้าของผับออกไปเมื่อคืน"
"พวกเราตกข่าวอะไรไปเนี่ย"
ฉันทำตาโตแล้วหันไปมองเพื่อนแต่ละคนที่ยักไหล่ไม่รู้เรื่องรู้ราวเหมือนกัน
"เราอะเม็ดฝน..ตอนเช้ารถสปอร์ตสุดหรูมาส่ง ใครอะ"
"ลูกชายเพื่อนแม่ค่ะ..เขาแค่แวะมาส่ง..ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ ไม่ค่อยน่ากินเท่าไหร่...ตอนนี้สนใจเรื่องของป่านมากกว่า"
ฉันปัดมือไปมาแล้วเปลี่ยนเรื่องไม่อยากให้ทุกคนโฟกัสเรื่องนี้มาก
"เฮ้ย!! ครามมัวแต่เต๊าะสาวอยู่ได้..มาดิวะ จีบตั้งแต่มึงอยู่ปีสองยันปีสี่นะมึง"
กลุ่มเพื่อนพี่ฟ้าครามตะโกนเรียกอยู่ไกลๆ พวกเขามักจะแซวแบบนี้เสมอเวลาพี่ครามแวะทักกลุ่มฉัน
"ไปก่อนนะ..ไอ่พวกนี้กวนทีนอีกละ"
พี่ครามโบกมือแล้ววิ่งเข้าไปหากลุ่มเพื่อนตัวเอง
"พวกปากหมา..อีพี่แต้งในกลุ่มพี่ครามมันไปปล่อยข่าวว่ายัยน้องหนูกลุ่มเราเล่นตัว แล้วมันไปไล่ถามพวกผู้ชายในสาขาว่าใครเคยได้แกไหม..ระวังมันไว้ให้ดี มันชอบล่าแต้มสาวในสาขา"
ลูกพีชกระซิบคุยในกลุ่มทันทีที่พี่ฟ้าครามเดินลับตาไป
"มีแต่พี่รหัสแกอะออกโรงปกป้อง สงสัยท่าจะจีบแกจริง แต่ยัยน้องหนูก็ซื่อไม่เปิดทางให้เลย"
ฟ้าใสกระซิบกระซาบต่อ
"เป็นพี่รหัสน่ะดีแล้ว"
ฉันก็กระซิบกระซาบกลับไป
"จะกระซิบหาพระแสงของ้าวอะไรกัน!"
บลิ๊งมันตบมือลงตรงกลางโต๊ะ แล้วทุกคนก็มองที่ฉัน
"เห็นเงียบๆ เฉิ่มๆ แบบนี้เสน่ห์แรงไม่เบา" >> ฟ้าใส
"จะมีใครเขารู้ไหมว่าคนทะลึ่งแบบแกยังซิง!" >> ลูกพีช
=_= มาให้ครบคน มาเล่ย! เอาเข้าไป!
"เขาว่ากันว่าแบบเนี่ย ได้แต่งงานเป็นคนแรกของกลุ่มนะ ฉันเห็นมานักต่อนักแล้ว" >> บลิ๊ง
"เอาเข้าไปพวกแก..ว่าไปเรื่อย!!"
"สรุปแกจะเอายังไง"
พี่ใหญ่ประจำกลุ่มถามฉันกลับแล้วยื่นนามบัตรคืนให้ฉัน ฉันได้เอาแต่มองมันแล้วเก็บเข้ากระเป๋า
"ไม่รู้ซิ ตอนนี้หิวไปกินชาบูกัน"
"เฮ้อ!"
ทุกคนพร้อมใจกันถอนหายใจให้ฉัน แต่ก็รีบลุกออกจากโต๊ะก่อนฉันอีก
.........
หลังจากกินอิ่มท้องตึงแล้ว ฉันก็พาตัวเองกลับห้องมานอนเอนกายบนโซฟา นอนเขี่ยจอโทรศัพท์ไปมา คิดวนแต่เรื่องข้อเสนอของพี่ต้นกล้า สายตาก็เหลือบมองนามบัตรที่วางบนโต๊ะ
"เอาไงดีเนี่ย"
ตกลงไปซิ จบที่สองเดือนเอง แกคงไม่ตกหลุมรักคนง่ายขนาดนั้นหรอก เก็บไว้เป็นกรณีศึกษาบ้าง .///Tonkla_casnova
~.~ แค่ชื่อก็ไม่น่าเข้าหาแล้วอะ
ไลน์!!
เสียงเตือนไลน์ดังขึ้นจนฉันตกใจจนโทรศัพท์มันเด้งรีบคว้าโทรศัพท์แทบไม่ทัน
T_cas : ว่าไง@มา ตกลงใช่ไหมยัยเฉิ่ม!
ค่ะ แค่สองเดือนใช่ไหมคะ : ฉัน
T_cas : ใช่ ตามที่ฉันพูดพรุ่งนี้ฉันไปรับ ส่งโลเคชั่นที่อยู่เธอมา เราต้องคุยกัน
ส่งโลเคชั่น : ฉัน
เฮ้อ!! คิดดีแล้วใช่ไหมฉัน...ทำไปแล้วนะยัยเม็ดฝน..ตอบตกลงไปแล้ว ถอยไม่ได้แล้ว เพื่ออนาคตที่แสนสดใสอย่างน้อยก็ไร้การจับคู่จากแม่ไปอีก 2 เดือน
สู้ๆ..ก็แค่ใกล้คาสโนว่าคนหนึ่งที่หุ่นแสนกร้าวใจ ฉันโชคร้ายจังที่เขาดันมาตรงสเปก ส่วนความโชคดีไปตกที่เขาเพราะฉันไม่ตรงสเปกเขาเลย ฉันจะได้ไม่พลาดเผลอมีใจให้เขาข้างเดียว
เอะ!?..หรือฉันโชคร้าย หรือ เขาโชคดี ช่างมันเถอะ สรุปเอาสองเดือนให้รอดก็พอ
แต่พอคิดถึงใบหน้าแนบชิดในรถเมื่อตอนสายของวันนี้ มันทำให้หน้าร้อนเห่อขึ้นมาทันที
โคตรซีรีส์~~~
>////<
อร๊ายยย น่ารักอะ