ตอนที่ 2 | สาวน้อยเข้าเมือง

1141 Words
“แม่ชักไม่มั่นใจแล้วว่านี่แกจะไปแค่ 3-4 วัน หรือกะจะย้ายบ้านถาวรกันแน่” เสียงผู้เป็นแม่พูดขึ้นหลังจากเห็นลูกสาวตัวเองเดินหอบของมาพะรุงพะรัง ทั้งกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าผ้าใบใหญ่ และกระเป๋าสะพายที่บังมิดจนมองแทบไม่เห็นตัวเลยหันไปเรียกให้คนงานที่บ้านมาช่วยลูกสาวยกของใส่เข้ารถ เพราะเท่าที่ดูถ้าไม่ช่วยคงได้มีหวังล้มกลิ้งแน่ในอีกไม่กี่ก้าว “ขอบคุณค่ะ” เมจิหันไปขอบคุณคนงานที่มาช่วยเธอยกของก่อนจะเดินไปหาพ่อกับแม่ที่ยืนรอส่งแบบนี้เป็นประจำเวลาเธอจะออกจากบ้าน “งั้นเมไปแล้วน้า นัดยัยไลลาไว้เดี๋ยวไปช้ายัยนั่นบ่นหูชาแน่ๆ” คนตัวเล็กไม่พูดเปล่าแต่เดินเข้าไปหอมแก้มพ่อกับแม่คนละฟอดพร้อมกับยกมือไหว้…ส่วนเธอก็ทำแบบนี้เป็นประจำเหมือนกันไม่ว่าจะไปไหน “เดินทางปลอดภัยขับรถดีๆ นะไอ้ดื้อ” “จ้าพ่อ” ดา ดี้ ดั๊ด ดา ~ มือเรียวของเมจิจับที่พวงมาลัยอยู่แต่นิ้วขยับยุกยิกไปมาตามจังหวะเพลงพร้อมกับหัวที่โยกเบาๆ และปากบางที่คอยพึมพำร้องเพลงไปด้วยก่อนที่เท้าจะค่อยๆ แตะเบรกชะลอความเร็วรถลงเพราะมีไฟแดงอยู่ด้านหน้า ครืด ~ ตาสวยเหลือบมองโทรศัพท์คู่ใจที่สั่นเมื่อสักครู่ก่อนจะหยิบขึ้นมาเปิดการแจ้งเตือนดู พี่วิน : เดินทางปลอดภัยขับรถดีๆ นะครับ สาวน้อยเข้าเมือง… รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าสวยแต่ไม่ทันได้ตอบอะไรสัญญาณไฟจราจรก็เขียวซะก่อน… สามชั่วโมงกว่าๆ หลังจากนั้น เมจิขับเข้ามาจอดที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนแห่งหนึ่งตามที่ไลลาส่งโลเคชั่นมาให้…เห็นว่าไม่ไกลจากที่ทำงานของยัยเพื่อนตัวแสบมากนัก ขาเรียวก้าวลงจากรถโดยไม่ลืมหยิบข้าวเกรียบออแกนิกของฝากสุดโปรดที่เพื่อนรักชอบติดมือไปด้วย มือเล็กดันประตูเข้าร้านไปพร้อมกับมองหาเพื่อนตัวเองที่นัดกันไว้ เธอหันซ้ายหันขวาไม่นานก็เจอไลลาที่ทำท่าทางโบกไม้โบกมือส่งยิ้มมาแต่ไกล เมจิกับไลลาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ช่วงมัธยมจนถึงปัจจุบันก็สิบกว่าปีได้แล้ว ถ้าคนภายนอกมองส่วนใหญ่จะคิดว่าไม่น่าคบกันได้ด้วยบุคลิกที่แตกต่างกันแบบสุดขั้วเพราะเมจิภายนอกจะดูเหมือนแรงด้วยความที่เป็นคนหน้าเหวี่ยงถ้าไม่ยิ้มหน้าจะดูดุซึ่งตรงข้ามกับนิสัยที่จะค่อนข้างระวังตัวค่อนไปทางเรียบร้อยกว่าที่คนอื่นคิด มั้ง… ส่วนไลลาจะดูใจดี ยิ้มง่ายประกอบกับหน้าตาที่ดูสวยหวานซึ่งเอาเข้าจริงๆ แล้วรายนี้บู๊สุดใจไม่ยอมคนง่ายๆ และหัวรั้นสุดๆ ไม่สมกับหุ่นเพรียวบางอ้อนแอ้นเลยสักนิด “อะนี่ ข้าวเกรียบออแกนิกสุดโปรดให้เพื่อนคนโปรดจ้ะ” “ขอบคุณค่า เชิญนั่งเลยค่ะสาว” “นี่แกมารอฉันนานหรือเปล่าเนี่ยไลลา” “ไม่เลย เพิ่งมาถึงเมื่อกี้เอง…เราสั่งอาหารกันก่อนดีกว่า” ไลลาพูดขึ้นก่อนจะส่งเมนูอีกอันให้เมจิดู “เอาบรูเชตตา ลาซานญ่า พาสต้า คาโบนาร่า อืม…แล้วก็” เสียงหวานจากเพื่อนสาวฝั่งตรงข้ามหันไปสั่งออเดอร์กับพนักงานที่ยืนรออยู่แบบรัวๆ “ริซอตโตกุ้ง กับ ทีรามิสุสองที่ค่ะ” เมจิสั่งเสริมอีกสองอย่างก่อนจะปิดเมนูแล้วรีบดึงเมนูออกจากมือไลลาไม่งั้นเพื่อนเธอคงได้สั่งจนล้นโต๊ะแน่ๆ “ไม่ได้เจอแกนานคิดถึงชะมัดเลย ~” “อย่ามาเว่อร์ แกเพิ่งมาหาฉันเมื่อสัปดาห์ก่อนไลลา” คนตัวเล็กหรี่ตามองเพื่อนสาวตรงหน้าแบบหมดคำจะพูดกับท่าทางที่พยายามจะทำให้แอ๊บแบ๊วน่ารัก ขนลุก! “55555 ก็อยากลองอ้อนผู้ชายแบบอ้อนเพื่อนบ้างอะซ้อมๆ ไว้ก่อนไง” รอไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟจนครบ ทั้งคู่ก็ลงมือกินพร้อมพูดคุยกันไปสัพเพเหระหลักๆ ก็เรื่องงานเพราะปัจจุบันไลลารับช่วงต่อธุรกิจที่บ้านซึ่งเกี่ยวกับไนท์คลับและบาร์กลางคืนประมาณอีกสองสามที่ช่วงนี้ก็เลยค่อนข้างชีวิตวุ่นวายมากกว่าปกติ “นี่ แล้วสรุปแกลงมากรุงเทพฯ มาทำอะไร” ไลลาเอ่ยถามพลางมือก็ตักทีรามิสุเข้าปากไปด้วย “ก็อยากมาเที่ยวเล่นบ้างไม่ได้หรอ อีกอย่างว่าจะมาลองๆ หางานทำด้วยแล้วก็…นัดเจอกับพี่วิน” “ห๊า! พี่วินงั้นหรอ ผู้ชายสิ อย่าบอกนะว่าคนนั้นที่แกเคยบอกฉันเมื่อเดือนก่อนที่เป็นวิศวะอะไรนั่น?” “นี่! แกจะเสียงดังทำไมเล่าพูดเบาๆ สิ” “อายุเท่าไหร่นะ โปรไฟล์ดีไหม?” นี่ยัยเพื่อนตัวดีมันฟังฉันบ้างไหมนะ… “อายุ 30 พี่เขาเรียนที่เยอรมันตั้งแต่เด็กเพิ่งกลับมาไทยได้ปีกว่าเอง ทำงานอยู่เดย์ไลต์น่ะ” “แหมมมม…เรียกพี่เขาซะด้วยธรรมดาที่ไหน นี่แต่ทำงานเดย์ไลต์ก็ไม่ธรรมดานะ บริษัทนั้นเพิ่งก่อตั้งแต่เห็นว่าผลประกอบการขึ้นแท่นอันดับ 1 ของเอเชียไปแล้ว” เมจิก็ได้แต่กรอกตามองบนไม่อยากจะต่อปากต่อคำกับเพื่อนสาวไม่งั้นโดนแซวไม่รู้จบแน่ๆ ส่วนเรื่องบริษัทที่พี่วินทำงานเธอก็พอจะรู้อยู่ว่ากำลังเป็นที่จับตามองของนักลงทุนมากๆ “ว้ายตายแล้ว! ฉันว่าฉันต้องไปก่อนละยัยเมเดี๋ยวชนกับช่วงคนเลิกงานมีหวังรถติดเข้าร้านไม่ทันแน่ๆ” “เออๆ ไปๆ แกจะโวยวายทำไมเนี่ยแก้วในร้านแตกหมดแล้วมั้งเจอเสียงแหลมๆ เนี่ย -.-” “ชิ กับผู้ชายบ่นให้ได้แบบนี้นะ แล้วนี่แกจะไปไหนต่อ?” “อืม วันนี้ว่าจะไปเดินเล่นตลาดกลางคืนนะ ไม่ได้เดินนานละสมัยที่เราเรียนมหาลัยอะ” “โหยยย เสียดายอ่า ฉันก็อยากเดินนะ หนีงานดีไหม?” นี่เพื่อนฉันอายุกี่ขวบกันนะงอแงเป็นเด็กเลย หัวจะปวด! “ไปๆ ไปได้แล้วเดี๋ยวก็เข้าร้านไม่ทันหรอกขับรถดีๆล่ะ ไว้ค่อยนัดเจอกันใหม่” ร่างบางโบกมือไล่ส่งไลลาก่อนจะแยกย้ายกันที่ร้านอาหาร ส่วนเมจิพอออกจากร้านก็ขับรถไปที่พักที่จองไว้เพราะว่ากะจะกลับไปอาบน้ำแต่งตัวซะหน่อย ถึงจะเดินตลาดแต่เราก็ต้องสวยไว้ก่อนล่ะน่า…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD