12:50 น.
“เมจิ ตื่นได้แล้ว” แพขนตาที่กำลังปิดสนิทของคนตัวเล็กลืมตาโพล่งขึ้นมาแทบจะทันทีหลังจากที่ได้ยินเสียงทุ้มหวานหูเรียก
“หึ…ทำไมตื่นง่ายขนาดนี้”
นี่จงใจแกล้งกันแต่เช้าเลยหรือไง! ร่างบางไม่ตอบอะไรแต่ใช้สายตามองค้อนคนข้างตัวแทนเพราะเธอยังรู้สึกเพลียอยู่เลยจะรีบปลุกทำไมเนี่ย
“ไปกินข้าวไหม…จะบ่ายแล้ว”
“ห๊า! ไม่ใช่ว่ายังเช้าอยู่หรอ”
“ก็หลังจากที่ระ…อุ๊บ!”
มือเล็กรีบยกขึ้นปิดปากเขาด้วยความไวเพื่อไม่ให้พูดอะไรที่แสลงหูออกมา
“อายหรอ?” วินถามพร้อมกับทำหน้าตาใสซื่อสุดๆ
“…” เธอเลือกที่จะไม่ตอบแต่โกยผ้าห่มหนาไว้กับตัวแน่นแล้วลุกขึ้นจากที่นอน
ฝ่ามือแกร่งที่รู้ว่าคนตัวเล็กพยายามจะลุกก็คว้าพยุงตัวไว้
“เมลุกเองได้” แค่นี้เองสบายมาก!
ขาเรียวก้าวลงจากที่นอนพร้อมกับผ้านวมผืนโตที่ห่อร่างกายเปลือยเปล่าเอาไว้ พรึ่บ! หมับ! ทันทีที่เท้าแตะพื้นเมจิก็ร่วงเข่าทรุดลงแต่โชคดีที่วินคว้าเอาไว้ได้ทันทำให้ตอนนี้เธอกำลังถูกโอบด้วยท่อนแขนแกร่ง…แต่มันไม่ได้โรแมนติกหรอกเพราะสภาพเธอเหมือนซาลาเปายักษ์ที่ยู่ยี่เสียมากกว่า
“เป็นไงล่ะ ขาอ่อนขนาดนั้นยังจะอวดเก่งอยู่อีก” คนตัวสูงเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเรียบนิ่งขัดกับแววตาที่กำลังล้อเลียนเธอ
“…” ซึ่งเธอก็เลือกที่จะมองค้อนเขาแทนการตอบโต้
“ทำไม โกรธพี่หรอ”
“เปล่า แค่งงที่เสียตัวแบบไม่ทันได้ตั้งตัว”
เอ๊ะ…นี่ฉันพูดตรงไปหรือเปล่านะ
“หึ โอเคครับไว้คราวหน้าจะให้เตรียมตัวก่อน…” มุมปากหนากระตุกยิ้มกับคำตอบของหญิงสาว
“คราวหน้าอะไรล่ะ!” เมจิตอบพร้อมกับใบหน้าที่เห่อร้อนขึ้นมา
“อ้าว…ได้พี่แค่ครั้งเดียวแล้วจะทิ้งเลยหรอต้องรับผิดชอบกันหน่อยไหม”
“…” กล้ามาก กล้าพูดมาก คนที่เสียคือเธอไม่ใช่หรือไง…ทำอย่างกับตัวเองสึกหรออย่างนั้นแหละ
ไม่สนใจแล้ว ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไรไปเลยแล้วกัน คิดได้ดังนั้นคนตัวเล็กก็ผละออกจากแขนแกร่งที่โอบเธอไว้แล้วทำทีทำท่าเดินไปที่ห้องน้ำวินเห็นแบบนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรออกจะตลกด้วยซ้ำกับท่าทางของเมจิที่หาทางรอดให้ตัวเองแบบมึนๆ
จริงสิ! เกือบลืมแล้วไหมล่ะ…เท้าเรียวที่กำลังจะก้าวเข้าห้องน้ำหันกลับมาหาชายหนุ่มที่ยังนั่งถอดเสื้อโชว์อกล่ำอยู่ที่เดิม
“เอ่อ…คือ”
“หื้ม” คิ้วหนาเลิกขึ้นเล็กน้อย
“เมื่อคืนพี่ได้ป้องกันไหม” เธอเหมือนจะเห็นแต่ก็ไม่มั่นใจ…
“พี่ใส่ถุงยาง ไม่เชื่อดูเศษซากในถังขยะ” เสียงเข้มตอบก่อนจะพยักเพยิดหน้าให้มองที่ถังขยะตรงมุมห้อง
“พี่พกตลอดเลยหรอ?” เสียงหวานเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา
“…เพิ่งซื้อเมื่อวานก่อนขึ้นห้อง” วินตอบก่อนจะดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้มมองเมจิด้วยสายตาสื่อความหมาย
ตาเรียวสวยหรี่ลงอย่างคนคิดตามหมายความว่า…นี่เขาตั้งใจตั้งแต่แรกงั้นหรอ!?
“นี่พี่!! โอ๊ย ไม่คุยด้วยแล้ว”
นัยน์ตาคมมองลอดผ่านแว่นตามร่างขาวเนียนที่เดินเข้าห้องน้ำไป ท่าเดินที่ยังไม่ปกติแบบนั้นคงยังระบมอยู่สินะ…
ภายในห้องน้ำ
เมจิยืนเปลือยอยู่หน้ากระจกมาเกินกว่าห้านาทีได้แล้วเธอไล่สายตามองเรือนร่างของตัวเองที่มีแต่รอยแดงเป็นจ้ำไปทั่วทั้งตัว นี่เธอเอาตัวไปเผชิญกับสัตว์ป่าดุร้ายมาหรือไง…
เพี๊ยะ! นี่แหนะ! มือบางตีแขนตัวเองเป็นการเตือนสติ จริงอยู่ที่เธอโตพอและรับผิดชอบตัวเองได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นและมันก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์…อย่างน้อยๆ มันก็เกิดขึ้นจากความยินยอมของทั้งตัวเธอและพี่วินแต่สิ่งที่เธอควรจะต้องดึงสติตัวเองไว้ให้มากคือแกไม่ควรใจง่ายขนาดนั้นไหมยัยเม! ยังไม่ทันจะรู้จักเขาดีเลยด้วยซ้ำ นี่ถ้าเป็นละครสักเรื่องเธอคงเป็นนางเอกไม่ได้เพราะนอกจากจะใจไวแล้วยังไม่รู้สึกเสียใจอีกต่างหาก ฮืออออ
หรือฉันแค่อยากเสียตัว? หรือเพราะเขาหล่อจนห้ามใจไม่อยู่?! น่าหยิกตัวเองชะมัดนี่ถ้าพี่วินไม่คิดจะป้องกันฉันไม่ต้องเตรียมป่องเลยหรอ เมจิส่ายหัวไปมาจะโทษใครก็ไม่ได้ควรโทษตัวเองนี่แหละที่เผลอไผลอารมณ์ไปกับเขา
“พอๆ เลิกคิดผ่านแล้วผ่านไป” ปากบางพึมพำบอกตัวเองก่อนจะก้าวขาเข้าไปชำระร่างกาย
สามสิบนาทีผหลังจากนั้น…
ร่างบางที่ตอนนี้ใส่เพียงเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นก้าวขาออกมาจากห้องน้ำก่อนจะปรายตามองคนตัวสูงที่นั่งอยู่ตรงโซฟากลางห้องนั่งเล่น
เอาหละผู้หญิงกับผู้ชายไม่ควรอยู่ด้วยกันสองต่อสองโดยเฉพาะเธอที่มีความรู้สึกดีๆ ให้เขาแบบนี้ด้วยแล้วล่ะก็…ต้องไล่กลับห้องก่อนอันดับแรก!
“พี่ไม่กลับห้องหรอ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่
“อ้าว เสร็จแล้วหรอมานั่งนี่สิ” ไม่ตอบฉันซะด้วย -.-
ร่างแบบบางเดินเข้าไปหาก่อนจะหย่อนก้นลงข้างกายหนา
“เมโอเคหรือเปล่ากับเรื่องเมื่อคืนรู้สึกแย่กับตัวเองไหม?” พี่วินถามพร้อมกับหันหน้ามามองเธอ
“ไม่หรอก…แค่รู้สึกว่าตัวเองใจง่ายไปหน่อย” เธอเอ่ยบอกเขาไปตามที่คิด
“ไม่ต้องคิดมาก…เมไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายและคุณค่าในตัวเมก็ไม่ได้ลดลง เข้าใจไหม” เสียงทุ้มพูดบอกคนตัวเล็กพร้อมกับใช้มือหนาลูบหัวเมจิด้วยความเอ็นดู
อย่าทำอะไรแบบนี้สิ…จะน่ารักไปไหนเนี่ยมันจะแย่เอานะใจฉันน่ะ
“แล้ววันนี้พี่ไม่ไปไหนหรอ”
“อืม ไม่นะ ว่าจะตัวติดเมทั้งวันอะ” เขาพูดพร้อมกับยักคิ้วให้…ให้มันได้อย่างงี้
“อ่อ แต่ว่าพรุ่งนี้พี่ต้องกลับบ้านไปกินข้าวกับที่บ้าน วันนี้เมอยากทำอะไรไหม?”
“เอ่อ เมว่าจะลงไปร้านขายยาข้างล่าง”
“ไม่สบายหรอ”
“เปล่า เมจะไปซื้อยาคุม” เมจิพูดออกมาไม่เต็มเสียงนักเพราะรู้สึกเขินอยู่นิดหน่อย
“แปลว่า…พี่ก็กินเราได้สิ” ตาคมเป็นประกายวิบวับขึ้นมาทันที
“ถ้าบอกว่าไม่ให้กิน พี่ก็จะไม่ทำอะไรใช่ไหม”
“หึ ไม่มีผล ทำอยู่ดี” วินตอบออกมาแบบไม่ต้องคิดพร้อมกับส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เธอ
อืม…ไม่เกินคาดไม่มีทางจบในครั้งเดียวอยู่แล้วเธอไม่ใช่เด็กน้อยขนาดที่จะไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้สักหน่อยอย่างน้อยๆ เธอก็ควรจะต้องป้องกันตัวเองไว้จะดีที่สุด
ติ๊ง! เสียงแจ้งเตือนก่อนที่ประตูลิฟต์จะเปิดออกพร้อมกับเมจิที่ก้าวออกมา
“จริงๆ เมลงมาคนเดียวก็ได้แค่ซื้อยาเอง” ใบหน้าสวยหันมองคนตัวสูงกว่าที่เดินตามเธอมา
“ไม่ได้” ยังเดินขาถ่างอยู่เลยใครมองก็รู้ว่าเพิ่งไปทำอะไรมา…พี่เลยมาโชว์นี่ไงว่าเป็นตัวต้นเหตุ”
เพี๊ยะ! มือเล็กฟาดลงที่แขนแกร่งเต็มแรกก่อนจะจิ๊ปากและมองค้อนคนปากไว
“พี่พูดให้มันดีๆ หน่อยได้ไหมขาถ่างอะไรเล่า!”
“เอ้า พูดตามจริงผิดตรงไหน”
“ไม่คุยด้วยแล้ว พี่รอนี่แหละ” ร่างบางหันมาบอกก่อนจะเดินหายเข้าไปในร้านขายยา
10 นาทีหลังจากนั้น…
คนตัวเล็กเดินออกมาพร้อมกับถุงพลาสติกขนาดเล็กในมือก่อนจะมองชายหนุ่มที่ตอนนี้กำลังยืนกอดอกพิงเสาพร้อมกับถุงใบใหญ่ห้อยอยู่ที่ข้อมือ
“นั่นยาคุมหรอ” ตาคมหลุบมองถุงที่อยู่ในมือเมจิ
“อือฮึ” เธอพยักหน้าน้อยๆ
“แล้วเขาว่าไงบ้างต้องกินยังไง”
“…เมเอาแบบรายเดือนมาว่าจะลองกินดูก่อนแต่เภสัชเขาก็บอกว่าถ้ากลัวลืมกินก็ลองดูแบบฉีดหรือแบบฝังก็ได้ให้ไปลองหาข้อมูลเพราะก็มีผลข้างเคียงอยู่บ้าง” เสียงหวานเอ่ยบอกเขาตามที่เธอได้ข้อมูลมา
“อืม งั้นขึ้นห้องไปก็ลองหาดู”
“แล้วในมือพี่คืออะไร”
“ของกิน ไปซื้อมาระหว่างรอเรา” พูดพร้อมกับชูถุงใบยักษ์ขึ้นตรงหน้า…นั่นเขาเหมามาทั้งซูเปอร์มาร์เก็ตเลยหรือไง!?
21:30 น.
“พี่…ผีมันจะออกยัง” เมจิที่ตอนนี้นั่งตัวเกร็งเอามือยกขึ้นมาปิดตาตัวเองไม่กล้าดูจอตรงหน้าถามขึ้น
“กลัวอะไรไม่มีไรหรอก” เสียงทุ้มตอบกลับคนตัวเล็ก
หลังจากกลับจากซื้อยามาเธอกับพี่วินก็นั่งกินข้าวมื้อแรกของวันด้วยกันพร้อมกับหาข้อมูลเรื่องยาคุมไปด้วยจนได้ข้อสรุปว่าจะไปฉีดที่โรงพยาบาลไม่ต้องมาคอยนั่งกินทุกวัน หลังจากกินข้าวเสร็จเรียบร้อยก็สลับกันไปอาบน้ำแล้วมานั่งหาหนังดูจนถึงตอนนี้ เขาก็ทำตามที่พูดจริงๆ ว่าจะตัวติดกับเธอเพราะพยายามบอกให้กลับห้องไม่รู้กี่ครั้งแล้วแต่ก็ไม่ไป…เริ่มรู้สึกเหมือนกำลังใช้ชีวิตแบบผัวเมียยังไงก็ไม่รู้แฮะ
ตึ้งงง! แฮ่!!!! เสียงดังสนั่นออกมาจากจอตรงหน้า
“ว้ายยยย” เมจิร้องกรี๊ดขึ้นมาก่อนจะเอี้ยวตัวจับแขนแกร่งอย่างหาที่พึ่ง
“ถ้าจะกลัวขนาดนั้นแล้วเลือกหนังผีทำไม…หื้ม” วินยิ้มมุมปากกับอาการของสาวน้อยข้างตัว
“ก็เห็นรีวิวเขาว่าสนุกนี่เลยอยากลองดู” มือบางยังจับแน่นอยู่ที่แขนของคนข้างๆ ก่อนจะค่อยๆ ชะเง้อหน้าออกมามองจอ
“กลัวก็ไม่ต้องดู”
“พี่วิน…อะไร” ปากบางเอ่ยถามก่อนจะมองมือหนาที่ตอนนี้กำลังลูบต้นขาของเธออยู่
“ก็ไอนี่มันยังเหลืออันนึง” เขาพูดพร้อมกับชูซองสี่เหลี่ยมสีเงินขึ้นมาตรงหน้าเธอ