ต้อนรับเด็กน้อย

1443 Words
รถซูเปอร์คาร์สีดำแล่นเรื่อยมาจอดเทียบฟุตบาท ร่างสูงเดินลงจากเบาะหลัง พยักหน้าให้คนขับรถขับออกไป บ้านกึ่งไม้กึ่งปูนเล็กๆ เล็กมาก ถึงขนาดไม่มีที่ให้รถจอด มีรั้วไม้ต่ำๆ สีขาวล้อมรอบให้ดูเป็นโรงเรียนสำหรับเด็กกำพร้าไร้คนดูแล ไม่ได้ดูหรูมากมายนัก ทว่าอบอุ่นใจ เรกาโด ครูซัส ในคราบชุดดำทั้งชุดเดินเข้ามา ความลึกลับในตัวเขาทำเด็กซึ่งวิ่งเล่นอยู่ตรงสนามหญ้าต่างถอยกรูด เขาดูเป็นผู้ใหญ่ และน่ากลัวกว่าคนอื่นๆ ที่ผ่านเข้ามาเพื่ออุปการะ กับประโยคราบเรียบ ทำหญิงวัยกลางคนกำลังเดินผ่าน หันมามอง " สวัสดีครับซิสเตอร์ ผมมารับเด็กผู้หญิงคนนั้น เมื่อสามปีก่อน" โต๊ะไม้ข้างหน้าต่าง มีโคมไฟชนิดหักคอได้ วางตระหง่านชิดมุม ข้างกันมีหนังสือนิยายแนวลึกลับกองสูงเป็นเนินภูเขา ซ้อนทับกันไม่เป็นระเบียบ เสี่ยงหล่นลงมาทับหัวคนอ่านหลายรอบ แม้จะดูเก่ากึก ทรุดโทรม แต่มันก็คือมุมโปรดของเธอ เอมิเลีย หรือเอมี่ สาวร่างบางอายุสิบแปดปีเศษ ฟุบโต๊ะรออะไรบางอย่าง ซึ่งได้รับมอบหมายให้เธอต้องเตรียมพร้อม เธอไม่รู้มาก่อน แต่หากเสื้อไหมพรมตัวหลวมโคร่งสีชมพู ซึ่งเป็นตัวสุดท้ายที่มาดามเรกาโด เกรชมอบให้ ถูกเก็บไว้นานเกือบลืมมาสวมใส่เล่าก็ นั่นหมายความว่าเธอจะต้องไปจากที่นี่ แน่นอน เธอไม่อยากก้าวพ้นเขตนี้ออกไปแม้แต่นิดเดียว ความรู้สึกใจหาย เศร้าสลด กลัวจะคิดถึง ถูกกักเก็บไว้ได้แค่ในใจ กับแววตาหวานฉ่ำ แต่ไม่สามารถเรียกร้องออกมาได้ " เอมี่ เสร็จหรือยัง" ยิ่งต่อหน้าซิสเตอร์ยิ่งแล้วใหญ่ อย่าหวังให้น้ำตาเอ่อล้นออกมาแม้แต่หยดเดียวเชียว! " ค่ะ..." " เป็นอะไร? ทำไมเศร้า ลูกกำลังมีปีกมีโอกาส" " แต่หนู..." " หลุดจากกรงแล้ว ควรจะบินไปให้ไกลที่สุด อย่าได้หวนกลับมา" "....." "มหาลัยที่ผู้อุปถัมภ์เลือก คงจะเป็นที่ที่เหมาะสมกับลูก" " ฮึก... " "เอมี่... " "หนูรู้ค่ะ คนร้องไห้มันดูโง่" เธอช้อนตาสลดขึ้นแทรก หลังก้มงุดอยู่นาน ซิสเตอร์มองเข้าไปในตานั้นด้วยความอาลัยรัก อยากจะร้องไห้สั่งลาไม่น้อยไปกว่าเธอ ทว่านี่คงไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีสักเท่าไหร่ โลกภายนอกมันช่างโหดร้าย อันตรายนัก และมีอีกหลายอย่างที่หญิงสาวยังไม่รู้ เข้ามาสอนสั่งให้มนุษย์มีบทเรียนกันทุกคน หล่อนบอกศิษย์คนนี้เสมอ เด็กกำพร้าไร้ที่พึ่งซึ่งไม่รู้พ่อแม่คือใครมาก่อน มักจะอาภัพมากกว่าคนอื่น ฉะนั้นคำสั่งสอนที่หล่อนฟูมฟักมาตั้งแต่เด็ก หวังให้เธอเข้มแข็ง คือเกราะปกป้องกันที่ดี และจะได้ใช้จริงๆนับแต่นี้ หลังหลุดพ้นรั้วสีขาวโทรมๆนี้ไป ซิสเตอร์บีบมือเธอหลวมๆ เป็นการบอกลาแทนคำพูด พลางหันไปตามเสียงฝีเท้าหนัก ซึ่งเดินเป็นจังหวะเข้ามาหยุดตรงหน้าของคนทั้งคู่ " ได้เวลาแล้ว" หันไปบอกเธอเสียงแผ่ว แค่สายตาหวานชำเลืองปะทะเข้ากับดวงตานิ่ง ไม่ทันได้เห็นมันชัดเจน เอมิเลียก็ก้มหน้างุดลนลาน เปลี่ยนภาพนั้นเป็นรองเท้าคอมแบตสีดำราคาแพงทันที ภายในรถ กว้างพอจะบรรจุคนเป็นสิบ กลับทำหญิงสาวอึดอัด ทัศนียภาพบรรยากาศวิวข้างทางสวยงามเปี่ยมไปด้วยสีสัน ที่อาจจะทำให้คนไม่เคยเห็นเฉกเช่นเธอมาก่อน น่าจะตื่นเต้น และยินดีที่ได้พานพบก กลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง เธอเอาแต่มองนอกกระจก นัยย์ตาสลด กะพริบถี่นับครั้งไม่ถ้วน สร้างความหนักใจให้แก่ผู้ปกครอง ที่ชำเลืองมองมานานๆ ครั้งไม่น้อย ทว่า แสร้งทำเป็นไม่สนใจเธอ เลือกที่จะเงียบขรึม ตามแบบฉบับของเขา ซึ่งชายหนุ่มไม่รู้ตัว การกระทำแบบนี้ ทำหญิงสาวเกร็งจนเท้าชาไปหมด จนกระทั่งถึงที่หมาย.... คฤหาสน์ใหญ่โอ่อ่า ทำด้วยอิฐหินแท้แข็งแรง บริเวณรอบกว้างขวางเหลือคณานับ พอๆ กับบริวารของเขา ที่วิ่งกรูกันเข้ามา ยามเห็นรถคันนี้วิ่งผ่านรั้วเข้าไป เอมิเลียทึ่งจนยิ้มไม่ออก เธอไม่ได้ดีใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต แต่กลับห่อไหล่เกรงกลัวอำนาจของคนข้างๆ มากยิ่งขึ้น เพราะคาดไม่ถึง ครอบครัวที่อุปถัมภ์เธอ จะรวยล้นฟ้าเช่นนี้ " ถึงแล้ว บ้านของเธอ" และนี่คงเป็นครั้งแรก ที่เธอได้ยินเสียงของเขาอย่างชัดถ้อยชัดคำ มันคือเสียงเคร่งขรึม แฝงทุ้มนุ่ม ใครได้ยินคิดจะเถียง เป็นอันต้องกลืนคำพูดนั้นกลับลงคอกันเลยทันที " ค่ะ..." เอมิเลียพยักหน้า เปิดประตูยืนรอกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเอง ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูง " รออะไร " " กะ กระเป๋าหนู" " ลูกน้องฉันจะยกให้ เธอไปแต่ตัวก็พอ" เธอหลุบตา ยอมทำอย่างที่เขาว่าแต่โดยดี แม้การเดินของเธอในแต่ละก้าว มันจะแข็งแทบพาเธอล้ม ใช่ เธอประหม่า กลัวจนเหงื่อตก สูญเสียความควบคุมบางอย่างในร่างกาย ครูซัสมองเธอจนทิ้งห่างไปพอสมควร ก่อนพยักหน้าให้สาวใช้อีกคนเพื่อเดินตาม " อย่าให้มีปัญหากับเคลที่ " " ได้ค่ะ นายท่าน " เอมิเลียเดินห่อไหล่ก่อนหยุดชะงักเมื่อมาถึง บานประตูสลักสีทองโบราณ และรูปปั้นซีเมนต์สิงโตสองฝั่ง ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกกลัวเท่ากับภายในบ้านเลย เบื้องหน้าของเธอนั้นเสมือนอุโมงค์ลึกลับ หากเข้าไปแล้วยากจะออกมาได้ บรรยากาศทำให้เธอรู้สึกว่าข้างในนั้นมันยากแท้จะหยั่งถึง กว่าจะตัดสินใจก้าวเดินต่อ ก็ตอนชำเลืองไปเห็นสาวใช้ร่างอวบเดินมาหยุดใกล้ๆ พร้อมกระเป๋าซึ่งถูกยกตามมา เอมิเลียเปลี่ยนเป็นชะลอตามหลังหล่อนแทน " ที่นี่คือ..." " ห้องนอนของคุณค่ะ" หน้าสวยจิ้มลิ้ม กวาดตามองไปทั่ว หลังเข้ามาหยุดยืนอยู่กลางห้อง " หวังว่าคุณจะชอบ" สาวใช้บอก หญิงสาวก้มหน้างุด ดวงตาสลดอีกครั้ง " ขอบคุณค่ะ " " ฉันชื่อซีอาร์ เป็นคนใช้ที่นี่มานานตั้งแต่รุ่นคุณพ่อของคุณท่าน มีหน้าที่อยู่ในครัว แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาดูแลคุณแทน " น้ำเสียงราบเรียบ ฟังแล้วอบอุ่น ทำหญิงสาวสนใจใคร่รู้ เธอหันไปมองเสมือนตั้งใจฟัง ก่อนแนะนำตัวเองบ้าง " หนู.. เอมิเลียค่ะ " " ค่ะ ดิฉันทราบ " หล่อนยิ้มกว้าง เจ้าของชื่อยิ้มตอบ ทว่าดูอย่างไรก็ฝืนเต็มที สาวใช้รู้ดี แต่หล่อนเลือกที่จะนิ่งเฉยไว้ ให้กำลังใจผ่านแววตาคู่แขกนั้น บ่งบอกถึงมิตรภาพที่ดีน่าจะดีกว่า " ทำไมต้องดูแลหนู เขาสั่งหรือคะ" " ใช่ค่ะ นายท่าน คือผู้มีอำนาจที่สุดในคฤหาสน์นี้ " เธอเลิกคิ้ว ไม่คิดจะถามอะไรอีก ทั้งที่ในใจอยากรู้แทบแย่ ผู้อุปถัมภ์ที่แท้จริงคือใคร และมีหน้าตาเป็นอย่างไรเธอจำได้แค่ว่า ชื่อของหล่อนคือผู้หญิง... ทำไมตอนนี้ กลับกลายเป็นผู้ชาย คนที่รับเธอมา และดูเย็นชาที่สุดแทน ในขณะหญิงสาวกำลังเงียบ เอาแต่ก้มหน้า กลับต้องเงยขึ้นด้วยเสียงทุ้มนี้ " ออกไป" เขาสั่งซีอาร์ สาวใช้คำนับรับ " ค่ะ " ซึ่งคราวนี้ เหลือแค่เขากับเธอเพียงสองคน เอมิเลียใจสั่น มือชา ก้มหน้ามองพื้นมากกว่าเดิม ชายหนุ่มถอนหายใจยาว เดินผ่านหน้าเธอ ไปเปิดหน้าต่างให้ " ซิสเตอร์บอก เธอเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ฉันเลยจัดมุมนี้ไว้" เขาใช้นิ้วเคาะโต๊ะสองสามที หวังให้เธอเงยหน้าขึ้นมอง เพิ่งสังเกตเห็น ว่าบนนั้นเต็มไปด้วยหนังสือ ซึ่งเป็นแนวที่เธอชื่นชอบ หญิงสาวเม้มปากแน่น ปากหนักไม่รู้จะเอ่ยคำไหนก่อน ได้แต่โน้มตัวคำนับแบบซีอาร์ ความรู้สึกบอกคลื่นเขานั้นหนาเหลือเกิน หนาจนหญิงสาวเกร็งไปหมด และเสมือนโชคเข้าข้าง เสียงสมาร์ทโฟนของเขาดังขึ้นช่วยชีวิตเธอพอดี ครูซัสละสายตาจากการจ้องหน้าเธอ มากดรับสาย เดินเลี่ยงไปคุยข้างนอก โดยไม่สนใจจะบอกลาเธอสักคำ " ฮัลโหล ใช่ ผมไม่ได้ลืม กำลังจะไป" กับคำสรรพนามที่เปลี่ยนไป ระหว่างคู่สนทนาปลายสาย ที่ต่างกับเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD