เผด็จการ

1462 Words
ตกค่ำ รอบคฤหาสน์เงียบสงบ มีแค่แสงไฟสลัว สีเหลืองนวลจากจุดต่างๆ ทั้งรอบกำแพง และจุดสำคัญที่ต้องการให้โดดเด่นต่อสายตาผู้คนที่ผ่านมาไปมา เปรียบความตระการตาเสมือนรับโล่ได้ ทว่าบรรยากาศต่างกันโดยสิ้นเชิง ใช่ คงไม่มีอีกแล้วเสียงเด็กกำพร้าเหล่านั้น ที่หัวเราะร่วนยามหยอกล้อกันเองอย่างสนุกสนาน แว่วดังตามลมมาปะทะหูเธอ ในสมัยยังอยู่ที่เก่า มุมโปรดเวลาอ่านหนังสือ ถึงจะจับใจความไม่ได้เพราะแสงจากตะเกียงไม่พอ แต่มันทำให้เธอไม่เหงา และรู้ซึ้งเสมอว่าไม่ได้มีตัวคนเดียว ความเงียบซึ่งคืบคลานเข้ามาถึงในห้อง เอมิเลียนั่งกอดเข่า ไม่กล้าหยิบจับอะไรมาอ่านทั้งนั้น ไม่กล้าแม้แต่จะเปิดไฟให้สว่าง อาศัยเพียงไฟจากข้างนอก ที่เล็ดลอดผ่านช่องหน้าต่างเข้ามา พร้อมกับสายลมโชยบางเบา ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นแค่สามครั้ง พลางประตูถูกเปิดออก ไม่ทันให้เวลาหญิงสาวได้เตรียมตัว เธอผงกหัวที่แนบเข่าขึ้นมองหน้า ตกใจเล็กน้อยในวินาทีแรก ก่อนจะถอนหายใจพรืดในนาทีหลัง เมื่อเห็นว่าเป็นซีอาร์ " ทำไมถึงอยู่มืดๆ แบบนี้ละคะคุณ" พรึ่บ หล่อนถือวิสาสะเปิดไฟให้ ยกถาดอาหารมาวางกลางโต๊ะ " อาหารเย็นค่ะ" เอมิเลีย หย่อนเท้าลงพื้น มองกับข้าวสลับกับหล่อน " เอ่อ..." " มีคำสั่งจากนายท่านค่ะ ว่าคุณหนูจะต้องทานข้าวที่นี่" " คุณหนู? " เอมิเลียชะงัก ชี้หน้าอกตัวเอง ซีอาร์ยิ้มกว้าง " เป็นน้องสาวบุญธรรมของนายท่านแล้วนะคะ ลืมไปแล้วหรือ.." "น้องสาว? " "ใช่ค่ะ นายท่านออกตัวเองเลยนะ คุณหนูอาจจะยังไม่คุ้นเคย แต่ไม่เป็นไรค่ะ ประเดี๋ยวก็คงชินไปเอง ตอนนี้ทานข้าวก่อนดีกว่าค่ะ " ความสงสัยไม่ได้มีเพียงแค่นั้น ทั้งหัวของเอมิเลียเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ทว่า เธอเลือกที่จะนั่งนิ่ง ถามตัวเองในใจ มากกว่าถามหล่อน " ขอบคุณค่ะ" เธอยิ้มบางให้กับซีอาร์ จนกระทั่งหล่อนออกไป และไม่วายโค้งคำนับให้เธอ ทางด้านของครูซัส หลังเดินทางมาถึงที่หมาย ก็รีบดับเครื่อง เร่งฝีเท้าฝ่าผู้คนไปยังคนที่นัดเอาไว้ทันที มิเชล นางแบบสวยหุ่นสูงปราดเปรียว นั่งเท้าคางหมุนหลอดในแก้วน้ำดื่มอยู่ที่โต๊ะ นับหนึ่งถึงร้อยหวังสยบความร้อนภายในใจให้เย็นลง หลังรอแฟนหนุ่มเป็นชั่วโมง แต่ยังไม่เห็นเขา จนกระทั่งเขามาถึง ครูซัสนั่งลงตรงกันข้าม มองหน้าหล่อนสีหน้าเคร่งขรึมไม่พูดไม่จา " อีกแล้วนะคะครูซ ฉันรู้ คุณลืม.." มิเชลบ่นอุบ พลางสะบัดหน้าไปทางอื่น หวังให้เขาง้อ " ไม่เอาน่า คุณก็รู้ ผมงานยุ่ง" " ยุ่งตลอดเลยนะคะ จะยุ่งแบบนี้ ไปจนถึงวันแต่งงานของเราหรือเปล่า" " เงียบซะมิเชล แล้วสั่งอาหารให้ผม" แต่เหมือนไม่เป็นผล เมื่อชายหนุ่มเสียงทำขรึมใส่ หล่อนหันกลับมา จำใจต้องเป็นฝ่ายยอมเอง เพราะไม่อยากให้เขาอารมณ์เสีย นึกจะลุกก็ลุก อย่างเช่นครั้งก่อนๆ ที่เขาเคยทำ ตลอดในช่วงดินเนอร์ มิเชลนับครั้งการช้อนตามองจากแฟนหนุ่มได้เลย เขาดูพิถีพิถัน ตั้งใจทานสเต๊กตรงหน้า จนหล่อนรู้สึกถึงความผิดปกติได้ เขาไม่สนใจหล่อนและพูดน้อยกว่าที่เคย คนรู้นิสัยเขาดีอย่างมิเชล ย่อมมองออก " คุณมีความลับกับฉัน " มันไม่ใช่คำถาม แต่มันคือการเค้นให้เขาพูด ครูซัสวางช้อนกระทบจาน มองหน้าหล่อนนิ่ง รอเคี้ยวเนื้อคำสุดท้ายในปากให้หมด แล้วกระดกน้ำตามก่อน จึงจะเริ่มพูด " แล้วยังไง?" " คุณโกหกฉันไม่ได้หรอก " ชายหนุ่มขมวดคิ้ว เลือกที่จะไม่หลบตา และตอบประโยคเดิม " บิ๊กครูซ ... คุณก็รู้ฉันเป็นใคร แฟนคุณนะ " " แล้วไง " " ก็ไม่แล้วไง แค่ฉันจะรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับคุณ " หล่อนยักไหล่ ครูซัสละสายตา ตัดความหงุดหงิด เบือนหน้าไปทางอื่นแทน ก่อนมิเชลจะเบิกตาอ้าปาก เมื่อนึกขึ้นได้ และคิดว่าใช่แน่นอน " ใช่ สามปี ...สามปีแล้ว " "....." " คำขอของแม่คุณ ...ใช่มั้ย? " นิ้วเรียวผลักคางเขาหันมาสบตาตัวเอง ครูซัสขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมแสดงอาการโกรธขึ้นมาทันที " ใช่... ต้องใช่แน่ๆ คุณเงียบแบบนี้ " เหลือบตามองปลายนิ้วหล่อน ที่กระดกขึ้นลงชี้หน้าเขา ก่อนมิเชลลดมันลง เผลอลืมไป เขาไม่ชอบ หล่อนอาจจะถูกเขาหักนิ้วเอาก็ได้ แต่ก็ยังไม่ยอมหยุด หล่อนเค้นต่อ ลนลานถามเสียงดัง ทำคนรอบข้างเริ่มมอง ต่างจากเขาที่เอาแต่นั่งนิ่ง หญิงสาวได้ทีเอาใหญ่ " แม่คุณก็ตายไปตั้งนานแล้ว คุณไม่ทำตาม เธอคงไม่รู้หรอกน่า " " มิเชล! " " ทำไมคะ?!" " อย่าล้ำเส้น.." ครูซัส เดือดดาล ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง หลังกดเสียงต่ำและวางธนบัตรไว้กลางโต๊ะโดยไม่เรียกพนักงานมาคิดเงิน เดินดุ่มๆรุดหน้ามายังชั้นล่าง อาการเขาไม่สบอารมณ์ตั้งแต่นั้น มิเชลทำเขาหัวเสียและหงุดหงิด จนคิดว่าคุยกันต่อไปคงไม่รู้เรื่อง ขืนยังอยู่ต่อ คงมีแต่การทะเลาะ ต่างจากที่หล่อนวิ่งตาม เลือกที่จะคุยกับเขา มากกว่าปล่อยให้ค้างคาจนถึงเช้า " หยุดเดี๋ยวนี้นะคะครูซ คุณไม่มีสิทธิ์ทำกับฉันแบบนี้ การเดินหนี ทั้งที่ฉันยังพูดไม่จบ มันเสียมารยาท" แน่นอน เขาชะงักก็ตอนถึงลานจอดรถแล้ว ก่อนหน้านี้หล่อนวิ่งตามเขาไม่ทัน ครั้นจะตะโกนโผงผางห้ามกันในตึก ก็มีแต่จะขายหน้าผู้คน ครูซัสหยุดเดินกลางคัน มิเชลหน้าเกือบคะมำตำแผ่นหลังเขา ดีที่เท้าชะงักทันเสียก่อน " คุณคิดว่าคุณเป็นใคร มิเชล " " เลิกหยิ่งได้แล้วน่า เลิกวางท่าแบบนี้ด้วย คุณทำอะไรอย่าคิดว่าฉันไม่รู้เรื่อง เด็กนั่นน่ะ...คุณไปรับมาแล้วใช่หรือเปล่า" " แล้วทำไมผมต้องรายงานคุณทุกเรื่อง" " เพราะฉันเป็นแฟนคุณไง! หรือว่าไม่ใช่? " " กำลังจะไม่ใช่!" เขาหันหน้ามาสวนกลับ มิเชลยืนอึ้ง " จำไว้นะ มิเชล ถ้ามันจะพัง มันพังเพราะคุณ" เตรียมหมุนตัวจะเดินต่อ " หมายความว่ายังไง คุณกำลังจะบอกเลิกฉันเหรอ " หญิงสาวเสียงสั่น น้ำตารื้น มองคนรักด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจและจุก จะมีสักครั้งไหม ที่หล่อนกับเขามีความสุขอย่างเช่นคนอื่นๆ มีสักครั้งไหม ที่เขาไม่แข็งกระด้างใส่กันแบบนี้.... ใช่ นอกจากเรื่องบนเตียงที่เขาไม่เคยขาดตกบกพร่องแล้ว เรื่องความเย็นชา ก็ไม่ขาดตกบกพร่องเช่นกัน " ฟู่ววว" ครูซัสถอนหายใจ กระชับสูทตัวเองให้เข้ารูป ก่อนยื่นมือมาบีบหัวไหล่หล่อน " ดินเนอร์มื้อหน้า อย่าทำแบบนี้อีก อย่าซักไซ้ผม ผมไม่ชอบ" แล้วหมุนตัวไปที่รถ " เดี๋ยวค่ะ คุณจะไปไหนคะ.... อะ เอ่อ... ค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ" มิเชลยิ้มทั้งน้ำตา เมื่อรู้ความหมายของประโยคนั้นแล้วว่า.. เขาเปล่าบอกเลิก เพียงแต่ตำหนิ และติเตือนหล่อนเท่านั้น เลยได้แต่โบกมืออำลา กระทั่งรถเขาแล่นไปไกล ทางด้านของเอมิเลีย หน้าปัดนาฬิกาบ่งบอกเวลาตีหนึ่ง นับตั้งแต่กินข้าวเสร็จ อุตส่าห์ช้อนคำโตๆ เข้าปาก ฝืนใจกินเพื่อให้มันหมดๆไป ตั้งแต่ทุ่มตรง ชำระร่างกายและจัดการทำธุระส่วนตัวจนเสร็จราวประมาณสามทุ่ม บัดนี้ปาเข้าไปอีกวัน เธอยังลืมตาอยู่ ไม่มีทีท่าว่าจะง่วงเลย เอมิเลียสะบัดผ้าห่มออก ฉุดตัวเองลุกขึ้นนั่ง เบือนหน้าไปทางประตู คว่ำปากเตรียมจะร้องไห้ คิดถึงเหลือเกิน คิดถึงโรงเรียน... ใช่ นี่มันไม่ใช่ห้องนอนของเธอ ไม่มีอะไรเหมือน ทั้งเฟอร์นิเจอร์ ทั้งบรรยากาศ และผู้คน ถึงสาวใช้อย่างซีอาร์จะเป็นมิตรกับเธอก็เถอะ ทว่าสังคมนี้ มันไม่เหมาะกับเธออยู่ดี เอมิเลียลอบถอนหายใจนับครั้งไม่ถ้วน ตัดสินใจผงะจากการนอน ไปเปิดไฟดวงเล็กตรงโต๊ะ หวังจะอ่านหนังสือคั่นเวลา ทว่ายังไม่ทันจะเปิด กลับมีใครคนนึงมาเคาะประตูเสียก่อน ก๊อกๆๆ เอมิเลียสะดุ้งโหยง ไม่คิดว่าดึกๆ อย่างนี้ จะมีใครมาเยือน... " คะ ใครคะ.." ฉันเอง "
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD