“ปริมมี่ ๆๆ โอ้ย!! นี่เธอ ได้ยินที่ฉันเรียกไหม” เสียงแวดแหวจากผู้จัดการส่วนตัวอย่างแคนดี้ดังขึ้น ทำเอาปีรมาถึงกับสะดุ้ง พร้อมกับแปรงปัดแก้มที่คาอยู่ในมือนั้นหล่นตุบกับพื้น
“พี่แคนดี้นี่เสียงดังทำไมคะ ตกใจหมด” หล่อนหันไปตำหนิคนที่ยืนทำหน้าหยิกอยู่อย่างนั้น
“ก็พี่เรียกเธอตั้งนานสองนาน ไม่รู้ใจลอยไปถึงไหนเนี่ย”
“ป่าวนี่คะ”
“เหรอออออยะ” แคนดี้สะบัดบ๊อบเล็กน้อย แล้วเดินไปหยิบชุดให้หล่อนนั้นใส่ถ่ายแบบ
“อื้อ พี่แคนดี้นี่” เสียงหวานของปีรมาเอ่ยพรางค้อนผู้จัดการส่วนตัวที่เป็นทั้งพี่ ทั้งญาติไปในตัว
“แล้วนี่แต่งหน้าเรียบร้อยแล้วใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ”
“มาๆ ถอดชุดออก เดี๋ยวฉันช่วยสวมให้”
“อื้อ ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวปริมเปลี่ยนเอง” ร่างบางขยับหนีไม่รอให้แคนดี้ถอดชุดให้ มือเล็กพยายามปิดรอยแดงที่คนเลวที่ไหนฝากไว้ไม่รู้ นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป รู้จักแต่ว่าชื่อชีตาร์ ปีรมาเหม่ออีกครั้งเมื่อนึกถึงคนที่ทิ้งหล่อนไว้ที่โรงแรมเมื่อ 2 วันก่อน
“อะไรของเธอเนี่ยปริมมี่” แคนดี้ยืนมองอย่างเหนื่อยหอบ
“ไม่เป็นไรคะ ปริมเปลี่ยนเอง” หล่อนรีบรั้งเสื้อผ้านั้นออกมาถือไว้แล้วรีบเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุด ทันทีที่ร่างสาวเปลือยอีกครั้ง สายตาของหล่อนก็จะสะดุดกับรอยแดงบ้าๆ ที่พยายามปกปิดมันแล้วก็เอาไม่ค่อยอยู่ โชคดีที่เป็นงานเย็น และไม่ค่อยจะมีคนสังเกต ดูสิมาดูดได้ยังไง ไอ้ฝรั่งบ้านี่ ปรีมาขยับคอเสื้อเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่ามันเหมือนจะปกปิดไม่ค่อยอยู่
“ไหน มาสิมาหาแม่เพิ่มพลังกันหน่อย” แคนดี้อ้าแขนรับเพื่อโอบกอดมอบกำลังใจ ปีรมายิ้มกว้างทุกครั้งที่มีงานเดินแบบงานช้าง หล่อนกับพี่แคนดี้ต้องรักกันก่อนจะขึ้นแคทวอร์ค
“แค่ชุดรองฟินาเร่ก็โอเคแล้วแก”
“คะพี่..ปริมไม่เกี่ยงคะ ขอแค่มีงานก็จะมีกิน” หล่อนซบหน้ากับบ่ากว้างอีกครั้ง
“นายแบบไฮโซที่จีบเธอมาด้วยนี่”
“ใช่ค่ะ แต่เขาเดินคู่กับพี่ซินดี้คะ” ปีรมามองหน้าผู้จัดการแล้วตอบไปอย่างนั้น
“แต่เขาคอยเหล่ๆ แกอยู่นะ”
“ช่างเถอะค่ะพี่” ปีรมาโบกมือโบ้ยเรื่องที่พี่แคนดี้จะพูดต่อ
“ช่างอะไรหละมานู้นแล้ว” ยังไม่ทันที่ปรีมาจะขยับ ร่างนายแบบไฮโซเดินเข้ามาหาแล้วยิ้มมีเสน่ห์
“สวัสดีครับน้องปริม แล้วก็พี่แคนดี” ปีรมาหันไปยิ้มสายตาหล่อนมองยังช่อดอกไม้ช่อใหญ่ในมือนั้น
“สวัสดีค่ะคุณปกรณ์ อุ๊ย!! มีดอกไม้ด้วย” แคนดี้หันไปพูดด้วยเสียงอ่อนเสียงหวานนั้น
“ครับ ผมตั้งใจจะเอามาให้น้องปริมคนสวยครับ” ชายหนุ่มยื่นดอกไม้ให้ พร้อมกับยิ้มแบบมีเสน่ห์
“เสร็จงานแล้วผมขอโอกาสทานข้าวกับผมสักมื้อได้ไหมครับ” ชายหนุ่มส่งสายตามองปรีมาอย่างอ้อนวอน เจ้าหล่อนทำหน้าไม่ถูก แล้วหันไปมองหน้าแคนดี้ ผู้จัดการส่วนตัวรีบรับแทนแล้วก็พยักหน้า เพราะอยากให้ปริมมี่แต่งงานกับคนรวยๆ เพราะเจ้าหล่อนจะได้ไม่ลำบากอีก
“เอ่อๆ ก็ได้ค่ะ” ปีรมารับคำอย่างเสียมิได้ จากนั้นหล่อนก็ขอตัวออกไปรอคิวเดินเพราะเกือบถึงคิวของหล่อนแล้ว ร่างโปร่งยืนในชุดราตรีคอเต่าแขนกุดเว้าขึ้นสีนำเงินประกายเพชร ทันทีที่ร่างเจ้าหล่อนกระทบกับแสงไฟสป๊อตไลน์ช่างสวยสดงดงามแก่ผู้ชมด้านหน้าเวทีเป็นที่สุดทุกสายตามมองตามร่างของหล่อนไม้เว้นแม้ร่างหนาที่เดินคู่กับนางแบบรุ่นพี่ในชุดฟินาเร่นั้น
ปีรมาใช้เวลาอยู่บนแคทวอคนั้นไม่นานหล่อนก็รีบลงมาด้านล่างเพราระหล่อนไม่ได้เป็นคนเดินแบบในชุดไฮไลน์ของงานนี้
“พี่แคนดี้ค่ะปริมมี่ไม่อยากไปกับคุณปกรณ์”
“ไปเหอะน่าแก เขาทั้งหล่อ รวย แล้วก็มองสนใจแกอยู่นะ ถึงไม่หล่อเท่าฝรั่งคนนี้ก็เถอะ”
“พรืด!!” แคนดียื่นมือถือให้กับปีรมาดู คิ้วเรียวของหล่อนขมวดอย่างสงสัย แต่ก็เองหน้าดูระหว่างนั้น ทันทีที่สายตาไล่ไปดูชายหนุ่มหน้าฝรั่งที่ยืนถ่ายรูปคู่กับนางแบบรุ่นน้องที่ชื่อน้องเค้ก หัวใจหล่อนรู้สึกชาเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพนั้น
“เป็นไงหล่อนึ เสียดายคงเสร็จยายเค้กไปแล้ว” แคนดี้หน้าบูดเล็กน้อยเมื่อเห็นชายในฝันยืนถ่ายรูปกับยายเค้ก นางแบบรุ่นใหม่ที่พยายามปีนเกลียว
“เชอะ!! ไม่เห็นจะหล่อตรงไหนเลย” ปีรมาเชิดหน้าขึ้นทันทีอย่างหมั่นไส้ ความเกลียดเริ่มกลัดกินหัวใจหล่อนทีละน้อย ยิ่งเห็นว่าเขากับยายเค้กรุ่นน้องรู้จักกัน หล่อนยิ่งหมั่นไส้ สายตาหล่อนแอบชำเรืองดูแต่ละรูป ถ่ายรูปกอดเอว ซบกันเต็มที่ นี่คงไปขึ้นสวรรค์กันมาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ เลว นิสัยไม่ดี แบบนี้กลับมายุ่งกับเราอีกทำไม ปีรมาคิดอย่างเจ็บใจ หล่อนไม่ได้สนใจข้อความที่นักข่าวสายบันเทิงเขียนบรรยายหรอกว่าเป็นยังไง เพราะหล่อนไม่อยากเห็นหน้าเขาอีกแล้ว ปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นอย่างเจ็บใจ
“พี่แคนดี้ค่ะ ปริมเปลี่ยนใจแล้ว ปริมจะไปกับคุณปกรณ์” หล่อนกล่าวทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินไปเปลี่ยนชุดสวย เพื่อไปดินเนอร์กับชายหนุ่มที่เขาสนใจหล่อนจริง ไม่ใช่แค่ความใคร่ที่มาชั่วพักชั่วครู่อย่างใครบางคน หญิงสาวคิดพร้อมกับยืนแต้มหน้าเล็กน้อย สมองนึกถึงใบหน้าคมที่พ่นคำสวาทระหว่างที่นอนด้วยกันเมื่อสามวันที่ผ่านมานั้น
“คนเลว!!” ปรีมาพ่นคำนั้นออกมา เมื่อนึกถึงประวัติศาสตร์ที่กำลังจะซ้ำรอยที่บราซิลนั้น กลับมาหล่อนเครียดเป็นเดือนเพราะกลัวจะท้อง และครั้งนี้อีก เขาไม่ได้ใส่เครื่องป้องกันด้วย แบบนี้ยิ่งเครียดเรื่องโรคร้ายทั้งหลายด้วย ไอ้บ้า ไอ้ฝรั่งเลว มายุ่งกับฉันอีกทำไม หล่อนตะโกนถามในใจ
“ปริมมี่ คุณปกรณ์มาแล้วจ้า” เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้ปรีมากระพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่ความคิดและปรับสมองของหล่อนให้ลืมเขาให้ได้อีกครั้ง
“ค่ะพี่แคนดี้ เออ..แล้วพี่จะตามไปไหมคะ”
“คงไม่ยะ ไม่อยากไปเป็นก้าง เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เย็นเจอกันที่หัวหินเลยนะ”
“อ้อค่ะ งานถ่ายแบบชุดแต่งงาน” ปีรมายิ้มแล้วโบกลาผู้จัดการส่วนตัว หล่อนหันมายิ้มให้กับปกรณ์ที่ยืมมองหล่อนตาเยิ้มอยู่อย่างนั้น
“ไปครับน้องปริม” ปกรณ์ผายมืออย่างสุภาพบุรุษ เพื่อให้ปรีมาเดินนำอย่างให้เกียรติ หล่อนหันมายิ้มหวานให้กับชายหนุ่ม ทันทีที่หล่อนก้าวขึ้นรถ ภาพของหล่อนก็ถูกบันทึกจากนักข่าวสายบันเทิงทันที
อีกมุมหนึ่งของซีกโลก เขานั่งมองภาพหญิงสาวที่เขาสนใจด้วยอารมณ์โกรธ เขาให้หลังปุ๊บก็ออกไปกับผู้ชายอื่นปับ คิดจะสวมเขาให้เขาหรือไง ตัวเองมีผัวอยู่แล้วยังไปกินข้าวกับผู้ชายอื่นอีก หากเขากลับไปหละน่าดู จะจับตีให้ก้นลายเลย ชีตาร์โยนมือถือของเขาทิ้งลงกับโต๊ะทำงานอย่างหัวเสีย
“เฮ้ยๆ อะไรวะชีตาร์ อารมณ์เสียจากไหนมาเนี่ย”
“ป่าวครับพี่ลีโฮ แล้วเรื่องนั้นเรียบร้องแล้วเหรอครับ” ชีตาร์ปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วถามถึงเรื่องสำคัญที่เขาต้องบินด่วนมาช่วยพี่ชายนั้น
“อืม..เรียบร้อยแล้ว ขอบใจนายมากนะ” ประโยคนั้นเหมือนจะเป็นเสียงสวรรค์สำหรับเขา ร่างหนาผุดลุกขึ้นหน้าตาปรับเปลี่ยนอารมณ์จากเมื่อก่อนหน้านี้เป็นหลังมือ
“ถ้าอย่างนั้นผมบินไปไทยนะครับ”
“อ้าวเฮ้ย!! ไทยมีอะไรดีวะเนี่ย” ลีโอแค่นยิ้มแล้วมองหน้าน้องชายอย่างจับผิด
“เดี๋ยวพี่ก็รู้เองน่า” ชีตาร์เอ่ยทิ้งท้ายก่อนจะรีบกดมือถือหาลูกน้องคนสนิทเพื่อบินด่วน เขาต้องไปคุยกับหล่อนให้รู้เรื่อง เป็นเมียเขาห้ามไปคุยกับผู้ชายคนอื่น และผู้ชายคนอื่นก็อย่ามายุ่งกับเมียเขาด้วย ชีตาร์กำมือแน่นเมื่อนึกถึงภาพที่คนของเขาส่งมานั้น มันทำให้ในใจของเขาร้อนลุ่มเป็นที่สุด ชายหนุ่มถึงกับเดินเป็นหนูติดจั่นนั้น....>>>>>