INTRODUCTION

1969 Words
INTRODUCTION ตระกูลเราถูกสาปตั้งแต่รุ่นคุณปู่... ลูกจะมีชีวิตถึงอายุสามสิบห้าปี... ใช้ชีวิตให้มีความสุขที่สุดนะ อยากทำอะไรก็ทำได้เลยพ่อไม่ว่า... ‘จิรากร’ ‘จุลเกียรติ’ ‘เจตพิพัฒน์’ ได้ยินประโยคเหล่านี้จากผู้เป็นพ่อจนนับครั้งไม่ถ้วน ครั้งยังเยาว์วัยแน่นอนว่าไม่เข้าใจเรื่องคำสาป ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร เกิดอะไรขึ้นบ้าง รู้แค่พวกเขาสามพี่น้องจะมีอายุเพียงสามสิบห้าปี และถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจมาตลอดเพราะอยากให้ลูกมีความสุขมากที่สุด เมื่อโตพอที่จะเข้าใจอะไรมากขึ้น ‘อัครา’ พ่อของพวกเขายอมเล่าความเป็นไปในอดีตให้ฟัง บอกว่าคุณปู่โดนใครบางคนสาปแช่ง ให้ชีวิตรักมีปัญหา ตรอมใจตาย แล้วมันก็เป็นไปตามนั้นจริง ๆ เหตุการณ์ตรงนี้เด็กสามคนเกิดไม่ทันจึงไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง แต่ผู้เป็นพ่อเล่าก็ยอมรับฟังโดยไม่แย้งอะไร ต่อมาเป็นคำสาปในส่วนของอัคราที่บอกว่าจะเสียคนรัก เสียสติ ได้รับฟังตอนยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ทำใจเชื่อยากว่ามันจะจริง ทว่าเมื่อทุกคนเติบโตขึ้น มันเริ่มเป็นจริงทีละอย่างแล้ว เริ่มจากอัคราผู้เป็นพ่อหมกมุ่นอยู่กับการถอนคำสาปจนเหมือนคนบ้า แต่ละวันไม่ทำงานทำการ จะเข้าบริษัทเฉพาะมีประชุมใหญ่ บ้านช่องไม่กลับเพราะออกต่างจังหวัดไปตามหาหมอผีทั่วประเทศ ต้องการคนที่ชำนาญด้านคุณไสยมนตร์ดำมาช่วยลบล้างคำสาปนี้ ใครก็คิดว่าเขาเสียสติ คนนอกมองเขาว่าบ้า คนในบ้านก็รู้สึกห่างเหินมากขึ้นทุกที ยังดีที่แม้ความสนใจจะบิดเบือนไปเรื่องอื่น มันก็ไม่ลดความสามารถในการบริหารธุรกิจ เขายังเป็นผู้บริหารที่เก่งกาจคนหนึ่งอยู่เหมือนเดิม ยังตัดสินใจได้เด็ดขาดและสั่งการลงมาแม้ตัวจะอยู่ต่างจังหวัด ครอบครัวจึงไม่ลำบากที่เขาไม่มีเวลาได้อยู่ดูแลด้วยตนเอง อย่างไรเสียก็มีเงินจุนเจือทุกเดือน ภรรยาและลูกสุขสบายมีเงินใช้ไม่ขาดมือ มันจะดำเนินไปแบบนี้เรื่อย ๆ หากไม่มีจุดพลิกผันเรื่องภรรยาป่วย ทำให้อัคราต้องกลับมาดูแล ล้มเลิกภารกิจลบล้างคำสาปไปพักใหญ่ สุดท้าย ‘เจสสิก้า’ มารดาของเด็กชายสามคนก็จากไปกะทันหันด้วยโรคร้าย แน่นอนว่าอัคราโทษคำสาปเป็นอย่างแรก ช่วงเวลานี้เองที่เด็กชายสามคนเริ่มเห็นพ้องตรงกันว่าเรื่องคำสาปคงจะจริง พ่อก็เริ่มจะเสียสติ แม่ก็จากไปกะทันหัน แบบนี้ก็เท่ากับว่าพ่อของเขาสูญเสียคนรักและเริ่มเสียสติ มันตรงกับคำสาปเลย หลังจากความโศกเศร้าบรรเทาลง พ่อของพวกเขาก็ออกจากบ้านอีกครั้ง เหตุผลเหมือนเดิมคือต้องการถอนคำสาปนั้นให้สิ้นซาก ถ้าถอนไม่ได้จะไม่กลับมา ครั้งนี้จริงจังถึงขนาดที่ว่าเขียนพินัยกรรมไว้แล้วด้วย หากตัวเขาไม่กลับมาอีกแล้ว ทรัพย์สมบัติจะจัดการแบ่งให้ลูกอย่างไร อัคราจัดการทุกอย่างล่วงหน้าเอาไว้หมด เมื่อผู้เป็นพ่อไม่อยู่บ้าน ลูกชายทั้งสามคนจึงต้องอยู่บ้านตามลำพัง พี่น้องดูแลกันเอง วันไหนคิดถึงพ่อก็ทำได้เพียงโทรหา พวกเขาติดต่อกันได้เท่านั้นเพราะพ่อไม่กลับบ้านเลย ไม่ได้พบหน้าแม้กระทั่งวันเกิด แค่การกลับมาร่วมโต๊ะอาหารกันสักครั้งก็ยังไม่เคย ใจหนึ่งก็อยากให้กลับมาอยู่ด้วยกัน อีกใจก็อยากเอาใจช่วยให้ลบล้างคำสาปนั้นให้ได้ เรื่องมันจะได้จบลงสักที พวกเขาไม่อยากให้พ่อเสียสติไปกว่านี้ และเป็นไปได้พวกเขาก็ไม่อยากตายตอนอายุสามสิบห้าปีด้วยเช่นกัน ใครจะคิดว่าวันหนึ่งพวกเขาจะได้รับข่าวร้าย พ่อของเขาเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำที่ต่างจังหวัด รักษาตัวได้เพียงคืนเดียวก็เสียชีวิตลง ก่อนตายยังพูดเรื่องแม่มด คำสาป มันจึงอดปักใจเชื่อไม่ได้ว่าพ่อเขาเสียสติแบบนี้เพราะคำสาปนั้นอย่างแน่นอน ก็ถ้ามันดำเนินไปตามที่ถูกสาปแช่งเอาไว้ทีละอย่างแบบนี้ อย่างสุดท้ายจะหนีพ้นได้อย่างไร พวกเขาจะมีชีวิตเพียงสามสิบห้าปีโดยที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ในอดีตเกิดอะไรขึ้น ใครขัดแย้งกับใครก็ไม่รู้ เหตุใดเด็กสามคนนี้ต้องมารับเคราะห์กรรม เหตุใดเขาต้องสูญเสียทั้งพ่อและแม่ไปเพราะคำสาปบ้านั่น พวกเขาไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นมันมาจากไหน รู้เพียงสิ่งที่พ่อเล่าให้ฟัง และไม่รู้เลยว่าผู้เป็นพ่อดำเนินการลบล้างคำสาปไปถึงไหน เขาต้องไปสานต่อเจตนารมณ์ส่วนไหนให้มันสำเร็จ การจากไปของอัคราทิ้งความคับข้องใจไว้ให้ลูกมากมาย ‘จิรากร’ พี่ชายคนโตของบ้านต้องเป็นเสาหลักในทันที ตอนนั้นเขาเป็นเพียงนักศึกษาชั้นปีที่สี่ที่กำลังจะเรียนจบ อีกเพียงไม่กี่เดือนก็จะเรียนจบหลักสูตรปริญญาตรีแล้ว ตั้งใจว่าจบมาจะดูแลกิจการทุกอย่างแทนพ่อเอง ทั้งบริษัทส่งออกจิวเวลรี บริษัทผลิตอุปกรณ์กีฬาทุกประเภท บริษัทนำเข้ารถหรูจากต่างประเทศ ซึ่งยังไม่รวมงานอสังหาริมทรัพย์อีกมากมายหลายโครงการ แต่ยังไม่ทันเรียนจบก็ต้องเจอเหตุการณ์ร้ายแรงที่ต้องเสียผู้เป็นพ่อไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาจำเป็นต้องถีบตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นให้ได้ ตอนนี้ไม่มีพ่อแล้ว เขาเป็นพี่คนโตจะล้มไม่ได้เด็ดขาด ถ้าเขาไม่เข้มแข็งแล้วน้องอีกสองคนจะอยู่อย่างไร การสูญเสียครั้งนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญในบริหารธุรกิจด้วย ถ้าแสดงถึงความอ่อนแอให้คู่แข่งเห็นเมื่อไร ตัวเขาก็รับมือไม่ไหวเมื่อนั้น ยังดีที่เลขาฯ ของพ่อคอยช่วยเหลือเขาได้มาก คนภายในพร้อมผลักดันเขาขึ้นเป็นประธานทันทีหากเขาบริหารงานเป็น แน่นอนว่าจิรากรใช้เวลาเรียนรู้การทำงานอย่างจริงจัง พาบริษัทพัฒนาให้เป็นไปตามยุคสมัยใหม่ จนสามปีให้หลังเขาก็ได้ขึ้นเป็นประธานเต็มตัวโดยไม่มีข้อกังขา โชคดีที่พ่อของเขาปูทางมาให้หมดแล้ว หาคนเก่งที่ไว้ใจได้มาสอนงานลูกชาย ราวกับรู้ว่าการออกจากบ้านครั้งนี้จะไม่ได้กลับมา หลังจากได้ขึ้นเป็นประธานบริษัท การงานมั่นคงขึ้น จิรากรใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงในทุกด้าน เขาทำงานหนัก หาเงินได้มาก ใช้เงินมาก เที่ยวบ่อยครั้งเท่าที่จะทำได้ มีความรักมาหลายหน เปลี่ยนคู่นอนไม่ซ้ำหน้า เพราะเอาแต่คิดว่าอยากใช้ชีวิตให้คุ้มก่อนตาย จนอายุสามสิบปี เหมือนทุกอย่างกลับไปหยุดนิ่งอีกครั้ง เขาเร่งใช้ชีวิตจนเบื่อ ไม่สนุกกับสิ่งที่เคยทำเลย ไม่รู้สึกถึงการอยากมีชีวิตอยู่ เหมือนเขาหายใจเพื่อรออายุสามสิบห้าแล้วตายไปเท่านั้น แต่มันก็อีกตั้งห้าปี เขารอไม่ไหว ไม่อยากตายเพราะคำสาปบ้านั่นด้วย ถ้าเลือกได้เขาก็อยากหาวิธีตายแบบสมศักดิ์ศรี ตัวเขาไม่เลือกที่จะฆ่าตัวตายเองเพราะมันไม่น่าสนุกมากพอ เขาอยากรู้สึกตื่นเต้นและลุ้นระทึกในทุกวินาทีก่อนตาย หากมีใครสักคนมาลอบฆ่าเขาได้สำเร็จก็คงดี อยากรู้ว่าตัวเขาจะมีใครมาล้มได้หรือไม่ จะมีใครทำให้เขายอมแพ้แล้วขาดใจตายได้บ้าง จิรากรติดต่อองค์กรลับที่รู้กันในธุรกิจมืดเพื่อดำเนินตามแผนการ ถ้าต้องการจ้างวานฆ่าใครมักจะเป็นที่รู้กันว่าต้องพึ่งพาตลาดมืดเหล่านี้ และงานส่วนใหญ่สำเร็จแต่โดยดีเสียด้วย ทว่างานของเขาครั้งนี้ความตื่นเต้นมันอยู่ตรงที่เขาสามารถเลือกคนฝีมือดีมาฆ่าตนเองได้ เพราะเป็นผู้ว่าจ้างและเหยื่อในคนเดียวกัน เขาได้รหัสกับประวัติคร่าว ๆ ของมือฉกาจมาห้าคน ทว่ามีคนเดียวที่เขาถูกใจ นั่นคือเจ้าของรหัสนักฆ่า Q17 ที่ถนัดการใช้มีดสั้นเป็นพิเศษ การตายด้วยมีดสั้นเป็นการถูกจู่โจมในระยะประชิด น่าสนุกดี เขาเลือกคนนี้อย่างไม่ลังเล ในขณะเดียวกันก็ตั้งใจจะขุดคุ้ยประวัติที่แท้จริงของบุคคลนี้ไปด้วย ว่าเป็นใคร ชื่ออะไร หน้าตาเป็นแบบไหน เมื่อตัดสินใจเลือกคนนี้ ทางตลาดมืดรับเรื่องไปแล้วก็บอกแค่ว่าจะรีบดำเนินการทันที เวลาล่วงเลยไปจนถึงค่ำคืนระทึกขวัญ จิรากรถูกจู่โจมหลังจากนั้นไม่กี่วัน เริ่มงานเร็วเสียจนเขาเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัว คิดว่าต้องรอนานกว่านี้เสียอีก การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นและจบด้วยการได้รับบาดเจ็บกันทั้งคู่ จิรากรมีแผลที่หลังและหน้าอกด้านซ้าย ดูรู้เลยว่าตั้งใจจะกระโจนเข้ามาแทงหัวใจอย่างไม่รีรอ พลาดการแทงจากด้านหลังก็มาแทงซ้ำด้านหน้าต่อ แต่พลาดอีกอย่างตรงที่จิรากรก็เก่งการต่อสู้เหมือนกัน เขามีสติมากพอที่จะปกป้องตัวเอง แถมคว้าเศษแก้วที่แตกมาทำร้ายอีกฝ่ายเป็นการตอบกลับอีกด้วย เท่ากับในมือทั้งคู่มีของมีคมคนละหนึ่งชิ้นไว้ป้องกันตัว ถือว่าไม่มีใครเสียเปรียบ นักฆ่าคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่หลังมือด้านขวาจากการถูกคมกระจกบาด เกิดการต่อสู้กันชนิดที่ว่าต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมแพ้ จิรากรสู้ขาดใจราวกับลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้เขาคิดอยากตาย เลือดในกายสูบฉีดและสนุกไปกับการต่อสู้ครั้งนี้ที่สุดในชีวิต แต่โชคร้ายตรงที่แมสก์สีดำของคุณนักฆ่ามันหลุดจนเกือบเห็นใบหน้า นั่นทำให้ผู้ก่อเหตุรีบชิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็วและปล่อยให้จิรากรยืนจมกองเลือดของตัวเองอยู่อย่างนั้น แน่นอนว่าภารกิจล้มเหลวไม่เป็นท่า ตัวนักฆ่าได้รับบาดเจ็บและใบหน้าเกือบเปิดเผย คนถูกทำร้ายก็สู้เอาเป็นเอาตายจนมีชีวิตรอด วันต่อมาในขณะที่จิรากรรักษาตัว เขาก็ติดต่อกับทางตลาดมืดถึงการเลิกจ้างงานทันทีเพราะเปลี่ยนใจแล้ว ให้บอกตามตรงคือเขาเพิ่งรู้สึกกลัวตายก็ตอนนี้ การต่อสู้เพื่อปกป้องตนเองที่เพิ่งเกิดขึ้นทำให้จิรากรรู้ซึ้งถึงคุณค่าของชีวิตและอยากมีชีวิตอยู่ต่อ แม้จะอยู่ได้อีกไม่กี่ปีก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยในระยะเวลาที่เหลือเขาก็อยากจะเจอเซียนมีดสั้นคนนั้นในชีวิตอีกสักครั้ง คนที่เข้าจู่โจมด้วยความมาดมั่น มือเรียวที่กระชับมีดสั้นแน่นและแทงเข้าที่จุดตายอย่างไม่ลังเล สายตาที่เด็ดเดี่ยว กับความตั้งใจในการทำภารกิจที่เปี่ยมล้น ช่างน่าประทับใจเสียจริง ๆ หลังจากนั้นจิรากรก็หมกมุ่นอยู่กับการสืบหาว่านักฆ่าคนนี้เป็นใครมาจากไหน แต่เหมือนประวัติส่วนตัวอื่น ๆ ถูกปกปิดไว้เสียหมด ตอนนี้ได้ข้อมูลเพียงแค่ชื่อจริงเท่านั้น ถูกใจชะมัดเลย คุณรัญกร...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD