แสงสียามค่ำคืนในบาร์อันดับหนึ่งยังคงสวยสะกดนักท่องราตรีได้เสมอ ในโซนวีไอพีวันนี้มีร่างของสามหนุ่มนั่งพิงพนักโซฟาอยู่ แม้บนโต๊ะจะไม่ได้มีเค้กวันเกิดเหมือนเช่นสามวันก่อนแล้วก็ตาม
“สรุปมึงนัดพวกกูมาวันนี้มีเรื่องอะไรวะ" ปริณณ์ในเสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมบนออกสามเม็ด อวดแผงอกล่อสายตาสาวเล็กสาวใหญ่ในบาร์เอ่ยถามพร้อมยกแก้วเหล้าบ๊วยขึ้นดื่มให้ชื่นฉ่ำใจ “ไม่ใช่ว่าแค่นัดออกมากินเหล้าเฉย ๆ นะเว้ย ในข้อความที่ส่งมามึงบอกว่ามีเรื่องสำคัญ"
“เออ ก็เรื่องสำคัญนั่นแหละ" บัลลังก์ในวันนี้สวมเชิ้ตสีดำสนิทราวกับไว้ทุกข์ให้ตนเอง ใบหน้านิ่งขรึมซีดเซียวกว่าปกติจนราเชนทร์ต้องทักท้วง
“เฮ้ย ๆ มึงเป็นอะไรวะ ที่บริษัทมีเรื่องหรือไง”
“คือ…” เจ้าชายน้ำแข็งลากเสียงเล็กน้อย ยิ่งทำให้เพื่อนทั้งสองหูผึ่งอยากรู้อยากเห็นยิ่งกว่าเดิม
“คืออะไรวะ มึงนี่ก็ลีลาอยู่ได้ ทุกวันไม่เห็นเป็นแบบนี้ เรื่องมันหนักหนามากเลยหรือไง” ปริณณ์เลิกคิ้วสูง ยกแก้วเหล้าบ๊วยขึ้นดื่มเพิ่มคลายความหงุดหงิดที่เพื่อนไม่ยอมพูดปัญหาที่ตัวเองเผชิญอยู่ออกมาเสียที
“คือคุณหญิงย่าของกูอยากอุ้มเหลน ก็เลยอยากให้หลาน ๆ แต่งงาน มีครอบครัว… แล้วเหมือนทั้งน้องกู ทั้งลูกพี่ลูกน้องกูยังไม่มีใครอยากแต่ง กูก็เลย… บอกไปว่ากูนี่แหละจะเป็นคนแต่งงานตามคำขอเอง"
พรูด!!
เหล้าบ๊วยอย่างดีถูกพ่นออกมาจากริมฝีปากของปริณณ์ทันทีหลังจากที่บัลลังก์เล่าปัญหาที่กำลังพบเจออยู่ให้ฟัง ชายหนุ่มกุมท้องตัวเองขำเสียงดังอย่างนึกชอบใจ
“มึงตกปากรับคำไปแบบนั้นได้ไงวะ ฮ่า ๆๆ เจ้าชายน้ำแข็งอย่างมึงอะเหรอจะแต่งงาน คนบ้างานอย่างมึงไม่มีทางมีคนรักได้หรอกเว้ยไอ้ไทม์"
“ไอ้สัตว์นี่ เหล้าเข้าหน้ากูหมด" ราเชนทร์บ่นอุบอิบ หยิบเอาทิชชูขึ้นซับหน้า “แต่กูก็คิดเหมือนไอ้ปริณณ์นะ คนอย่างมึงอะเหรอจะมีคนรัก ไม่มีทางที่มึงจะหาได้ในเร็ว ๆ นี้แน่นอน มึงผลัดกับคุณหญิงย่าไปก่อนดีกว่าไหม หนึ่งปี สามปี ห้าปีอะไรก็ว่าไป"
“กูเพิ่งรับคำได้สามวันก็ถามหาหน้าหลานสะใภ้แล้ว คุณหญิงย่ากูไม่มีทางปล่อยให้กูได้อ้างเป็นปีแบบนั้นแน่นอน เอาไงดีวะ"
ปริณณ์ที่หยุดขำได้แล้วลองยื่นข้อเสนอ “มึงลองจีบผู้หญิงสักคนดูไหมล่ะ น้องอิงอรเลขาสุดเซ็กซี่ของมึงก็ได้ หน้าตา ฐานะ การศึกษาของยัยนั่นก็ไม่ได้แย่เลยน้า มึงจีบไม่นานก็น่าจะติด น้องเขาก็ดูจะชอบมึงออกนอกหน้าไม่ได้อยากเป็นแค่เลขาอยู่แล้ว"
“กูไม่ได้ชอบอิงอร" บัลลังก์ยื่นขำขาดชัดเจน ใบหน้าเรียบนิ่งไม่ไหวติงกับคำชงของเพื่อนสนิท “กูปรึกษาดินไทย ไอ้ดินมันบอกให้กูหาผู้หญิงมาเล่นบทเป็นคนรัก แล้วสักพักก็เลิกกันอย่างกะทันหัน ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ"
ราเชนทร์ส่ายหัว “ไอ้สัตว์ มึงจะแสดงละครคบ ๆ เลิก ๆ กับผู้หญิงไปตลอดชีวิตไม่ได้ป่าววะ ผลกระทบก็มีตั้งเยอะแยะ กูว่าวิธีนี้ไม่ค่อยเวิร์กเท่าไร…”
“แต่ถ้าแสดงละครแค่ช่วงแรก ๆ ระหว่างนั้นมึงก็ตามหารักแท้จริง ๆ กูว่าก็พอได้นะ" ปริณณ์เสนอความเห็น “คนอย่างไอ้ไทม์ ลองลดความเย็นชาลง บ้างานน้อยลง ยังไงก็ต้องมีผู้หญิงเข้ามาชอบบ้างละวะ"
“มันนั่นแหละจะชอบเขากลับหรือเปล่า" ราเชนทร์ถอนหายใจ คิดหนักไปตามเพื่อน “แล้วอีกอย่าง จะหาผู้หญิงมาจากไหนไม่ทราบ ไปคว้าเอาใครก็ไม่รู้มา คุณหญิงย่ามึงสืบแป๊บเดียวก็น่าจะรู้นี่หว่า ไม่โดนฉีกอกแย่เหรอ”
บัลลังก์คิดตาม เป็นอย่างที่ราเชนทร์ว่า ถ้าเขาจะใช้แผนให้ผู้หญิงมาเล่นบทคนรักกำมะลอในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก็คงจะไม่มีใครสามารถแสดงได้แนบเนียน และไม่โดนคุณหญิงย่าระแคะระคายได้
พลันวูบหนึ่งของความคิด บัลลังก์นึกถึงเจ้าของบุลการีเรือนเหยียบครึ่งล้านที่ตนยังเก็บไว้ในลิ้นชักหัวเตียง ไม่ได้ขายไปตามโน้ตที่ทิ้งไว้ ใบหน้าสวยคม ดวงตาดำสนิททว่าลุ่มลึกมีเสน่ห์ ดูทรงแล้วคงไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา ๆ เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว
“ผู้หญิงที่มึงหามาให้กูที่ห้องวีวีไอพีในคืนวันเกิดมึง มึงพอจะติดต่อให้กูได้ไหม" บัลลังก์โพล่งขึ้นมาพร้อมกับหันไปทางปริณณ์ หนุ่มหน้าตี๋ทำหน้างงพร้อมทั้งชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
“กูเนี่ยนะ กูไปหาผู้หญิงให้มึงตอนไหน คืนนั้นเราก็เมาจะตายห่ากันหมดไม่ใช่เหรอวะ…” พูดจบก็หันหน้าไปทางราเชนทร์ “หรือมึง มึงหาผู้หญิงไปให้ไอ้ไทม์เหรอวะเชน”
“จะบ้าเหรอ กูก็เมายิ่งกว่าหมา ไม่มีเวลาหาผู้หญิงให้เพื่อนมึงหรอกครับ ทำไมวะไอ้ไทม์ อย่าบอกนะว่ามีผู้หญิงอยู่ในห้องวีวีไอพีน่ะ" ราเชนทร์ลดเสียงลงต่ำ รู้สึกขนลุกซู่ราวกับจะมีเรื่องวุ่นวายครั้งใหญ่เกิดขึ้นหลังจากนี้
“เออสิวะ กูก็นึกว่าเป็นผู้หญิงที่พวกมึงหาให้มาตลอด ก็เลย…”
“เวรแล้วไง… มึงจัดผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้อะนะ" ปริณณ์ยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองดังแปะ “ทำไมมึงไม่ถามกูก่อน… เขาไม่เอาเรื่องมึงแย่เหรอแบบนี้"
“ทีแรกก็เหมือนจะเอาเรื่องนั่นแหละ แต่ก็คงเมามากเหมือนกัน ยัยนั่นเลยคิดว่ากูเป็นหนุ่มโฮสต์” บัลลังก์ตอบเสียงเรียบ ๆ ส่วนปริณณ์ขำก๊ากลั่นอีกรอบ
“ชีวิตมึงนี่แม่ง… พีกในพีกยิ่งกว่านิยายอีก แล้วมึงจะถามหาผู้หญิงคนนั้นไปทำไมวะ" ราเชนทร์ที่กลั้นขำจนหน้าแดงถามเสียงสั่น ๆ “อย่าบอกนะว่า…”
“อืม กูจะให้ผู้หญิงคนนั้นมารับบทเมียปลอม ๆ ให้กู” บัลลังก์บอกแผนการให้เพื่อนฟัง แล้วเขย่าคอปริณณ์ที่ยังหยุดขำไม่ได้ให้สงบสติ “มึงต้องช่วยกู ใช้ภาพจากกล้องวงจรปิดสืบหาผู้หญิงคนนั้นให้กูที กูจะให้ดินไทยมาช่วยเรื่องนี้ด้วย กูต้องการข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น"
“เอาจริงดิ” ปริณณ์ที่ขำจนแทบน้ำตาไหลถามย้ำเป็นครั้งสุดท้าย
“อืม… กูอยากรู้จริง ๆ ว่าคนที่ด่ากูจนหูแทบดับวันนั้นเป็นใครกันแน่…”