EPISODE 3

992 Words
"พอได้แล้วกฤษ กรณ์เขาจะไม่ไหวแล้วนะคะ กฤษ" เพี๊ยะ ผมสะบัดตัวเธอให้ออกจาก ก่อนจะหันมาฟาดฝ่ามือของผมไปที่หน้าของเธออย่างเต็มแรง จนเธอล้มลงไปกับพื้นห้อง "กฤษ มิวเจ็บ" ผมปรี่เข้าไปกระชากผมเธอให้เงยหน้ามาสบตากับผม "กูรักมึงไม่พอเหรอห้ะ มึงถึงได้ทำกับกูแบบนี้" ผมตะโกนถามเธอทั้งน้ำตา ก่อนจะกระชากผมเธอให้แรงขึ้น.... น้ำตาของเธอไหลลงมาช้าๆ อาบสองแก้ม เธอมองหน้าผมด้วยสายตัดพ้อ เธอจะมาตัดพ้ออะไรผมกัน ทั้งๆ ที่เธอเป็นคนนอกใจผมเอง "ทำไมถึงทำกับกูแบบนี้ ที่ผ่านมามันคืออะไรวะ" ผมตะโกนใส่หน้าเธอ มิวเธอสะอึกสะอื้นร่ำไห้แรงกว่าเก่า "มิวขอโทษ" คำขอโทษที่เธอเปล่งออกมาเปรียบเสมือนมืดที่แหลมคมทิ่มแทงใจผมให้ตายทั้งเป็น พลั่ก ไอ้กรณ์มันผลักผมให้ออกห่างจากมิว ก่อนที่มันจะเข้าไปกอดปลอบประโลมมิวเอาไว้ "มึงพอได้แล้วไอ้กฤษมิวเป็นผู้หญิงนะ" ไอ้กรณ์หันมาตะคอกใส่ผม "กูไม่ฆ่ามึงสองคนก็บุญเท่าไหร่แล้ว" "มึงไม่กล้าฆ่ากูกับมิวหรอก เพราะมึงรักมิวยิ่งกว่าสิ่งใด และที่สำคัญกูก็เป็นน้องมึง" "มึงเป็นน้องกูแล้วทำไมมึงยังมายุ่งกับเมียกู กูที่เป็นพี่ของมึง" ผมถามพลางมองหน้ามันด้วยความเจ็บปวด "ความรักมันห้ามกันไม่ได้หรอกว่ะ" "รักเหรอวะ เหอะ" ผมเหยียดยิ้มมองหน้าไอ้กรณ์ "กฤษคะ มิวรักกฤษ" มิวบอกและพยายามจะมาจับมือผม แต่ไอ้กรณ์ก็พยายามดึงเธอไปกอดไว้ เป็นภาพที่มองก็ยิ่งเจ็บใจ จนผมต้องเป็นฝ่ายเดินออกมาจากตรงนั้นเอง ผมเดินมาขึ้นรถ ก่อนจะขับออกมาที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ผมจอดรถก่อนจะฟุบหน้าไปกับพวงมาลัยรถแล้วร้องไห้ออกมา ความรู้สึกผมมันพังไปแล้ว ใจผมมันแตกจนไม่เหลือชิ้นดี สิบปีที่ผ่านมาไม่มีค่าอะไรเลย สิบปีที่ผ่านมาการันตีไม่ได้เลยว่าคน คนหนึ่งจะซื่อสัตย์กับเราตลอดไป แล้วก็ได้รู้ว่าเวลาไม่ได้ช่วยอะไร ไม่ได้การันตีคน คนมันจะเลวมันก็เลว คนมันจะไม่ซื่อสัตย์มันก็ไม่ซื่อสัตย์ต่อให้เราดีกับมันหรือรักขนาดไหนก็ตาม.... ผมลงจากรถเดินมานั่งลงที่เก้าอี้กลางสวน ก่อนจะมองไปข้างหน้าสุดลูกตาของผม แล้วจู่ๆ ภาพคนสองคนที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่บนเตียงของผมก็ฉายเข้ามา ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่น้องชายเพียงคนเดียวของผม ผมคงรู้สึกเจ็บน้อยกว่านี้ ผมไม่คิดเลยว่าคนสองคนที่ผมรักหมดหัวใจ จะหักหลังผมได้ลงคอ ผมคิดไม่ถึงเลยจริงๆ อยากจะมาเซอร์ไพรส์เขา แต่ดันเจอเซอร์ไพรส์ยิ่งกว่า น่าตลกจริงๆ ตั้งแต่วันนั้น วันที่เกิดเรื่องขึ้น ผมก็กลายเป็นคนไม่เอาไหนทันที ไม่เอาการเอางาน ไม่เอาอะไรสักอย่าง แต่ไม่ได้ดื่มเหล้า ไม่ได้เมาหัวราน้ำแบบที่คนอื่นเขาเป็นกัน ผมไม่ได้ไร้สาระอะไรขนาดนั้น ผมแค่ไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไร จมอยู่กับความรู้สึกเจ็บปวดของตัวเอง และความแค้นในใจ สองอาทิตย์ที่ผมไม่ได้กลับบ้าน ไม่ไปทำงาน พ่อกับแม่โทรมาตามผมทุกวัน ผมแค่บอกว่าเดี๋ยวจะกลับไป แต่ไม่ได้บอกว่าจะกลับไปเมื่อไหร่ ผู้หญิงคนนั้นก็โทรมาหาผมเหมือนกัน ทั้งโทร ทั้งไลน์ แต่ผมก็เลือกปฏิเสธการติดต่อของเธอไป ในวันนี้ผมตัดสินใจจะกลับบ้าน หลังจากที่ออกจากบ้านไปเป็นเวลาสองอาทิตย์ ผมไม่รู้ว่ากลับไปผมจะมองหน้าน้องชายยังไง ผู้หญิงคนนั้นยังจะอยู่ที่บ้านของผมอีกไหม พ่อกับแม่จะรู้เรื่องรึยัง คำถามเกิดขึ้นในใจผมเต็มไปหมด ผมเดินเข้าบ้านมา ก่อนจะเดินมายังห้องรับแขกที่มีพ่อ แม่ ไอ้กรณ์ และมิวนั่งอยู่ เมื่อผมเห็นหน้าเธอ ผมแทบอยากจะเข้าไปกระชากตัวเธอมา บีบคอเธอให้แหลกคามือผม แต่ทว่าแม่ของผมดันลุกขึ้นมาขว้างเหมือนท่านจะอ่านใจผมออกยังไงยังงั้น ทั้งๆ ที่ผมไม่ทันได้พูดอะไร หรือสีหน้าผมแสดงออกถึงความเกลียดชังมากจนเกินไป ใครๆ ถึงได้เดาใจผมง่ายดาย "หายไปไหนมาตากฤษ รู้รึเปล่าว่าแม่เป็นห่วง" แม่ว่าพลางยื่นมือมาลูบไล้ใบหน้าของผม "ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงยังอยู่ที่นี่ ทำไมแม่ไม่ไล่เขาออกไป" ผมเลี่ยงที่จะตอบคำถามแม่ แต่เลือกจะถามท่านก่อนจะชี้นิ้วไปหามิวที่นั่งก้มหน้าบีบมือเข้าหากันแน่น "ใจเย็นๆ ก่อนลูก" "แม่จะให้ผมใจเย็นยังไงไหว แม่ไม่รู้เหรอว่าไอ้กรณ์กับอีผู้หญิงคนนี้มันทำอะไรกันลับหลังผม แม่ไม่รู้เหรอ" ผมถามแม่เสียงดังลั่น "รู้ลูกรู้" "รูัแล้วทำไมไม่ไล่มันออกไป จะให้อยู่บ้านเราอีกทำไม หรือแม่ไม่กล้าไล่ ผมจะได้ไปไล่เธอเอง" "แม่ทำแบบนั้นไม่ได้ลูก" "ทำไม" ไม่มีใครเอ่ยปากพูดอะไร จนผมต้องเป็นฝ่ายเดินไปกระชากลากถูผู้หญิงคนนั้นให้ออกจากบ้านของผมไป....
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD