ตอนที่ 12 : เงาในกระจกและการวิจัยที่ถูกลืม

785 Words
เสียงซ่าเบา ๆ ดังขึ้นจากทีวี เหมือนคลื่นสัญญาณรบกวน ก่อนที่ภาพขาวดำจะเผยการทดลองบางอย่างเกี่ยวกับ นกฮัมมิ่งเบิร์ด อี๋หวังสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบกดปิดทันที ใบหน้าของเขามีเงามืดปกคลุม ริมฝีปากบางขบแน่นเหมือนคนกำลังซ่อนความจริงบางอย่าง “ฉัน…ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” น้ำเสียงเขาต่ำกว่าปกติ เหมือนพยายามปิดบังความรู้สึกอะไรบางอย่าง เขาลุกขึ้นเดินหายไปทางประตูด้านใน ทิ้งให้ผมนั่งอยู่คนเดียวในห้องเงียบ ๆ เวลาผ่านไปไม่ถึงห้านาที เสียง ปัง!! ปัง!! ดังสนั่นจากห้องน้ำ ทำให้ผมสะดุ้งเฮือก ผมรีบวิ่งไปที่หน้าประตูแล้วพยายามหมุนลูกบิด แต่มันถูกล็อคแน่นไม่ขยับเลย เสียงดังโครมครามจากด้านในเหมือนมีใครกำลังอาละวาด ผมใจเต้นแรงด้วยความกังวล ก่อนจะเงยหน้ามองผ่านบานกระจกเล็ก ๆ ด้านบน สิ่งที่เห็นทำให้หัวใจผมหยุดเต้นไปชั่วขณะ— อี๋หวังกำลังก้มหน้ามองเงาตัวเองในกระจก แววตาคมกริบเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง ริมฝีปากขยับพึมพำเหมือนกำลังคุยกับใครอีกคน ผมรีบถอยออกมา รู้สึกว่าถ้าอยู่ต่อไปอาจจะโดนลากเข้าไปด้วย ความอยากรู้อยากเห็นชนะความกลัว มือผมคว้ารีโมททีวีขึ้นมาอีกครั้งแล้วกดเปิด หน้าจอสีฟ้าแตกเป็นลายเส้น ภาพสั่น ๆ ก่อนข้อความสีขาวจะปรากฏขึ้น [โครงการ NG90-1: การดัดแปลงพันธุกรรมนกฮัมมิ่งเบิร์ด] ชายในชุดอวกาศสีขาวปรากฏขึ้น เสียงของเขาเย็นชาไร้อารมณ์ > “นกจำนวน 977 ตัว ถูกฝัง เมล็ดปะการังเรืองแสง ไว้ที่หัวใจ เพื่อทดสอบความสามารถในการอยู่รอดในชั้นบรรยากาศของปี 2XXX” ภาพตัดไปที่กล่องโปร่งใสคล้ายอุกกาบาต ภายในคือนกฮัมมิ่งเบิร์ดนับร้อยกำลังกระพือปีกสั่น ๆ ก่อนนักวิจัยจะฉีดสารเหลวคล้ายคริสตัลลงไปในร่างพวกมัน เสียงกรีดร้องเล็ก ๆ ดังแหลมบาดหู บางตัวดิ้นจนกระดูกหัก บางตัวหยุดขยับทันที ร่างกลายเป็นก้อนหินสีแปลกประหลาด—ทองคำ เพชร ทับทิม เหล็ก—ราวกับร่างกายแปรสภาพเป็นแร่ธาตุจากโลกที่ไม่เคยมีมาก่อน “เมื่อทดลองไป 100 ตัว ผลล้มเหลว… ร่างที่เหลือกลายเป็นแร่หรือแตกสลาย เราจึงปรับเปลี่ยนสารเคมีต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งนกตัวสุดท้ายหมดไป” เสียงบันทึกแห้งแล้งไร้อารมณ์ แต่ภาพนกถูกยัดเข้าไปทีละตัว ๆ ทำให้ผมแทบอาเจียน จู่ ๆ ภาพก็ตัดมาที่ข้อความสุดท้ายบนจอ [ตัวอย่างที่รอด : 1 / 977] ผมเบิกตากว้าง— ก่อนจะรู้สึกได้ถึงเงาดำข้างตัว อี๋หวังยืนอยู่ตรงนั้น ทั้งที่เมื่อครู่ผมยังได้ยินเสียงเขาในห้องน้ำ แววตาของเขานิ่งสนิทเหมือนกำลังจับผิด ผมรีบกดปิดทีวี แต่ช้าไป—รีโมทในมือถูกแย่งไปอย่างง่ายดาย เขาโยนมันไปที่มุมห้องด้วยท่าทางไม่พอใจ ทันใดนั้น ใบปลิวที่ผมถืออยู่ในมือเปลี่ยนไปเอง [กฎข้อถัดไป] ทำให้อี๋หวัง**ดี ภายใน 1 ชั่วโมง ผมหน้าซีด หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกมา พยายามสื่อสารกับทีมนักวิจัยในหูฟัง แต่สัญญาณกลับเงียบสนิท “ง้อคนต้องทำยังไง… ฉันไม่เคยมีแฟนสักหน่อย…” ผมพึมพำกับตัวเองอย่างจนปัญญา แต่ทันใดนั้นผมก็นึกออกว่า—อี๋หวังชอบของหวาน เวลาที่เขาหงุดหงิดจะกินน้ำตาลตลอด ผมรีบลุกขึ้นจะไปที่ครัว หมับ! มือเย็นเยียบของอี๋หวังคว้าข้อมือผมไว้แน่น เขาดึงแรงจนร่างผมล้มลงบนตักของเขา “ใครอนุญาตให้นายลุกออกไป?” น้ำเสียงเรียบแต่กดดันจนผมหายใจไม่ออก ผมกัดปากแน่น ความกดดันทำให้ริมฝีปากแตก เลือดสีแดงสดซึมออกมาเล็กน้อย อี๋หวังชะงัก มองเลือดนั้นด้วยสายตาแปลกประหลาด ก่อนใช้มือยกคางผมขึ้นแล้วโน้มหน้าลง— ริมฝีปากเขาประกบกับผมอย่างรุนแรง รสชาติเข้มข้นของเลือดผสมกับความร้อนผ่าวจากลมหายใจทำให้ร่างกายผมร้อนวูบวาบ หัวใจเต้นแรงจนหูอื้อ เสียงจูบสะท้อนก้องไปทั่วห้องเงียบงัน “หวาน…มาก” เขาพูดด้วยน้ำเสียงพอใจ พร้อมรอยยิ้มโรคจิตบาง ๆ ทันใดนั้นเสียงของนักวิจัยก็ดังขึ้นในหูฟัง “โอ้…ขอโทษที เพิ่งไปเอากาแฟมา นายทำได้ดี บีนนี่—ภารกิจนี้ผ่านไปอีกหนึ่งก้าว” ผมกำหมัดแน่น ตัวสั่นจนห้ามไม่อยู่… เพราะผมรู้ดีว่า นี่ไม่ใช่ความรัก แต่มันคือการทดลองที่ไม่มีวันหลุดพ้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD