แขนของอี๋หวังรัดข้อมือผมแน่นจนรู้สึกได้ถึงแรงชีพจรของเขา ผมเงยหน้ามองเขา ดวงตาเต็มไปด้วยคำถามที่อยากระเบิดออกมา แต่สิ่งเดียวที่เล็ดลอดจากปากคือ—
“...อี๋หวัง”
เขาหยุดกะทันหัน ดวงตาสีเทานิ่งขึงจ้องลึกมาที่ผมอยู่ครู่หนึ่ง บรรยากาศรอบตัวเงียบวังเวง ราวกับเวลาในหมู่บ้านหยุดไหล ก่อนที่ริมฝีปากเขาจะโค้งขึ้นช้า ๆ
“นาย…จำฉันได้ด้วยงั้นเหรอ บีนนี่?”
รอยยิ้มสดใสที่ดูอันตรายเกินไปสำหรับใบหน้าของเขา แวบหนึ่งทำให้ภาพในอดีตผุดขึ้นมา—เด็กชายต่างชาติเปียกฝน ตัวสั่นงันงกในคืนนั้น…
[ความทรงจำ]
สายฝนกระหน่ำลงมาจนพื้นถนนท่วมเล็กน้อย เด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนหลงทาง เขาร้องไห้สะอึกสะอื้นในความมืด ไม่รู้จะกลับบ้านยังไง เพราะอ่านภาษาอังกฤษไม่ออก
“เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” ผมยื่นร่มให้ และพาเขามาหลบในร้านของยาย
ยายรีบหาผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าใหม่ให้ “ตายจริง…หนูเป็นใครกันล่ะลูก แม่อยู่ที่ไหน?”
เด็กชายพูดภาษาจีนที่ผมฟังไม่ออก แต่ยายกลับยิ้มและตอบกลับด้วยภาษาจีนอย่างคล่องแคล่ว “ไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวยายจะติดต่อให้ตำรวจพาหนูกลับบ้าน”
ตอนนั้นผมรีบไปหยิบของที่เหลือจากร้านมาให้ “กินสิ นี่โกโก้กับโดนัท ถึงจะขายไม่หมด แต่ก็ยังอร่อยนะ”
เด็กคนนั้นกัดคำแรกแล้วตาเป็นประกาย “**!! (อร่อยมาก!)”
ยายหัวเราะ พลางลูบผมเขาเบา ๆ “บีนนี่ตั้งใจทำเองนะจ๊ะ กินเยอะ ๆ เลย”
ภาพความทรงจำค่อย ๆ ละลาย กลับมาที่ปัจจุบัน—
ผมนั่งอยู่ตรงข้ามเขาในร้านกาแฟ ดอกเกสร บรรยากาศเช้าอบอวลด้วยกลิ่นกาแฟคั่วใหม่ ๆ อี๋หวังนั่งตรงข้ามอย่างสง่างาม ราวกับเวลาสองปีที่ผ่านมาไม่ได้พรากอะไรไปเลย
ผมโน้มตัวเข้าใกล้ กัดริมฝีปากลังเลก่อนถามเบา ๆ
“...นายยังจำตอนนั้นได้อยู่หรือ?”
เขาหันมามองผม สายตาอ่อนโยนเกินไปสำหรับสิ่งที่เขาเป็น “จำได้เสมอ… ถ้าไม่มีนาย ฉันคงตายคืนนั้นไปแล้ว”
คำพูดนั้นเหมือนคมมีดที่แทรกเข้ามาในหัวใจผม ความอบอุ่นกับความกลัวผสมปนเปกันไปหมด
มือของอี๋หวังขยับมาแตะมือผม เขาก้มลง… จูบหลังมือ ก่อนจะ สูดกลิ่นเหมือนกำลังลิ้มรสไวน์ชั้นดี
ผมสะดุ้ง “อะ…เอ่อ…” ใบหน้าร้อนวูบจนพูดอะไรไม่ออก
“กาแฟได้แล้วค่ะ” พนักงานยกมาเสิร์ฟพอดี ตัดบรรยากาศชวนอึดอัด
อี๋หวังเลื่อนแก้วหนึ่งมาตรงหน้าผม แล้วยิ้ม—รอยยิ้มที่มีทั้งความทรงจำดีและปีศาจซ่อนอยู่ “ชิมสิ”
ผมพึมพำ “ขอบคุณ…”
เขายังคงมองผมไม่วางตา ดวงตาเป็นประกายแปลก ๆ “ฉันนึกว่านายลืมฉันไปแล้ว”
ทันใดนั้น— เขากัดเบา ๆ ที่ปลายนิ้วผม เลือดซึมออกมาเป็นหยดสีแดงข้น…
แต่แทนที่จะดูน่ากลัว มันกลับไหลช้า ๆ คล้ายแยมสตรอว์เบอร์รี่
อี๋หวังดูดเลือดตรงนั้นแทนกาแฟ ใบหน้าเขาผ่อนคลายราวกับได้ลิ้มรสสิ่งที่รอคอยมานาน
“หอมหวานยิ่งกว่าเดิม…” เขากระซิบ พร้อมเป่าลมหายใจผสมกลิ่นควันกาแฟใส่หน้าผม
หัวใจผมเต้นแรง รู้ว่าควรกลัว แต่กลับเผลอยิ้มตอบอย่างโง่เขลา “...อื้ม”
รอบร้าน ผู้คนเริ่มมองเราเหมือนคู่รักหนุ่มสาวที่กำลังจู๋จี๋ ผมตกใจรีบลุกพรวดขึ้น “กาแฟอร่อยมาก ขอตัวก่อนนะครับ!” แล้ววิ่งออกไปทันที แก้มร้อนผ่าว
“บีนนี่ นายมัน…ใสซื่อเกินไปจริง ๆ” เสียงนักวิจัยจากหูฟังหัวเราะ
แต่ภายในร้าน อี๋หวังยังคงนั่งนิ่ง เขายกมือปิดปาก รอยยิ้มค่อย ๆ บิดเบี้ยวเป็นความสยดสยอง ดวงตาแข็งกร้าว
“ของฉัน…”