“เฮีย! มาช้ามาก รีบมาทางนี้ ๆ”
เพลิงศูรย์เดินยังไม่พ้นประตูทางเข้า food court ก็ถูกพุธที่เหมือนยืนรออยู่แล้วลากให้เดินตามไปอีกทาง คิ้วเข้มขมวดแฝงแววหงุดหงิดเล็กน้อย
“อะไรของมึงไอ้พุธ”
“คือแบบ… จะพูดไงดีอ่ะ มันพูดไม่ถูก เฮียดูเองละกัน นู่น” พุธพยักพเยิดหน้าไปอีกฝั่งของ food court สีหน้าบ่งบอกถึงความยุ่งยากใจ เขามองตามสายตาพุธ ก่อนชะงักนิ่งไป “นั่นมันไอ้พายัพใช่ไหมเฮีย? โจทก์เก่าเฮียใช่ป่ะ?”
บริเวณนั้นปรากฏภาพของชายหญิงคู่หนึ่งกำลังนั่งพูดคุยกันอย่างสนิทสนม ตรงหน้าทั้งสองมีเด็กหญิงตัวน้อยกำลังนั่งทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย และเขาจะไม่สนใจเลยหากว่าผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงนั้นไม่ใช่นับฝัน
“…” เลือดในกายเพลิงศูรย์จู่ ๆ เดือดพล่านขึ้นมา ยิ่งได้เห็นสีหน้าและสายตายามทั้งสองทอดมองกัน มือหนาก็ยิ่งกำหมัดแน่นขึ้น
ทำไมถึงเป็นมัน… ทำไมไอ้เวรนั่นถึงไปเสนอหน้านั่งอยู่ข้าง ๆ นับฝันได้?
“ทำหน้าแบบนี้ แสดงว่าใช่มันจริง ๆ ด้วยสินะ” พุธถอนหายใจ ตอนแรกเขาตั้งใจมานั่งเฝ้าเด็กคนนั้นเพราะรู้สึกคาใจมาก คาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าเด็กแฝดทั้งสองจะเป็นลูกของนับฝัน อดีตผู้หญิงของเพลิงศูรย์ มันยิ่งตอกย้ำความเป็นไปได้สูงว่าเด็กสองคนนั้นอาจเป็นลูกของเพลิงศูรย์จริง ๆ ก็ได้ แต่พอเห็นพายัพโผล่มา ท่าทางหมอนั่นดูสนิทสนมกับเด็กคนนั้นมาก แถมยังได้ยินสรรพนามที่เด็กน้อยเรียกขานพายัพ ทำให้เขาลังเลและสับสนจนทนไม่ไหว “คืองี้นะเฮีย ผมคิดว่าเด็กแฝดสองคนนั้นอาจเป็นลูกของนับฝันกับไอ้เวรนั่น…”
“มึงหมายความว่าไง” น้ำเสียงเพลิงศูรย์เย็นชามาก ดวงตาคมละจากสองคนนั้นกลับมาจ้องพุธ สายตาของเขาเย็นเหยียบจนหนาวสะท้านไปยันกระดูกสันหลัง
พุธแทบอยากจะร้อง แต่ต้องฝืนขยับปากพูดต่อไป “ผมได้ยินเด็กคนนั้นเรียกหมอนั่นว่าปะป๊า…”
“…”
“แสดงว่ามันต้องเป็นพ่อของเด็ก…”
“ไม่มีทาง”
“แต่ผมได้ยินจริง ๆ นะเฮีย”
“มันไม่ใช่พ่อเด็ก” เพลิงศูรย์ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเหยียบเย็น และเต็มไปด้วยความมั่นใจ สายตาคมปราดมองไปทางโต๊ะของนับฝันอีกครั้ง ไร้ความหวั่นไหวบนสีหน้าเย็นชาของเขา “เด็กสองคนนั้นไม่ใช่ลูกมัน”
เด็กแฝดทั้งสองหน้าตาเหมือนเขาซะขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่ลูกเขาแล้วจะเป็นลูกใครได้ ต่อให้นับฝันไม่ยอมรับอย่างไร แต่เรื่องนี้เพลิงศูรย์มั่นใจ… ไม่ผิดแน่
“ถ้างั้น… ก็อาจ… เอ่อ” พุธอึกอักกับข้อสันนิษฐานของตนเอง ไม่กล้าพูดออกมาตรง ๆ จนเพลิงศูรย์ตวัดสายตากลับมามอง
“อะไร”
“ก็ถ้ามันไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ของเด็ก งั้นก็คงเป็นพ่อเลี้ยง…”
หลังจากคำว่า ‘พ่อเลี้ยง’ หลุดจากปากพุธ รอบกายทั้งคู่อุณหภูมิลดฮวบทันที เพราะนั่นหมายความว่าพายัพจะต้องมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนับฝัน หรืออาจถึงขั้นที่ทั้งคู่แต่งงานกันแล้วก็เป็นได้
หมัดทั้งสองข้างกำแน่นกว่าเดิม สายตาคมจ้องปราดมองผู้ชายข้างกายนับฝัน ภาพความทรงจำเก่า ๆ แล่นวาบเข้ามาในหัว
.
.
.
พลั่ก!
หมัดหนัก ๆ หมัดแรกซัดเข้าข้างแก้มของพายัพ ก่อนจะตามมาด้วยอีกหลายหมัด ทุกแรงกระแทกล้วนเต็มไปด้วยแรงอารมณ์คลุ้มคลั่งราวกับอยากจะฆ่าคนตรงหน้าให้ตายคามือ
พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!
‘ยะ หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!’ เสียงร้องห้ามแผดดังไปทั่วห้อง ร่างบางคลานลงจากเตียงด้วยสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย แต่กลับไม่ได้สนใจจะปกปิดมันเลยสักนิด ตอนนี้สิ่งเดียวที่เธอสนใจก็คือผู้ชายร่างสูงที่กำลังคร่อมตัวซัดหมัดใส่พายัพไม่ยั้งราวกับคนบ้า ‘หยุดนะ! เฮียเพลิง! ฉันบอกให้หยุดเดี๋ยวนี้!!’
กึก…
หมัดที่ปริแตกเต็มไปด้วยเลือดสีแดงฉานนิ่งค้างกลางอากาศ ความเจ็บปวดตามข้อนิ้วไม่สามารถดึงสติของเพลิงศูรย์ได้เท่ากับเสียงหวานและสัมผัสจากฝ่ามือเล็กที่วิ่งเข้ามารั้งแขนแกร่งเอาไว้
‘ปล่อย’ น้ำเสียงเย็นชาเปล่งออกมาคำเดียว มันทั้งแหบแห้งและห้วนจัด แววตาคมไร้ความรู้สึกแฝงความเลือดเย็นยามจับจ้องใบหน้าสวย เขาหลุบตาลง หยุดสายตาตรงบริเวณลำคอขาว ความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านยิ่งกว่าเดิม
นับฝันหลุบตามองตามสายตาเขา เธอชะงักนิ่งยามเห็นร่องรอยสีกุหลาบบนผิวขาวซีดของตนเอง ริมฝีปากบางขยับจะอธิบาย แต่พอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ภาพบาดตาที่เธอเห็นนั้น… คำอธิบายมันก็เลือนหายไป เหลือไว้เพียงสีหน้าเรียบเฉยและแววตาว่างเปล่า
ภาพของเพลิงศูรย์กำลังคร่อมทับอยู่บนร่างของผู้หญิงคนนั้นยังฝังอยู่ในสมองของเธอไม่จางหายไปสักวินาที ราวกับมีคมมีดกรีดลึกลงบนหัวใจอันเย็นเฉียบที่ใกล้จะแหลกสลาย เธอพยายามกลั้นใจ จิกเล็บลงบนฝ่ามือเรียกสติตัวเองไม่ให้แสดงอาการหวั่นไหวออกมา
ภายในห้องเงียบงัน ต่างฝ่ายต่างเงียบ มีเพียงเสียงหอบหายใจเบา ๆ ของพายัพที่ลุกขึ้นมานั่งพิงขอบเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เขาก้มหน้ามองสองมือของตัวเองและจมอยู่กับความคิด
เพลิงศูรย์กวาดสายตามองรอบห้อง แววตาเย็นชาหยุดลงบนใบหน้าสวย ดวงตาทั้งคู่สบกัน ก่อนเขาจะเป็นฝ่ายแสยะยิ้มเย้ยหยันมุมปาก
‘คิดจะเอาคืนฉันงั้นสินะ’
นับฝันจิกเล็บกับฝ่ามือแน่นจนรู้สึกเจ็บแสบ พยายามเยือกเย็นให้ยิ่งกว่าผู้ชายตรงหน้า
คนที่ใจร้ายและเลือดเย็นก่อนก็คือเขา…
ในเมื่อเขาทำได้… ทำไมเธอจะทำบ้างไม่ได้ล่ะ?