ตอนที่ 9 ขึ้นเขา

1283 Words
ซ่งอวี่ถงพานางเดินลัดเลาะมายังท้ายหมู่บ้านและเดินต่อไปเพียงไม่ถึงหกลี้[1] ก็มาถึงตีนเขาแล้ว แม้ระยะทางจะดูไม่ได้ไกลนักแต่ด้วยรูปร่างที่อวบอ้วนจึงทำให้นางรู้สึกเหนื่อยง่ายกว่าคนปกติถึงสามเท่า เมื่อมองขึ้นไปบนหุบเขาบรรยากาศตรงหน้าช่างดูน่ากลัวเป็นอย่างมากแต่เมื่อหันกลับไปมองใบหน้าของซ่งอวี่ถงกลับนิ่งเฉยไร้แววหวาดกลัวเสียอย่างนั้น ‘คงจะมาที่นี่บ่อยสินะถึงได้ดูไม่หวาดกลัวอะไรเช่นนี้’ “ท่านพี่พวกเรายังต้องเดินเข้าไปอีกไกลหรือไม่เจ้าคะ” “ไม่หรอกอีกไม่ถึงหนึ่งลี้[2] ก็ถึงแล้วล่ะเมื่อวานข้าวางลอบดักสัตว์เอาไว้ วันนี้ก็เพียงแค่เข้าไปดูเผื่อโชคดีอาจจะได้หมูป่าหรือกระต่ายป่ามาสักตัว” “งั้นหรือ” มู่อิงเถาไม่ได้คิดเช่นนั้นนางอยากได้สมุนไพรบางอย่างเพราะเมื่อวานที่คลองท้ายหมู่บ้าน นางได้ยินสะใภ้หยวนบอกว่าบนหุบเขานั้นนอกจากจะมีสัตว์ป่าแล้วยังมีสมุนไพรล้ำค่าอีกนับไม่ถ้วน ด้วยนิสัยที่ชื่นชอบสมุนไพรมาก่อนเช่นนี้นางย่อมอยากได้มาไว้ในครอบครองอย่างแน่นอน ซ่งอวี่ถงละความสนใจจากนางก่อนจะเดินขึ้นไปบนหุบเขาอย่างคล่องแคล่ว จนขาสั้นๆ ของมู่อิงเถาเดินตามแทบไม่ทัน ‘นี่ลิงฮุย’ ‘.....’ ‘เจ้าบ้าลิงฮุย!’ [ข้าได้ยินนะ หากเจ้ายังเรียกชื่อข้าผิดไปอีกครั้งเดียวล่ะก็ข้าจะไม่ช่วยเจ้าอีกต่อไปเลย] ‘ก็ได้ๆ ท่านหลิงฮุยเจ้าคะข้าอยากรู้ว่าบนหุบเขาแห่งนี้มีสมุนไพรอย่างที่คนเขาว่าหรือไม่’ [ไม่มี] “จริงหรือ!” “อะไรหรือ” ซ่งอวี่ถงหันหลังกลับมาถามนางด้วยใบหน้าที่มึนงง เขาคิดว่าตั้งแต่เดินขึ้นหุบเขามานี้ก็ยังไม่ได้พูดสิ่งใดกับนางออกไปเลยแม้เพียงคำเดียว ‘แล้วนางกำลังพูดกับใคร’ “คือว่าข้าพูดคนเดียวน่ะเจ้าค่ะไม่มีอะไรหรอก” “งั้นหรือ” “อืม” ‘นางสะใภ้หยวนผู้นั้นกล้าหลอกข้าได้อย่างไรกันนะหรือนางชอบแต่งเรื่องหลอกชาวบ้านหรืออย่างไรกัน ที่บอกว่าสามีขึ้นเขามาล่าสัตว์ได้หลายตัวแล้วคงเป็นเรื่องโกหกด้วยสินะ’ “ใกล้ถึงหรือยังเจ้าคะ” “ใกล้ถึงแล้วล่ะข้างหน้าเป็นลำธารที่เชื่อมต่อลงไปยังคลองท้ายหมู่บ้านของพวกเรา พวกสัตว์ป่าน้อยใหญ่มักจะเข้ามากินน้ำที่ลำธารแห่งนี้เป็นประจำข้าถึงได้วางกับดักเอาไว้ตรงนั้น เจ้ารออยู่ตรงนี้นะข้าจะลงไปตกปลาเสียหน่อย” “ไม่เอา ข้าขอลงไปด้วย” “ไม่ได้ที่ตรงนั้นมีเปลือกหอยมากมายหากเจ้าเดินไปเช่นนี้ได้เหยียบมันเข้าอย่างแน่นอน” “แต่ข้าใส่รองเท้าอยู่นะ” “รองเท้าบางเพียงนี้ไม่มีทางรอดแน่ เจ้ารออยู่ที่นี่ดีแล้ว” “ข้าโตแล้วนะแล้วข้าเองก็ใช่ว่าจะไม่เคยทำไร่ทำนามาก่อนท่านกลัวอะไร ข้าจะนั่งดูอย่างเดียวไม่ลงไปในน้ำอย่างแน่นอนข้าสัญญา” “เฮ้อ…ก็ได้” เมื่อยิ่งห้ามก็ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะไม่ฟังอะไรเอาเสียเลยยังคงดื้อดึงจะลงไปท่าเดียวพูดไปก็คงไม่มีประโยชน์เป็นแน่ ซ่งอวี่ถงพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินลงไปในน้ำใช้ลอบดักปลาที่เขาทำขึ้นจับปลาที่กำลังแหวกว่ายไปมาอย่างละลานตา “น่าแปลกไม่มีใครมาจับไปเลยหรืออย่างไรนะ” “ด้านในหุบเขาบริเวณนี้ไม่ค่อยมีใครเข้ามาหรอก” “ทำไมล่ะ” “นานมาแล้วเคยมีคนพบเสือเข้าน่ะว่ากันว่าพวกเขาถูกมันกัดตายแล้วลากหายไปในป่าลึกทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครพบเห็นแม้แต่กระดูกของพวกเขา จึงทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามาในป่าลึกถึงเพียงนี้” “แล้วเหตุใดท่านถึงพาข้าเข้ามาล่ะ” ซ่งอวี่ถงไม่ตอบเขาเพียงแค่ชายตามามองนางเท่านั้นก่อนจะก้มลงเก็บปลาที่เข้ามาติดในลอบดักปลาขึ้นมาใส่ในถังเอาไว้ ‘สายตาแบบนั้นคืออะไร? คงไม่ใช่ว่าอยากให้นางพบเจ้าเสือตัวนั้นหรอกนะ’ “ไปกันเถอะ” “ไปไหน” “ไปดูลอบดักสัตว์” ซ่งอวี่ถงเดินอ้อมไปยังลอบดักสัตว์ที่เขาวางเอาไว้ไม่ไกลจากลำธารนี้มากนัก มู่อิงเถาจำใจต้องเดินตามหลังเขาไปเมื่อไปถึงบริเวณนั้นก็เห็นสัตว์ป่าตัวใหญ่อวบอ้วนที่ขาติดกับลอบดักสัตว์ของซ่งอวี่ถงอยู่ มันนอนแน่นิ่งไร้ลมหายใจไปแล้ว ‘หมูป่าตัวใหญ่กว่าครึ่งตัวของนาง ลอบดักสัตว์สองอันที่วางไว้ไม่ไกลกันนักดักมันได้ถึงสองตัว! แค่ตัวเดียวก็ว่าหายากแล้วแต่นี่ได้ถึงสองตัวช่างโชคดีอะไรเช่นนี้นะ’ ตัวที่ใหญ่ยักษ์ของพวกมันพานทำให้บุรุษตรงหน้าวิตกกังวลไม่น้อย ‘จะเอากลับไปอย่างไรดีล่ะตัวของมันน่าจะหนักราวๆ หนึ่งร้อยกิโลได้ แล้วมีถึงสองตัวก็แสดงว่าเขาต้องแบกน้ำหนักร่วมสองร้อยกิโลไว้บนหลัง เป็นเช่นนี้มีหวังหลังของเขาคงรับน้ำหนักไม่ไหวเป็นแน่’ “ฮึบ!” “หืม” และแล้วหูของเขาก็แว่วได้ยินเสียงบางอย่างดังขึ้นเมื่อหันไปดูก็พบว่าเป็นมู่อิงเถาที่กำลังแบกหมูป่าขึ้นบนบ่าของนางแล้วหนึ่งตัว “อะ อิงเอ๋อ!” “มองข้าทำไม? ท่านแบกอีกตัวนะเจ้าคะหมูป่าตัวนั้นดูเหมือนจะเล็กกว่าตัวนี้นิดหน่อยท่านน่าจะแบกไหวอยู่แล้วกระมัง” พูดจบก็ตั้งท่าจะเดินออกไปจากที่แห่งนี้ “เจ้าอย่าแบกมันเลยนะส่งมาให้ข้าเถอะ” “ข้าแข็งแรงออกปานนี้หมูตัวแค่นี้สบายมากอยู่แล้ว อีกอย่างท่านต้องถือถังใส่ปลาด้วยจะให้ข้ามองดูท่านแบกทั้งหมดนี้กลับบ้านเพียงลำพังได้อย่างไรกัน” “แต่ว่ามันหนัก…” “กลับบ้านกันได้แล้วเจ้าค่ะ” นางพูดจบก็เดินลิ่วนำหน้าเขาไปก่อนแล้ว ‘จะหนักอะไรกันเพราะตั้งแต่นางแอบกินผลไม้ในมิติวิเศษก็รู้สึกได้ว่าร่างกายนี้แข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่านัก หมูป่าร้อยกว่าโลแค่นี้นางแบกได้สบายอยู่แล้ว’ “ยืนอยู่ทำไมท่านไม่กลับบ้านแล้วหรือ” เมื่อเห็นว่าผู้เป็นสามีในนามไม่ออกเดินเสียทีมู่อิงเถาก็หันไปมองก่อนจะกวักมือเรียกเขาให้ตามนางไป “กะ กลับสิ” “ได้หมูป่าตั้งสองตัวหากเอาไปขายคงได้เงินไม่น้อยเลย อีกอย่างขาหมูตัวนี้ข้าจองไว้ก่อนเลยนะเจ้าคะ” มู่อิงเถาคิดแล้วน้ำลายก็ไหลออกมาทันที คากิที่กินบ่อยๆ ในยุคที่จากมาวันนี้คงได้สมปรารถนาของนางแล้ว หญิงสาวออกเดินไปยังตีนเขาด้วยท่วงท่าผ่อนคลายเหมือนกำลังแบกปุ่ยนุ่นอยู่อย่างไรอย่างนั้นท่ามกลางความงุนงงของซ่งอวี่ถง ‘หมูป่าก็ไม่ใช่ตัวเล็กๆ เลย เขาที่เป็นบุรุษร่างกายย่อมแข็งแรงกว่านางยังเดินได้ช้ากว่าปกติแล้วนางเล่าแบกไปได้อย่างไรกันนะทั้งยังเดินด้วยท่วงท่าสบายๆ เช่นนั้น ช่างแข็งแรงเสียจริง’ - - - - - - - - - - [1] หกลี้ = 3 กิโลเมตร [2] หนึ่งลี้ = 500เมตร
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD