📗 สายใยที่ยังไม่ตั้งชื่อ ⟡ ⑅◡̈ ⁺₊⋆♡

2309 Words
📗 ⟡ ⑅◡̈ ⁺₊⋆♡ 🔆 เช้าวันถัดมา ลมอ่อน ๆ พัดผ่านหน้าต่างบ้านเช่า ผ้าม่านไหวเบา ๆ ลินาตื่นเร็วกว่าปกติ เธอต้มน้ำอุ่นหนึ่งแก้ว ไม่กินกาแฟ กลัวใจยังเต้นแรงจากเมื่อคืน ตาหนักนิด ๆ แต่หัวกลับใส เหมือนลมดึกช่วยพัดฝุ่นในสมองออกไป เธออาบน้ำ แต่งตัวเรียบ ๆ รวบผมสูง ใส่รองเท้าหุ้มส้นคู่เดิม หยิบสมุดเล่มเล็ก ปากกา กล่องข้าว ใส่กระเป๋า หยุดแล้วหายใจเข้า-ออกลึก ๆ หนึ่งครั้งก่อนออกจากห้อง โถงลิฟต์ที่ตึกหอพักเงียบ มีแค่เสียงรองเท้าของเธอกับเสียงปลายนิ้วของหญิงอีกคนที่กำลังไถโทรศัพท์ พอถึงชั้นล่าง เธอเดินผ่านร้านข้าวต้มหน้าปากซอย กลิ่นหอมลอยมา เธอเกือบหยุด แต่ตัดใจไปต่อ เธออยากถึงออฟฟิสก่อนเวลาเล็กน้อย จะได้ตั้งหลัก ชั้น 54 ตอนเช้าไม่เหมือนตอนบ่าย เสียงเบา แสงยังนุ่ม หัวหน้าทีมระบบยืนอยู่ตรงมุมกระจก เขามองเธอแล้วพยักหน้า “มานี้หน่อย” พาเธอไปมุมเงียบหลังเสา “ช่วงนี้คนทั้งตึกจับตามองเธออยู่ รู้ใช่ไหม” ลินายิ้มบาง “พอรู้ค่ะ” “ฉันไม่อยากกดดัน แต่ต้องบอกตรง ๆ มีทั้งคนที่อยากเห็นเธอพลาด และคนที่อยากดูว่าเธอผ่านยังไง เธอไม่ต้องพิสูจน์กับทุกคน แค่ทำงานให้ตรง ซื่อกับงาน อย่าหลุดปากเกินจำเป็น จำได้ไหม” “จำได้ค่ะ” “อีกเรื่อง” เขากวาดสายตาดูรอบ ๆ แล้วลดเสียง “ข่าวเรื่อง ‘คนใน’ ช่วยผู้บุกรุก เริ่มรั่วไหลไปเร็วแรงมาก ทั้งที่เราไม่ได้ปล่อย ถ้ามีใครถามเรื่องกล้อง เรื่องเวลา ให้บอกว่าไม่รู้ หรือให้มาถามฉัน อย่าเข้าไปกลางวง สนใจงานของเราเป็นหลัก” “ค่ะ” เขามองหน้าเธออีกที “กินข้าว พักด้วยนะ ร่างกายก็เป็นส่วนของงาน” “ค่ะ ขอบคุณค่ะ” เธอยกมือไหว้เบา ๆ ลินาเข้าพื้นที่ทำงาน โต๊ะจอคู่ยังเรียบร้อย โน้ตสีเหลืองจากเมื่อคืนแปะที่มุมจอ “ยืนยันค่าทั้งหมด 9.00 น.” เธอดึงออก พับเก็บ เปิดเครื่อง ล็อกอินเข้าระบบ เปิดแฟ้มงานวันนี้ ตรวจผลการลองรับน้ำหนักเมื่อคืน เทียบค่าที่ปรับของไฟสำรองกับเสียงเตือน เธอพิมพ์สรุปสั้น ๆ ใช้คำง่าย ไม่แต่งสวย เน้นให้ใครอ่านก็เข้าใจ ยังเขียนไม่จบ เสียงเก้าอี้ถัดหลังเธอเลื่อนเบา ๆ ตามด้วยเสียงกระซิบของผู้หญิงสองคน โต๊ะห่างกันสามช่วง แต่เสียงชัดราวตั้งใจให้ได้ยิน “น้องลินา วันนี้แต่งซะเรียบเลยนะ” “ระวังด้วย เดี๋ยวคนจะว่าเป็นเลขาบอสจำเป็น” เสียงหัวเราะค่อย ๆ ตามมา “เมื่อคืนเห็นลงไซต์งานกลางด้วยกัน ฉันนึกว่าจะถือแฟ้มตามจด” ลินาไม่หัน ไม่ตอบ เธอแตะคีย์บอร์ดต่อ จังหวะเดิม ใจนิ่ง สองคำลอยในอากาศ “เลขาบอส” เหมือนฝุ่น เธอไม่ปัด เพราะรู้ว่าปัดแล้วฝุ่นจะฟุ้ง ปล่อยให้มันตกเอง หัวหน้าทีมเดินผ่านพอดี เขาเพียงพูดกับทั้งโซน “ใครงานเสร็จ ส่งก่อนเที่ยง เย็นนี้ทดสอบรอบสุดท้าย” น้ำเสียงปกติ แต่พอให้เสียงซุบซิบเงียบลง ลินาตรวจตัวเลข ทวนอีกครั้ง แล้วจัดรูปแบบง่าย ๆ ทำตารางเล็ก ๆ “ก่อนปรับ / หลังปรับ” ใส่แค่จุดที่เปลี่ยนจริง ปิดท้ายด้วยหนึ่งบรรทัด “เสียงเตือนดังไวพอที่มือยังจับราว” เธออ่านซ้ำ กดส่งผ่านระบบถึงทุกฝ่าย หัวหน้าทีม ระบบ โครงสร้าง ก่อสร้าง ภาคสนาม และความปลอดภัย แนบภาพสั้น ๆ จากห้องลองตอนไฟดับแว่บแล้วต่อเนื่องหนึ่งภาพ ให้พอดี ไม่เผยเกินข้อตกลง เธอพักสายตา หยิบกล่องข้าวไปมุมริมหน้าต่าง เปิดฝากล่อง กลิ่นข้าวกับไข่ต้มอุ่น ๆ ลอยขึ้น เธอกินช้า ๆ มองเมืองไกล ๆ ให้ตาพัก เสียงแจ้งเตือนสั้น ๆ ดังจากโต๊ะหลายตัว คนเงยหน้าดูพร้อมกัน จากนั้นทั้งโซนเงียบพร้อมกัน เหมือนมีคนกดปุ่ม หัวหน้าทีมเดินมาหยุดที่มุมพัก “เธอส่งแล้วนะ” “ค่ะ” “บอสตอบแล้ว” “ว่าอะไรคะ” เขายิ้มมุมปากนิดเดียว “สองคำ” ลินารู้ในใจอยู่แล้ว แต่ยังรอฟัง “ใช้ได้” สองคำธรรมดา แต่พอออกจากชื่อคนนั้น ห้องทั้งห้องชะงัก เสียงเลื่อนเก้าอี้หยุด เสียงหัวเราะจางหาย เหลือเพียงเสียงลมผ่านกระจก หัวหน้าทีมแตะพนักเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม “กินเสร็จมาช่วยฉันเช็กจุดที่จะย้ำตอนบ่าย” “ค่ะ” เธอปิดกล่องเก็บ ลินากลับโต๊ะ เปิดสมุดเล่มเล็ก เขียนรายการ “ยืนยันค่าห้องลอง ส่งทีมย่อย เตรียมสามประโยคถ้าโดนเรียก” วง “สามประโยค” หนา ๆ และเว้นช่องไว้สองบรรทัดสำหรับงานบ่าย มุมหน้ากระดาษเธอเขียนเล็ก ๆ “อย่าพูดมาก อย่าชี้ตัวใครเอง” ก้องจากภาคสนามเดินผ่าน หยุดยิ้ม “อ่านแล้ว… ‘ใช้ได้’ เนอะ” ลินายิ้มบาง ๆ “ค่ะ” “คำแค่สองคำ แต่น้ำหนักกว่ารายงานสิบหน้า” เขาหัวเราะเบา ๆ “เย็นนี้เจอกันในห้องลอง” “ค่ะ” ไม่นาน รุ่นพี่ผู้หญิงสองคนนั้นถือแฟ้มเดินผ่านโต๊ะเธอ คราวนี้เงียบ ไม่สบตา เดินเร็วขึ้นเล็กน้อย ลินาไม่หันตาม ทำงานต่อ ใจรู้ว่าลมในห้องเปลี่ยนทิศเล็กน้อย เที่ยงครึ่ง ลินานั่งกับหัวหน้าทีมระบบที่โต๊ะยาวกลางโซน เขาเปิดรายการจุดย้ำ เธอเสนอ “เพิ่มตรวจมือสัปดาห์แรกชั้น 21” “ขยับทางเดินสายตรงมุมบันไดหลบลม” “ย้ำเปลี่ยนฝาครอบสองจุดที่ไซต์เหนือ” ทุกข้อเขียนสั้น ทำได้จริง หัวหน้าทีมพยักหน้า “ทำเลย ส่งต่อแต่ละฝ่าย” ระหว่างคุย เมย์จากส่วนความปลอดภัยเดินมา “บ่ายนี้ถ้าว่าง ช่วยดูแผนซ้อมเหตุฉุกเฉินหน่อย อยากให้ตาแบบเธอดูว่าอะไรติด” หัวหน้าทีมบอก “บ่ายสามเธอต้องเข้าห้องลองนะเมย์” “ทราบ ขอสิบห้านาที” ลินามองหัวหน้า เขาพยักหน้า “ได้สิบห้านาที” “ขอบใจ” เมย์ยิ้มแล้วไป ลินาจัดคิวให้เป็นเส้น ไม่ให้ซ้อนกัน พอส่งครบ เธอยืนยืดแขนที่หน้าต่างอีกนิด มองแสงบ่ายสะท้อนกระจกตึกข้าง ๆ เธอเห็นเงาตัวเองจาง ๆ ผู้หญิงตัวไม่ใหญ่ ผมรวบสูง หน้าเรียบ แต่ตาคมขึ้นกว่าวันแรก บ่ายโมง 🕐 ห้องรีวิวเปิดรอบสั้น หัวหน้าทีมเข้าที่ คิมหันเข้ามาเงียบ ๆ วางแฟ้มบนโต๊ะหัว “เริ่ม” เสียงรายงานสั้น ๆ ไหลไปเรื่อย เหมือนท่อที่ล้างสะอาดแล้ว ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เขาหันมาทางลินา “สรุปสิบวินาที” เธอวางปากกา “ไฟสำรองมาไว มือยังไม่ปล่อยราว เสียงเตือนนำภาพครึ่งเสี้ยว ส่วนที่เหลือไปต่อได้” “จบ” เขาพูด แล้วลุกออกก่อนเหมือนเดิม หลังประตูปิด หัวหน้าโครงสร้างกระซิบกับหัวหน้าระบบ “เด็กเธอพูดเป็นงานดีนะ” หัวหน้าทีมหัวเราะสั้น “ไปต่อ” แล้วต่างคนต่างแยก บ่ายสาม 🕒 ลินาไปหาเมย์ ห้องเล็ก ๆ มีแผนผังเต็มผนัง เมย์ชี้เส้นทางหนีไฟ เส้นทางรถพยาบาล จุดรวมพล “ดูให้ทีว่ามุมไหนติด คนชนกัน หรือสัญญาณงง” ลินาดูเงียบ ๆ แล้วชี้ “ประตูฝั่งเหนือ เพิ่งเปลี่ยนบาน ถ้ายังมีเศษเกาะ กดเปิดจะฝืด ให้คนไปลองดันจริงก่อนซ้อม” อีกจุด “ทางแคบ ถ้ามีกระบะเครื่องมือจะติด ควรย้ายก่อนซ้อม” เธอชี้เพิ่มอีกสองจุด เมย์จดตามไว ๆ “ชัดดี ขอบใจมาก” “ยินดีค่ะ” ลินายิ้มบาง ๆ เมย์มองตาเธอ “ช่วงนี้คนมองเธอเยอะ ระวังคำพูด แต่ถ้าเรื่องงาน…พูดไปเถอะ ฉันชอบคนพูดตรงแล้วทำได้” “ค่ะ” ออกจากห้องนั้น เธอเดินผ่านโถงยาว เห็นเงาตัวเองในกระจกอีกครั้ง เธอมองแวบเดียว ไม่ใช่เพราะหลงตัวเอง แต่อยากรู้ว่าดวงตาคนในกระจกเปลี่ยนไหม เธอเห็นความนิ่งเพิ่มนิด ความดื้อเงียบเพิ่มอีกนิด และเส้นสีเทาบาง ๆ ที่พันอก เหมือนสายใยที่ยังไม่ตั้งชื่อ 🌒 ช่วงเย็น ห้องลองเปิดอีกครั้ง ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ไม่สะดุด รอบสุดท้ายไฟดับแว่บเล็ก ๆ แล้วต่อ เธอยืนมองหน้าจอในห้องกระจก เห็นตัวเลขสั้นกว่าคืนก่อน ใจโล่ง เหมือนเอาหินออกจากรองเท้า เสร็จงาน ทีมกลับโต๊ะ ลินาทบทวนของวันนี้ แล้วส่งข้อความในระบบ “สรุปเย็นนี้: ผ่าน พรุ่งนี้เช้าย้ายสายสองจุดตามแผน” ไม่เติมคำหวาน ไม่ใส่ตัวใหญ่ ๆ เสียงแจ้งเตือนดังรอบชั้น ไม่นานก็มีคำตอบจากชื่อเดิม “ใช้ได้” ห้องเงียบไปชั่วครู่ ก่อนเสียงพิมพ์จะกลับมา เบาและเร็วอย่างมีสมาธิ หัวหน้าทีมมาหยุดที่โต๊ะ “วันนี้ดีมาก เก็บแรง พรุ่งนี้ยังมีของจริง” “ค่ะ” เธอยิ้มจาง ๆ แต่อุ่น เดินไปหน้าลิฟต์ สองสาวเมื่อเช้าสวนมา มองหน้ากันสั้น ๆ “กลับเหรอ” “ค่ะ” “เหนื่อยไหม” “พอไหวค่ะ” เธอยิ้มบาง ๆ แล้วเดินต่อ ไม่ทิ้งช่องให้ตีความ ลิฟต์มา เธอก้าวเข้า หายใจยาวทีเดียว เหมือนลมเปิดทาง ก่อนประตูปิด มีมือแทรกเข้ามา ประตูเปิดอีกครั้ง คิมหันก้าวเข้า ยืนห่างสองก้าว เงียบ สายตาตรง เงียบพักหนึ่ง เขาถามสั้น “วันนี้เรียนรู้อะไร” ลินาคิดแล้วตอบ “คำสั้น ๆ ทำให้ห้องเงียบได้ แต่ต้องมีของรองรับจริง ไม่งั้นคำจะกลวง” “อีก” “อย่าตอบคำแซะด้วยคำแซะ ตอบด้วยงาน แล้วปล่อยให้งานพูดแทน” เขาพยักหน้า “อีก” เธอยิ้มบาง “รู้ทางรอดเพิ่มขึ้นนิดหนึ่ง…ในห้องที่มีหมาป่า” เขาหัวเราะในคอเบา ๆ “ดี อย่าลืม หมาป่าชอบกลิ่นความกลัว” “ค่ะ หนูพยายามไม่พกกลิ่นนั้นไปทำงาน” ประตูเปิดชั้นล็อบบี้ เขาเดินออก เธอเดินตาม ระยะเท่าเดิม เงียบเหมือนเดิม หลายก้าวต่อมา เขาพูดโดยไม่หัน “เรื่องครอบครัวของเธอ ฉันยังไม่ลืม แต่เส้นนั้นลึกและยาว อย่าเดินด้วยเท้าอย่างเดียว เดินด้วยตาด้วย” ลินาสะดุ้งนิดที่เขาเอ่ยก่อน เธอพยักหน้า “ค่ะ” “ยึดงานเป็นเกราะ ถ้างานแข็ง คนคิดร้ายเข้าใกล้ยาก” “ค่ะ” เขาหยุดหน้าโถงกระจก หันมาสบตาเสี้ยววินาที “กลับบ้าน ระวังตัว” “ค่ะ” เขาไปทางซ้าย เธอไปทางขวา เธอเดินผ่านยามหน้าอาคาร ออกสู่ลมเย็น แสงเย็นสะท้อนพื้นหิน เธอหยิบโทรศัพท์ ดูข้อความเพื่อน “วันนี้เป็นไง ได้ข่าวทั้งชั้นพูดถึงเธอ” เธอยิ้ม พิมพ์สั้น ๆ “ทำงานตามปกติ เดี๋ยวค่อยเล่า” แล้วเก็บเครื่อง รถไฟฟ้าแน่นพอดี เธอยืนชิดประตู จับราวแน่น มือไม่สั่น วันนี้จับของหนักกว่านี้ทั้งวัน เธอมองเงาตัวเองบนกระจก สายตาสงบ แต่มีไฟเล็ก ๆ ที่ไม่ยอมดับ เธอมองบันทึกหัวใจไม่เต้นแรงเหมือนก่อน แต่ยังไม่เรียบสนิท ใต้ความนิ่งยังมีเส้นหนึ่งตึงอยู่ เส้นที่โยงกลับไปเรื่องเก่าที่บ้าน เส้นนั้นยังคมเหมือนสายพิณ ใครสะกิดก็สั่นยาว เธอต้มน้ำร้อน ทำบะหมี่ง่าย ๆ กินที่หน้าต่าง เปิดพัดลมเบา ๆ เสียงเมืองไกล ๆ คล้ายคลื่น เธอนึกถึงคืนที่ไฟดับทั้งซอย แม่จุดเทียน พ่อบอก “เดี๋ยวติด” แต่คืนก็ไม่ติด ของในตู้เสียทั้งแถว มีคนบอก “เรื่องของผู้ใหญ่” แล้วมันก็เงียบหาย เธอโตมากับคำถามค้างคา วันนี้ ที่เธอยืนในห้องลอง ดูไฟกลับไวขึ้น เธอรู้สึกเหมือนช่วยตัวเองในอดีตนิดหนึ่ง ถึงไม่ใช่คืนนั้น ถึงไม่เกี่ยวบ้านเธอตรง ๆ แต่มันทำให้เธอเชื่อว่า บางอย่างแก้ได้จริง ถ้าคนเฝ้าปุ่มไม่หลับ ไม่ชะล่าใจ และไม่โกหกกันเอง เธอล้างชาม วางคว่ำ กลับมานั่ง หยิบสมุดอีกครั้ง เขียนบรรทัดสุดท้ายของคืน ⌨︎ ༘ เป้าหมายเดิมยังอยู่: สืบคดีครอบครัว ⌨︎ ༘ แต่จะทำด้วยมือที่แน่นกว่า และปากที่สั้นกว่า เธอยิ้มบาง ๆ ลุกไปอาบน้ำอีกครั้งให้สด เปลี่ยนเสื้อผ้านุ่ม นอนตะแคง ดึงผ้าห่มขึ้นถึงอก ปิดไฟ เหลือไฟหัวเตียงสีอุ่น เธอเอื้อมแตะสายบัตรที่แขวนหัวเตียงเบา ๆ เหมือนแตะเชือกก่อนข้ามสะพาน ในความมืด เธอกระซิบกับตัวเอง “อย่ารีบ อย่าเผลอ อย่าหลงคำชม อย่ากลัวคำซุบซิบ” แล้วหัวเราะนิด ๆ “ยากนะ แต่ทำได้” เธอหลับตา หายใจยาว ภาพสุดท้ายก่อนหลับ คือห้องกระจก โต๊ะยาว คนเต็มห้อง เสียงเขาสั้น ๆ ว่า “ใช้ได้” และสายใยบาง ๆ ระหว่างเธอ กับงาน กับทีม กับเขา กับความจริงที่ยังปิดหน้า สายใยนั้นยังไม่มีชื่อ แต่แน่นขึ้นทีละน้อย เธอยอมรับกับตัวเองว่า เธอยังกลัว แต่ไม่หลบ เธอเลือกยืนในแสง ไม่ใช่เพื่อให้ใครเห็น แต่เพื่อให้ตัวเองเห็นทาง ว่าจะก้าวยังไงโดยไม่ตกขอบ พรุ่งนี้ยังมีคนจับตา ยังมีหมาป่า ยังมีเงา แต่พรุ่งนี้ก็ยังมี “งานจริง” ให้ทำ และมีหัวใจของเธอที่เริ่มจับจังหวะ เธอยิ้มในความมืด “แค่นี้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยลุย” แล้วปล่อยให้คืนค่อย ๆ ปิดตา พร้อมกับคำสั้น ๆ ที่ลอยมาเหมือนเสียงลม ⌨︎ ༘ ใช้ได้ สองคำนี้ ไม่ได้เป็นแค่คำของเขาอีกต่อไป แต่กลายเป็นคำของเธอเองด้วยว่า “วันนี้…ใช้ได้” และ “พรุ่งนี้ ต้องทำให้ใช้ได้กว่าเดิม” ✨ ˚◞♡ ◟✦✩‧₊˚ ˗ˏˋ ♡ ˎˊ˗ ⟡ ⑅◡̈
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD