📗 ไฟดับกลางห้องประชุม ˖◛⁺⑅♡

2791 Words
📗 ˖◛⁺⑅♡ เช้านั้นฟ้าครึ้มเหมือนฝนจะลง แต่ในตึกกลับอึด ๆ แปลก ๆ ลินานั่งไล่เอกสารดีลต่างประเทศตั้งแต่เช้า ตาล้าแต่ยังไม่ลุก “พร้อมไหม” คิมหันโผล่หน้าที่ห้องประชุมใหญ่ สูทเรียบ สายตาคมเหมือนเดิม ลินารีบหยิบแฟ้มตามเข้าไป ผู้บริหารนั่งกันครบ สไลด์กับตัวเลขพร้อมเหมือนทุกอย่างจะลื่น คิมหันนั่งหัวโต๊ะ ลินานั่งแถวหลังใกล้ทีมเทคนิค เขาพูดสั้น ๆ “เริ่ม” เครื่องฉายติดไม่ถึงสามนาที ไฟทั้งชั้นดับพรึ่บ เงามืดกลืนห้อง เหลือแต่แสงมือถือ เสียงซุบซิบดังระงม “ไฟหลักล่ม?” “เครื่องสำรองไม่ติด?” ลินาลุกทันที เธอก้มดูแผงเล็กใต้โต๊ะ ไฟแดงกระพริบถี่ “ไฟสำรองไม่ตอบ ต้องสั่งจากแผงนอกห้องค่ะ” คิมหันมองแวบเดียว “ไป” เธอออกตัววิ่งไปห้องแผงไฟ เปิดตู้ เห็นสวิตช์หลักค้างคากลางทาง “รีเลย์ค้าง…” เธอดันขึ้นสุดแรง “ตึ๊ก!” เครื่องสำรองเริ่มติด แต่ไฟยังไม่ทั่ว เธอชี้ทีมข้าง ๆ “ช่วยดึงเบรกเกอร์ย่อยชุดนี้พร้อมกันนะ นับ…หนึ่ง สอง สาม!” “ปั่ก!” ไฟสีส้มกลับมาทีละโซน ลินาหายใจแรง มือดำเขม่านิดหน่อย คิมหันเดินมาถึง “เจ็บไหม” “ไม่ค่ะ แค่ควันติดมือ” เธอมองเขานิ่ง ๆ เหมือนบอกว่าเอาอยู่ “กลับห้อง” ทั้งคู่เดินกลับ แสงสว่างเต็มห้อง คนหันมามอง ลินานั่งที่เดิมเหมือนไม่มีอะไร ทั้งที่เหงื่อยังซึม คิมหันพูดเรียบ “ขอโทษที่ไฟขัดข้อง เริ่มต่อได้” เครื่องฉายทำงานอีกครั้ง ห้องเงียบลง ทุกคู่ตาจับจอ แต่ก็มีสายตาบางคู่เหลือบมาที่หญิงตัวเล็กที่เมื่อกี้ยืนสั่งกลางความมืดอย่างมั่นใจ จบพรีเซนต์ ผู้บริหารต่างประเทศชมผ่านล่าม “ทีมคุณรับมือดีมาก” คิมหันตอบ “ทีมผมทั้งหมด” แล้วเหลือบมาทางลินา “โดยเฉพาะเธอ” เขาพูดคำเดิม “ดี” แต่แววตาไม่เหมือนก่อน มันอุ่นขึ้นนิดหนึ่ง ลินาแค่พยักหน้าใจเต้นถี่กว่าปกติ พีทที่มุมห้องส่งยิ้มให้ เหมือนบอก “เก่งมากนะ” 😊 เธอยิ้มตอบแว้บเดียวแล้วก้มแฟ้ม คิมหันเห็น แต่ไม่ว่าอะไร เขาปิดแฟ้ม ลุกออกก่อน หน้าห้อง พีทถามเบา ๆ “บอสไม่ว่าเหรอ” “ไม่ค่ะ เขาไม่ต้องพูด หนูรู้เอง” “รู้ยังไง” “เพราะเขาเงียบ” เธอเดินผ่านไป เย็นนั้น เครื่องสำรองยังฮัมเบา ๆ ลินาเคลียร์งานจนค่ำ เหลือไฟทางเดินเหลืองอ่อน เธอเดินปิดไฟส่วนที่ไม่ใช้ เห็นคิมหันคุยฝ่ายระบบอยู่ เขามองเธอแวบหนึ่งแล้วหันไปสั่งงานต่อ พอคนแยก คิมหันเดินมาใกล้ “มือยังแสบไหม” “ไม่ค่ะ แค่เขม่า” เธอยกให้ดู เขามองนิ้วดำบางจุดแล้วพูดเบา ๆ “ไม่ต้องทำเกินหน้าที่ก็ได้” “มันอยู่ตรงหน้า หนูไม่อยากให้ประชุมพัง” เขาพยักหน้า “วันนี้เธอนิ่งกว่าผู้บริหารบางคน” ลินายิ้มบาง “ไม่มีเวลาจะกลัว กลัวทีหลังได้ไหมคะ” คิมหันเผลอยิ้มมุมปาก “ได้ แต่ขอกลัวหลังถึงบ้าน” ทั้งคู่เดินไปด้วยกัน เสียงเท้าเป็นจังหวะเดียว ลมแอร์เย็นแต่ในอกกลับอุ่น “รู้ไหม ตอนไฟดับ คนส่วนใหญ่ตกใจ แต่เธอนิ่ง” เขาเอ่ย “หนูแค่ทำสิ่งที่ควรทำค่ะ” “ไม่ใช่ทุกคนทำได้ อย่าเสียสิ่งนี้ไป” “สิ่งไหนคะ” “ความนิ่งของเธอ เส้นบาง ๆ ระหว่างคนที่ถูกสั่ง กับคนที่สั่งเอง” เธอไม่ตอบ แต่รับไว้เต็ม ๆ ถึงลาน พีทโผล่มา “ให้ไปส่งไหม ซื้อข้าวมาเผื่อ” คิมหันเหลือบมองเสี้ยววินาที ไม่พูด ลินายิ้มให้พีท “ขอบคุณค่ะ คืนนี้ยังมีเอกสาร” “โอเค งั้นพรุ่งนี้เลี้ยงแทน” พีทยิ้มแล้วเดินไป ลินาเดินไปที่รถคิมหัน เขาถาม “ไม่กลัวเหรอ” “กลัวค่ะ แต่ไม่พอให้หยุดทำงาน” เขาหัวเราะนิด “ดี” แล้วเปิดประตูให้ บนรถเงียบไปพักใหญ่ ลินาถามเบา ๆ “ไม่ถามเหรอคะว่าหนูรู้สั่งไฟสำรองได้ยังไง” “ไม่ต้องดูจากมือก็รู้ว่าเคยทำ” “เคยช่วยพ่อเวลาฝนตกไฟดับค่ะ” “ดี ของที่บ้านสอน บางทีมันช่วยในบริษัทได้” ลินามองไฟถนนเป็นเส้นยาว ใจเริ่มสงบ “ตอนดับ หนูได้ยินเสียงหัวใจตัวเองดังมาก” “ตอนนี้ล่ะ” เธอหัวเราะเบา ๆ “ยังได้ยิน แต่ดังขึ้น” คิมหันไม่ตอบ มือจับพวงมาลัยแน่นขึ้นนิด ฝนเริ่มลงเสียงเบา ๆ เหมือนโลกช้าลง ถึงคอนโด เขาเดินตามถึงหน้าห้อง เธอบอก “ขอบคุณที่มาส่งค่ะ” “พักผ่อน” เขาพูดเรียบ แต่สายตาหนักกว่าเดิม เหมือนอยากพูดอีกอย่างแต่ยังเก็บไว้ “คุณก็พักบ้างนะคะ” เธอยิ้ม เขาพยักหน้าแล้วเดินกลับ แสงฟ้าแลบวาบ เธอยืนมองจนเขาลับมุม คืนนั้น เมืองมืดลงเพราะฝน แต่ในใจเธอสว่างขึ้นนิดเดียวจากคำสั้น ๆ “ดี” คำเดิม ๆ แต่ความหมายไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะครั้งนี้…มันไม่ใช่ชมแค่งาน มันมีไฟเล็ก ๆ จุดขึ้นข้างใน อุ่น น่ากลัว และคงดับยากกว่าไฟในห้องประชุมเสียอีก 🔆 เช้าถัดมา ฝนยังพรำบาง ๆ ท้องฟ้าหนักเหมือนเดิม แต่ใจลินาไม่หนัก เธอตื่นไว ออกไปถึงตึกก่อนเวลา เดินตรงไปห้องระบบไฟสำรองตั้งใจจะเช็กอีกครั้ง ช่างเวรเช้ายืนรอ “เมื่อคืนนอนไหมครับ” “พอได้ค่ะ” ลินายิ้ม “ขอดูรีเลย์ที่ค้างเมื่อวานนะคะ” เขาไขกุญแจเปิดตู้ ลินาสวมถุงมือ ก้มดูทีละจุด รีเลย์ตัวเดิมมีรอยขีดเล็ก ๆ แปลกตา เหมือนโดนงัด เธอขมวดคิ้ว “รอยนี้ไม่ควรมี” ช่างพยักหน้า “ใช่ครับ เมื่อวานก่อนยังเนียน” เธอขอไฟฉาย ยกขึ้นส่อง ซอกด้านข้างมีเศษพลาสติกดำติดอยู่เสี้ยวหนึ่ง เหมือนมีอะไรบางอย่างเคยคาไว้ “อันนี้ไม่ใช่คราบเก่า” เธอวางใจให้ช้าลง “ช่วยเก็บใส่ถุงซิปให้หน่อยค่ะ เดี๋ยวส่งฝ่ายความปลอดภัย” คิมหันเดินเข้ามาพอดี “เจออะไร” ลินาชูถุงซิปให้ดู “รอยงัด กับเศษพลาสติกค่ะ น่าจะมีคนแหย่อะไรคาไว้ให้ค้าง” เขานิ่ง หน้าตาไม่เปลี่ยน แต่สายตาคมขึ้น “ใครเข้าห้องนี้เมื่อคืน” ช่างเปิดสมุดบันทึก “มีชื่อเวรเท่านั้นครับ ไม่มีคนแปลกหน้า” คิมหันหันมาทางลินา “เอาทุกอย่างส่งความปลอดภัยกับฝ่ายกฎหมาย วันนี้ขอรายงานสั้นตอนบ่าย” “รับทราบค่ะ” ออกจากห้องระบบ ลินาเดินชนพีทตรงโถง “เช้านี้หน้าจริงจังมากนะ” “เจอรอยงัดรีเลย์ค่ะ” เธอตอบสั้น “เหมือนตั้งใจ” พีทขมวดคิ้ว “งั้นไม่ใช่พังเอง” “ยังไม่สรุป แต่ไม่น่าบังเอิญ” พีทพยักหน้า “บ่ายถ้าประชุม ขอให้ฉันนั่งหลังห้องด้วยได้ไหม เผื่อวิ่งไปช่วย” ลินายิ้มบาง “ได้สิ” ทั้งวันเธอเดินสลับระหว่างสโตร์ เครื่องมือ กับฝ่ายความปลอดภัย ส่งถุงซิป ส่งรูป ส่งเวลาเข้าออก เธอเขียนไทม์ไลน์สั้น ๆ ตามจริง ไม่เติม ไม่ขาด คำแต่ละบรรทัดสั้นและชัด ตอนสาย ฝ่ายความปลอดภัยโทรกลับ “กล้องหน้าห้องระบบมีช่วงสัญญาณหาย 3 นาที ตรงกับเวลาไฟค้าง” “หายยังไงคะ” “เหมือนโดนบัง” ลินาเงียบไปชั่วอึดใจ “ขอภาพก่อนหน้าและหลังหน้าหน่อยนะคะ ส่งให้ฉันด้วย” เธอเปิดภาพดูเอง คนเข้าออกมีไม่กี่คน หน้าคุ้นทั้งนั้น แต่ช่วงหลุด 3 นาทีคือรูดำสนิท เธอส่งต่อให้คิมหันทันที พร้อมบันทึกเวลาแนบ ไม่นาน ข้อความสั้นจากเขาเด้งมา “บ่ายสอง ห้องประชุมย่อยชั้นบน” ก่อนบ่ายสองไม่กี่นาที ลินาเดินเข้าห้องย่อย โต๊ะยาวเงียบ คนมีแค่สี่—คิมหัน หัวหน้าความปลอดภัย หัวหน้าระบบ และเธอ คิมหันพยักหน้าให้เริ่ม ลินาสรุปไทม์ไลน์สั้น ๆ ชี้รูปรีเลย์ ชี้รอยงัด ชี้เศษพลาสติก หัวหน้าความปลอดภัยต่อ “กล้องหาย 3 นาที ตรงเวลาเสมอ สันนิษฐานว่ามีคนบังด้วยแม่เหล็กแผ่นหรือแผ่นโลหะบาง ๆ” คิมหันถามนิ่ง ๆ “คนถือกุญแจเข้าได้กี่คน” หัวหน้าระบบตอบ “สี่คน รวมช่างเวรอีกสอง” คิมหันหันมาทางลินา “เธอกุญแจอื่นไหม” “ไม่ค่ะ หนูถือเฉพาะสโตร์” เขาพยักหน้า “ดี งั้นเธอช่วยทำเช็กลิสต์เครื่องมือที่สามารถใช้บังกล้องแบบแบน ๆ ดูว่าของชิ้นไหนเพิ่งยืมและคืนไม่ตรงเวลา” “รับทราบค่ะ” พีทส่งข้อความแทรกมา “ต้องให้ช่วยไหม” เธอตอบ “เดี๋ยวขอรายชื่อยืมของชิ้นแบนจากสโตร์นะคะ” “มาได้เลย” หลังเลิกประชุมย่อย ลินาวิ่งลงสโตร์ เปิดสมุดยืมคืน ไล่หาของที่มีแผ่นโลหะบาง แม่เหล็ก แผ่นปิดชั่วคราว พบชุดหนึ่งเพิ่งยืมก่อนเหตุ 30 นาที และคืนช้ากว่าปกติ 1 ชั่วโมง เธอวงแดง แล้วโทรหาหัวหน้าความปลอดภัย “ขอชื่อคนยืมพร้อมตำแหน่งค่ะ” เมื่อข้อมูลมากพอ เธอกดส่งต่อให้คิมหัน ภายในไม่กี่นาทีเขาตอบ “ขึ้นมา” ห้องย่อยยังเงียบ คิมหันเปิดหน้าจอ แสดงชื่อคนยืมและเวลาคืน หัวหน้าความปลอดภัยพูดสั้น “เชิญตัวคนนี่มาคุยได้” คิมหันตัดบท “ช้าไป ครึ่งชั่วโมงคุย ฉันอยากได้แผนกันซ้ำคืนนี้” สายตาทุกคนหันมาที่ลินา เธอพูดชัด “เพิ่มเวรคู่หน้าแผงไฟ เปลี่ยนตำแหน่งกล้องไว้ยกสูงขึ้น ให้มุมกว้างขึ้น ติดเซ็นเซอร์เปิดประตูชั่วคราว ถ้าประตูเปิดนานเกิน 30 วินาทีให้แจ้งเตือน และล็อกตู้รีเลย์ซ้อนด้วยกุญแจเสริมระยะสั้น” หัวหน้าระบบพยักหน้า “ทำได้ภายในเย็นนี้” คิมหันทิ้งท้าย “คืนนี้ฉันจะเดินเองสองรอบ บันทึกเวลาทุกจุด” ประชุมจบ ลินาเดินออกมาสูดลมยาวที่ทางเดิน พีทโผล่จากมุมเสา “เป็นไง” “ได้แผนกันซ้ำแล้วค่ะ” เธอยิ้มบาง “คืนนี้ไม่น่ามีดราม่า” พีทส่ายหน้าเบา ๆ “อย่าประมาท แต่ดีแล้ว” เขาก้มลงเอ่ยเบามาก “ถ้าเหนื่อย กินน้ำหน่อย” เขายื่นขวดให้ ลินารับ “ขอบคุณค่ะ” 😊 บ่ายแก่ ๆ เธอกลับโต๊ะทำงาน ปรับเอกสารขั้นตอนชั่วคราว ส่งประกาศให้ทีมเวรกับภาคสนาม ทุกอย่างนิ่งลงชั่วคราว เธอนั่งทบทวนลำดับคำตัวเอง ไม่ยาว แต่ครบ เวลาใกล้เย็น ฝนเริ่มลงหนักขึ้น เสียงดังบนกระจก เธอปิดคอม กำลังจะลุก โทรศัพท์สั่น ข้อความไม่มีชื่อขึ้นมา — “เก่งดีนะ เมื่อวานไฟดับยังพอแก้ได้ งั้นคืนนี้ลองอย่างอื่นไหม” ลินาชะงัก นิ้วยืดแข็งวูบเดียว เธอยืนนิ่ง ดูเลขโทรศัพท์ไม่คุ้น เธอแคปหน้าจอ ส่งให้ฝ่ายความปลอดภัยกับคิมหันทันที แล้วพิมพ์กลับไป — “ใครคะ” — “คนที่อยากรู้ว่าเธอจะนิ่งได้อีกกี่ครั้ง” เธอไม่ตอบต่อ หายใจยาว แล้วล็อกหน้าจอทันที เธอตรงไปที่ห้องคิมหัน เคาะเบา ๆ เขาเปิดประตู “มา” เธอยื่นโทรศัพท์ให้ “เพิ่งได้รับค่ะ” เขาอ่านหนึ่งรอบ สีหน้าไม่เปลี่ยน แต่แววตาแข็งขึ้น “ส่งให้ความปลอดภัยแล้วใช่ไหม” “ค่ะ” “คืนนี้กลับพร้อมฉัน” “ค่ะ” เขาเงียบครู่หนึ่งก่อนถาม “กลัวไหม” “มีบ้างค่ะ แต่ยังทำงานได้” “ดี” ก่อนออกจากห้อง เขาพูดสั้น “อย่าพยายามเก็บคนเดียว ส่งทุกอย่างให้ฉันทันที ไม่ต้องคิด” “ทราบค่ะ” ทุ่มกว่า ๆ ลิฟต์ลงชั้นล่าง พีทยืนรอที่โถง “ได้ข่าวแล้ว” คิมหันพยักหน้าให้พีทแบบสั้น ๆ “คืนนี้ฉันจัดเวรเพิ่ม เธอกลับกับทีมของฉัน” พีทเข้าใจ ไม่แย้ง “โอเค พรุ่งนี้เจอกัน” ฝนยังตก รถวิ่งบนถนนเป็นเส้นน้ำยาว ๆ เงียบกว่าคืนก่อน ลินามองไฟแดงที่สะท้อนพื้นถนนเหมือนจุดเตือน เธอพูดเบา ๆ “ถ้าอีกฝั่งอยากลองอย่างอื่น เราควรเตรียมอะไรเพิ่มไหมคะ” คิมหันตอบทันที “จำลองเหตุการณ์ต่อเนื่อง ขัดสัญญาณเครือข่าย ปิดลิฟต์บางตัว ตัดน้ำบางชั้น…แต่คืนนี้เขาแค่ขู่ ดูเสียงก่อน” “ค่ะ” เขาหันมามอง “จำไว้ เธอมีสิทธิ์กลัว แต่ห้ามให้ความกลัวพาไปที่เขาอยากให้ไป” ลินาพยักหน้า “ค่ะ” ถึงคอนโด เธอขึ้นห้อง เปลี่ยนเสื้อ รวบผมใหม่ ออกมานั่งโซฟา เขานั่งฝั่งตรงข้าม เปิดแผนผังตึกบนแท็บเล็ต ชี้จุดเวร ชี้เวลาตรวจ เธอดูตามและถามแค่ที่จำเป็น ไม่มีคำฟุ้ง เกือบสามทุ่ม โทรศัพท์คิมหันดังสั้น ๆ “รอบแรกเรียบร้อย” เขาวางสาย “อีกชั่วโมงเดินรอบสอง” ลินาเงียบสักพักก่อนพูด “เมื่อวานคุณบอกให้หนูอย่าเสียความนิ่ง วันนี้หนูจะพยายามรักษามันไว้” เขามองเธอตรง “ฉันเห็นแล้วว่าเธอทำได้” “แต่ข้อความเมื่อกี้…มันไม่ใช่เรื่องงานอย่างเดียวแล้วค่ะ” “ใช่” คิมหันตอบ “แต่เราจะจัดการด้วยวิธีของงาน นั่นแหละแกร่งที่สุด” สี่ทุ่มครึ่ง เขาลุกหยิบเสื้อคลุม “ฉันลงไปเดินรอบสอง เธออยู่ในห้อง ห้ามเปิดประตูให้ใครนอกจากเสียงฉัน” “ค่ะ” เขาออกไป ประตูปิด เงียบสนิท ลินาหยิบกระดาษเปล่า ขีดเส้นเวลาตัวเอง — ตื่น ตรวจระบบ ประชุม แจ้งเตือน ข้อความขู่ — เธอเว้นช่องท้ายไว้สองบรรทัด เขียนว่า “ยังไม่ล้ม” กับ “ยังไม่หนี” แล้ววางปากกา ยืดหลัง หายใจเข้าออกช้า ๆ สิบนาทีผ่าน โทรศัพท์ของเธอสั่นอีกครั้ง คราวนี้ชื่อที่ขึ้นคือ “แม่” เธอกดรับทันที “แม่คะ” เสียงแม่อบอุ่นเหมือนเดิม “เป็นยังไงบ้างลูก ฝนตกไหมที่นั่น” “ตกค่ะ แม่พักผ่อนนะคะ หนูโอเค” “ได้ยินเสียงเหนื่อย ๆ นะลูก” ลินายิ้มทั้งที่ไม่มีใครเห็น “ทำงานค่ะ แต่ดีขึ้น แม่ไม่ต้องห่วงนะ” “จ้ะ รักนะ” “รักค่ะแม่” เธอวางสาย ใจอุ่นขึ้นนิดหนึ่ง เหมือนมีไฟเล็ก ๆ สว่างจากบ้านไกล ๆ 🔆 ประตูเปิดเบา ๆ คิมหันกลับมา “รอบสองเรียบร้อย ไม่มีอะไรผิดปกติ” ลินาพยักหน้า “ดีค่ะ” เขานั่งลง หยิบผ้าขนหนูเล็กซับน้ำฝนบนผม เธอมองแล้วหลุดพูด “คุณเองก็คนเหมือนกันสินะคะ” เขาหันมามุมปากยกน้อย ๆ “คิดว่าฉันเป็นอะไร” “บางทีก็เหมือนเครื่องที่เดินทั้งคืน” “คืนนี้ก็ยังเดิน” เขาตอบสั้น ๆ แล้วทิ้งเสียงนิ่ง “แต่ฉันไม่ปล่อยให้คนที่อยากให้เธอเงียบ ชนะด้วยการขู่” “ขอบคุณค่ะ” เกือบเที่ยงคืน เสียงฝนเบาลง จังหวะห้องค่อย ๆ ผ่อน ลินาลุกไปชงน้ำอุ่นสองแก้ว วางให้เขาหนึ่ง “ดื่มหน่อยค่ะ” เขารับ “ขอบคุณ” นาทีหนึ่งผ่านไปโดยไม่มีคำ ทั้งสองคนแค่นั่งฟังเสียงฝนและเครื่องแอร์ จนคิมหันพูดช้า ๆ “พรุ่งนี้เช้า เธอกับฉันจะไปดูห้องระบบอีกครั้ง พร้อมความปลอดภัย ให้เขาเก็บลายนิ้ว แถมตรวจสายตากล้องทั้งหมด” “ค่ะ” “และถ้าเบาะแสชี้ไปที่คนในบ้าน…ฉันจะจัดการเอง เธอไม่ต้องเข้าไปตรงนั้น” ลินามองหน้าเขา “แต่ถ้าเกี่ยวกับงาน หนูอยากยืนด้วย” เขาคิดหนึ่งจังหวะ “ยืนได้ แต่อย่าอยู่หน้าสุด” “ตกลงค่ะ” คืนคืบช้า ๆ เหมือนเมืองยอมพัก ในหัวเธอไม่มีเสียงข้อความขู่แล้ว เหลือแค่แผนที่ กับหน้าที่ เมื่อถึงเวลานอน เธอลุกปิดไฟห้องนั่งเล่น เหลือแสงอุ่นหัวเตียง เธอพูดเบา ๆ โดยไม่หัน “คุณคะ” คิมหันเงยหน้า “ขอบคุณที่ไม่ใช้ความกลัวพาหนูไปที่คุณอยากให้ไป” เขาพยักหน้า “ฉันอยากให้เธอไปที่เธอเลือกเอง แต่เลือกบนของจริง” เธอยิ้มบาง “รับทราบค่ะ” ประตูห้องนอนปิดลงเงียบ ห้องนั่งเล่นเหลือเสียงปากกาขีดแผนต่อไปอีกนิดเดียว ก่อนทุกอย่างนิ่งสนิท เช้าใหม่จะมาถึงอีกครั้ง พร้อมงานอีกชุด พร้อมคำอีกไม่กี่คำที่ต้องพูดให้พอดี ลินารู้ว่าเกมยังไม่จบ คนขู่ยังไม่ถอย แต่เธอก็รู้แล้วเหมือนกันว่า ความนิ่งไม่ได้แปลว่าเฉย มันคือการเลือกยืนตรงจุดที่ควรยืน และยืนให้นานพอจนอีกฝั่งเหนื่อยเอง และถ้าไฟจะดับอีก เธอก็จะลุกไปสั่งมันกลับมาอีกครั้ง ด้วยมือเดิม ใจเดิม และคำเดิมที่ไม่เกินจำเป็น 💪 +。:.゚ஐ⋆*♡・:*ೄ‧͙·*♪
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD