📗 ⊹ ☾⋆⁺₊ ✩°。⟢
🌒 คืนนั้น
ลินาหลับเร็ว แต่ไม่ลึก เธอฝันว่าตัวเองยืนเฝ้าด่านชั่งอยู่คนเดียว ฟ้าดำ ถนนว่าง รถบรรทุกคันเดิมถอยกลับเข้ามา ไม่มีคนขับ มีแต่เสียงเครื่องดังหึ่ง ๆ รถไหลมาหาเธอช้า ๆ เหมือนจะทับ เธอยกมือห้าม แต่เสียงออกจากปากไม่ได้ จนมีเงาหนึ่งมาขวางหน้า ยกมือแตะกันชน รถหยุดนิ่งเหมือนโดนตรึง เธอเงยหน้า เห็นคิมหันยืนเฉย ๆ ไม่พูดอะไร แค่ส่ายหน้าเบา ๆ แล้วภาพก็ดับ
เธอตื่นตีห้า เหงื่อซึมที่คอ หัวใจเต้นแรงอยู่พักหนึ่ง ก่อนค่อย ๆ ช้าลง เธอนั่งพิงหัวเตียง สูดลมหายใจยาว “พอแล้ว…ไม่เอาฝันแบบนี้อีก” แล้วลุกไปอาบน้ำ ชงน้ำอุ่นหนึ่งแก้ว
โทรศัพท์สั่น ข้อความใหม่จากเบอร์ไม่คุ้น “ระวังตัวไว้ จะไม่จบแค่นี้” ไม่มีชื่อ เธอมองอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ตอบ ลบแล้วบล็อกทันที จากนั้นส่งต่อภาพหน้าจอให้เลขาฝ่ายกฎหมายพร้อมข้อความสั้น ๆ “ได้รับข้อความขู่ เวลาตีห้าเจ็ดนาที”
เธอแต่งตัว ใส่กั๊กสะท้อนแสง หยิบสมุด ปากกา แล้วออกจากห้อง ตั้งใจว่าถ้ากลัว เธอจะให้กลัวตอนเดิน แต่พอถึงประตู เธอหยุด หายใจเข้าอีกครั้ง แล้วพูดเบา ๆ กับตัวเอง “กลัวได้ แต่อย่าเผลอถอย” 🙂
เช้าเจ็ดโมง เธอมาถึงไซต์ คนเริ่มเข้าแถวรับอุปกรณ์ ยามสองคนที่ด่านชั่งยกมือไหว้เธอแบบคุ้นขึ้น “วันนี้พร้อมครับ” หัวหน้างานยิ้มบาง “เราเพิ่มพยานแล้วนะ เซ็นสองคนตามสั่ง”
“ดีค่ะ” ลินาพยักหน้า เธอเปิดแฟ้มดูรายการของเข้า เช็กหมายเลขรถ สายตาไล่ไปช้า ๆ ไม่ให้พลาดจุดเล็ก ๆ
ไม่นาน รถเหล็กคันใหม่ก็เข้ามา คราวนี้รถใหม่กว่า คลุมผ้าใบเรียบ เข็มชั่งขึ้นตัวเลขตรงตามใบ เอกสารครบ เสียงเคาะขอบเหล็กแน่น เธอพยักหน้าให้ยาม “ผ่านค่ะ” รถค่อย ๆ เคลื่อนเข้าไปด้านใน ทุกอย่างนิ่ง เรียบ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อวาน
เก้าโมง พีทเดินมาที่ด่านชั่ง “ขอยืนด้วยหน่อยนะ”
“เชิญค่ะ”
เขายิ้ม “เมื่อคืนมีคนถามหาชื่อเธอในแชตวงนอก ผมเลยมาดูให้”
ลินาเลิกคิ้ว “ถามทำไม”
“อยากรู้ว่าเด็กไหนกล้าหยุดรถ” พีทหัวเราะสั้น ๆ “แต่ไม่ต้องห่วง ผมใส่ชื่อผิดให้ไปสองรอบ”
เธออมยิ้ม “ขอบคุณค่ะ”
สิบโมง รถซีเมนต์สองคันเข้าแทน ต่อคิวชั่งเรียบร้อย ระหว่างพักสั้น ๆ หัวหน้าคลังโทรมาหาเธอ “มีเอกสารชุดหนึ่งที่ลายเซ็นท้ายใบต่างจากต้นฉบับ เธอขึ้นมาดูหน่อยได้ไหม”
“ได้ค่ะ”
ลินาขึ้นออฟฟิศชั่วคราวบนชั้นสอง ห้องเล็ก ๆ มีกระจกมองเห็นด่านชั่งได้ เธอเทียบลายเซ็นตามที่เขาว่า ตัวเส้นคมไม่เท่ากัน จุดสิ้นสุดลากเกิน เธอจดไว้ “สงสัย ปลอม” แล้วสแกนเก็บเป็นหลักฐาน ส่งให้ฝ่ายกฎหมายทันที
ตอนลงบันได เธอเห็นชายสองคนยืนพิงผนัง คุยกันเบา ๆ พอเธอเดินผ่าน ทั้งคู่หยุดคุย หันมามองตามจนพ้นโค้ง เธอไม่หยุด ไม่เร่ง แค่เดินด้วยจังหวะเดิม พอถึงด่านชั่ง เธอแกล้งบอกยามดังพอได้ยิน “กล้องตัวหน้ากระพริบ เปิดบันทึกตลอดเวลาใช่ไหมคะ” ยามตอบทันที “บันทึกต่อเนื่องครับ” สองคนนั้นชะงัก แล้วเลี่ยงไปอีกทางเหมือนไม่มีอะไร
สิบเอ็ดโมง รถเหล็กเจ้าที่ไว้ใจเข้ามา คนขับยิ้มแห้ง “เมื่อวานได้ข่าวฮือฮาเลยนะคุณลินา วันนี้ผมเตรียมใบครบสามชุดเลย”
ลินายิ้มตอบ “ขอบคุณค่ะ ตรวจง่ายขึ้น”
เขาขยิบตา “พวกเล่นสกปรกชอบของง่าย เราต้องทำให้ยาก”
“ใช่ค่ะ”
ช่วงเที่ยง คิมหันเดินมาที่ด่านชั่งเอง เงียบ ๆ ไม่ได้ส่งข่าวมาก่อน เขามองตัวเลขบนหน้าปัด แล้วมองเธอ “เป็นยังไง”
“นิ่งค่ะ เช้านี้ผ่านหมด ยังไม่เจอผิด”
“ดี” เขาหยุดครู่หนึ่ง ก่อนพูดเบา ๆ “ตอนเช้ามีข้อความไหม”
ลินาพยักหน้า “มีค่ะ แต่บล็อกแล้ว ส่งให้กฎหมายแล้วด้วย”
“อย่าลบจากเครื่องตัวเองทั้งหมด เก็บไว้ด้วย”
“ค่ะ”
เขามองยาม “ใครไม่เกี่ยว อย่าอยู่แถวนี้นาน” ยามรับคำแล้วถอยไปไกลขึ้น วงรอบด่านโล่งกว่าเดิม
คิมหันยืนเงียบข้างเธอสองนาที เหมือนจงใจให้คนที่มองอยู่ไกล ๆ เห็นภาพนี้ชัด ๆ แล้วจึงเอ่ย “บ่ายสองขึ้นไปประชุมชั้นบน ฉันต้องการรายงานสั้น ๆ จากเธอ สิบข้อ ไม่เกินหนึ่งหน้า”
“ได้ค่ะ”
“อย่าลืมข้อสิบ ข้อที่เธออยากเตือนฉัน”
ลินาชะงักนิด “ได้ค่ะ”
พอบ่าย รถชะลอลง เธอกลับขึ้นตึกไปพิมพ์รายงาน สั้น กระชับ ชัด 9 ข้อแรกเป็นขั้นตอนและข้อสังเกต ข้อที่ 10 เธอพิมพ์ว่า
“ฝ่ายตรงข้ามเริ่มมองมาที่ตัวคน ไม่ใช่กติกา ขอให้ระวังจุดบอดที่เกิดจากการดึงคนออกจากตำแหน่งเดิม”
เธออ่านทวน ส่งเข้าอีเมลทีม และพิมพ์ออกมาหนึ่งแผ่นเตรียมถือขึ้นประชุม
หน้าห้องประชุม คิมหันยืนคุยกับฝ่ายกฎหมายสั้น ๆ พอเห็นเธอ เขาพยักหน้าให้เข้าไปนั่ง เธอยื่นรายงาน เขาไล่อ่านเร็วมาก ถึงข้อที่ 10 เขาหยุดครู่หนึ่ง มองหน้าเธอแล้วพูดเบา ๆ “ข้อสิบ…ดี” จากนั้นจึงเริ่มประชุม
เนื้อหามีแต่เรื่องตรงไปตรงมา: ขั้นตอนใหม่ของด่านชั่ง คนรับผิดชอบกล้อง บันทึกพยาน การออกหนังสือเตือนบริษัทที่เล่นนอกกติกา และตารางตรวจสเปกแบบสุ่มเพิ่ม เขาตัดสินเร็ว สั้น ไม่วกวน
จบประชุม คิมหันเรียกลินาไว้ “ลงไปกับฉัน”
เธอเดินตามเขาไปที่ลิฟต์เงียบ ๆ พอประตูปิด เขาพูดขึ้น “เธอรู้ไหมว่าทำไมฉันให้ยืนด่านชั่งต่อ”
“เพื่อให้คนข้างนอกจำหน้า ว่าที่นี่ไม่ยอมง่าย ๆ ค่ะ”
เขายิ้มมุมปากนิดเดียว “ใช่ อีกอย่าง—ฉันอยากให้เธอชินกับแรงกด”
“ค่ะ”
“แรงกดไม่ได้หายไป มันแค่ย้ายที่ ถ้าชิน เธอจะยืนได้ยาวกว่าเดิม”
ประตูเปิดชั้นล่าง เขาเดินนำข้ามโถงไปยังลานขนส่ง เธอเห็นชายเมื่อเช้ายืนคุยกับใครสักคนใกล้เสา พอเห็นคิมหัน ทั้งคู่หันหลังทันทีแล้วเดินเร็วออกไป
คิมหันไม่สนใจ เขาเดินไปที่กล้องวงจรปิด “เทปช่วงเช้า ขอสำเนาเก็บแยกอีกชุด” เจ้าหน้าที่รีบทำตาม เขารับแฟลชไดรฟ์มาใส่กระเป๋าเสื้อ แล้วหันมาทางลินา “บ่ายสามกลับไปยืนที่เดิม ต่อให้ทุกคันตรง ก็ยืนให้ครบเวลา”
“ค่ะ”
บ่ายสามครึ่ง รถอีกคันเข้ามาช้า ๆ ผ้าใบตึงสวย น้ำหนักตรง เอกสารครบ แต่บรรยากาศแปลก คนขับหลบตา ยิ้มไม่ขึ้น ลินามองเลขทะเบียนแล้วนึกขึ้นได้ว่าเป็นคันที่เคยมีเรื่องคุยไม่จบเมื่อหลายเดือนก่อน เธอให้ชั่งซ้ำสองรอบ เหมือนเดิมเป๊ะ เธอจึงให้ยามบันทึกภาพปิดท้ายเพิ่ม “กันเหนียว” คนขับพยักหน้าเงียบ ๆ แล้วขับเข้าไป
กว่าจะหมดรอบ วันก็เริ่มคล้อย แดดอ่อนลง ลมเย็นขึ้น หัวหน้างานเดินมายืนข้าง ๆ “วันนี้ไม่มีเลือด”
ลินายิ้ม “ดีค่ะ”
“แต่พรุ่งนี้…ไม่แน่”
“หนูอยู่ค่ะ”
หัวหน้างานพยักหน้า “เธอเริ่มเป็นคนของประตูแล้ว”
เย็น เธอกลับขึ้นชั้นทำงาน เปิดคอมพ์ เคลียร์อีเมล เห็นข้อความจากแม่ “กินข้าวยังลูก” เธอตอบ “กำลังจะกินค่ะ” แม่ส่งสติ๊กเกอร์รูปหัวใจมา เธอยิ้มเองหน้าจอ 💗
พีททักมาอีก “พรุ่งนี้ให้ผมมาช่วยไหม”
“มาสิค่ะ”
“ตกลง เจอกันเจ็ดโมง ด่านชั่ง”
“รับทราบ”
ไม่ถึงนาที ข้อความของคิมหันมาต่อท้าย “พรุ่งนี้เจ็ดโมงตรง ฉันอยู่ที่ด่าน”
เธอตอบ “ค่ะ” แล้ววางโทรศัพท์ สูดลมหายใจยาว
ตอนกำลังจะเก็บของ กล่องพัสดุเล็ก ๆ มาส่งที่โต๊ะเธอ ไม่มีชื่อผู้ส่ง มีแค่ชื่อเธอและห้อง เธอชั่งใจครู่หนึ่งแล้วเรียกยามชั้นบนมาดูพร้อมหัวหน้าทีม เปิดกล่องต่อหน้ากล้อง มีเพียงนอตเหล็กเก่า ๆ หนึ่งกำมือ กับกระดาษแผ่นเล็กเขียนด้วยลายมือ “ระวังของหลุด” ไม่มีชื่อ ไม่มีเบอร์
หัวหน้าทีมชะงัก “เล่นคำ”
ลินายกถุงซิปล็อกใส่นอตทั้งหมด ปิด ป้ายวันที่ แล้วบอกยาม “เก็บเป็นหลักฐาน ส่งกฎหมายพรุ่งนี้เช้า”
หัวหน้าทีมพยักหน้า “ดี อย่าตอบโต้ด้วยอารมณ์”
“ค่ะ” เธอยิ้มจาง ๆ “หนูตอบด้วยขั้นตอน”
หัวค่ำ เธอออกจากตึก ฝนโปรยบาง ๆ ฟ้าสีเทาอมม่วง คนบนทางเท้าบางตา เธอกางร่ม เดินเรื่อย ๆ ไปสถานี ระหว่างรอไฟข้ามถนน มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งจอดช้า ๆ ห่างออกไป คนขี่สวมหมวกเต็มใบ มองมาทางเธอสองวินาที แล้วขี่ออก เธอไม่ได้วิ่ง ไม่รีบ แค่เดินจังหวะเดิม มองรอบ ๆ ให้ครบ และส่งโลเคชันให้ยามเวรตามมาตรการที่คิมหันเคยสั่ง “ถ้าสงสัย อัปเดตตำแหน่งทุกสิบนาที”
ถึงห้อง เธออาบน้ำ ล้างวันออกจากตัว แล้วนั่งที่โต๊ะ เปิดสมุดเล่มเดิม เขียนบันทึกต่อ
▷ เช้า ข้อความขู่ บล็อก ส่งกฎหมาย
▷ ยืนด่านต่อ คนเริ่มชินขั้นตอน
▷ ส่งรายงาน 10 ข้อ ข้อสุดท้ายเตือนเรื่อง “ดึงคน”
▷ กล่องนอตที่โต๊ะ เก็บหลักฐาน ไม่เล่นตามเกม
▷ พรุ่งนี้เจ็ดโมง ยืนที่เดิม มีพีทและเขาอยู่ด้วย
เธอวางปากกา ลูบหน้าปกสมุดเบา ๆ แล้วปิด สายตาเลยไปเห็นสายบัตรบนโต๊ะ เธอหยิบขึ้นมาแตะ “บัตรเส้นเล็ก ๆ แต่พาเรายืนอยู่แดนหน้าทุกวัน”
เสียงข้อความดังสั้น ๆ เธอหยิบมือถือขึ้นดู
คิมหัน: “ถ้ามีอะไรผิดปกติ โทรหาฉันก่อนใคร”
ลินา: “ทราบค่ะ”
คิมหัน: “อย่าอยู่ในเงาคนเดียว”
ลินา: “มีเงาคุณข้าง ๆ แล้วค่ะ”
จุดเขียวเปลี่ยนเป็น “อ่านแล้ว” ไม่มีคำต่อ แต่เธอรู้ว่าพอแล้ว
เธอปิดไฟใหญ่ เหลือแสงอุ่นหัวเตียง ล้มตัวนอน หลับตา ใจยังเต้นนิ่ง ๆ เหมือนจังหวะเครื่องชั่งที่หยุดตรงกลางพอดี
ก่อนจะหลับ เธอคิดเพียงสั้น ๆ
▷ ถ้าคนเล่นสกปรกอยากให้เรากลัว เราจะตอบด้วยกติกา
▷ ถ้าเขาอยากดึงเราออกจากตำแหน่ง เราจะยืนให้หนักกว่าเดิม
▷ ถ้าเลือดแรกไหลแล้ว เลือดต่อไปคือของใคร…ให้กติกาตัดสิน ไม่ใช่ปากคน
เธอยิ้มบาง ๆ กับความคิดนั้น แล้วปล่อยให้คืนพาไปเบา ๆ
ด้านนอก เม็ดฝนยังลงช้า ๆ ไฟบนถนนวาบขึ้นดับลงเป็นช่วง ๆ เหมือนสัญญาณที่ส่งถึงกัน ลินารู้ว่าเช้าพรุ่งนี้เธอยังยืนที่เดิม มีคนข้าง ๆ พอให้ใจไม่สั่นเกินไป และถ้ารถสกปรกคิดจะลองของอีกครั้ง
ประตูนี้…ก็ยังไม่ง่ายเหมือนเดิม 💪⚙️
*•.¸¸♪✧ଘ ੭ ✩‧₊˚ ⟢⊹