EP.26 [บังคับ]

1148 Words
ทำไม… ทำไมพันไมล์ถึงมาอยู่ที่นี่… เขาตามฉันมางั้นเหรอ? นั่นเป็นคำถามผุดขึ้นมาในใจ ฉันกะพริบตามองใบหน้าหล่อของผู้ชายตรงหน้าทั้งน้ำตา ก่อนจะเพิ่งรู้ตัวว่ากำลังร้องไห้ต่อหน้าเขาอยู่ ฉันรีบเบี่ยงหน้าหนีแล้วยกมือปาดน้ำตาออกลวก ๆ “ไอ้เวรนั่นใช่ไหม…” ฉันเม้มปากแน่นตอนถูกถามถึงจินหลง ไม่รู้ว่าก่อนพันไมล์จะเข้ามาหาฉันเขาสวนทางกลับจินหลงหรือเปล่า ตอนนี้ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย หัวสมองมันมึนไปหมดแล้ว “ตอบเฮียมา เฮียจะไปฆ่ามัน!” “มะ ไม่นะ!” คราวนี้ฉันหันมองพันไมล์อย่างเต็มตา สองตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ ฉันรู้ว่าพันไมล์เป็นคนพูดจริงทำจริงแน่ ยิ่งมาเห็นฉันในสภาพแบบนี้ เขาไม่ปล่อยจินหลงไว้แน่ ๆ ซึ่งฉันยอมไม่ได้ “ทำไม! มันทำเลวกับเธอขนาดนี้นะไกอา! ยังจะปกป้องมันอีกเหรอ!” พันไมล์กำลังโกรธมากอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน เขากำหมัดแน่น ร่างกายสั่นเทา ดวงตามังกรวาวโรจน์ดุจเพลิงไฟ ฉันส่ายหน้าทั้งน้ำตาพยายามอ้อนวอนไม่ให้เขาเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ “ไม่ใช่นะเฮีย… เขา… เขาไม่ได้ทำร้ายฉัน” “เธอคิดว่าเฮียโง่เหรอไกอา ถ้ามันไม่ได้ทำร้ายเธอ แล้วเลือดเวรนี่มันอะไรวะ?!” ปลายนิ้วแข็ง ๆ ปาดรอยเลือดตรงมุมปากฉันขึ้นมาชูตรงหน้า ฉันเม้มปากกลั้นความเจ็บปวดพลางจ้องเลือดสีแดงของตัวเอง “มันเป็นอุบัติเหตุ เขาไม่ได้ตั้งใจทำร้ายฉัน…” จินหลงไม่ได้ทำร้ายฉันจริง ๆ นะ ฉันจะบอกพันไมล์ยังไงดีให้เขาเข้าใจ บ้าจริง… เขาไม่ควรเข้ามาเห็นเรื่องพวกนี้เลย… ไม่ควรเลยจริง ๆ ความเงียบครอบงำรอบตัว พันไมล์มองหน้าฉันด้วยแววตาอธิบายยาก มันทั้งเจ็บปวดและผิดหวังระคนกัน ขณะที่ฉันทำเพียงแค่สะอื้นไห้เบา ๆ รู้สึกเสียใจกับทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเหลือเกิน ฉันไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอ ไม่ใช่คนขี้แพ้และชอบงอแงแบบนี้ ปกติฉันเป็นคนเก็บความรู้สึกเก่ง และทำได้ดีมาโดยตลอด แต่แน่นอนว่ามนุษย์ยังไงก็คือมนุษย์ ย่อมมีมุมอ่อนแอกันทุกคน และตอนนี้ฉันกำลังเผยความอ่อนแอออกมาให้พันไมล์ได้เห็น “นานแค่ไหนแล้ว…” “…” ฉันนิ่งฟังคำถามที่เหมือนพยายามข่มอารมณ์ “เธอต้องเจ็บปวดแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วไกอา…” น้ำตาเม็ดแล้วเม็ดเล่าไหลรินอาบแก้มลงมาราวกับยิ่งได้ฟังเสียงของเขา ฉันก็ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม และเมื่อเห็นว่าฉันไม่ยอมตอบอะไรนอกจากนั่งร้องไห้เงียบ ๆ ร่างสูงที่ยืนอยู่ค่อย ๆ ย่อตัวลงคุกเข่าบนพื้น ทำให้ระดับสายตาของเราตรงกัน เราสบตากันนิ่งงันโดยไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมา “…” ปลายนิ้วอ่อนโยนเกลี่ยเช็ดหยาดน้ำตาข้างแก้มฉันแผ่วเบา ความอบอุ่นในวันวานมันย้อนกลับมาทีละนิด พันไมล์ผละมือออกพลางกวาดสายตามองไปทั่วห้อง เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงอีกครั้งแล้วหันกลับมาหาฉัน “ไปกับเฮีย” คำพูดห้วน ๆ คล้ายประโยคคำสั่งทำฉันนิ่งงันเล็กน้อย ฉันเงยหน้ามองคนตัวสูงด้วยแววตาไม่เข้าใจ พันไมล์จึงย้ำอีกครั้ง “เก็บเสื้อผ้าซะ แล้วไปอยู่กับเฮีย… เดี๋ยวนี้เลย” ว่าไงนะ… พันไมล์จะให้ฉันไปอยู่กับเขางั้นเหรอ… “เฮียไม่ปล่อยให้เธออยู่ที่นี่กับไอ้เวรนั่นอีกแล้ว” “มะ ไม่ได้นะ… ฉันไปกับเฮียไม่ได้” ฉันปฏิเสธเสียงอ่อน ฉันจะหนีจินหลงไปแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด ถ้าหากเขากลับมาแล้วไม่เจอฉัน… เขาต้องคลั่งไปมากกว่านี้แน่ ๆ หรืออย่างน้อย… ถ้าหากฉันจะต้องไปพักที่ร้านจริง ๆ ก็ขอให้ได้บอกจินหลงก่อน “ทำไม? เธอจะทนอยู่ให้ไอ้สารเลวนั่นมันทำร้ายอีกหรือไงไกอา” น้ำเสียงพันไมล์เริ่มเข้มขึ้นตามระดับอารมณ์คุกรุ่นที่เขาพยายามอดกลั้นเอาไว้ ฉันไม่ตอบอะไรนอกจากเสสายตาไปทางอื่น นั่นยิ่งเพิ่มความเดือดดาลให้กับร่างสูงอย่างมาก “ไปเก็บเสื้อผ้า” “…” “ถ้ายังดื้อ ก็ไปทั้งแบบนี้นี่แหละ!” “อ๊ะ! ปล่อยนะเฮีย!” ฉันร้องตกใจเมื่อถูกมือหนาคว้าข้อมือให้ลุกขึ้นยืน พันไมล์แรงเยอะมาก เขาแทบกระชากฉันให้เดินตามเลยก็ว่าได้ “ฉันยังไปกับเฮียไม่ได้ ฉันต้องอยู่ที่นี่ เฮียได้ยินไหม!” “ทำไม! รักมันมากนักหรือไง ทำไมเธอถึงโง่ได้ขนาดนี้หะไกอา!” โอเค… ตอนนี้พันไมล์กำลังคลั่งมาก เขาไม่สามารถเก็บความเดือดดาลในใจได้อีกต่อไปแล้ว เขาถึงได้ด่าฉันด้วยถ้อยคำรุนแรงแบบนี้ อยู่ ๆ ความน้อยใจหรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันสุมอยู่ภายในอกก็ระเบิดออกมา ฉันสะบัดมือออกจากการจับกุมของพันไมล์ ดวงตากลมโตรื้นน้ำตาช้อนมองใบหน้าหล่อที่บัดนี้แดงก่ำเพราะความโกรธเกรี้ยว “ใช่! ฉันมันโง่! โง่มาตลอด!” ฉันปาดน้ำตาข้างแก้มลวก ๆ แล้วเสสายตามองไปทางอื่น เลี่ยงที่จะสบตากับดวงตามังกรคู่นั้น “รู้แล้วก็กลับไปซะ อย่ามายุ่งวุ่นวายกับฉันอีก” “ไกอา…” “ฉันจะเป็นยังไงมันก็เรื่องของฉัน เฮียไม่ต้องมายุ่ง” “ทำไมเฮียจะยุ่งไม่ได้ในเมื่อเธอเป็น…” พันไมล์พูดแค่นั้นก่อนชะงักคำเอาไว้ ฉันหันกลับมาสบตากับเขาอย่างจริงจัง แววตาของเราสับสนไม่ต่างกัน “เป็นอะไร?” ฉันถามย้ำหาคำตอบ ก่อนพันไมล์จะเป็นฝ่ายละสายตาหนีเสียเอง “เป็นน้องสาวเฮียไง” ฉันแสยะยิ้มสมเพชให้ตัวเองเมื่อได้ยินคำตอบจากปากของเขา แม้เสียงที่พูดออกมานั้นจะแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยินก็ตาม น่าตลกชะมัด… ทำไมหัวใจมันเจ็บปวดขนาดนี้กันนะ วันนี้ฉันเจ็บปวดมากเกินไปหรือเปล่า… “ถ้าอย่างนั้นเฮียก็กลับไปเถอะ” เราสบตากันอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้สีหน้าและแววตาของฉันมันเรียบนิ่งไร้ความรู้สึก ฉันเคยผ่านจุดนี้มาแล้ว… จุดที่มันเกินคำว่าเสียใจ “เพราะเฮียไม่ใช่พี่ชายฉัน” “…” “ไม่เคยเป็น… และไม่มีวันจะเป็น”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD