บทที่ 02 ใส่ใจได้แต่มอง [3]

1468 Words
บทที่ 02 ใส่ใจได้แต่มอง [3] “ไม่ได้ไปส่งคุณพิมพ์หรอกเหรอ” เดินไปหาคนขับรถที่รถแล้วเอ่ยถามทันที “เปล่าครับ” “แล้วเธอกลับไปยังไง” “เห็นว่ามีคนขับรถมารับนะครับ” “ใครวะ!” เพียงคุณสบถอย่างหงุดหงิด ครั้นจะเดินกลับไปถามนรินดาเขาก็รู้ว่านรินดาไม่บอกแน่ “มีอะไรรึเปล่าคุณ” เพียงคุณปิดเปลือกตาลงเพื่อสงบสติอารมณ์ ก่อนจะหันกลับไปยิ้มให้เฌอเอมที่เดินออกมาพอดี “ไม่มีอะไร คุณตาไปพักแล้วเหรอ” “อืม น้าทิพย์เพิ่งพากลับขึ้นข้างบนเมื่อกี้น่ะ สักพักน้องนรินกับคุณภพคงตามออกมา” แยกย้ายกันกลับได้สักที วันนี้เพียงคุณรู้สึกว่าตัวเองนิสัยไม่เอาเสียเลยที่ไม่อยากต้อนรับแขก ทั้งยังอยากจะไล่แขกกลับบ้านตั้งแต่พามาถึง ไม่รู้ว่าเมื่อไรพี่ชายของเธอจะแวะมารับ ตอนแรกเธอบอกว่าพี่ชายแวะมาทำธุระแถวนี้ เธอก็เลยขอติดรถมาด้วยแล้วจะให้พี่ชายแวะมารับ แต่นี่กินข้าวจนอิ่มแล้วพี่ชายก็ยังไม่ถึงสักที “พี่ฌอร์ณน่าจะถึงแล้ว เรากลับก่อนนะคุณ” “อืม” เพียงคุณรีบโบกมือลา เฌอเอมหันกลับมายิ้มให้ ก่อนจะรีบเดินไปออกไปขึ้นรถของพี่ชายที่จอดรออยู่หน้ารั้วบ้าน “อ้าว เฮียไม่ได้ไปส่งพี่เฌอหรอกเหรอคะ” หันมาเจอนรินดาเดินออกมาพร้อมข้ามภพพอดี “พี่ชายมารับน่ะ” “ค่ะ งั้นนรินกลับนะคะ” “เดี๋ยว” น้ำเสียงเข้มๆ ของเพียงคุณทำให้ข้ามภพเหลือบมอง แต่นรินดาไม่ได้รู้สึกตกใจหรือแปลกใจเลยสักนิด “อะไรคะ” “ใครมารับพิมพ์” คำถามของเพียงคุณทำให้นรินดายิ้มมุมปาก “ยัยนริน” “เหมือนจะชื่อคุณเปรมดิ์ค่ะ” “ใคร” “เฮียจะสนใจเรื่องของมันทำไมคะ” “ก็...” เพียงคุณอึกอักขึ้นทันที “กลับกันเถอะค่ะคุณภพ ปล่อยคนปากแข็งรู้ตัวช้ารอหมาคาบไปก็สะใจดี” “ยัยนริน” “อะไรคะ นรินพูดอะไรผิด ไหนตอนที่นรินเคยถามว่าเฮียจะจีบมันไหมเฮียทำเหมือนไม่สนใจ แล้วตอนนี้เฮียเกิดจะอยากรู้ขึ้นมาทำไม หรือว่าสนใจแล้วคะ” นรินดาถามอย่างเอาเรื่อง ยืนรอคำตอบอย่างไม่คิดจะเดินหนีเพราะมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด “แล้วเราจะปล่อยให้เพื่อนแต่งงานกับผู้ชายอย่างไอ้ไก่นั่นหรือไง” “คนอย่างยัยพิมพ์ ถ้ามันไม่แต่ง หัวเด็ดตีนขาดมันก็ไม่แต่งหรอกค่ะ เดี๋ยวมันก็หาทางเอาตัวรอดจนได้นั่นแหละ” “เฮียว่าจะไม่รอดน่ะสิ” “ถ้าไม่รอดจริงๆ มันก็น่าจะยอมรับได้แล้วนะคะว่าพี่ภักดิ์เขาเป็นเจ้ากรรมนายเวรของมัน” นรินดาแสร้งว่าอย่างไม่ใส่ใจ พูดกันมาขนาดนี้เพียงคุณก็ยังไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังเป็นห่วงอีกฝ่ายหนึ่งออกนอกหน้า “กลับค่ะคุณภพ” “เดี๋ยว” “อะไรอีกล่ะเฮีย” “ใครมารับพิมพ์” นรินดานึกขำที่เห็นท่าทีเพียงคุณเหมือนเด็กกำลังงอแง อยากได้ของเล่นใหม่แต่ทำเฉไฉ “บอกแล้วไงคะว่าเขาชื่อคุณเปรมดิ์” “ก็แล้วใครล่ะ” “คุณภพคะ เฮียดุนรินค่ะ ไม่มีเหตุผลด้วย” นรินดาแสร้งวิ่งไปหลบหลังข้ามภพทันที เพียงคุณสูดหายใจจนอกผายเพื่อสะกดกลั้นความร้อนรุ่มในอก ที่เขาเองก็เพิ่งจะเคยรู้สึกแบบนี้เป็นครั้งแรก หากเป็นจิรภักดิ์ เขายังน่าจะสบายใจกว่านี้เพราะรู้ว่าพิมพ์พัชรไม่ได้คิดอะไรด้วยแน่นอน แต่คนนี้เขาไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อมาก่อน “เอาล่ะๆ กลับกันเถอะ” “ไอ้ภพ!” “อะไร” “ฉันยังคุยกับยัยนรินไม่จบ ยังพากลับไม่ได้” “แล้วนายจะอยากรู้เรื่องของคุณพิมพ์ไปทำไม ชอบเธอเหรอ” ข้ามภพถามเสียตรง ทำเอาคนถูกถามรู้สึกเหมือนถูกหมัดน็อกกลางอากาศ “ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องไปยุ่ง เป็นแค่พี่ชายเพื่อนก็วางตัวให้มันน่านับถือหน่อย อยากเป็นไก่ตัวที่สองหรือไง” นรินดายิ้มกว้างแล้วกอดเอวข้ามภพแน่น รู้สึกภูมิอกภูมิใจในตัวสามีเหลือเกินที่สามารถทำให้เพียงคุณหน้าชาได้พอตัว “ฉันพานรินกลับได้หรือยัง” “เออ” “ก็แค่เนี้ย ถ้าตัวนายยังสับสน ก็คุยกับตัวเองให้รู้เรื่องก่อน ไม่ใช่ทำคนอื่นเขาสับสนตามไปด้วย” “ถูกค่ะ ไม่ชอบไม่สนใจ ก็ไม่เห็นต้องอยากรู้นี่คะว่าสุดท้ายแล้วยัยพิมพ์มันจะแต่งงานกับใคร หรือไปไหนมาไหนกับใคร เนอะคุณภพ” “ชอบ” “เหอะ/ว้าว” ข้ามภพแค่นหัวเราในลำคอ ในขณะที่นรินดาอ้าปากหวอเพราะทึ่งในคำสารภาพว่าชอบสาวของพี่ชาย “จะบอกได้ยัง” ท่าทีหัวเสียเพราะถูกต้อนให้จนมุมของเพียงคุณทำให้นรินดากลั้นยิ้มแทบไม่ไหว “คุณเปรมเป็นผู้ชายที่ยัยพิมพ์มันปัดเจอมาจากแอปฯ หาคู่ค่ะ” “หา!” แม้แต่ข้ามภพยังตกใจ “ตกใจอะไรกันคะ สมัยนี้แล้ว ถ้าไม่หาผู้ชายด้วยวิธีนี้ก็เหลืออีกวิธีเดียวคือคบกับคนที่ทำงานนั่นแหละค่ะ ไม่อย่างนั้นวันๆ จะไปหาผู้ชายที่ไหน” “แล้วพิมพ์...” “ยัยพิมพ์เองมันก็ไม่ใช่เด็กหรือโง่จนไม่ระวังตัวหรอกเฮีย มันก็ศึกษามาบ้างนั่นแหละค่ะ รวมๆ แล้วคิดว่าน่าจะพาไปพบครอบครัวมันวันเสาร์หน้า” “เสาร์หน้า!” เพียงคุณเบิกตาโพลง ทำไมถึงได้ปุบปับแบบนี้กันนะ “ค่ะ มันบอกว่าอย่างน้อยก็ไปในสถานะคนคุย ไม่ได้โกหกสักหน่อย นรินว่าดีเสียอีกที่มันจะลองเปิดใจคุยกับใครดูบ้าง” “โทรถามเพื่อนเราซิว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน” “ทำไมคะ เฮียจะตามไปหรือไง” “บอกให้โทรก็โทรเถอะน่า” เพียงคุณแสร้งทำรำคาญเพื่อตัดบท นรินดาเบะปากใส่ไปหนึ่งทีแล้วรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาพิมพ์พัชรทันที ทว่าพิมพ์พัชรกลับไม่รับสาย รอจนสัญญาณถูกตัดไปสองสายจน นรินดาเริ่มรู้สึกกังวล “ไหนล่ะดูแลตัวเองได้” ตื้ด~ ไม่ทันขาดคำพิมพ์พัชรก็โทรกลับมา “ฮัลโหล ทำอะไรอยู่วะ ฉันตกใจหมด” [ในร้านคนเยอะน่ะ ฉันก็เลยเดินออกมาข้างนอก แต่เมื่อกี้เจอยัยต้อยติ่งก็เลยคุยกับมันแป๊บหนึ่ง มีอะไรวะ] “มีคนอยากรู้ว่าแกอยู่ไหน” นรินดาบอกใบ้ เพียงคุณจิปากใส่เพราะหากพูดอย่างนั้นก็มีโอกาสที่พิมพ์พัชรจะรู้ว่าเป็นเขา [ลุงยศเหรอ] “ฮ่าๆๆ เดี๋ยวจะฟ้อง แต่ตอนนี้บอกมาก่อนว่าตกลงแกอยู่ไหน” [ร้านอาหารแถวๆ คอนโดนี้แหละ แต่สักพักก็กลับแล้ว แค่แวะหาอะไรกินเฉยๆ] “อ้อ แล้วโอเคไหมคนนี้” [ดีกว่าที่คิดเหมือนกัน] “แสดงว่าผ่านแล้วดิ” [อืม นาทีนี้เลือกมากได้ที่ไหน] นรินดาทำทีเป็นพยักหน้าอยู่สองสามครั้งเพื่อสังเกตสีหน้าของเพียงคุณที่ไม่รู้ว่าพิมพ์พัชรพูดอะไรเพราะเธอไม่เปิดลำโพงให้ฟัง “โอเคๆ แบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย” [เออ ขอบใจ เดี๋ยวกลับถึงคอนโดแล้วฉันโทรบอกอีกที] “บาย” วางสายด้วยความสบายใจ นอกจากเพื่อนจะปลอดภัยแล้ว ยังมีสัญญาณที่ดีว่าการเปิดใจครั้งแรกในรอบหลายปีของพิมพ์พัชรดูจะไปได้สวย “ยิ้มอะไร พิมพ์อยู่ที่ไหน” หุบยิ้มลงทันทีเมื่อเพียงคุณถามเสียงเข้มใส่ไม่หยุด “ร้านอาหารแถวๆ คอนโดมันน่ะค่ะ มันบอกว่าอีกสักพักก็กลับแล้ว” “แล้วคุณพิมพ์โอเคใช่ไหมคุณถึงยิ้มแบบนั้น” ข้ามภพถามด้วยความเป็นห่วง “ค่ะ นรินคิดว่ายัยพิมพ์มันน่าจะชอบเขา” “ชอบเขา? เจอกันครั้งแรกก็ชอบเลยหรือไง” นรินดาเลิ่กลั่ก เหลือบมองข้ามภพอย่างงงๆ ที่อยู่ๆ เพียงคุณก็ดันพาลใส่เธอซะงั้น “ค่ะ มันบอกว่าคุยกับเขาแล้วรู้สึถูกคอ มันตกลงกับเขาแล้วว่าจะพาเขาไปแนะนำให้ครอบครัวรู้จัก” “เหอะ!” เพียงคุณแค่นหัวเราะก่อนจะเดินไปที่รถ “อ้าว เฮียจะไปไหนคะ” “ไปตีเด็ก” นรินดาเบิกตาโพลง กำลังจะถามต่อสักหน่อยแต่ข้ามภพห้ามเอาไว้ ก็เลยได้แต่ยืนมองเพียงคุณที่สตาร์ตเครื่องยนต์ด้วยความร้อนใจแล้วขับรถออกจากบ้านทันที “ชอบก็จีบสิวะไอ้คุณ ก็แค่จีบเด็ก มันจะยากอะไร” บรื้นนน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD