บทที่ 03
แค่พี่ชายเพื่อน [1]
“วันนี้อยู่ทำโอด้วยกันไหมน้องพิมพ์”
“ถ้าพิมพ์รวยแล้วลาออกขึ้นมา พี่เอกจะเหงานะคะ” พิมพ์พัชรตอบยิ้มๆ พลางรีบเก็บของใส่กระเป๋าเพราะได้เวลาเลิกงานแล้ว
วันนี้เธอตั้งใจจะแวะไปซื้อของ เสร็จแล้วก็หาอะไรกินแล้วค่อยกลับไปมาส์กหน้านอน
หลังจากได้คุยกับเปรมดิ์วุฒิเมื่อคืน เธอก็รู้สึกว่าเขาไม่เหมือนอย่างที่เธอเคยคิด ทั้งให้เกียรติเธอมากๆ พูดคุยสนุก ไม่ถือตัว ถือว่าเป็นความประทับใจแรกที่ทำให้เธอรู้สึกว่าอยากรู้จักเขาให้มากขึ้น
วันนี้เธอจึงตั้งใจจะไปซื้อเสื้อผ้าและเครื่องสำอางเพิ่มเติมสักหน่อย วันเสาร์เธอจะต้องพาเขาไปพบพ่อกับแม่ แม้จะในสถานะคนคุย เธอก็อยากทำให้เขาประทับใจ
“แล้วนี่วันนี้น้องพิมพ์กลับยังไง พี่โอบลาไม่ใช่เหรอกลับพร้อมพี่ได้นะ พี่เคลียร์เอกสารแป๊บเดียว ใกล้เสร็จแล้ว”
ทุกคนที่แผนกก็รู้ว่าช่วงนี้เธออาศัยติดรถโอบสุขมาทำงานทุกวัน
“ไม่เป็นไรค่ะพี่เอก วันนี้พิมพ์จะแวะซื้อของก่อน เดี๋ยวไปรถไฟฟ้าได้ค่ะ”
“อ้อ งั้นโชคดี เจอกันพรุ่งนี้นะคนเก่ง”
“ค่ะ พิมพ์กลับเลยนะคะ เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ”
บอกลาเอกทัศน์แล้วเดินยิ้มออกจากแผนก วันนี้ทั้งวันจิรภักดิ์โทรหาเธอสองสาย เธอรับแล้วอ้างว่าติดงานทั้งสองครั้ง ภาวนาให้ไม่มีสายที่สามของวันก็แล้วกัน
ติ๊ง!
โทรศัพท์ยังพอเลี่ยงได้ แต่หากโผล่มาดักรอเธอที่หน้าบริษัทเหมือนวันก่อน เธอก็จนปัญญาจะหนี ต้องค่อยๆ ย่องออกจากลิฟต์อย่างระแวดระวัง กวาดสายตามองออกไปยังบริเวณลานจอดรถด้านหน้าแล้วไม่พบรถของ จิรภักดิ์จอดรออยู่จึงลอบถอนหายใจ แม้จะยังมีลานจอดรถด้านหลังแต่ถ้าก้าวพ้นจากประตูบริษัทไปได้ เธอก็รู้ทางหนีทีไล่ดีว่าใช้เส้นทางไหนหลบหลีกได้
“พิมพ์”
หัวใจของพิมพ์พัชรร่วงตุบลงไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อถูกเรียก
“คิดว่าพ้นแล้วเชียว”
รำพึงรำพันกับตัวเองแล้วกรี๊ดในใจหนึ่งทีก่อนจะหันกลับไป
“อ้าว เฮียหรอกเหรอคะ”
“อืม คิดว่าไก่เหรอ”
“ไก่? อ้อ ค่ะ” พิมพ์พัชรนึกไม่นานก็เข้าใจว่าไก่ที่เพียงคุณพูดถึงหมายถึงอะไร “เฮียมาทำอะไรแถวนี้เหรอคะ หรือว่ายัยนรินก่อเรื่องอะไรอีก”
ทุกครั้งที่เขามาดักรอ ก็มักจะเป็นเพราะมีปัญหากับนรินดาทุกทีนั่นแหละ
“ไปคุยกันที่รถเถอะ” เพียงคุณบอกสั้นๆ ก่อนจะเปิดทางให้พิมพ์พัชรเดินนำกลับไปที่รถ เธอมองเขาอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก นึกกังวลว่านรินดาต้องหาเรื่องอะไรมาให้เธออีกแล้วแน่ๆ เพราะสีหน้าของเพียงคุณดูไม่ค่อยจะเป็นปกติ
ขึ้นรถมากับเขาอย่างงงๆ เพราะมีเวลาในการตัดสินใจไม่มาก กลัวว่าจิรภักดิ์จะโผล่มาอีกคน
“สรุปว่ายัยนรินก่อเรื่องอีกแล้วเหรอคะ”
รอให้เพียงคุณขับรถออกมาสักพักเธอจึงหันไปถาม
“เปล่า”
“อ้าว ถ้าอย่างนั้นเฮียแวะมาหาพิมพ์ทำไมคะ”
“เราก่อเรื่องอะไรเอาไว้ล่ะ” เพียงคุณย้อนถามกลับ พิมพ์พัชรมุ่นคิ้วแล้วพยายามคิดทบทวน
“ก็ไม่นี่คะ”
“เมื่อวานบอกว่าจะแวะไปกินข้าวที่บ้าน น้าทิพย์ทำแกงส้มกุ้งหม้อใหญ่ แล้วเราไปกินข้าวที่ไหนกับใครมา”
ไหงกลายเป็นถูกเขาตั้งคำถามใส่ชุดใหญ่ไปได้
“พิมพ์...”
“ยัยนรินบอกเฮียหมดแล้ว”
พิมพ์พัชรอยากโทรไปกรี๊ดใส่หูนรินดาเหลือเกิน
“ยัยนรินมันบอกเฮียว่าอะไรคะ”
“ก็บอกว่าเราไปกินข้าวกับผู้ชายที่รู้จักกันผ่านแอปฯ หาคู่ แถมยังจะพาเขาไปเจอครอบครัวด้วยน่ะสิ”
โอ้โห บอกหมดจริงๆ ขายเพื่อนแบบนี้ก็ได้หรือไง
“ค่ะ”
“แค่ค่ะเหรอ ไม่คิดจะอธิบายอะไรหน่อยหรือไง”
“แล้วเฮียจะให้พิมพ์อธิบายอะไรคะ พิมพ์ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย” พิมพ์พัชรย้อนถามตรงๆ แต่เพียงคุณรู้อยู่แล้วว่าเธอจะพูดแบบนี้ เพราะเขาไม่ได้เพิ่งจะรู้จักเธอแค่วันสองวัน แต่เห็นมาตั้งแต่สมัยยังเป็นนักศึกษา ยังไม่เคยเข้าผับเข้าบาร์ด้วยซ้ำ
“ผิดที่ไม่เคารพเฮีย”
“หา!”
ใครไม่งง พิมพ์พัชรงงแล้วหนึ่ง
“ถ้าพิมพ์ยังเคารพเฮีย อย่างน้อยมีปัญหาอะไรก็ควรจะปรึกษาเฮียบ้าง ไม่ใช่คิดเองตัดสินใจเองทั้งที่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่” เพียงคุณเล่นใหญ่ใส่เสียเลย
“พิมพ์ก็แค่...” พิมพ์พัชรถึงกับอธิบายไม่ถูก จะพูดว่าไม่อยากรบกวนเขาก็เหมือนจะหมายความว่าเขาเป็นคนนอก แต่ในความเป็นจริงแล้ว นี่มันก็เป็นปัญหาส่วนตัวของเธอนี่นา
“ถ้าเกิดว่าเขาไม่ใช่คนดี พิมพ์จะทำยังไง”
“ก็...”
จะบอกว่าเป็นคนดี เธอก็ยังพูดได้ไม่เต็มปากเพราะเพิ่งจะเจอกันและพูดคุยกันแค่ครั้งเดียว
“ไม่เห็นหัวกันเลยจริงๆ”
“เฮียคะ พิมพ์ว่าเรื่องนี้...”
“หรือในสายตาพิมพ์ เฮียเป็นแค่พี่ชายเพื่อนที่ชอบทำตัวน่ารำคาญ เป็นเครื่องจับเท็จเคลื่อนที่ได้สินะ”
สองตาของพิมพ์พัชรเบิกโพลงเมื่อได้ยิน ไม่คิดว่าเขาจะรู้ว่าเธอตั้งฉายาให้เขาเอาไว้แบบนั้น
นรินดานะนรินดา เจอเมื่อไรแม่จะหยุมหัวให้!
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะเฮีย พิมพ์ก็แค่ไม่อยากรบกวนเฉยๆ ค่ะ” เธอจำเป็นต้องรีบอธิบาย เพียงคุณเหลือบมองเธอแวบหนึ่งก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
“แล้วนี่เรากำลังจะไปไหน กลับคอนโดเหรอ”
“ว่าจะไปซื้อของสักหน่อยน่ะค่ะ ว่าแต่เฮียตั้งใจแวะมาดุพิมพ์เรื่องนี้น่ะเหรอคะ”
“ก็ใช่น่ะสิ รู้ไหมว่าถ้าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับเราจะทำยังไง คราวก่อนก็ลงจากรถกลางทาง เมื่อคืนก็ยังไปกับคนแปลกหน้าสองต่อสอง นี่ถ้าเราเป็นยัยนริน เฮียจะตีให้”
เหมือนถามให้ตัวเองถูกดุซ้ำเสียอย่างนั้น
“แต่เราไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เอาเป็นว่าเดี๋ยวแวะไปซื้อของก่อนก็แล้วกัน แล้วเฮียแวะไปส่ง”
“ค่ะ” พิมพ์พัชรยิ้มกว้าง ท่าทีกระตือรือร้นขึ้นทันที
ใช่ว่าเธอไม่รู้เสียเมื่อไรว่าเขาเป็นห่วง เพราะเขาเองก็เอ็นดูเธอมาแต่ไหนแต่ไร เพียงแต่ไม่คิดว่าเขาจะตามมาถามเธอเสียละเอียดยิบขนาดนี้ ทำราวกับว่าเธอเป็นนรินดาสาขาสองอย่างไรอย่างนั้น
ไม่นานเพียงคุณก็วนรถขึ้นมาจอดที่ลานจอดรถของห้างที่อยู่ก่อนถึงคอนโดของเธอ ก่อนจะพากันเดินเข้าไปด้านใน
“แล้วนี่เราตั้งใจจะมาซื้ออะไรเป็นพิเศษรึเปล่า” เพียงคุณถามเมื่อนึกขึ้นได้
“ว่าจะมาดูเสื้อผ้าใส่กลับบ้านช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้น่ะค่ะ”
“อ้อ ที่ว่าจะพาเขาคนนั้นไปด้วยน่ะเหรอ”
“ค่ะ” พิมพ์พัชรตอบยิ้มๆ
“แน่ใจแล้วเหรอ”
“แน่ใจค่ะ ไปในฐานะคนคุย พ่อกับแม่น่าจะเข้าใจค่ะ” พิมพ์พัชพยายามคิดบวก แม้จะแอบหวั่นใจอยู่บ้างแต่อีกด้านหนึ่งก็คือเธอไม่ได้โกหก ไม่ว่าจะพ่อกับแม่ของเธอ หรือเปรมดิ์วุฒิเองก็ตาม
“พาเขามาให้เฮียดูหน่อย”
“หา?”
“ทำไม มีปัญหาอะไร เฮียจะช่วยดูๆ ให้ว่าเขาเป็นยังไง ผู้ชายด้วยกัน ยังไงก็มองกันออกมากกว่า”
“แต่ว่า...”
“หรือเราไม่ไว้ใจเฮีย”
โดนถามแบบนี้เธอก็ได้ยิ้มแห้ง รู้สึกว่าวันนี้เขาทำตัวแปลกๆ แต่ก็ยังมองไม่ออกว่าเขาคิดจะทำอะไรกันแน่เหมือนกัน
“ก็ได้ค่ะ แต่พิมพ์ไม่แน่ใจนะคะว่าเขาสะดวกไหม”
“วันนี้วันพุธ ยังมีเวลาอีกสองวัน”
หมายความว่าก่อนพาไปพบพ่อกับแม่ เธอต้องพามาให้เขาดูก่อนหรือไง นี่ตกลงเขารับบทเป็นพี่ชายจอมหวงน้องสาวอย่างเธอตั้งแต่เมื่อไรกัน