บทที่ 05 พิมพ์ของเฮีย [3]

2509 Words
บทที่ 05 พิมพ์ของเฮีย [3] “เขารู้ค่ะว่าวันนั้นพิมพ์ขึ้นรถมากับเฮีย แล้วก็รู้ความเคลื่อนไหวอื่นๆ ของพิมพ์หมดเลย เขายังบอกอีกว่าถ้าพิมพ์บอกว่าพิมพ์คบกับเฮีย ยังน่าเชื่อกว่า” พิมพ์พัชรระบายออกมาจนหมดเพราะสิ่งที่จิรภักดิ์ทำกำลังทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัย “แล้วพิมพ์คิดว่าเขาไม่รู้หรือไง” “พิมพ์...” “เฮียว่าเรื่องที่พิมพ์เข้าใจผิดเฮียเรื่องเฌอ ก็เพราะเขาใช่ไหม” พิมพ์พัชรพยักหน้าก่อนจะรีบหยิบโทรศัพท์มาเปิดรูปให้เพียงคุณดู ถึงแม้ว่าเพียงคุณจะโกรธ แต่ไม่ได้คิดจะเก็บมาใส่ใจอะไร เพราะเขาเองก็เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของพิมพ์พัชรมากกว่า “พิมพ์ขอโทษนะคะ” “ตกลงเดินเตะประตูหรือเอาหัวโขกประตู เพี้ยนเหรอ ขอโทษเฮียทำไม” “ก็พิมพ์...” “เฮียก็ผิดที่ไม่ได้อธิบายเรื่องเฌอให้พิมพ์เข้าใจตั้งแต่แรก ไหนๆ ก็ไหนแล้ว เฮียอธิบายอีกเรื่องก็แล้วกัน” “เรื่องอะไรคะ” “เรื่องที่เฌอแวะไปกินข้าวที่บ้าน วันนั้นเฌอนัดให้พี่ฌอร์ณให้แวะไปรับที่บ้านเฮียเพราะพี่ฌอร์ณไปทำธุระแถวนั้นพอดีน่ะ ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากกว่านั้น” เพียงคุณถือโอกาสอธิบายเพิ่มเติมทันที ฟุ่บ เธออายจนไม่กล้าพอจะสู้หน้าเขาก็เลยเลือกใช้วิธีกอดเพื่อหลบสายตา ทว่าคนถูกกอดแบบไม่ทันตั้งตัวกลับตกใจจนตัวแข็งทื่อ ทำอะไรไม่ถูก ยิ่งเธอเอาคางเกยไว้กลางหน้าอกแล้วเงยหน้าขึ้นมอง เขาก็ยิ่งกลัวว่าเธอจะได้ยินเสียงหัวใจของเขาที่กำลังเต้นแรง “พิมพ์ไปกินผัดไทยดีกว่าค่ะ เดี๋ยวเย็นแล้วจะไม่อร่อย” เหมือนจะเพิ่งรู้ตัวว่าสบตาเขานานเกินไปหน่อยจนใบหน้าเริ่มร้อน ตั้งใจจะผละตัวออก แต่เขาที่นั่งอึ้งอยู่ตอนแรกกลับได้สติขึ้นพอดี รีบวาดวงแขนโอบกอดเธอเอาไว้ “เฮีย” “เรียกที่รักได้รึยัง” สองตาเบิกโพลงทั้งที่ริมฝีปากกลั้นยิ้มแทบไม่ไหว “ไหนลองเรียกให้เฮียชื่นใจหน่อย” “ไม่เอาหรอกค่ะ ไม่ชิน” “เรียกบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชินเองนั่นแหละ” พิมพ์พัชรแสร้งทำหน้างอ ทั้งที่ใบหน้าของเธอแดงราวกับผลมะเขือเทศสุกแล้วตอนนี้ “ที่รักจูบหนึ่ง ไม่เรียกจูบจนกว่า...” “ที่รัก” ข้อเสนอของเขาเคยเข้าทางเธอเสียที่ไหน ต้องรีบพูดเร็วๆ จนฟังแทบไม่ทันแถมเสียงยังเบาเสียจนแทบไม่ได้ยิน “อีกรอบ” “พอแล้วค่ะ พิมพ์หิวแล้ว” “ที่รักจูบหนึ่ง ไม่เรียกจูบ...” จุ้บ! “ที่รักคะ” พิมพ์พัชรเขินจนต้องยกมือขึ้นมาปิดหน้า แต่ครั้งที่สองเสียงดังกว่าครั้งแรกนิดหน่อย เพียงคุณได้ยินชัดเจน “ยัยนรินซื้อมาห่อเดียว ที่รักจะแบ่งเฮียกินด้วยได้ไหมคะ” โอ๊ย เธอรู้สึกจักจี้หัวใจเมื่อเขาพูดจาคะขาด้วย “ค่ะ แบ่งก็ได้ ตอบแทนที่เฮียช่วยพิมพ์ทำแผล” “อย่างนั้นเฮียคงได้กินจนท้องแตกตายแน่ โอ๊ย” เพียงคุณแกล้งร้องหลังจากโดนเธอชกกล้ามที่แขนไปหนึ่งที หน้าตาเอาเรื่องของเธอน่ารักจนเขามันเขี้ยว ต้องสวมกอดเธอเอาไว้แน่นขึ้น แต่เพราะเธอไม่ทันระวัง จึงล้มหงายลงไปกับพื้นด้านหลังทั้งตัวกลายเป็นเขาล้มลงมาทับเธอเอาไว้ เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาบ้างแต่ไม่คิดว่าวันหนึ่งมันจะมาเกิดกับตัวเอง เพียงคุณดันตัวเองขึ้นในทันที ระหว่างเขากับเธอมีช่องว่างอยู่หนึ่งช่วงแขน แต่เขากลับได้ยินเสียงหัวใจของเธอดังชัดมาก เธอยังเอาแต่นอนนิ่งมองเขาตาปริบๆ ค่อยๆ หันหน้าออกด้านข้างเพราะยิ่งจ้อง เธอยิ่งรู้สึกเหมือนว่าใบหน้าของเขากำลังต่ำลงมา สายตาคู่นั้นเหมือนจะจ้องมองเธอในระยะที่ใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ จุ้บ! ขนลุกไปทั้งตัวเมื่อริมฝีปากของเขาประทับจูบที่ข้างแก้ม “พิมพ์” เสียงทุ้มๆ ติดสั่นของเขาเร้าให้หัวใจของเธอเต้นแรง ปลายจมูกโด่งๆ ที่เขาตั้งใจไล้ตั้งแต่ข้างแก้มไปจนถึงใบหูด้านข้างทำให้เธอขนลุก “เป็นของเฮียนะ” เขาจูบซับใบหูเล็กของเธอ ซุกใบหน้าหล่อเหลาลงที่ซอกคอ สูดดมกลิ่นหอมแล้วพรมจูบไม่หยุดหย่อน “ฮะ เฮียคะ” “พิมพ์ของเฮียหอมที่สุดเลย” เธอแพ้แล้ว ร่างกายของเธอเหมือนพร้อมที่จะเป็นของเขาอย่างหน้าไม่อาย เพียงคุณเงยหน้ากลับขึ้นมาสบสายตากับเธออีกครั้ง ปลายนิ้วที่ไล้ลงมาตามสันจมูกของเธอเหมือนสัญญาณบอกให้เธอพริ้มตาหลับ ทว่าเมื่อเขาลากลงไปตามริมฝีปาก กลับเป็นเป็นการสั่งให้เธอเผยอริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว “เฮียขอนะ” หัวใจของเธอแทบจะหลุดออกมาจากอก นอนลืมตามองเขาก่อนจะถูกสายตาของเขาสะกดให้พยักหน้าทั้งที่กล้าๆ กลัวๆ เธอยิ้ม เขายิ้ม สายตาสบประสานกันได้ไม่นานเขาก็ประทับจูบหวามลงบนริมฝีปากของเธอ ชายเสื้อเชิ้ตสีสุภาพของเธอถูกเขาดึงออกจากเอวกระโปรง ก่อนจะสอดมือหนาขึ้นมาจากด้านล่าง พิมพ์พัชรนอนเกร็งจนหน้าท้องแบนราบ ทว่าหน้าอกกลับแอ่นขึ้นรับสัมผัสจากเขาราวกับเป็นกลไกอัตโนมัติของร่างกาย “อื้อ” เสียงครางเปล่งออกจากริมฝีปากสีสวย เพราะเสียจนเขาต้องบีบอกนุ่มของเธอหนักมืออีกรอบ กระตุ้นให้เธอร้องอีกนิดด้วยการเขี่ยส่วนยอดขึ้นลง “อ๊ะ เฮียคะ” ร่างกายของเธอกระตุกรุนแรง เพียงคุณพรมจูบอย่างย่ามใจ ค่อยๆ ลูบฝ่ามือหนาลงด้านล่าง รูดซิปที่ด้านข้างกระโปรงของเธอลงก่อนจะใช้ปลายนิ้วเกี่ยวมันลงไปตามเรียวขาขาว จูบเธออย่างลึกซึ้งอีกครั้ง ครู่ใหญ่กว่าจะยอมละริมฝีปากออก หันกลับไปหยิบกระเป๋าสตางค์ เปิดมันออกแล้วหยิบถุงยางอนามัยออกมาคาบไว้ ภาพนั้นทำเธอหัวใจเต้นแรง ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอรู้ว่าเขากำลังถอดกางเกงและกางเกงชั้นใน ก่อนจะฉีกห่อฟอยล์ที่คาบไว้เมื่อครู่แล้วสวมมันอย่างชำนาญ “เฮียคะ” “ถ้าเราไม่ดื้อ เฮียเคยดุหรือไง” เขากระซิบบอกเบาๆ ข้างหู ก่อนจะพรมจูบทั่วกรอบหน้าหวาน ดึงมือกลับขึ้นมาลูบไล้ร่างอรชรที่เขากำลังจะได้เป็นเจ้าของ เธอนอนเกร็งไปทั้งตัว หัวใจกระตุกรุนแรงอีกครั้งเมื่อฝ่ามือของเขาดันขาของเธอให้แยกออกจากกันก่อนที่เขาจะแทรกตัวเองเข้ามา “อย่าเกร็ง” เธอจะห้ามตัวเองได้อย่างไร เพียงแค่รู้สึกว่ามือของเขากำลังสัมผัสกับส่วนสงวน ร่างกายของเธอก็เหมือนจะเครีดเกร็งไปแล้วอย่างห้ามไม่ได้ “พิมพ์ครับ” “พะ พิมพ์ อื้อออ” “อ้าขาอีกนิดเด็กดี” “อ๊ะ เฮียคะ เฮีย” เธอครวญครางไม่หยุด ร่างกายร้อนรุ่ม เคลื่อนไหวอย่างไรทิศทาง เชื่อฟังปลายนิ้วของเขาที่กำลังหยอกเย้ากับจุดอ่อนไหวจนเธอรู้สึกได้ถึงความชื้นแฉะที่กลางหว่างขา เพียงคุณตระโบมจูบเธออีกครั้งเพื่อดึงความสนใจ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเธอออกด้วยมือเพียงข้างเดียว เสี้ยววินาทีต่อมือสาบเสื้อเชิ้ตของเธอก็แยกออกจากกัน อกอวบคู่สวยปรากฏให้เขาจ้องมอง ร่างกายของพิมพ์พัชรร้อนฉ่าเมื่อรู้สึกอายสายตาของเขา เธอรีบยกมือขึ้นปิดเอาไว้แต่ได้เพียงไม่นานเพราะเขาค่อยๆ ดึงออก จับกดเอาไว้เหนือหัว “เป็นของเฮียแล้ว ก็ต้องยกให้ทั้งหมดสิ อย่าขี้โกง” เขาแกล้งว่า ก่อนจะจูบหนักๆ ที่ริมฝีปาก สอดลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากหวาน กวาดต้อนเอาอากาศในนั้นออกมาจนเธอนอนหอบหายใจ หยอกเย้ากับริมฝีปากของเธอจนพอใจเขาก็ขยับลงไปหยอกเย้ากับอกอวบ บีบหนักมือ ก่อนจะกุมมันเอาไว้แล้วครอบส่วนยอดสีสวยไว้ในโพรงปาก “อ๊ะ เฮียคะ” พิมพ์พัชรดิ้นพล่าน ความหวามหวิวในกายคือความรู้สึกแปลกใหม่ที่เธอควบคุมมันไม่ได้ ทำได้เพียงร้องเรียกเขาซ้ำๆ ทว่ายิ่งเรียกเขากลับยิ่งดูดดุนจนเธออยากหวีดร้องแต่ต้องกลั้นเอาไว้ มือข้างหนึ่งของเขายังคงสัมผัสความเปียกชื้นกลางหว่างขา แต่ไม่นานเธอก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่เขาจับมันถูขึ้นลงกลางรอยแยก “เฮียคะ อื้อ” พิมพ์พัชรกระถดตัวหนีโดยอัตโนมัติเมื่อเขาพยายามขยับเข้าใส่ แรงต้านทำให้เขาหยุดชะงัก ก่อนจะพรมจูบที่กรอบหน้าของเธออีกรอบ “นิดเดียวนะพิมพ์” “อื้อ” “อย่าเกร็งนะเด็กดี ให้เฮียนะ” เพียงคุณปลอบโยนไม่หยุดแล้วพยายามขยับอีกรอบ เธอยังนอนเกร็ง รู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของหยดน้ำตาที่ไหลออกทางหางตาก่อนจะถูกเขาจูบซับออกไปอย่างรวดเร็ว “อีกนิด” “อื้อ” เขาขยับอีกหลายครั้งกว่าจะเติมเต็มเข้ามาสุดทาง ร่างกายตึงไปหมด อึดอัดจนเธอขยับตัวไม่ไหว สักพักเขาก็ค่อยๆ ถอนตัวออก หน้าอกของเธอถูกขยำเสียจนปวดตึง แม้เธอจะรู้ว่าเขาพยายามทำช้าๆ รอจนเธอปรับตัวได้เขาจึงสบตาแล้วยิ้มให้ แต่ก็อดจะหวาดหวั่นไม่ได้อยู่ดี “เก่งมากเด็กดีของเฮีย” เธอเขินอาย ยกสองมือขึ้นกอดเขาเอาไว้อย่างในเวลาที่ไม่กล้าสู้หน้าเขา สักพักเขาก็เริ่มขยับเร็วขึ้น แม้จะทุลักทุเลอยู่บ้างแต่เธอก็รับรู้ได้ว่าเขากำลังทะนุถนอมเธอ “อีกนิดนะพิมพ์” เธอจะไม่ไหวแล้ว อีกนิดของเขากับอีกนิดของเธอไม่เท่ากัน “มะ ไม่ไหวคะ อ้า” เพียงแค่เขาเร่งจังหวะ ร่างกายของเธอก็เหมือนได้รับการปลดปล่อย กระตุกเกร็งเสียจนเขาต้องกอดเอาไว้ แต่ก็ยังขยับเอวอยู่ตลอด “พิมพ์” เสียงทุ้มต่ำของเขาทำให้เธอตื่นตัวขึ้นตามสัญชาตญาณ “พะ พิมพ์ อื้อออ” เขาสุขสมตามเธอไปติดๆ สองคนนอนกอดกันแน่นอยู่ที่พื้น ที่แม้แต่เพียงคุณก็เพิ่งจะนึกได้ว่าเขาควรอุ้มเธอไปที่เตียง ค่อยๆ ถอนตัวออกก่อนจะหันไปคว้ากระดาษทิชชูมาจัดการถุงยางอนามัยทิ้งลงถังขยะ หันกลับมาอีกทีพิมพ์พัชรก็ลุกขึ้นนั่งกอดเข่าตัวเองเสียแล้ว “เฮีย...” “พิมพ์ไม่เป็นไรค่ะ แค่รู้สึกโป๊” เธอบอกอายๆ รอยยิ้มแห้งๆ กับใบหน้าแดงๆ ของเธอยิ่งมองก็ยิ่งน่าเอ็นดู “ทำไมไม่เตือนให้เฮียพาไปนอนในห้อง หมดกัน เฮียขอโทษ” เพียงคุณบอกอย่างรู้สึกผิด แต่เธอเองก็เพิ่งนึกขึ้นได้ตอนที่เขาพูดเมื่อครู่นี้เหมือนกัน มองหน้ากันไปมองหน้ากันมาแล้วพากันหัวเราะ “จริงๆ แล้วมันควรจะดีกว่านี้นะ” เพียงคุณยังไม่หยุดบ่น เขารู้สึกเสียหน้ามากที่ไม่ให้เกียรติเธอ เขาควรใส่ใจเธอให้มากกว่านี้จริงๆ จุ๊บ! จนเธอยื่นหน้าไปจูบแก้มเบาๆ พอเขาหันมามองเธอก็ฉีกยิ้มกว้าง “ครั้งหน้าค่อยแก้ตัวใหม่แล้วกันนะคะ” ใบหน้าทะเล้นๆ ของเธอทำให้เพียงคุณมันเขี้ยวเหลือเกิน อยากจะฟัดให้หนำใจกว่านี้แต่ก็รู้ว่าสำหรับเธอมันไม่ง่ายนัก ตื๊ด~ เพราะโทรศัพท์ของพิมพ์พัชรวางอยู่บนโต๊ะ ทั้งสองคนจึงหันไปมองพร้อมกันเมื่อมันส่งเสียงดังขึ้นมา ทว่าชื่อของจิรภักดิ์ที่ปรากฏบนหน้าจอก็ทำให้พิมพ์พัชรถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย กำลังจะเอื้อมมือไปกดตัดสายทิ้งเพราะตั้งแต่ที่เธอรู้ว่าอีกฝ่ายส่งคนติดตามเธอๆ ก็ยิ่งไม่อยากจะพูดกับเขาอีกแล้ว “รับก่อน เฮียอยากรู้ว่าเขาจะพูดอะไรกับเรา” พิมพ์พัชรมองตาเพียงคุณอยู่ครู่หนึ่งเพื่อตัดสินใจ แต่ก็ยอมที่จะรับสาย เลือกเปิดลำโพงเพื่อให้เพียงคุณได้ยินไปพร้อมกัน “สวัสดีค่ะ” [กินข้าวหรือยัง พี่เพิ่งจะกลับออกมาจากโรงพยาบาล จะผ่านคอนโดพิมพ์พอดี เรา...] “กินแล้วค่ะ” [เดี๋ยวพิมพ์] พิมพ์พัชรอยากกรี๊ดใส่โทรศัพท์! [พี่มีเรื่องสำคัญจะบอก เผื่อพิมพ์จะลองทบทวนเรื่องแต่งงานกับพี่ใหม่อีกรอบน่ะ] “ไม่แต่งค่ะ ไม่ว่าจะพี่ภักดิ์จะพูดเรื่องอะไร พิมพ์ก็ไม่มีทางแต่งงานกับพี่ พิมพ์นับถือพี่มากนะคะพี่ภักดิ์ แต่พิมพ์ขอร้อง เลิกยุ่งกับพิมพ์สักที” [คุณน้าเป็นโรคหัวใจ] คำพูดเพียงไม่กี่คำของจิรภักดิ์ทำให้พิมพ์พัชรที่กำลังพูดฉอดๆ นิ่งงันในทันที [ตรวจเจอเมื่อครึ่งปีก่อน แต่คุณน้าไม่ให้พี่บอกพิมพ์เพราะไม่อยากให้พิมพ์เป็นห่วง พิมพ์คิดดูให้ดีก็แล้วกัน] ทุกอย่างรอบกายของพิมพ์พัชรคล้ายจะหยุดเคลื่อนไหว จิรภักดิ์วางสายไปแล้ว แต่คำพูดของเขายังคงติดอยู่ในหัวเธอและดังซ้ำอยู่อย่างนั้น หยดน้ำใสๆ ไหลออกจากดวงตาคู่สวยของเธอ เพียงคุณเห็นแล้วต้องรีบขยับเข้ามากอด “ใจเย็นๆ นะพิมพ์” เขาทำได้เพียงปลอบโยนและอยู่ข้างๆ เธอ “เฮียจะถามเพื่อนที่รู้จักหมอเฉพาะทางเรื่องโรคหัวใจให้อีกที ไม่ต้องกลัว” แม้นั่นจะตัวเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ใจหนึ่งเธอก็รู้ดีว่าแม่ของเธอไม่มีทางยอมง่ายๆ แน่ และนั่นคือเหตุผลที่จิรภักดิ์เอาเรื่องนี้มาขู่เธอ “แม่พิมพ์ขี้กลัวมากค่ะ ตั้งแต่พิมพ์เด็กจนโตมาถึงทุกวันนี้ น้อยครั้งมากที่แม่จะยอมไปโรงพยาบาล ไปแต่ละครั้งก็จะรักษาแต่กับหมอประจำ ซึ่งช่วงหลังเป็นคุณหมอที่พี่ภักดิ์แนะนำมาค่ะ ไม่อย่างนั้นแม่จะกลัวมากจนความดันขึ้นสูง ยากต่อการวินิจฉัยของคุณหมอท่านอื่นๆ อยู่ตลอด” เหตุผลที่พิมพ์พัชรอธิบาย ทำให้เพียงคุณกำหมัดแน่น วิธีที่จิรภักดิ์ใช้นอกจากจะผิดจรรยาบรรณแล้ว ก็ยังเห็นแก่ตัวอย่างน่าเกลียดที่สุด “ส่วนเรื่องโรคหัวใจก็คงน่าจะเป็นพี่ภักดิ์ดูแลแม่อยู่ด้วยตัวเอง” “เฮียจะลองหาวิธีดู” “พิมพ์กลัวค่ะ” “มีเฮียอยู่ ไม่ต้องกลัว” เพียงคุณปลอบเธออย่างนั้น ทั้งที่ในความรู้สึกลึกๆ แล้ว เขาเองก็กลัว...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD