EPISODE 04-01
ตรวจร่างกาย
เวลาผ่านมาอีกสองสัปดาห์ ในที่สุดก็ถึงขั้นตอนการตรวจร่างกายของแพทริคสักที ลูซิเฟอร์รอรุ่นน้องที่สนิทกันกลับมาจากต่างประเทศตั้งนาน เพราะเรื่องพันธุกรรมพิเศษในมนุษย์และการมีอยู่ของเผ่าพันธุ์อสูรครึ่งมนุษย์นั้นเป็นเรื่องลับเฉพาะ เขาจึงอยากร่วมงานกับคนที่ไว้ใจได้เท่านั้น
เช้าวันนี้ทั้งคู่จึงเตรียมตัวออกจากบ้านหลังทานมื้อเช้าในทันที วันนี้ลูซิเฟอร์ก็ขับรถพาไปเองอย่างที่ทำเป็นประจำเวลาออกไปข้างนอกกับแพทริค
แต่ถ้าตัวแพทริคต้องออกไปข้างนอกเขาจะต้องไปกับคนขับรถเท่านั้น ลูซิเฟอร์ไม่ยอมให้ขับรถออกไปข้างนอกเอง ต้องการให้มีคนตามไปดูแลเพราะกลัวว่าแพทริคจะหนี ไหน ๆ ก็ถูกประมูลมาโดยไม่เต็มใจอยู่แล้ว ห้วงความคิดที่อยากจะหนีไปจากเขาคงมีอยู่ไม่น้อยเลยเช่นกัน
ถึงอย่างนั้นเขาคงจะไม่อาจรู้ความคิดของแพทริคได้ว่าเจ้าตัวไม่มีที่ไปแล้ว ต่อให้คิดหนีก็หนีไปไหนไม่รอดเพราะไม่รู้จะไปไหน ถ้าให้พูดตามตรงปราสาทของลูซิเฟอร์ก็เหมือนที่พักอาศัยเดียวที่แพทริคอยู่ได้อย่างสงบสุขที่สุดในโลกใบนี้
“แพท อย่าก้มเล่นแต่โทรศัพท์ตอนนั่งรถสิ เดี๋ยวก็เวียนหัวหรอก”
“...”
ขณะที่ขับรถออกจากบ้านได้ครู่เดียวเท่านั้นแพทริคก็ถูกบ่นทันที แต่เขาละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ไม่ได้จริง ๆ เพราะกำลังคุยงานเกี่ยวกับเครื่องจักรอยู่
“แพท คุยกับใครนักหนา ผู้ชายหรือเปล่า? ใคร?”
“อะไรของคุณลูฟเนี่ย ผมคุยงานอยู่ครับ”
“ไหนหันหน้าจอมาให้ผมดู”
“อะ เนี่ย ก็คุยกับผู้ชายจริงแต่เป็นพี่ที่ติดต่อผลิตเครื่องจักรโรงงานไง ทำตัวเป็นตาแก่ขี้หึงไปได้นะคุณลูฟ”
“ใครหึง ผมไม่ได้หึง ผมแค่ถาม ผมจะหึงแพททำไม เราไม่ได้เป็นอะไรกันด้วยซ้ำ”
คราวนี้แพทริคชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะคว่ำหน้าจอโทรศัพท์ไว้บนหน้าตัก จู่ ๆ หัวใจก็เต้นประหลาด จังหวะการเต้นมันแผ่วลงราวกับกำลังใจหายกับคำพูดของลูซิเฟอร์ ทั้งที่มันก็เรื่องจริงทั้งนั้น
“นั่นสินะครับ นอนด้วยกันทุกวันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเป็นอะไรกันสักหน่อย ผมก็แค่ถูกขายมาให้ผลิตลูก มีหน้าที่แค่นั้นนี่นา”
“ก็...ก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นซะทีเดียวหรอก ไม่รู้สิ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”
บรรยากาศในรถเงียบสงัดมาตลอดทาง ต่างคนต่างใช้ความคิดของตัวเอง ต่างคนต่างรู้สึกไม่ดีกับบทสนทนาเมื่อครู่ แต่ต่อให้รู้สึกไม่ดีอย่างไรมันก็คือความจริง ที่ผ่านมาพวกเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งใดเลยทั้งทางกายและทางจิตใจ ก็แค่ซื้อตัวแพทริคมาเพื่อต้องการมีทายาทเท่านั้นจริง ๆ
แผนการแรกที่ลูซิเฟอร์คิดคือขอแค่มีลูกด้วยกันก็พอ จะมีลูกด้วยกันได้กี่คนก็แล้วแต่แพทริคจะทำสัญญาต่อหรือไม่ ตัวเขายินดีเลี้ยงดูอีกฝ่ายในฐานะผู้ผลิตทายาทให้ตระกูลคาร์เตอร์ แพทริคจะอยู่ในความดูแลของเขาคนเดียว แต่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับลูกด้วยหรือไม่คงต้องดูอีกที
ทว่าทั้งหมดนั่นคือความคิดก่อนที่จะได้มาใช้ชีวิตกับแพทริค พอได้อยู่ด้วยกันแล้วมันมีหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย ทั้งคู่ได้เรียนรู้กันและกันจนอยู่ร่วมกันได้ เกิดความเคยชินในการใช้ชีวิตที่ต้องมีอีกฝ่ายอยู่ด้วยกันทุกวัน ได้รู้นิสัยใจคอและปัญหาที่ต่างคนกำลังเผชิญอยู่ ทุกอย่างทำให้พวกเขาสนิทกันมากขึ้นกว่าที่คิด
ส่วนเรื่องของอนาคตก็ยากที่จะคาดเดาได้เช่นกัน ลูซิเฟอร์ไม่ได้วางแผนรองรับความเปลี่ยนแปลงใดที่จะเกิดขึ้นนอกเหนือจากที่เขาเคยคิดไว้ก่อนหน้านี้
คิดไว้แค่ว่าต้องการมีลูกเท่านั้น การมีลูกคือเป้าหมายเดียวของเขา แต่ถ้าจะให้ดูแลแพทริคต่อเขาก็ทำได้ จะดูแลในฐานะคนที่ผลิตทายาทให้ตระกูลคาร์เตอร์ ไม่ได้จะมอบสิทธิพิเศษให้เป็นพ่อของลูกอีกคนหรอก ต่อให้อุ้มท้องลูกของเขาให้ก็ตาม เพราะในสัญญาประมูลมันระบุไว้อย่างนั้น
บรรยากาศตึงเครียดภายในรถดำเนินมาจนถึงปลายทาง รถหรูเข้ามาจอดสนิทที่ลานจอดรถของศูนย์วิจัย แห่งหนึ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้านนอกมีป้ายบอกชัดเจนว่าที่แห่งนี้คือศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์ มีพื้นที่และอาณาเขตไม่ได้ใหญ่อะไรนัก
“มาเดินใกล้ ๆ ผมสิ ทำไมเดินห่างขนาดนั้น”
“คุณลูฟก็เดินนำไปสิครับ ไม่ต้องสนใจผมหรอก”
ลูซิเฟอร์ถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับมาจูงแขนแพทริคให้เดินเคียงข้างเขาไปจนถึงห้องที่ต้องตรวจร่างกาย นั่นคือห้องในสุดของชั้นที่แปด โดยที่พวกเขาก็ยังไม่คุยกันต่อสักคำ
ซึ่งชั้นนี้ก็มีคนพลุกพล่านมากเสียจนแพทริคเริ่มระแวง เขารู้สึกว่าเรื่องพันธุกรรมพิเศษของเขามันควรจะเป็นความลับ แต่ทำไมลูซิเฟอร์ถึงพามาตรวจที่คนเยอะแบบนี้
ครืดดด
ประตูกระจกถูกเลื่อนเปิด มือใหญ่ดันหลังแพทริคให้เดินเข้าไปด้านในก่อนที่เขาจะหันมาปิดประตูแล้วจัดการล็อก จากนั้นก็พาแพทริคเดินลึกเข้าไปในห้องกระจกอีกห้องหนึ่ง โดยมีหมอเจ้าของห้องนั่งอยู่ที่โต๊ะรออยู่แล้ว
“สวัสดีคู่รักข้าวใหม่ปลามัน มาตรงเวลาเป๊ะเลยนะพี่ลูฟ”
“ดะ เดี๋ยวนะ พะ พี่เจฟฟี่! พี่มาอยู่นี่ได้ไงเนี่ย!”
‘เจฟฟี่’ คือรุ่นน้องที่ลูซิเฟอร์สนิทมาก เป็นหมอที่เขาไว้ใจให้ทำงานให้ตระกูลคาร์เตอร์ แต่ลูซิเฟอร์ก็ไม่รู้ว่าเจฟฟี่รู้จักกับแพทริคด้วย
“ว่าแล้วว่าแพทต้องตกใจ ตอนพี่เห็นเอกสารแล้วเห็นชื่อแพทพี่ก็ตกใจเหมือนกัน เรารู้จักกันมาตั้งนานพี่ไม่เห็นรู้เรื่องพันธุกรรมพิเศษของแพทเลย”
“เอ่อ ก็...ใครจะไปบอกกันมั่วซั่วล่ะครับ คุณปู่ห้ามผมบอกใครนี่นา”
ลูซิเฟอร์ยกแขนขึ้นกอดอกมองทั้งสองคนคุยกันอย่างสนิทสนมด้วยความตกใจ นี่เขาไม่ต้องแนะนำตัวให้ใครรู้จักเลยอย่างนั้นหรือ ที่แท้รุ่นน้องคนสนิทก็รู้จักคนของเขาอยู่แล้วนี่เอง ถึงอย่างนั้นก็อดอยากรู้ไม่ได้จริง ๆ ว่ารู้จักกันได้อย่างไร
“เจฟกับแพทรู้จักกันได้ยังไง แล้วเจฟรู้จักแพททำไมไม่บอกกันก่อน? ไปรู้จักกันตอนไหน? เมื่อไร?”
“ผมกับแพทรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว ปู่ของเราสนิทกันมาก เราเลยได้ตามปู่ไปเล่นที่บ้านของกันและกันบ่อย ๆ แต่ช่วงหลายปีมานี้ผมกับแพทก็ไม่ค่อยได้เจอกันเลย ได้ข่าวว่าน้องไปทำงานที่ต่างประเทศ ผมเองก็ไม่ได้ติดต่อไป เพิ่งมาเจอกันอีกทีก็ตอนนี้แหละ”
“เป็นแค่พี่น้องกันใช่ไหม?”
น้ำเสียงทุ้มต่ำดูดุดันนี้ลูซิเฟอร์ชอบใช้ตอนรีดเค้นหาคำตอบอะไรสักอย่าง ซึ่งแพทริคไม่เข้าใจว่าจะทำตัวดุเพื่ออะไร
“ก็พี่น้องสิครับ ผมไม่เป็นชู้กับเมียพี่หรอก”
“งั้นก็แล้วไป”
คราวนี้เป็นแพทริคเองที่หันมาเผชิญหน้ากับร่างสูงใหญ่ เขาเท้าเอวก่อนจะพูดด้วยความหงุดหงิด
“แล้วไปอะไรกันคุณลูฟ ทำไมไม่ปฏิเสธไปว่าผมไม่ใช่เมียคุณ ไหนเมื่อกี้ยังบอกว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกันอยู่เลย เฮอะ!!”
“จะเสียงดังใส่ผมทำไม หนวกหูจริง ๆ แพทไปตรวจร่างกายได้แล้วน่า!”
มือใหญ่จับตัวแพทริคให้หันหลังเดินไปที่เตียงตรวจ ซึ่งมีเจฟฟี่เดินหัวเราะตามไปอย่างชอบใจ เขารู้จักนิสัยใจคอสองคนนี้ดีประมาณหนึ่ง พอได้เห็นน้ำมันกับไฟอยู่ด้วยกันแบบนี้จึงอดเอาใจช่วยไม่ได้ ลองนึกภาพลูซิเฟอร์กับแพทริคอยู่ด้วยกันทุกวันก็คงจะต่อปากต่อคำกันอย่างสนุกสนานน่าดู
“วันนี้ตรวจหาต่อมพันธุกรรมที่ทำให้ท้องได้ก่อนนะครับ”
“พอต้องมาคุยเรื่องแบบนี้กับพี่ ผมรู้สึกแปลกยังไงไม่รู้ ผมไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใครเลย จู่ ๆ ก็ได้พี่มาตรวจให้ผมเนี่ยนะ”
“เอาน่ะ พี่เก็บความลับเก่งนะ”
ชายเสื้อของแพทริคถูกเปิดขึ้นจนเหนือหน้าท้อง ก่อนจะชโลมเจลลงบนผิวแล้วทำการอัลตราซาวนด์ทันที
คนถูกตรวจก็ตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูกพอทนแล้ว แต่คนที่พามากลับจับจ้องที่หน้าจอแสดงผลอัลตราซาวนด์ด้วยสีหน้าจริงจังยิ่งกว่าคนถูกตรวจเสียอีก แพทริคลอบมองอีกฝ่ายจากด้านข้าง เขาเชื่อสนิทใจแล้วว่าลูซิเฟอร์อยากมีลูกมากจริง ๆ
“อย่าเงียบสิเจฟ เป็นไงบ้าง เจอต่อมพันธุกรรมอะไรนั่นไหม?”
“อืม...แปลกจัง พี่ลูฟเห็นต่อมเล็ก ๆ ตรงนี้ไหม พังผืดตรงนี้น่ะคือต่อมพันธุกรรมพิเศษของแพท แต่ต่อมมันเล็กมากเหมือนยังเติบโตไม่เต็มที่ หรือไม่ก็ไม่ได้ใช้งาน”
“แล้วแบบนี้แพทจะท้องได้ไหม?”
“มีพันธุกรรมพิเศษก็มีแนวโน้มท้องได้นั่นแหละครับ แต่ต่อมพันธุกรรมก็ต้องแข็งแรงด้วย ซึ่งตอนนี้มันเล็กจนผมก็รับปากไม่ได้ว่าจะสามารถมีลูกได้ช้าหรือเร็วแค่ไหน”
“ทำยังไงให้ต่อมมันแข็งแรงล่ะ ตรวจอย่างละเอียดได้ไหม อยากรู้ว่าต่อมพันธุกรรมยังใช้งานได้อยู่หรือเปล่า?”
“เท่าที่ผมดูความเป็นไปได้ของข้อมูลที่ผมหามา ตระกูลของตระกูลแพทในหลายร้อยปีก่อนผู้ชายทุกคนจะสามารถตั้งครรภ์ได้ แล้วจะเป็นฝ่ายรับสัมผัสจากชายอีกคน ซึ่งจะมีลูกดกหลังจากมีสัมพันธ์กันแล้วหลายครั้ง ผมเลยคิดว่าการมีเพศสัมพันธ์จะทำให้ต่อมพันธุกรรมเจริญเติบโต เหมือนยิ่งทำบ่อยก็ยิ่งพร้อมมีลูกน่ะครับ พอต่อมมันเติบโตเต็มที่ก็พร้อมต่อการขยับขยายกลายเป็นมดลูกเทียมเพื่ออุ้มท้องเด็กสักคน”
ลูซิเฟอร์กับเจฟฟี่คุยกันด้วยสีหน้าจริงจัง ต่างจากแพทริคที่นอนหน้าซีดเผือดอยู่เงียบ ๆ เพราะกลัวความแตกว่าเขานั้นไม่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับชายใดมาก่อนจึงทำให้ต่อมพันธุกรรมไม่เติบโต ซึ่งมันขัดแย้งกับเรื่องที่เขาเคยโกหกออกไปว่าเคยมีเซ็กซ์มาไม่ต่ำกว่าสี่ร้อยครั้ง
ตอนนี้ถ้าแกล้งหลับได้แพทริคคงทำไปแล้ว เขากลัวใครสักคนจะหันมาถามเรื่องความถี่ของการมีเซ็กซ์ตอนนี้เหลือเกิน อยู่ต่อหน้าหมอจะให้โกหกได้อย่างไร มันก็จำนนต่อหลักฐานตั้งแต่เห็นว่าต่อมพันธุกรรมไม่เคยถูกกระตุ้นแล้ว
“แล้วจะพาแพทมาตรวจได้อีกทีตอนหลังจากมีอะไรกันเหรอถึงจะยืนยันได้ว่าต่อมมันขยาย มันไม่มีวิธีง่ายกว่านั้นหรือไง”
“ที่จริงถ้าอยากรู้ว่าต่อมมีปฏิกิริยาตอนมีอารมณ์ไหมก็ทำได้นะครับพี่ลูฟ ลองหาสิ่งเร้าให้แพทมีอารมณ์อย่างว่าดู แล้วก็ซาวนด์ดูต่อมตอนนี้เลยว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไหม ซึ่งมันดูคร่าว ๆ ได้ประมาณนี้แหละ ถ้าจะให้ดูละเอียดว่าพร้อมต่อการมีลูกตอนไหนคงดูตอนนี้ไม่ได้ ยังไงหลังจากมีอะไรกันก็ต้องมาตรวจอีกที”
“ต้องทำให้แพทมีอารมณ์อย่างว่างั้นเหรอ ตอนนี้เนี่ยนะ จะให้ทำยังไงล่ะ?”
“เรื่องแบบนี้ต้องให้คนนอกอย่างผมบอกเหรอครับ พี่ลูฟก็ไปทำกันสองคนสิ ทุกทีเคยทำยังไงล่ะ ไปนัวเนียกันในห้องนั้นได้นะครับ นั่นห้องพักผมเอง พี่จัดการกันตามสบาย พอแพทมีอารมณ์แล้วค่อยเดินออกมาให้ผมตรวจ”
เจฟฟี่พูดออกไปตามสิ่งที่มันควรจะเป็นโดยไม่รู้เลยว่าลูซิเฟอร์กับแพทริคไม่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันเลยสักครั้ง ไม่เคยทำเรื่องที่จะเกิดอารมณ์วาบหวามเมื่ออยู่ด้วยกัน การหลับนอนของพวกเขาในทุกคืนที่ผ่านมาก็มีหมอนข้างกั้นกลางเพื่อแบ่งอาณาเขต หมาป่าตัวนี้ยังไม่เคยข้ามไปขย้ำเหยื่อเลยแม้แต่ปลายเล็บ
แต่จะให้พูดความจริงไปก็เสียเชิงชายหมด ลูซิเฟอร์ยกมือขึ้นป้องปากแล้วกระแอมไอทีหนึ่ง เขาเหลือบตามองแพทริคที่นอนหน้าเหวออยู่จึงตัดสินใจบางอย่างออกมาได้
“ให้แพทดูหนังโป๊แทนได้ไหม นอนดูมันตรงนี้แล้วก็ตรวจไปด้วย อยากเห็นว่าต่อมมันมีปฏิกิริยายังไง ฉันไม่อยากพลาดเรื่องพวกนี้แม้แต่วินาทีเดียว”
“เอ่อ มันก็ได้แหละครับ ขอแค่แพทมีอารมณ์มันก็ตรวจได้ เราแค่จะดูปฏิกิริยาของต่อมพันธุกรรมพิเศษเฉย ๆ”
แพทริคผงกหัวขึ้นมองทั้งสองคนก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย เขาอดทนฟังทั้งคู่คุยกันมานานพอแล้ว
“โทษนะ นี่ผมต้องนอนดูหนังโป๊เพื่อให้ตัวเองมีอารมณ์ต่อหน้าผู้ชายสองคนที่จ้องผมอยู่ ผมคงไม่มีอารมณ์หรอกครับ เรื่องแบบนั้นมันต้องอยู่ในที่ส่วนตัวสิ”