INTRODUCTION

3916 Words
INTRODUCTION              ภายในปราสาทขนาดใหญ่แสนหรูหรา อาณาเขตรอบนอกกว้างขวางสุดลูกหูลูกตา ที่แห่งนี้เป็นที่พักอาศัยของเผ่าหมาป่าครึ่งมนุษย์ครอบครัวหนึ่ง ถือว่าเป็นกลุ่มสุดท้ายของเผ่าพันธุ์ก็ว่าได้ พวกเขาย้ายถิ่นฐานมาอยู่ประเทศไทยเมื่อสามสิบปีก่อน เพราะสภาพอากาศในประเทศนี้ค่อนข้างอบอุ่น อีกทั้งต้นตระกูลมีที่ดินและปราสาทหลังใหญ่อยู่ที่นี่ ความเพียบพร้อมทุกอย่างเอื้ออำนวยให้ทุกคนตัดสินใจมาใช้ชีวิตในประเทศนี้อย่างไม่ลังเล และคิดว่าจะคงเผ่าพันธุ์อยู่ที่นี่อีกยาวนาน            เว้นเสียแต่ว่าเวลาผ่านมาจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีทายาทหมาป่าสายเลือดบริสุทธิ์จากครอบครัวนี้สักที นั่นหมายความว่าถ้าไม่สามารถมีทายาทได้ เผ่าพันธุ์หมาป่าครึ่งมนุษย์ก็จะสูญพันธุ์ลงที่ครอบครัวพวกเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้            ตลอดเวลาสามสิบปีที่มาอยู่ในประเทศไทย เขาก็มาเพื่อตามหาคนที่มีพันธุกรรมพิเศษที่สามารถตั้งครรภ์ลูกหมาป่า พวกเขาต้องการผู้ที่ผลิตทายาทให้ตระกูลเขาได้ โดยมีอีกตระกูลหนึ่งที่มีสิ่งที่พวกเขาตามหา ตระกูล ‘เทวะจุติภพ’ เป็นตระกูลเก่าแก่ที่มีพันธุกรรมสามารถตั้งครรภ์ให้เหล่าอสูรได้ ช่วงหลายสิบปีมานี้ไม่ใช่แค่อสูรครึ่งมนุษย์เผ่าหมาป่าเผ่าเดียวที่ต้องการมีทายาท ทุกเผ่าพันธุ์ต่างก็จับจ้องไปที่ตระกูลนี้เพื่อขอมีทายาทด้วยเช่นกัน            เขาว่ากันว่ามีทายาทคนหนึ่งในตระกูลนั้นสามารถตั้งครรภ์ได้ เพียงแต่ลองติดต่อไปเท่าไรก็ถูกปฏิเสธกลับมาทุกครั้ง บอกว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ทายาทของตระกูลช่วงร้อยปีมานี้ไม่มีใครมีพันธุกรรมพิเศษทั้งนั้น ยังเน้นย้ำอีกว่ากรรมพันธุ์เหล่านั้นได้ยุติลงไปนานแล้ว ขอให้เลิกตั้งความหวังกับตระกูลพวกเขาว่าจะสามารถตั้งครรภ์กับเหล่าอสูรได้อีก            คำปฏิเสธแสนหนักแน่นนั้นมาจากปากของผู้อาวุโสของตระกูลเทวะจุติภพเองเลยด้วย เหล่าอสูรครึ่งมนุษย์อีกหลายเผ่าพันธุ์จะทำอะไรได้นอกจากถอดใจยอมแพ้ คิดว่าหลายเผ่าคงทำใจเอาไว้แล้วว่าเผ่าพันธุ์ของตนคงจะสูญพันธุ์ในยุคนี้ไปด้วยกัน            ทว่าเรื่องราวกลับพลิกผันอีกครั้งเมื่อผู้อาวุโสคนนั้นได้เสียชีวิตลง มีข่าวแพร่สะพัดออกไปว่าในตระกูลมีคนหนึ่งที่สามารถตั้งครรภ์ได้จริง เป็นผู้ชายที่ตั้งครรภ์ได้และเป็นคนที่มีพันธุกรรมพิเศษคนเดียวที่หลงเหลืออยู่ในตระกูล ข่าวลือนี้ยังอวดอ้างอีกว่าเขาคนนั้นมีสายเลือดบริสุทธิ์ และลูกที่ออกมาจะสมบูรณ์แน่นอน ไม่ว่าเผ่าพันธุ์ใดได้ไปจะต้องพอใจ หลังจากข่าวลือถูกปล่อยออกมาเพียงสัปดาห์เดียว เหล่าอสูรทุกเผ่าพันธุ์ก็มารวมตัวกันอยู่ที่ประเทศไทย เพราะสนใจติดต่อทำสัญญาตั้งครรภ์กับตระกูลเทวะจุติภพเป็นอย่างมาก เว้นเสียแต่ว่าเรื่องราวมันไม่ง่ายขนาดนั้น ทางตระกูลขอจัดการประมูลให้แต่ละเผ่ามาแข่งขันกันเอง หากใครประมูลตัวชายผู้นั้นไปได้ในราคาสูงสุด ก็จะได้ผู้ที่มีพันธุกรรมพิเศษเพียงหนึ่งเดียวไปครอบครอง และวินาทีนี้ เขาคนนั้นที่ว่าก็กำลังนอนสลบเหมือดอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ภายในปราสาทของหมาป่าครึ่งมนุษย์อย่างตระกูล ‘คาร์เตอร์’ ที่ควักเงินประมูลเขามาได้ในราคาห้าร้อยล้านบาท เรียกได้ว่าเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก สูงเสียจนเผ่าอื่นสู้ไม่ไหว แต่ถ้าแลกกับการที่จะได้มีทายาทสืบต่อเผ่าพันธุ์ของพวกเขา เงินที่เสียไปกลับมองว่าคุ้มค่าแล้ว กึก ระหว่างที่ชายร่างสูงยังคงนอนไม่ได้สติ คนในตระกูลคาร์เตอร์ก็มานั่งล้อมเขาไว้แล้วจิบชารอไปพลาง ๆ ทั้ง ‘โซเฟีย’ และ ‘เฮนรี่’ ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน เป็นหมาป่าครึ่งมนุษย์ที่ถือว่าเป็นผู้อาวุโสสูงสุดในเผ่าพันธุ์แล้ว ถัดมายังมี ‘เลียม’ หลานชายที่ครอบครัวนี้เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กเพื่อให้เป็นเพื่อนเล่นกับลูกชาย เฮือก! จู่ ๆ ชายผู้หลับใหลไปหลายชั่วโมงก็สะดุ้งเฮือกลุกขึ้นนั่ง เขาหันมองรอบตัวพบคนสามคนนั่งถือถ้วยชาไว้ในมือ ทุกคนมองเขาเป็นตาเดียว นั่นทำให้เขายิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ “พวกคุณเป็นใครครับเนี่ย!!” นอกจากเขาจะไม่คุ้นหน้าคุ้นตาใคร ก็ยังไม่คุ้นชินกับสถานที่อีกด้วย ไม่รู้ว่าห้องโถงขนาดใหญ่ที่นั่งอยู่ตอนนี้มันคือที่ไหนกันแน่ แล้วสามคนนี้คือใคร “เธอคือแพทริคใช่ไหม?” เจ้าของชื่อพยักหน้า เพราะ ‘แพทริค’ คือชื่อของเขาจริง ๆ หลังจากนั้นชายตัวใหญ่ดูมีอายุก็ลุกเดินเข้ามาหา ก่อนจะยื่นมือข้างถนัดไปข้างหน้า “ยินดีต้อนรับสู่ตระกูลคาร์เตอร์ ฉันชื่อเฮนรี่ นี่ภรรยาของฉันชื่อโซเฟีย และนั่นหลานชายฉันเอง ชื่อเลียม” แพทริคยื่นมือไปกุมเพื่อตอบรับคำทักทาย แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจสถานการณ์อยู่ดี “ยินดีที่ได้รู้จัก ว่าแต่บอกผมทำไม แล้วผมมาทำอะไรที่นี่?” คำถามสวนกลับนี้ทำให้ทุกคนมองหน้ากันไปมา นี่เขาเสียเงินประมูลอีกฝ่ายไปห้าร้อยล้านบาทแล้วได้คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยหรือ? “เธอมีพันธุกรรมพิเศษสามารถตั้งครรภ์ลูกอสูรครึ่งมนุษย์ได้ใช่หรือเปล่า?” พูดจบเฮนรี่ก็ยื่นเอกสารการตรวจพันธุกรรมพิเศษให้เจ้าตัวดู ซึ่งมันคือของแพทริคจริง เป็นสิ่งที่เขาเก็บซ่อนมาตลอดชีวิต คุณปู่ของเขากำชับกับแพทย์ประจำตระกูลไว้แล้วว่าหัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็ห้ามเผยแพร่เรื่องนี้ แล้วใบยืนยันพันธุกรรมมาอยู่ในมือของคนพวกนี้ได้อย่างไรไม่ทราบ “พวกคุณเอามาได้ยังไง แล้วรู้ได้ยังไงว่าเป็นผม อาจไม่ใช่ผมก็ได้นี่” เอกสารยืนยันตัวตนเพิ่มเติมถูกยื่นให้แพทริคอีกครั้ง มีทั้งเอกสารในอดีตที่เขาเซ็นยอมรับพันธุกรรม และเอกสารสัญญาปกปิดเรื่องนี้กับทางแพทย์ของตระกูล ทีแรกว่าจะโวยวายว่าถูกแพทย์ในตระกูลหักหลัง แต่พออ่านสัญญาดี ๆ จึงได้รู้ว่าสัญญาลงนามเพื่อปกปิดเรื่องพันธุกรรมของเขาเป็นความลับนั้นมีอายุเพียงยี่สิบปี เทียบเวลาตอนที่เขาตรวจก็อายุห้าขวบ ผ่านมายี่สิบปีเขาก็อายุยี่สิบห้าปี ตอนนี้เขาอายุยี่สิบหกปีแล้ว เท่ากับว่าไม่มีใครทำผิดสัญญาทั้งนั้น เพียงแต่เกิดความวุ่นวายในตระกูลมากมายจนเขาหลงลืมการต่อสัญญาปกปิดส่วนนี้ไป “พวกเรารู้ว่าคุณตั้งครรภ์ให้เผ่าพันธุ์เราได้ เราต้องการมีทายาทจริง ๆ เงินที่ประมูลเธอไปห้าร้อยล้านบาทถือว่าคุ้มค่าหากคุณผลิตทายาทให้เราได้สักคน” “ว่าไงนะ ห้าร้อยล้านบาท? ประมูล? นี่คุณพูดเรื่องอะไรกันครับ?” ความจริงที่เกิดขึ้นถูกเล่าออกไปจากฝ่ายของตระกูลคาร์เตอร์โดยไม่ปิดบัง เพราะเขาได้เสียเงินประมูลและได้รับตัวแพทริคมาอย่างถูกต้อง โดยทั้งหมดนั้นมีครอบครัวคุณอาของแพทริคเป็นคนจัดการ ถือว่าเป็นตัวแทนของตระกูลเทวะจุติภพที่เข้ามาจัดการเรื่องพวกนี้ทั้งหมด ทั้งเป็นฝ่ายเสนอการประมูล ทั้งรับเงิน และเป็นคนมาส่งแพทริคที่นี่ด้วยตนเองในตอนที่แพทริคยังไม่ได้สติ วินาทีแรกที่ต้องพาแพทริคเข้ามานอนบนโซฟา ตระกูลคาร์เตอร์ก็รู้สึกได้ถึงความไม่ปกติอยู่บ้าง หากทุกอย่างราบรื่นดีทำไมถึงส่งของประมูลมาในสภาพแบบนี้ เพียงแต่ไม่คิดว่าแพทริคจะถูกคนในตระกูลหลอกลวงและลักพาตัวมาส่งมอบให้แบบนี้ ทางแพทริคก็เล่าเรื่องราวของตัวเองให้ฟังว่าเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่เคยมีใครบอกเรื่องการประมูล แล้วก็ไม่ได้เงินค่าประมูลอะไรทั้งนั้น เขาเพียงเดินทางกลับมาประเทศไทยเพื่อให้ทนายความเปิดพินัยกรรมของคุณปู่ที่เสียไปแล้วเมื่อสองเดือนก่อน ซึ่งหลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้เลย ได้สติอีกทีก็มานอนอยู่ที่นี่แล้ว อีกทั้งบนนิ้วมือข้างหนึ่งของแพทริคยังมีรอยหมึกสีดำติดอยู่อีกด้วย ชี้ชัดได้ว่าทุกอย่างที่เป็นรอยนิ้วมือบนเอกสารนั้นมาจากนิ้วมือเขาที่ถูกใครไม่รู้ปั๊มลงนามทั้งที่เขาไม่ได้สติ ถึงจะไม่ได้เต็มใจลงนามอะไรทั้งสิ้น แต่เอกสารมีลายเซ็นพยานรับรู้อีกสองคนเท่านี้ก็ถือว่าสัญญาฉบับนี้สมบูรณ์แล้ว แบบนี้แพทริคจะทำอะไรกับตัวสัญญาได้ เขาทำได้เพียงบอกเล่าความจริงผ่านปากของตัวเองเท่านั้นว่าเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย “พวกเราไม่รู้หรอกนะว่าในตระกูลของเธอมีความสัมพันธ์กันยังไง แต่ฉันเสียเงินไปแล้วฉันก็ต้องได้หลาน เธอต้องทำให้ได้แพทริค ผลิตทายาทให้พวกเราซะ” “แล้วถ้าผมไม่ยอมทำล่ะครับ?” “ในสัญญาระบุชัดเจนว่าจะถูกปรับสามเท่า ก็จะเป็นเงินหนึ่งพันห้าร้อยล้านบาทที่เธอต้องจ่ายให้พวกเรา” แพทริคได้ยินจำนวนเงินก็หงายหลังพิงพนักโซฟาทันที คำตอบมันชัดเจนอยู่แล้วว่าเขาไม่มีปัญญาจ่ายค่าปรับนั่นได้ ต่อให้ในพินัยกรรมที่คุณปู่จะยกบริษัทในต่างประเทศให้ กำไรต่อปีก็หาเงินได้ไม่ถึงค่าผิดสัญญาหรอก หรือเขาต้องยอมตั้งครรภ์จริง ๆ ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนควักเงินห้าร้อยล้านเพื่อแลกกับพันธุกรรมพิเศษที่เขามี มือเรียวยกขึ้นลูบหน้าท้องแบนราบของตัวเองด้วยความรู้สึกอธิบายยาก เขาไม่เคยมีสักเสี้ยวความคิดว่าจะได้ใช้งานพันธุกรรมพิเศษที่มีติดตัวมา แพทริคมองว่ามันเป็นจุดด้อย คิดว่าตัวเขาแปลกแยกจากคนอื่น หากเป็นไปได้เขาก็อยากเป็นคนที่มีร่างกายปกติ ไม่ต้องการความพิเศษใด ๆ ทั้งสิ้น “พวกคุณ...เป็นเผ่าไหนนะครับ?” “หมาป่าครึ่งมนุษย์” ดวงตากลมของแพทริคกวาดมองคนตรงหน้าทีละคน ตั้งแต่คู่สามีภรรยาที่ดูจะมีอำนาจที่สุด ต่อมาก็หยุดมองชายหนุ่มท่าทางขี้เล่นคนหนึ่ง ในใจคิดว่าคนนี้น่ะหรือที่จะมาย่ำยีเขาจนตั้งครรภ์ได้ ลักษณะไม่ได้แข็งกร้าวจนรับมือยากสักเท่าไร รูปร่างก็พอกัน คิดว่าคงปล้ำเขาไม่ลงด้วยซ้ำไป “หมาป่าครึ่งมนุษย์นี่มีอะไรพิเศษบ้างเหรอครับ แปลงร่างได้ไหม?” “ได้สิ เลียม แปลงร่างให้เขาดูหน่อย” สิ้นคำสั่งของเฮนรี่ ชายร่างสูงก็วางแก้วชาลงบนโต๊ะแล้วกระโจนไปบนพื้นที่ว่าง ก่อนที่ร่างกายมนุษย์จะแปรเปลี่ยนเป็นร่างหมาป่าตัวใหญ่ในชั่วพริบตา แพทริคตกใจกับสิ่งที่เห็นมาก เขานั่งอ้าปากหวอจนกระทั่งหมาป่าตัวดังกล่าวเดินเข้ามานั่งตรงหน้า ดวงตาเฉี่ยวเป็นประกายสบกันแวบหนึ่ง นั่นทำให้เขามีสติขึ้นมาได้ “ทะ ทำแบบนี้ได้เหมือนกันทุกคนไหมครับ?” “หมายถึงฉันกับภรรยาเหรอ ได้สิ แต่ไม่ทำให้ดูหรอก” เฮนรี่เดินกลับไปนั่งที่โซฟา เขามองแพทริคที่ยื่นมือไปลูบขนสีเทาอ่อนของหลานชายด้วยท่าทางกล้า ๆ กลัว ๆ พลางนึกในใจอย่างขบขันว่าแค่เลียมที่ตัวเล็กสุดในตระกูล แพทริคยังกลัวขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดว่าหากได้เจอหมาป่าตัวอื่นจะตื่นกลัวขนาดไหน “เลียม ตอนอยู่ในร่างหมาพูดได้ไหม?” หมาป่าเรียวขนสีเทาส่ายหน้าแล้วหันไปหาผู้ใหญ่เพื่อให้ตอบแทน “เลียมถ้าอยู่ในร่างนี้จะสื่อสารกับมนุษย์ไม่ได้ พลังเวทเขาอ่อน แต่คนที่มีพลังเวทแข็งแกร่งก็สามารถสื่อสารกับมนุษย์ ตอนที่อยู่ในร่างหมาป่าได้ ไว้แพทริคอยู่ด้วยกันไปนาน ๆ ก็จะรู้เรื่องพวกนี้เอง” โซเฟีย สตรีเพียงคนเดียวที่นั่งเงียบอยู่นานตอบออกมาด้วยท่าทางใจดี เธออยากให้แพทริคคุ้นชินกับชีวิตการเป็นอยู่ของที่นี่โดยเร็ว อยากจะให้สนิทกับทุกคนไว้ เธอจึงยินดีตอบในทุกข้อสงสัย “แล้ว...ปกติจะใช้ชีวิตอยู่ร่างไหนกันครับ ถ้าอยู่ในร่างหมาป่า ผมต้องคอยให้อาหารเขาไหม เขากินอะไร อาหารเม็ดหรือเนื้อสัตว์ครับ?” “กินเนื้อคน” เฮนรี่ตอบออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง คำตอบนั้นทำให้แพทริคหน้าถอดสีทันที เขาก็รักตัวกลัวตาย หากวันหนึ่งเลียมเกิดโมโหหิวขึ้นมาแล้วงับขาเขากินไปข้างหนึ่งจะทำอย่างไร เดิมทีชีวิตก็ตกอับมากพอแล้ว โดนคนในตระกูลเอามาเร่ขายให้อสูรก็น่าเจ็บช้ำพอทน ถ้ายังต้องสูญเสียขาแล้วใช้ชีวิตอยู่ในประเทศที่มีเบี้ยเลี้ยงสวัสดิการคนพิการเดือนละหนึ่งพันบาทอีก แค่คิดก็หมดแรงจะสู้ต่อแล้ว แพทริคยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ทว่าเพียงไม่กี่อึดใจสองสามีภรรยาก็หัวเราะออกมาแล้วบอกว่าหยอกเล่น โดยปกติร่างหมาป่าจะอิ่มทิพย์เองได้ เว้นเสียแต่ว่าจะเข้าฤดูออกล่า ก็จะต้องเข้าป่าไปล่าสัตว์เพื่อปลดปล่อยสัญชาตญาณตัวเอง หลังจากนั้นไม่กี่วันก็จะกลับมาใช้ชีวิตเป็นมนุษย์ปกติ แพทริคถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เขายังมีทางรักษาชีวิตได้อยู่ โชคดีที่เผ่าพันธุ์นี้ไม่ได้กินเนื้อมนุษย์ ทำให้เขายังลูบขนนุ่มสีเทาอ่อนของเลียมด้วยความสบายใจขึ้น คนที่อยู่ในร่างหมาก็เคลิบเคลิ้มจนหลบตาพริ้มเช่นกัน “มีช่วงเวลาที่พิเศษนอกจากการออกล่าไหมครับ มีอะไรที่ผมต้องปรับตัวบ้าง” “มีช่วงผสมพันธุ์ที่อาจจะยุ่งยากหน่อย หมาป่าที่ไม่มีคู่จะทรมานมากเพราะต้องการปลดปล่อย ส่วนเรื่องอื่น ๆ ถ้าอยากให้มีกฎเกณฑ์การอยู่ร่วมกัน เธอก็ลองร่างสัญญามาดูว่าต้องการอะไรบ้าง” เป็นอีกครั้งที่แพทริคหลุบตามองหมาป่าตรงหน้า เขารู้สึกว่าเลียมเป็นคนที่คุยกันง่าย ดูเข้าถึงง่ายกว่าที่คิดมาก หากได้คุยกันสองคนจริงจังอาจจะทำการล้มเลิกสัญญาก็เป็นได้ มันอาจมีวิธีอื่นที่ทำให้เผ่าพันธุ์หมาป่าครึ่งมนุษย์มีทายาทสืบต่อโดยไม่ผ่านการตั้งครรภ์จากเขา “แปลงร่างเป็นมนุษย์เถอะครับเลียม เรามีอะไรต้องคุยกันเยอะเลย” เลียมแปลงร่างเป็นมนุษย์ทันทีแต่เขาเดินกลับไปนั่งที่เดิม จากนั้นเหล่าหมาป่าครึ่งมนุษย์ตรงหน้าก็ทำจมูกฟุดฟิดแล้วหันขวับไปทางประตูพร้อมกัน “โน่น แพทริค สามีคุณมาโน่นแล้ว คุณได้หมาป่าครึ่งมนุษย์ที่หล่อที่สุดในตระกูลเลยนะ” คนที่บอกเขาแบบนี้คือเลียมนั่นเอง แพทริคตกใจอีกรอบเพราะเขาคิดว่าคนที่ระบุในสัญญาว่าจะสืบทายาทคือเลียม นั่งคุยกันตั้งนาน เห็นลายเซ็นในเอกสารเป็นภาษาอังกฤษตัวแอลตัวใหญ่จึงคิดว่าต้องเป็นเลียมแน่ อุตส่าห์มองหาจุดดีจุดด้อยจนได้มาสองสามข้อ แต่กลับไม่ใช่คนในสัญญาอย่างนั้นหรือ ไม่ใช่เขาแล้วคือใครกัน? ตึก ตึก ตึก ชายร่างสูงใหญ่เดินเข้าประตูมาก็ได้รับความสนใจจากทุกคนทันที เขามีรูปร่างสูงใหญ่ดูกำยำ มีผิวสีเข้ม เรือนผมสีเทา ดวงหน้าหล่อเหลาทรงเสน่ห์ ตาคม จมูกโด่งรั้น ปากเป็นกระจับได้รูป การแต่งตัวดูภูมิฐาน หากมองสลับกับเลียมก็รู้ได้เลยว่าชายคนนี้อายุมากกว่า เผลอ ๆ อายุมากกว่าแพทริคด้วย “นี่น่ะเหรอหมาป่าครึ่งมนุษย์ที่หล่อที่สุด?” แพทริคเอ่ยทักเมื่อชายตรงหน้าไม่ตรงสเปกเขาสักอย่าง ให้มองเทียบกับเลียมยังรู้สึกว่าเลียมน่าเข้าหากว่าเยอะ แล้วก็ไม่ชอบสายตาที่อีกฝ่ายมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างเหยียดหยันแบบนี้ด้วย “แพทริคใช่ไหม ที่จะมาผลิตทายาทให้ผม อ้อ จำไม่ได้เลย ในรูปดูดีกว่าตัวจริงนะ” เจอหน้ากันครั้งแรกก็ทักทายกันด้วยประโยคที่กวนประสาทสุด ๆ ไปเลย ต่างคนต่างเบือนหน้าหนีไปคนละทาง ความประทับใจแรกที่ทั้งคู่รู้สึกตรงกันก็คงจะเป็นความไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่แรกเห็น “คุณเฮนรี่ครับ พันห้าร้อยล้านผมทยอยผ่อนแบบตลอดชีวิตได้ไหม ผมไม่อยากทำสัญญาด้วยแล้ว นี่ผมก็โดนหลอกขายมานะครับ” “ในสัญญาระบุไว้ว่าจ่ายให้ครบในครั้งเดียวนะ” “งั้นแปลงร่างเป็นหมาแล้วมารุมกัดผมให้ตายไปเลยครับ ผมไม่ยอมท้องให้เขาแน่” “ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ ลูซิเฟอร์ลูกฉันไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร การได้เป็นคู่ครองของเขามันดีกว่าการที่ต้องหาเงินพันห้าร้อยล้านมาจ่ายเป็นไหน ๆ” “...” เป็นอีกครั้งที่ทั้งคู่สบตากัน ทว่าความรู้สึกเปลี่ยนไปจากเมื่อครู่เล็กน้อย ‘ลูซิเฟอร์’ จ้องมองผู้ที่จะมาผลิตทายาทตาเป็นมันด้วยความรู้สึกเหนือกว่า ยิ่งแพทริคแสดงความกลัวหรืออ่อนแอออกมา เขาก็ยิ่งได้ใจ ยิ่งเห็นยิ่งอยากแกล้ง อยากสร้างความปั่นป่วนให้แพทริคอีกสักหน่อย เพราะเขารู้ว่าอีกฝ่ายนั้นถังแตก อย่างไรก็หนีไม่พ้นสัญญาประมูลแน่นอน “ทำไม คุณกลัวผมเหรอแพทริค ทำตัวให้กล้าเหมือนปากหน่อยเถอะ ค่าตัวตั้งห้าร้อยล้านแต่มาใจเสาะตั้งแต่เจอกันครั้งแรก คุณทำให้ผมเสียดายเงินนะ” “ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าต้องได้มาอยู่กับเผ่าพันธุ์พวกคุณ ไม่รู้ว่าจู่ ๆ ก็ต้องอุ้มท้องให้หมาป่าครึ่งมนุษย์ ผมไม่เต็มใจทำ ผมอยากยกเลิกสัญญา!!” “ก็จ่ายมาสิพันห้าร้อยล้านบาท” “ผมยังไม่มีเงินหรอก” “งั้นก็เอาตัวมาแลก” ลูซิเฟอร์และแพทริคต่อปากต่อคำกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ต่างฝ่ายต่างหาข้อต่อรองเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบ “ผมขอเปลี่ยนคนได้ไหมครับ ผมขออยู่กับเลียมแทน” “เอ่อ ผมไม่ใช่สายเลือดบริสุทธิ์ ขอบคุณที่อยากได้ผม แต่ผมแย่งเมียพี่ตัวเองไม่ได้หรอก” เลียมยกสองมือขึ้นโบกไปเพื่อปฏิเสธ สีหน้าขี้เล่นของเขายังร่าเริงเหมือนเดิม ริมฝีปากยิ้มแย้มราวกับกำลังดูละครสนุกเรื่องหนึ่งตรงหน้า เป็นเรื่องที่พี่ของเขากำลังจะได้คนมาขึ้นเตียงด้วยแต่กลับไม่ลงรอยกันตั้งแต่ครั้งแรก ความวุ่นวายเหล่านี้มันน่าสนุกสำหรับเขา “ในตระกูลคาร์เตอร์มีสายเลือดบริสุทธิ์เหลือแค่สองคนคือผมกับพ่อ ผมต้องให้คุณเลือกไหมว่าจะท้องกับใคร” ดวงตากลมโตของแพทริคมองเฮนรี่กับลูซิเฟอร์สลับกัน ถ้าสองคนนี้คือคนที่สามารถสร้างทายาทได้แล้วใครจะเลือกเฮนรี่ที่อายุมากขนาดนั้น อีกทั้งยังมีภรรยานั่งขนาบข้างอยู่ไม่ห่าง แพทริคไม่มีทางเลือกเขาแน่ แต่พอหันมาเจอลูซิเฟอร์ที่ทำหน้ากวนประสาทเขาก็ไม่อยากเลือกเช่นกัน “แล้ว...ทำไมคุณเฮนรี่กับคุณโซเฟียไม่มีทายาทกันเองล่ะครับ ในเมื่อคุณทำได้นี่” “ฉันแก่แล้ว เชื้อของฉันไม่แข็งแรงในอายุเท่านี้ ภรรยาของฉันก็อายุเกินกว่าจะมีลูกได้” บรรยากาศเงียบลงอีกครั้งเมื่อแพทริคมาถึงทางตัน เหมือนเขาจะไม่เหลือทางเลือกใดเลย อย่างไรก็ต้องทำตามสัญญาให้สำเร็จด้วยการตั้งครรภ์ให้ลูซิเฟอร์อย่างนั้นหรือ แค่คิดว่ากำลังถูกอีกฝ่ายคร่อมอยู่ด้านบนก็ขนลุกเกรียวไปทั้งตัวแล้ว “เอาละ ดูทั้งคู่จะเข้ากันได้ดี งั้นเราไปกันดีกว่า ปล่อยให้สามีภรรยาเขาได้คุยกัน” โซเฟียลุกขึ้นยืนพร้อมกล่าวลา ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวเท้าออกไปก็ถูกแพทริครั้งไว้ด้วยน้ำเสียงแผ่วลงเหมือนคนไร้ทางออก “สามีภรรยาอะไรครับ ขนลุกชะมัด ผมแค่ต้องผลิตทายาทให้ไม่ได้จะมาเป็นภรรยาเขาสักหน่อย ที่จริงแค่ใช้น้ำเชื้อเขามาฉีดเข้าตัวผมก็น่าจะได้แล้ว ไม่ต้องมีสัมพันธ์ลึกซึ้งหรอก” “ไม่มีทาง ผมต้องการเสพสมความรู้สึกในการมีลูก ทุกกระบวนการผมต้องการให้มันเป็นไปตามธรรมชาติที่สุด แล้วมันจะเกิดจากความตั้งใจของผมทั้งสิ้น” คราวนี้ลูซิเฟอร์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาต้องการมีลูกจริง ๆ ไม่ว่าเรื่องตอนนี้จะเกิดขึ้นจากความเต็มใจของแพทริคหรือไม่เขาก็ไม่สนใจ เขาถือว่าเสียเงินซื้อตัวผู้ผลิตทายาทมาแล้ว หลังจากนี้ก็แค่เรียนรู้กันและกันจนกว่าจะมีลูก เขาจะตั้งใจทำทุกกระบวนการโดยไม่ละเลยไปสักขั้นตอนเด็ดขาด “หมายความว่าไง คุณจะปล้ำผมหรือไง ปล้ำลงเหรอครับดูเกลียดขี้หน้าผมขนาดนี้” “ลองดูไหม?” “...” แพทริคเม้มปากแน่น เขาไม่กล้าท้าทายต่อเพราะกลัวสิ่งที่ท้าทายมันจะเกิดขึ้นจริง และวินาทีนี้เขาเพิ่งรู้ว่าคนอื่นหายไปหมดแล้ว ไม่รู้เลยว่าเดินออกไปตอนไหน มัวแต่จ้องหน้าและเถียงกับลูซิเฟอร์จนลืมสนใจคนรอบข้างไปเลย “เด็กน้อย เลิกดิ้นรนที่จะหนีได้แล้ว ยังไงก็หนีผมไม่พ้นหรอก พวกเราใช้เวลาสามสิบปีเพื่อตามหาคุณ ผมเสียเงินไปแล้วก็ต้องเอาให้คุ้มสิ” “เอาให้คุ้ม? เอาอะไร อย่ามาทะลึ่งกับผมนะ แล้วใครเด็กน้อยครับผมไม่ใช่เด็กนะ ผมอายุยี่สิบหกแล้ว” “แต่ผมอายุสามสิบหก ยังไงก็อายุมากกว่าสิบปี” “หมาแก่เอ๊ย” ประโยคนี้แพทริคก้มหน้าแล้วพูดเบา ๆ โดยไม่คิดว่าลูซิเฟอร์จะได้ยิน แต่ด้วยสัญชาตญาณสัตว์ป่าของเขานั้นมีประสาทหูที่ไว ทำให้ได้ยินคำพูดเมื่อครู่แม้จะแผ่วเบาแค่ไหนก็ตาม ซึ่งหลังจากได้ยินเขาก็ตอบกลับไปด้วยการพูดเบา ๆ เช่นกัน “เด็กเวร” หลังจากก่นด่ากันและกันเสร็จต่างฝ่ายก็ต่างเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้กันอย่างเสแสร้ง รู้สึกหนักอกหนักใจพอสมควรที่ต้องอยู่ร่วมกันไปจนกว่าจะมีทายาท กว่าจะถึงวันนั้นเขารู้ว่ามันคงไม่มีอะไรราบรื่นอย่างที่คิด ขออย่างเดียวว่าอย่าทะเลาะกันจนฆ่ากันตายก่อนก็พอ อย่างไรตระกูลคาร์เตอร์ก็ต้องมีทายาทสายเลือดบริสุทธิ์เพื่อสืบต่อเผ่าพันธุ์ให้ได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD