ตอนที่ 7 : รวบหัวรวบหาง NC

2527 Words
7 เสียงใบไม้ปลิวพริ้วไสวลู่ตามสายลมโชยอ่อนหอบนำกลิ่นหอมอ่อนของมวลหมู่บุปผาซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่เบ่งบานเฉพาะในยามค่ำคืนตลบอบอวลทั่วอาณาเขต ละอองไอน้ำหนาแน่นบดบังทัศนียภาพด้านหลังแต่กลับเผยให้เห็นเค้าโครงเรือนกายเปลือยเปล่าสองร่างเกี่ยวกระหวัดกันแนบแน่นไม่ท่วงท่าวาบหวาม หลังจากเมื่อครู่ฝ่าเท้าแน่งน้อยพยายามยันเตะถีบหน้าท้องแกร่งอย่างแรง ก่อนจะลุกพรวดพราดหมายจะไปคว้าอาภรณ์มาปกปิดเรือนร่างแต่มีหรือที่ใต้หล้าจะยินยอม ท่อนแขนกำยำคว้าหมับเข้าที่เอวคอดกิ่วปิดทางหนีทีไล่อีกครั้ง “จะไปไหนเรื่องระหว่างเรามันเสร็จแล้วหรอ” “ไม่มีเรื่องระหว่างเรา นี่มันเรื่องของเอ็งที่ทำหน้าหนามาหาเศษหาเลยกับข้าชัดๆ กับสัตว์เลี้ยงของตัวเองยังมีอารมณ์ เหลือจะเชื่อ!” พลับพลึงถอนหายใจพรืดยาว ชายหนุ่มผู้มีรูปลักษณ์ภายนอกเคร่งขรึมเย็นชายามเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงกลับหยาบโลนจนนางหน้าแดงเรื่อร้อนผ่าว ให้เขายืนนิ่งเป็นตอไม้นางยังจะคุ้นชินเสียกว่ายินยอมให้เขาบีบคั้นหลอกล่อหลอกถามในเรื่องอย่างว่าขณะที่ช่วงล่างยังถูกเขาลวนลาม... แผ่นหลังนวลเนียนเกลี้ยงเกลานุ่มนิ่มดุจแพรไหมถูกกดให้แนบต่ำนอนลงบนกางเกงนอนผืนบาง ซึ่งถูกเขานำมาปูพรมบนหญ้านุ่มอีกครั้ง หลังจากนางพยายามดิ้นรนหลบหนีทันทีที่ปลายนิ้วสากสุดร้ายกาจสำรวจพื้นที่เนื้อนุ่มสุดอันตรายของนาง ความเย็นเยียบทำให้ร่างเล็กสะดุ้งโหยงตื่นตระหนก ท่าทีไร้เดียงสาทำให้เขาอยากจะจับนางแล้วรังแกแรงๆ หลายๆ ที ให้สาสมกับที่นางปั่นหัวทำให้เขาสับสน แววตาลุกโชนเปล่งประกายจ้องพลับพลึงไม่ยอมละสายตา ริมฝีปากอิ่มเอิบสีแดงมันวาวล่อตาล่อใจชวนให้ผู้พบเห็นอยากข่มเหงรังแก อยากจะปราบพยศแล้วลูบขนตามลำตัวที่ชี้พองของนางให้ลู่ลง “พลับพลึงอย่าทำหน้าตาแบบนี้ให้ผู้ใดเห็นอีกนะ นอกจากข้าผู้เดียว” ชายหนุ่มหลุบสายตาลง สีหน้าท่าทางดูรวดร้าวและทรมานเกินจะทานทน “ทำไม...” หญิงสาวโพล่งปากถาม ก่อนจะรู้ตัวแล้วรีบยกมือปิดปากแน่น จะไปขานตอบบุรุษผู้นี้ไปไย! “มันน่ารังแก ข้ากลัวว่าผู้อื่นจะอยากรังแกเอ็งเหมือนข้าน่ะสิ” น้ำเสียงแหบพร่าพูดคลุมเคลือ ดวงตาเป็นประกายปรือตามองความสวยสดงดงามใต้อาณัติ นางช่างน่าลุ่มหลงมัวเมาจนยากถอนตัว “......” เจ้าบัดซบ น่ารังแกบ้านเอ็งน่ะสิ! ในขณะที่หญิงสาวกำลังก่นด่าความขบถหยาบคายและป่าเถื่อนของเขาอยู่ภายในใจ คนมากเล่ห์จึงโถมร่างกำยำล่ำสันทาบทับร่างเล็กคลอเคลียเนื้อเนียนตั้งแต่ซอกคอจรดทรวงอกอวบอิ่มอีกครั้ง ริมฝีปากหนาครอบครองปลายยอดถันครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับเด็กน้อยเห่อของเล่นใหม่ ความเป็นชายดุนดันขาอ่อนจนแดงเผือด “เนื้อตัวเอ็งนุ่มนิ่มมีรสหวานเต็มไปหมด” ใต้หล้าพึมพำ ขณะใบหน้าหล่อเหลาคมคายก้มหน้าซุกทรวงอกอิ่มเต่งตึงสลับซ้ายขวาไม่ให้ข้างใดข้างหนึ่งน้อยหน้ากว่ากัน “ข้าทรมานพลับพลึง” “......” หญิงสาวสมองมึนเบลอได้ยินคำพูดแต่จับใจความสำคัญที่เขาพึมพำงึมงำอยู่คนเดียวไม่ได้ อะไรหวาน หวานสักอย่าง ฝ่ามือร้อนกอบกุมเนินเนื้ออวบอูมชมพูเรื่อพร้อมรุกรานช่องแคบอันตอดรัดด้วยนิ้วมือสุดร้ายกาจ ขยับเข้าออกเร่งผ่อนความเร็วประหนึ่งต้องการหยอกเย้าให้นางอ่อนระทวยไร้สิ้นเรี่ยวแรงในวงแขน หยาดน้ำหวานฉ่ำใสเอ่อล้นทะลักออกมาเปรอะเปื้อนเต็มหว่างขาขาว หากจะบอกว่านางไม่รู้สึกอะไรก็คงจะเป็นการตบหน้าตนเองฉาดใหญ่ “ข้าบอกว่าอย่าแตะต้องส่วนนั้น!” พลับพลึงขีดเส้นใต้ไม่ให้เขาล่วงล้ำเกินขอบเขต แค่นี้นางก็แทบไม่หลงเหลือความบริสุทธิ์ผุดผ่องแล้ว ขืนยังปล่อยให้เขากระทำตามใจมีหวังเรื่องราวคงเลยเถิดกู้ไม่กลับ “ยังจะมาหวงความบริสุทธิ์กับข้าอยู่อีก” ใต้หล้าพูดเสียงแข็ง ยิ่งนางออกอาการต่อต้านเขาก็ยิ่งเร่งความเร็วของนิ้วขยับเข้าออกจนสุ้มเสียงของนางสั่นเคลือเจือสะอื้นเล็กน้อย “พูดมาสิว่าไม่ชอบแล้วข้าจะหยุด” “ขะ...ข้าไม่ชอบ” “แน่ใจ?” “เมื่อครู่ข้าถามว่าดีไหมทำไมไม่ตอบแต่ดูเหมือนร่างกายเอ็งจะชอบนิ้วข้าไม่เบาเลยนะถึงได้เฉอะแฉะขนาดนี้” ชายหนุ่มคาดคั้นหาคำตอบ แม้ว่าคำตอบที่เขาต้องการจะแฉะชื้นเต็มฝ่ามือประจักษ์สู่สายตาดำขลับวาววับ เขาอยากจะได้ยินเสียงหวานหยาดเยิ้มเอื้อนเอ่ยพูดคุยในขณะที่พวกเขากำลังแนบชิดสนิททางกายกันอย่างแนบแน่น “......” พลับพลึงขบเม้มริมฝีปากสั่นระริกไม่ให้เปล่งเสียงครวญครางอันน่าอับอาย ดวงตาใสกระจ่างเคล้อคลอด้วยหยาดน้ำตากลิ้งกลอกดุจไข่มุกเม็ดงามเหลือบมองลูกกระเดือกบนลำคอแกร่งที่มักจะขยับเขยื้อนขึ้นลง ข่มความปรารถนาอันแรงกล้าไม่ให้บ้าระห่ำจนเผลอทำลายความทรงจำระหว่างชายหญิงครั้งแรกของนาง เขาอยากจะตะล่อมให้นางดื่มด่ำไปความสุขที่เขาปรนเปรอจนลืมความเจ็บปวดทางกายที่นางจะต้องเจอในครั้งแรก ลมหายใจอุ่นร้อนสะดุดติดขัดเป็นเหตุมาจากอารมณ์แห่งความเสน่หาพวยพุ่งจนร้อนรุ่มทั่วเรือนร่างหยาดเยิ้ม “ข้าถาม” น้ำเสียงแหบพร่าทุ้มลึกแฝงไว้ซึ่งความอันตราย นิ้วสากกร้านผละออกมาจากร่องรักคับแคบก่อนจะจรดปลายนิ้วฉ่ำน้ำส่งเข้าปากดูดกลืนหยาดน้ำหวานเหนียวหนืดบนปลายนิ้วอย่างดูดดื่มหื่นกระหาย “อะ...เอ็งจะเอายังไงกันแน่” หญิงสาวอ่อนระทวย ปรือสายตากระจ่างใสมองกระทำอาจหาญของเขาอย่างไม่เข้าใจ เขาไม่รู้สึกรังเกียจสิ่งของนั่นถึงขั้นกล้าดูดกลืนทำราวกับว่าสิ่งเหลวนั่นคือของหวานชั้นเลิศ “ลึกกว่านี้หรือจะเปลี่ยนเป็นสิ่งอื่นที่เข้าออกร่องนี้แทน?” “อย่ามาเล่นลิ้น!” พลับพลึงฝืนเรี่ยวแรงตวาดใส่ชายหนุ่ม เขาทำนางอับอายขายขี้หน้าจนอยากจะมุดหน้าแทรกแผ่นดิน ความเย่อหยิ่งจองหองดูไร้ค่ายามต่อกรกับบุรุษที่แสร้งทำตัวไม่รู้ความ “อ๋อ จะเอาลงลิ้น อืม...ไม่มีปัญหาเก็บเสียงครวญครางของเอ็งเอาไว้ให้ดีล่ะ” รอยยิ้มเหลือร้ายประดับประดาบนใบหน้าคมคร้ามแวบหนึ่ง สำหรับพลับพลึงแล้วรอยยิ้มนี้เปรียบเสมือนประตูนรกกำลังเปิดอ้าแล้วกวักมือเรียกให้หลงเข้าไป เรียวขาขาวถูกจับแยกห่างในองศาที่พอเหมาะพอดี เรือนกายกำยำเบียดเสียดจดจ่อใบหน้าหล่อเหลาเข้ากับส่วนอ่อนไหวที่สุดในเรือนร่างหยาดเยิ้ม เนินเนื้ออวบอูมกลีบบุปผาเผยออ้าออกเล็กน้อยจากการถูกรุกรานบุกรุก ติ่งเกสรเต่งตึงชูชันแดงแจ๋ แม้แต่ส่วนกลางลำตัวยังล่อลวงใจเขาจนสั่นสะท้าน ลิ้นร้อนโลมเลียติ่งเกสรสลับดูดดุนและขบเม้ม ความเสียวซ่านเป็นอารมณ์แปลกใหม่สำหรับพลับพลึงนางพยายามกระถดสะโพกกลมกลึงหลีกหนีสัมผัสร้อนดุดัน “กรี๊ดดด!” “อุ้บ!” ฝ่ามือหนาหยาบกร้านประกบปิดริมฝีปากอิ่มเอิบแน่น ทำให้นางไม่สามารถส่งเสียงร้องขอความเห็นใจใดๆ ได้อีกยามเขาปรนเปรอบทรักแสนซาบซ่าน นางทำได้เพียงซึมซับและเรียนรู้ในคราวเดียวกัน ปลายลิ้นสากหนาโลมเลียผิวเนื้ออวบอูมละเลียดชิมกลีบบุปผาหอมหวน จรดสอดแทรกเข้าตักตวงหยาดน้ำหวานภายในร่องรักคับแคบและรัดรึงจนเขาอยากจะกระโจนมอบความวาบหวามให้นางเสียตอนนี้ จังหวะขยับโคนลิ้นเข้าออกไม่เร่งรีบเหมือนยามใช้ปลายนิ้วชี้และนิ้วกลางสอดเข้าออก เขาใช้ความช่ำชองปลุกเร้าอารมณ์หญิงสาวให้นางมีอารมณ์ร่วมกับเขาให้ได้มากที่สุด กลิ่นกายสาวแรกแย้มหอมกรุ่นจนเขาซุกใบหน้าแนบเนินเนื้ออวบอูม เสียงครวญครางที่พยายามกักเก็บไม่ยอมปริเสียงดังผะแผ่ว “อะ...อื้อ” “อ่า” “ตะ…ใต้หล้า” สายตาคมคายเห็นความพรั่งพร้อมในร่องรักเจิ่งนองไม่ต่างอะไรจากทำนบกั้นน้ำพังทลาย ฝ่ามือประคองลูบไล้แก่นกายตัวเขื่องอุณหภูมิเดือดพล่านสูงลิบที่คอยผงกหัวรอคอยการปลดปล่อย ร่างสูงโปร่งจัดแจงท่วงท่าให้ถนัดถนี่ต่อการรุกล้ำอาณาเขตส่วนตัวของหญิงสาวเป็นครั้งแรก ระหว่างที่ฝ่ามือกำลังประคองแก่นกายตัวเขื่องตัวเต็มวัยรายล้อมด้วยเส้นเลือดนูนปูดน่าหวาดเสียวถูไถปากทางขึ้นลงสลับเข้าออกเล็กน้อย “ข้าจะทำเอ็งเจ็บครั้งนี้แค่ครั้งเดียว ข้าสัญญา” ใต้หล้าขบกรามแน่น พยายามฝืนแรงดูดกลืนไม่ให้ล่อลวงตัวเขาโถมเข้าหาพลับพลึงจนทิ้งร่องรอยบาดแผลในใจให้นาง มิเช่นนั้นหากจะขอให้นางร่วมมือเป็นครั้งที่สองคงยากกว่าครั้งแรกเป็นแน่แท้ “สัญญาว่าจะทำแค่ครั้งเดียว” เสียงอ่อนระทวยเอ่ยถามอย่างมีหวัง นางรู้ตัวดีว่าคืนนี้ยังไงก็ไม่มีทางรอดพ้นจากเงื้อมมือเขา รีบทำให้มันเสร็จแล้วรีบจบๆ จะได้รีบเข้านอน พรุ่งนี้จะได้ตั้งกฎเกณฑ์ใหม่ว่าแต่นี้ต่อไปให้รักษาระยะห่างและห้ามแตะเนื้อต้องตัวนางอีก ความคิดของเขาและนางเรียกได้ว่าไปคนละทาง ขณะที่อีกคนใฝ่ฝันถึงการนอนแนบชิดสนิทสนมอีกหลายครั้ง ส่วนอีกคนแทบจะอยากเอาไม้มาวัดขีดเขียนเครื่องหมายห้ามเข้าใกล้ในระยะกี่ซุนก็ว่ากันไป “ข้าสัญญาว่าเอ็งจะเจ็บแค่ครั้งเดียวต่างหากเล่า” “......” ไม่รีรอให้นางด่าทอทุบตี สะโพกแกร่งกดกระแทกเบียดเสียดความเป็นชายเข้าสู่ภายในร่องรักอันคับแคบและตอดรัดจนชายหนุ่มหน้านิ่วคิ้วขมวด ความรู้สึกเจ็บแปลบราวกับร่างทั้งร่างถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ทั้งแสบร้อนและอึดอันทรมานเกินจะทานทน “ข้ากำลังเข้าไปแล้วนะ” “ตะ...ใต้หล้าข้าเจ็บ” หญิงสาวเอ่ยเสียงสั่นเครือเจือสะอื้นไห้แผ่วเบา “ข้าหยุดให้เอ็งปรับตัวก่อน คืนนี้เราไม่รีบ” มือหยาบกร้านร้ายกาจร้อนผ่าวกดสะโพกกลมกลึงไม่ให้ขยับเขยื้อนหรือยั่วยุอารมณ์พลุ่งพล่านของเขาให้บ้าระห่ำ ชายหนุ่มโถมกายจุมพิตทั่วดวงหน้างามหยาดเยิ้มราวกับต้องการปลอบประโลมหญิงสาวให้คลายจากความเจ็บปวดทุกข์ทนทรมาน ความอวบยาวรุกรานเข้ามาภายในอย่างร้ายกาจ ทำลายเยื่อพรมจรรย์ที่หญิงสาวสู้อุตส่าห์เก็บรักษามาเป็นอย่างดีภายในพริบตาเดียว ยามมันสัมผัสได้ถึงหยาดโลหิตกลิ่นอายบริสุทธิ์เส้นเลือดนูนปูดรายล้อมความเป็นชายเต้นตุบๆ ไม่รู้ว่ามันปลาบปลื้มหรือตื่นเต้นกันแน่ ร่องรักตอดรัดจนใต้หล้าแทบจะสะกดข่มความป่าเถื่อนเอาไว้ไม่ไหวจึงคอยขยับสะโพกเข้าออกแผ่วเบา ดวงตาใสกระจ่างปรากฎหยาดน้ำตาสีใสหลั่งรินบริเวณหางตา สองมือจิกเล็บเข้ากับหัวไหล่หนาเพื่อบรรเทาและระบายความคับข้องหมองใจที่ได้รับ ความเจ็บปวดเป็นราคาที่ต้องจ่ายสำหรับเรียนรู้ความสัมพันธ์ทางกายระหว่างชายและหญิง แต่นางก็ไม่รู้ว่ามันจะเจ็บถึงขั้นหลั่งรินหยาดน้ำตา “ไม่ต้องร้อง ถ้าเจ็บตีข้าก็ได้ เจ็บแค่ครั้งแรกครั้งต่อๆ ไปก็จะดีเอง” ใต้หล้าหว่านล้อมหญิงสาว มือสากปาดเช็ดหยาดน้ำตาให้นางเบามือ “หุบปาก!” พลับพลึงตวาดหัวเสีย “อีกหน่อยก็จะดีเองไม่เชื่อข้าหรือ” “......” หญิงสาวเบนหน้าหนี นางไม่อยากพูดคุยเรื่องไร้สาระกับเขาอีกและไม่มีทางเชื่อคำพูดของเขาอีกเป็นอันขาด “เอ็งไม่เชื่อแต่ข้าจะทำให้เอ็งเห็นว่าข้าไม่ได้พูดไปงั้น อดทนเอาหน่อยครั้งแรกเจ็บมากเท่าไหร่ครั้งต่อไปก็จะสบายมากเท่านั้น” ริมฝีปากเฉียบคลอเคลียทรวงอกอิ่มไม่ห่าง เขาดูดกลืนยอดปลายถันสีชมพูระเรื่อเล้าโลมจนร่องรักปลดปล่อยหยาดน้ำหวานเคลือบแก่นกายตัวเขื่อง เปิดช่องทางการรุกรานให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น “ปกติเอ็งไม่ใช่คนพูดมากนะหุบปากไปได้แล้ว” พลับพลึงแย้ง น้ำเสียงอ่อนระโหยโรยแรงคล้ายกำลังออดอ้อนเชื้อเชิญให้เขาฝากฝังร่างกายหล่อหลวมผสานรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน “นั่นปกติแต่ตอนนี้ไม่ปกติ ลูกชายข้ากำลังเข้าไปหยอกลูกสาวเอ็งอยู่ลืมไปแล้วหรือ มิหนำซ้ำลูกสาวเอ็งรัดตอดลูกชายข้าแรงมาก” ว่าแล้วสะโพกแกร่งฉวยโอกาสกดกระแทกความเป็นชายสู่เนินเนื้ออวบอูมเต็มรัก บริเวณท้องน้อยเผยร่องรอยรุกรานเป็นทางยาว ขณะใต้หล้าขยับเข้าออกรุนแรงและหนักหน่วง ความเสียวซ่านถาโถมพวกเขาทั้งสองจนร่างสั่นระริก พลับพลึงถูกจู่โจมทั้งช่วงบนและช่วงล่างไม่มีสัดส่วนหยาดเยิ้มใดที่ถูกละเลยแม้แต่น้อย แต่กระนั้นความบ้าคลั่งและบ้าระห่ำยังไม่สิ้นสุด ริมฝีปากอิ่มเอิบมันวาวเป็นประกายราวกับเกล็ดน้ำค้างในยามเช้าถูกประกบจูบดูดดื่มจนบวมเป่งแดงเรื่อเหมือนลูกตำลึงสุกงอม ช่างน่าลุ่มหลงและเย้ายวนจนเขาเผลอไผลมอบจุมพิตหนักหน่วงติดกันอีกสองสามที ลิ้นร้อนพยายามเปิดปากเล็กก่อนจะไล่เลียคว้านหาความนุ่มนิ่มชุ่มฉ่ำภายในโพรงปากเล็กแสนหวาน ฝ่ามือหนักบีบเคล้นทรวงอกอิ่มจนล้นมือ กระทั่งเนื้อนุ่มหยุ่นล้นทะลักออกมาทางง่ามมือนิ้วมือ นิ้วโป้งและนิ้วชี้ไกล่เกลี่ยยอดปถุมถันจนร่างเล็กสั่นระริกเสียวซ่านแอ่นอกเข้าหาฝ่ามือร้อน ตลอดไปจนถึงเอวเล็กคอดกิ่วถูกเขาขบเม้มลูบไล้กอบโกยความนิ่มลื่น “อื้อ!” “เบาหน่อย...” หญิงสาวสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ ริมฝีปากร้องห้ามสั่นระริก “อืม” “อย่ากัดมันเจ็บ” “อืม” เสียงเนินเนื้อกระทบกระทั่งกันจนหยาดน้ำหวานเซ็นกระซ่านเปรอะเปื้อนหน้าขากำยำจรดใต้สะโพกกลมกลึง เสียงคำรามครางต่ำดังถี่รัวข้างใบหูเล็ก ขณะเสียงครางหวานหยาดเยิ้มดังผะแผ่วเคล้าคลอเสียงหมุนวนของเกลียวคลื่นภายในบ่อน้ำพุร้อน แก่นกายตัวเขื่องร้อนระอุกดกระแทกขยับเข้าสุดออกสุดทุกการเคลื่อนไหวเสียวสะท้านจนหญิงสาวต้องโผเข้าหาอ้อมกอดแข็งกร้าว ใช้ไออุ่นจากเขาปลอมประโลมเรียวขาสั่นระริกจากการรุกรานอันเนิ่นนานและดุเดือดร้อนแรง หญิงสาวทั้งเจ็บปวดแสบสันระคนวาบหวามหวาดเสียวจนเผลอขบกัดตามหัวไหล่กำยำทิ้งร่องรอยบาดแผลน้อยใหญ่มากมาย “พลับพลึง...” เสียงทุ้มนุ่มลึกเอื้อนเอ่ย “หืม” พลับพลึงสะลึมสะลือขานตอบ “ข้ารู้สึกทรมานเหลือเกิน เอ็งทรมานข้าจนข้าแทบจะแหลกลาญผลายกลายเป็นผุยผงต่อหน้าเอ็ง” เขากระเซ้าเย้าแหย่หวังให้นางขวยเขินหน้าแดง “เช่นนั้นก็แหลกลาญตามสบาย” นางตอบ “ไม่คิดประจบหลอกดื่มกินแล้วหรือ” “นี่ข้าก็ใช้ร่างกายจ่ายแทนล่วงหน้าไม่ใช่หรือ” “......” “อย่ามาขอร้องอ้อนวอนข้าทีหลังก็แล้วกัน!” “อื้อ!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD