ความเจ็บอันหอมหวาน
ความเจ็บปวดของทาสสวาทเสมือนดั่งอาหารหวานที่ทำให้เขารู้สึกอิ่มเอมในรสชาติกำหนัดอย่างบอกไม่ถูกทีเดียว ยามเสียงครวญกระสันซ่านส่งผ่านลำคอระหงแล้วถูกปลดปล่อยออกมาจากริมฝีปากสีแดงเรื่อที่เปิดอ้าควานหาออกซิเจนอย่างกระหายใคร่ มันช่างเป็นภาพที่กระตุ้นอารมณ์และจิตวิญญาณได้อย่างกลมกล่อมหอมหวน...
หากการสอดใส่เข้าไปในร่างกายของหญิงสาวแล้วกระชากวิญญาณของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเกิดการหลั่งนองไหลเยิ้มหยด คือความสุขแสนซ่านอันท่วมท้นที่ชายหนุ่มทั่วไปต่างพึงปรารถนาและกำซาบซด แต่สำหรับเขาแล้ว การได้เป็นผู้บงการในสงครามราคะคือเป้าหมายสูงสุด การได้เป็นผู้ลงมือทรมานร่างกายของทาสสวาทอย่างพิถีพิถันและงดงาม มันคือจุดสุดยอดแห่งปรารถนาที่ทำให้จิตวิญญาณของเขาเร่าร้อนและเปี่ยมสุขเสมือนได้เชยชิมอาหารราคาแพง
นับเป็นเวลาเกือบห้าปีมาแล้ว...ที่เขาใช้เซ็กส์แบบซาดิสม์วิตถารเป็นเครื่องมือระบายบำบัดความเจ็บปวดอันหนักหน่วงในหัวใจแข็งกระด้างของเขาให้ผ่อนคลายและสงบด่ำดิ่ง เขาซื้อหาหญิงสาวจากวงการดารานางแบบหรือไม่ก็สาวมหาวิทยาลัยเพื่อมาขึ้นเตียงกับเขาด้วยเงินจำนวนหกหลักต่อครั้ง ซึ่งผ่านการคัดสรรและติดต่อโดยเลขาส่วนตัวของเขา
ในทุกค่ำคืนวันเสาร์ของสัปดาห์ เขาจะได้เจอกับหญิงสาวแปลกหน้ามากมายที่หมุนเปลี่ยนกันเข้ามานอนในห้องเชือดของเขาอย่างเต็มใจและมักจะกลับไปด้วยอาการกระอักกระอ่วนอกสั่นขวัญแขวน ด้วยเหตุผลดำมืดที่พวกเธอเหล่านั้นไม่อาจบอกใครได้ เช่นนั้นแล้ว จึงไม่เคยมีใครกล้ากลับมาที่นี่รอบสอง ไม่เคยมีใครกล้ารับโทรศัพท์ของเลขาของเขาอีกเลย
แน่ล่ะ ใครมันจะอยากตกเป็นทาสสวาทบำเรอใคร่ของคนหน้าตาอัปลักษณ์ ใครกันจะอยากตกเป็นเครื่องมือระบายอารมณ์คลั่งของตัวประหลาดไร้หัวใจเช่นเขา ถึงแม้เขาจะเป็นลูกชายคนเล็กของเศรษฐีใหญ่เจ้าของบริษัทไวน์และไร่องุ่นหลายพันไร่ ถึงแม้เขาจะเคยเป็นไฮโซโก้หรูที่เคยมีชื่อเสียงในวงสังคมชั้นสูง และมีการศึกษาดีเลิศระดับจีเนียส แต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ของเขาดีขึ้นเลย เพราะปัจจุบันของเขา คือซาตานในคราบลูกเศรษฐี คือปีศาจร้ายสวมหน้ากากทองคำ
ใช่แล้ว เขาสวมหน้ากากทองคำเพื่อปกปิดใบหน้าซีกซ้ายของเขาซึ่งมีแผลเป็นฉกรรจ์จากการถูกไฟไหม้เมื่อห้าปีก่อน บาดแผลเหวอะหวะน่ารังเกียจที่เปลี่ยนเทพบุตรรูปงามให้กลายเป็นอสูรร้าย บาดแผลที่เปลี่ยนชายผู้มีความมั่นใจในตัวเองอย่างสูงส่งให้กลายเป็นชายที่มีแต่ความแค้นและความทุกข์ทน
เขาทนทุกข์กับความเจ็บป่วยในหัวใจและแค้นคลั่งรังเกียจทุกสิ่งทุกอย่างในโลกใบนี้ เขาแค้นครอบครัวตัวเองที่ทิ้งเขาไว้ลำพัง แค้นอดีตคนรักผู้ทรยศ แค้นพี่ชายตัวเองที่แย่งคนรักของเขาไป แค้นตัวเองที่เกิดมาเป็นลูกของบิดาที่เจ้าชู้มากเมียน้อย และมารดาที่จงเกลียดจงชังเขาจับใจ เพียงเพราะคำทำนายของซินแสที่บอกว่าเขาคือตัวทำลายล้างตระกูล
ปัจจุบันนี้ ครอบครัวของเขาทั้งหมดอาศัยปักหลักอยู่ในกรุงเทพฯ ดำเนินบริหารดูแลบริษัทไวน์ที่ส่งออกผลิตภันฑ์และสินค้าไปทั่วโลก มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่ยังอยู่เฝ้าไร่องุ่นในต่างจังหวัด ถูกมารดาสั่งห้ามให้อยู่แต่ในคฤหาสน์กลางหุบเขา ห้ามปรากฏตัวนอกไร่องุ่นเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นเขาจะถูกตัดออกจากกองมรดก และจะยึดนามสกุลคืน
เพราะไม่เพียงแค่ใบหน้าอัปลักษณ์ของเขาเท่านั้นที่สร้างความอับอายให้แก่มารดา แต่ข่าวลือดำมืดมากมายเกี่ยวกับตัวเขายังสร้างความเสื่อมเสียให้แก่วงศ์ตระกูลไม่น้อย ตอนนี้เขาก็เปรียบเสมือนรอยด่างของตระกูล หรือไม่ก็แกะดำตัวใหญ่ยักษ์ที่สร้างปัญหาได้ไม่เว้นแม้แต่วันเดียว
อาคิรา วนาวัฒนา หรือ ไฮโซคีย์ ไฮโซหนุ่มวัยยี่สิบเก้าปีแห่งคฤหาสน์ในสายหมอก ผู้บริหารและจัดการไร่องุ่นภูผาวนา ซึ่งมีคนงานนับพันคนอยู่ในความปกครองของเขา ในขณะที่พี่ชายของเขา ‘อาณาจักร วนาวัฒนา’ ดำรงตำแหน่ง CEO บริษัทวราวัฒ์ผลิตไวน์และเครื่องดื่มน้ำองุ่น จะได้เป็นผู้สืบทอดธุรกิจทั้งหมดของครอบครัวในอนาคต ส่วนเขาอาจจะได้รับหุ้นเล็กๆน้อยๆเป็นรางวัลสำหรับการทำงานในไร่อย่างหนักมาตลอดสิบกว่าปี
แต่เขาก็ไม่สนใจความอยุติธรรมที่ได้รับจากครอบบครัวหรอกนะ ใครอยากจะทำอะไรก็เชิญ ขอเพียงแค่อย่ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของเขาเป็นพอ เพราะมันอาจเป็นความสุขเดียวที่เหลืออยู่ในชีวิต