เช้า
ไพลินขยับพลิกตัว ในวงแขนของเพทาย ทำให้เพทายนั้นรู้สึกตัวตื่น แต่ทว่าเขายังคงหลับตาอยู่
ไพลินลืมตาขึ้นมามองไปรอบๆ เห็นเวลาที่พนังห้องนอนของพี่ ปรากฎเวลาตี 5 เธอค่อยๆแกะมือของพี่ที่พาดกอดตัวของเธออยู่ออกอย่างเบามือ เพราะเกรงว่าพี่จะตื่น แล้วมือเล็กๆของเธอก็ควานหาผ้าเช็ดตัวมาพันรอบกาย เธอก้าวลงไปจากเตียง แล้วหันกลับมา ดึงผ้าห่ม ห่มให้พี่ ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปอาบน้ำ
เมื่อได้ยินเสียงของน้องเดินเข้าไปในห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว เพทายลืมตาแล้วยิ้มออกมา กับการกระทำของคนตัวเล็ก ที่รู้จักเป็นห่วงห่มผ้าให้กับเขา
จนกระทั่งไพลินอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย เพทายก็ยังคงแกล้งหลับอยู่ ไพลินเดินมาหยิบโทรศัพท์ของเธอแล้วกดเลือกเบอร์ที่พี่แมมไว้ให้แล้วกดโทรออก
เพทายได้แต่สงสัยในใจ ว่าคนตัวเล็กจะโทรหาใคร
"ครับคุณหนู" ปลายสายที่กรอกเสียงเข้ามาคือเปรม 1 ในลูกน้องคนสนิทของเพทาย
"เออ พี่เปรมคะ ไพลินรบกวานซื้อของให้หน่อยได้ไหมคะ พอดีไพลินจะทำข้าวเช้าไว้ให้พี่เพทายตอนตื่นนะคะ ถ้าไพลินจะไปเองก็กลัวว่าพี่เพทายจะไม่พอใจ แล้วอีกอย่างไพลินก็ไม่ชินทางที่นี่ด้วย"ไพลินบอกออกมาอย่างคนขี้เกรงใจ
"ได้ครับคุณหนู คุณหนูต้องการอะไรครับ"
"ข้าวปลาย สำหรับต้มโจ๊ก ซื้อแค่ครึ่งกิโลก็พอนะคะ หมูบดติดมัน 1 กิโล ตับสด สัก 3 ขีด ขิงซอย ต้นห้อมผักชี ปาท่องโก๋ไว้กินกับโจ๊ก รสดี ซอสฝาเขียว น้ำตาลทราย เกลือ พริกไทยป่น ไข่ไก่ 10 ฝองก็ได้ค่ะเดี๋ยวไพลินจะขออนุญาตพี่เพทายว่าจะทำเผื่อพี่เปรมกับพี่มิวด้วย เดี๋ยวพี่เปรมส่งเลขบัญชีให้หน่อยสิคะ ไพลินจะโอนเงินค่าของให้"
"ไม่เป็นไรครับคุณหนู นายใหญ่ให้งบตรงนี้ไว้อยู่แล้ว"
"ออ ค่ะ งันรบกวนพี่เปรม ซื้อส้มมาสัก 4 กิโลนะคะ ขอบคุณค่ะ" ไพลินวางสายแล้วหันมามองเพทายที่หลับอยู่เธอยิ้มแล้วเดินออกจากห้องนอนไปรอของที่พี่เปรมซื้อให้
เมื่อน้องออกจากห้องไป ด้วยความที่ห้องเงียบมากๆ ทำให้เพทายได้ยินบทสนทนาทั้งหมด เขารู้สึกดีมากๆ ที่น้องตั้งใจตื่นมาทำอาหารให้เขากินตอนเช้า ปกติไม่เคยมีใครดูแลเพทาย เพราะเขาเองก็หวงความเป็นส่วนตัวเอามากๆ ผู้หญิงที่ซื้อมาพอใช้งานเสร็จเขาก็ให้พวกเธอกลับไป ไม่เคยมมีใครได้ค้าง หรือแม้แต่ห้องนี้ ก็ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหน ได้เข้ามา ส่วนมากก็จะเป็นที่คาสิโน หรือเปิดโรงแรมข้างนอกเอา แต่พอมาเจอไพลิน ความรู้สึกของเพทายได้เปลี่ยนไป ตั้งแต่แรกพบ เขาเองอยากครอบครองน้อง และเปลี่ยนไปมากๆก็เมื่อครู่นี้เลย ที่ไพลินตั้งใจทำเพื่อเขา มันทำให้เพทายคิดอยากจะมีครอบครัวขึ้นมาบ้างแล้ว เขายิ้มแล้วลุกไปอาบน้ำอย่างอารมณ์ดี
ก็อก ก็อก ก็อก
แกร่ก!
"ของได้แล้วครับคุณหนู "เป็นเปรมที่มาเคาะประตู
"ไวมาก ขอบคุณค่ะ"
"ให้ผมวางไว้ตรงไหนครับคุณหนู"
"ตรงบาร์ครัวเลยค่ะ ขอบคุณนะคะพี่เปรม"
"ครับ ผมไปนะครับ คุณหนูมีอะไร โทรเรียกได้ตลอดนะครับ"
"ค่ะ"
เมื่อเปรมเดินออกจากห้องไพลินก็มาดูของแล้วติดเตาเตรียมเคี่ยวโจ๊ก เธอหมักหมู หมักตับ แล้วมาตัมน้ำที่ใช้ลวกไข่ ไพลินทำโจ๊กครั้งนี้อย่างตั้งใจ เธออยากดูแลพี่ให้เหมือนที่พี่พยายามช่วยและดูแลเธอ
เมื่อข้าวปลายที่เคี่ยวเริ่มได้ที่ ไพลินก็ปั้นหมูสับลงใส่หม้อ จนหมด แล้วหรี่ไฟอ่อน ก่อนจะตั้งน้ำเพื่อลวกตับที่เธอหั่นและหมักเตรียมเอาไว้
เมื่อหม้อโจ้กที่ใส่หมูสับลงไปเริ่มเดือนปุดๆ เธอก็เริ่มชิม และปรุงรส
"หืม อร่อย พี่เพทายต้องชอบแน่ๆ" ไพลินบอกออกมากับตัวเองแล้วยืนจัดของทุกอย่าง ใส่ถ้วยเล็กๆเตรียมวางไว้ที่โต๊ะเป็นเครื่องโรยหน้าโจ๊ก
ฟอดดด
"หอมจังเลย"เพทายเดินมากอดนน้องจากทางด้านหลัง หอมมแก้มฟอดใหญ่แล้วบอกออกมา
"อ่าว พี่ตื่นเร็วจังเลย แต่โจ๊กใกล้เสร็จแล้วค่ะ พี่นั่งรอก่อนนะคะ"ไพลินบอกออกมาแล้วยิ้มหวานส่งให้พี่
"ไม่เอาอะ อยากยืนดูเมียทำอาหารให้"
"อย่างนั้นก็ได้ค่ะ น้องตั้งใจทำมากเลยนะ แต่ไม่รู้จะถูกปากพี่หรือเปล่า" ไพลินบอกไปก็ใช้มือคนเคี่ยวโจ๊กไป
"กินได้อยู่แล้ว ฝีมือตัวเล็กเลยนะ พี่ต้องชอบสิ" เพทายบอกออกมายิ้มๆ
"เออ พี่กินตับไหมคะ"
"ตับหนูเหรอ เมื่อคืนพี่ก็กินไปเยอะอยู่นะ" เพทายแซวออกมายิ้มๆ
ไพลินมองหน้าพี่แล้วยิ้มเขิน
"ไม่ใช่ หนูหมายถึงตับที่ใส่โจ๊กค่ะ"
"ออ กินครับ ตับคนทำโจ๊กพี่ก็กินนะ" เพทายยังไม่หยุดแซว
"เออ พี่เพทายคะ"
"หืม ว่าไง"
"คือ ขอแบ่งโจ๊กในลูกน้องพี่ด้วยได้ไหม พอดีใช้พี่เค้าไปซื้อของมาให้ แล้วโจ๊กมันก็เยอะ เรากินไม่หมดหรอก" ไพลินอธิบายและขออนุญาตพี่ออกมา
"ได้สิ พี่ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว"
"งั้นพี่ไปนั่งรอก่อนนะคะ เดี๋ยวตักไปเสริฟ"
"ครับ" เพทายเดินไปนั่งรอที่โต๊ะทานอาหาร
"มาแล้วค่ะ พี่เพทายจะใส่ใข่ไหมคะ" หลังจากให้เปรมและมิวมาเอาโจ๊ก ไพลินก็ตักโจ๊กมาเสริฟเพทาย และถามความต้องการของเขา
"ครับ"
ไพลินลงมือไส่ไข่ ไส่ตับ ขิงซอย ต้นหอมผักชี พริกไทย ในชามของพี่ แล้วเธอก็หยิบซอยฝาเขียวมาว่างใกล้ๆเพื่อพี่อยากเติม
"น่าตาน่ากินแหะ"เพทายบอกออกมาเมื่อมองดูที่ชามโจ๊กฝีมือคนตัวเล็ก
"ชิมดูค่ะ กินได้ไหม" ไพลินบอกออกมาแล้วลุ้นให้พี่ชิมว่าจะถูกปากไหม
"อร่อย ฝีมือตัวเล็กดีมากๆเลยนะรู้ไหม" เพทายบอกออกมาเมื่อเขาชิมโจ๊กฝีมือของน้องเข้าไปแล้ว
ไพลินยิ้มกว้างออกมาอย่างโล่งใจที่พี่กินได้ แถมชมว่าอร่อยด้วย
"พี่กินเยอะๆนะคะ หนูทำน้ำส้มคั้นไว้ด้วยนะคะกินโจ๊กเสร็จเดี๋ยวหนูเอามาให้กิน" ไพลินบอกพี่แล้วกินโจ๊กในชามของตัวเองบ้าง
"หน้าโหดๆแบบพี่ แต่ตัวเล็กให้กินน้ำส้มคั้นเหรอครับ" เพทายถามออกมาขำๆ
"มันดี และมีประโยชน์น๊าาาา พี่ดูแลหนู หนูก็อย่างดูแลพี่บ้าง เท่าที่หนูจะทำได้ พี่เพทายฝืนกินให้หนูหน่อยน๊าาาาา" ไพลินอ้อนพี่ออกมาแล้วทำตาปริบๆสลับกับมองพี่ตาใสแป๋ว ราวกับลูกแมวน้อย
"ครับ แพ้ลูกอ้อนของแมวน้อย"เพทายบอกออกมายิ้ม
"เมื่อคืนหลับสบายไหมครับ มานอนที่นี่อยากได้อะไรเพิ่มหรือเปล่า" เพทายถามความต้องการของน้องออกมาอย่างเป็นห่วง
"หลับสบายคะ" ไพลินตอบพี่ออกมาแล้วส่งยิ้มหวานให้พี่อีกครั้ง
"อยากได้อะไรบอกพี่ได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ"
"ค่ะ"
"น้ำส้มของพี่ค่ะ" ไพลิน เทน้ำส้มที่เธอตั้งใจคั้นมาให้พี่เมื่อทั้งคู่กินโจ๊กเสร็จ
"มานั่งตักพี่ก่อน พี่ถึงจะกิน"เพทายบอกน้องออกมายิ้มๆ
ไพลินเดินมานั่งตักของพี่ตามที่พี่ต้องการ แล้วยกแก้วน้ำส้มให้พี่ เพทายรับมากินจนหมดแก้ว
"หวานชื่นใจจริงๆ" เพทายบอกออกมากับไพลิน
"เอาอีกไหมคะ"ไพลินถามออกมาเพราะเธอคั้นน้ำส้มไว้เยอะมากๆ
"น้ำส้มไม่เอาแล้วครับ แต่ถ้าเป็นคนคั้นน้ำส้ม พี่อยากเอาอยู่นะ" เพทายบอกออกมาแล้วจะก้มลงหอมน้อง
แต่ไพลินผลักไว้เบาๆ
"พี่เพทาย มีงานตอนบ่ายนะคะ"
"รู้ครับ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้"เพทายถามน้องออกมาอย่างอยากรู้
"ก็ ถ้าตัวของพี่เป็นรอยเล็บ มันก็ดูไม่ดีนี่คะ" ไพลินบอกพี่ออกมา เพราะเวลาร่วมสัมพันธ์รักกับพี่ เธอเผลอใช้เล็บจิกพี่บ้าง กำแขนพี่บ้าง กลัวจะไปกระทบการถ่ายงานของพี่
"พี่ไม่ได้สนอยู่แล้ว" เพทายไม่หยุดแล้วก้มหน้าลงซุกซอกคอของน้อง
"อือออ พี่เพทายเดี๋ยวหนูเดินไม่ไหว ทำยังไง"ไพลินพยายามต่อรอง
"ตัวเล็ก ทำไมชอบขัดใจพี่ครับ"เพทายเงยหน้าถามออกมาเสียงเรียบ
"พี่เพทาย อย่าเพิ่งโกรธหนูสิ หนูเจ็บ" ไพลินบอกออกมาเสียงอ่อย แล้วก้มหน้าลง น้ำตาเจ้ากรรมของเธอก็ไหลมาด้วยความกลัวว่าพี่จะโกรธ เพราะตอนพี่ทำหน้านิ่งๆมันดูดุเอามากๆเลย
"ตัวเล็กร้องไห้ทำไม" เพทายตกใจ เมื่อเห็นหยดน้ำตาน้องร่วง
"เป็นอะไรครับไหนบอกพี่" เพทายยังคงถามออกมาอย่างเป็นห่วง
"ก็ หนูกลัวพี่โกรธ แต่หนูก็ยังเจ็บอยู่ เลยไม่รู้จะทำยังไง หนูกลัวพี่โกรธหนู" ไพลินบอกออกมาอย่างกังวล เพราะตอนนี้พี่คือโลกทั้งใบของเธอ ถ้าพี่โกรธแล้วยุติความสัมพันธ์ เธอก็คงเคว้งไปเหมือนกัน เพราะขนาดแม่ของเธอยังเอาเธอมาขายเลย
"เห้ย พี่ไม่ได้เอาแต่ใจขนาดนั้น เราคุยกันได้ ตัวเล็กอย่าคิดมาก" เพทายบอกออกมาแล้วเอามือเช็ดน้ำตาของน้อง เขาไม่ได้โกรธน้องเลย เพทายนั้นรู้ดีอยู่เต็มอก ว่าน้องในตอนนี้มีเพียงเขาแค่คนเดียว ไม่แปลกเลย ที่น้องจะแคร์เขามากขนาดนี้
"จริงเหรอคะ"
"ครับ ตัวเล็กอย่าคิดมากนะ พี่เข้าใจ พี่เข้าใจตัวเล็กทุกอย่างเลย" สิ้นสุดคำพูดของเพทาย ไพลินโผกอดคอของพี่แล้วร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
"ขอบคุณนะคะ ที่เข้าใจหนู" เธอพูดออกมาเพียงแค่นั้น แล้วกอดพี่ร้องไห้ เพทายโอบกอดน้องอย่างเข้าใจ นานหลายนาทีกว่าคนตัวเล็กจะนิ่ง
"ดีขึ้นหรือยัง" เพทายถามน้องออกมาเมื่อเห็นว่าน้องหยุดร้องไห้แล้ว
"ค่ะ" ไพลินบอกออกมาเสียงแผ่วเบา
"ไหนดูสิ"เพทายบอกออกมาพร้อมเอามือลูบแก้มของน้องเบาๆ
"คนสวยยิ้มหน่อย" เพทายบอกออกมาแล้วส่งยิ้มให้น้อง ไพลินเองก็ยิ้มบางๆตามพี่
"ชีวิตคนเรา มันไม่รู้อนาคตข้างหน้า อย่าไปคิดมากเลย มีอะไร เราสามารถคุยกันได้ เข้าใจไหมครับ พี่ไม่ได้โกรธอะไรหนูเลย เข้าใจไหมหืม" เพทายบอกน้องออกมาอย่างใจดี
"ค่ะ หนูขอโทษนะคะ" ไพลินขอโทษพี่ออกมาอย่างรู้สึกผิด
"เลิกขอโทษพี่ได้แล้ว ตัวเล็กไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ" เพทายบอกกับไพลินออกมาอย่างเอ็นดู
"ค่ะ" ไพลินรับคำ แล้วกอดคอพี่แล้วซบลงที่ไหล่พี่อีกครั้ง
เพทายเองก็ลูบหัวเล็กของน้องอย่างเอ็นดู
"ถ้าตัวเล็กหยุดร้อง พี่จะพาไปกินไอ้ติมดีไหมน๊าา ก่อนไปถ่ายงาน"
"กินค่ะ" ไพลินลุกขึ้นมามองหน้าพี่แล้วยิ้ม"
"ถ้ากินต้องหายเศร้าก่อน" เพทายบอกออกมา
ไพลินพยักหน้าตกลง
"ไหนยิ้มหวานก่อน" เพทายต่อรองน้อง ไพลินยิ้มหวานส่งให้พี่
"เออ มันต้องแบบนี้ โอเคแล้วใช่ไหม"เพทายบอกออกมาอย่างพอใจ
"เอาไอติม 4 สกู๊ป เลยนะ" ไพลินบอกออกมาแล้วยิ้มอย่างอารมณ์ดี
"ให้เป็น 10 เลย ถ้าตัวเล็กจะอารมณ์ดี"
จุฟ
"พี่เพทายน่ารักที่สุด" ไพลินจุฟพี่อย่างลืมตัวแล้วบอกออกมา
เมื่อเธอตั้งสติได้ เธอเองก็ก้มหน้าเขิน
"จุฟพี่อีกข้างได้ไหม พี่ชอบจัง" เพทายบอกออกมาอย่างที่เขาต้องการ
ไพลินเงยหน้าแล้วจุฟพี่อีกข้าง แล้วทั้งคู่ก็มองหน้ากันยิ้มๆ