บทที่ 2 ปล่อยเธอไปให้ตายใจ...

1492 Words
อธิรักษ์หลุดจากภวังค์ห้วงความคะนึงถึงลิลิธตา เพราะเสียงของภาสกรเพื่อนรักที่เอ่ยแทรกดังเข้าโซนประสาท “ไง! อธิป ได้ข่าวว่าลืมปิดกรงเหรอ แม่กระต่ายน้อยถึงหลุดหนีไป” ภาสกรจตุรเทพ หนึ่งในหกหนุ่มจตุรเทพเพื่อนรักของอธิรักษ์ ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน เอ่ยแซวอธิรักษ์จตุรเทพเพราะเห็นเพื่อนรักนั้นยืนเหม่อยิ้มกรุ้มกริ่ม อย่างเป็นเอามากท่าจะติดใจเชลยสาว แม่กระต่ายน้อยที่พวกเขาตั้งฉายาให้กับเธอ “ภาส มีใครบอกแกไหมว่าเดี๋ยวนี้แกจมูกหมาแทนไอ้กรมันแล้ว” อธิรักษ์วางมือบนบ่าของภาสกรจตุรเทพเพื่อนรักที่กำลังกัดแทะเล็มเขาด้วยวาจา ส่วนมืออีกข้างหนึ่งยืนล้วงกระเป๋ากางเกงเท้าสะโพกอยู่ในกระเป๋ากางเกงแสล็คสีขาวที่เป็นชุดสูท ขลับให้พวกเขาดูโดดเด่นสง่างามไม่ต่างจากเจ้าชาย พูดแบบยิ้มๆ อารมณ์ดี จ้องมองตอบสบตาเพื่อนรักแซวกลับ อย่างไม่ยอมจำนน ใครว่าเขาลืม อธิรักษ์ตั้งใจปล่อยเธอไปให้ตายใจต่างหากล่ะ... เพราะเขากำลังสนุกกับการเป็นผู้ล่าเป็นนายพราน ยิ่งเธอต้องการหนีเขามากเท่าไหร่ อธิรักษ์จตุรเทพก็ยิ่งต้องการ จับแม่กระต่ายน้อยกินให้หมดทั้งเนื้อทั้งตัวไม่ใช้เหลือแม้กระดูกอ่อน “ถึงฉันจะเป็นหมาก็เป็นหมาจ่าฝูง ไม่ใช่หมาที่คอยเดินตามเมียเหมือนไอ้กร ไอ้นนท์ ไอ้เดช และก็แกอีกคนที่กำลังจะตกเป็นทาสเมีย” พวกเขาในกลุ่มจตุรเทพมักจะเรียกขาน อัครเดชจตุรเทพว่าเดชตามชื่ออัครเดชที่ลงท้ายด้วยเดช มากกว่าเรียกชื่อเต็มของเพื่อนรักว่าอัครเดช คาร์ลอส เดโชดำรงพัฒน์หรือเรียกชื่อเล่นว่าอัคคีหรือไฟที่แม่กับเมียของอัครเดชชอบเรียกขาน อธิรักษ์เฉไฉ บ่ายเบี่ยงรีบเปลี่ยนประเด็นทันที กับคำว่าทาสเมียของภาสกร ที่ฟังดูก็รู้ว่าต้องการหยั่งเชิงเขาเรื่องลิลิธตา “ฉันว่าจะอยู่อเมริกาซักอาทิตย์หนึ่ง แล้วแกล่ะ” อธิรักษ์เอ่ยถามภาสกรด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ไม่ต่างจากภาสกรที่ยิ้มอย่างรู้ทันเพื่อนรัก แต่ก็ไม่อยากเซ้าซี้ถามมากความ ด้วยรู้ว่ายังไม่ถึงเวลา คงต้องรอดูกันไป ว่าคนที่จะสละโสดคนต่อไปใช่อธิรักษ์จตุรเทพอย่างที่เขาคาดเดาไหม “ฉันคงกลับก่อน วันมะรืนก็กลับแล้ว” อธิรักษ์พยักหน้ารับเบาๆ กับคำตอบของภาสกร ที่จะเดินทางกลับเมืองไทยก่อนเขา ลิลิธตาทิ้งศีรษะเงยใบหน้าสวยหมดจดขึ้น พิงแนบกับเบาะพนักพิงหลังเก้าอี้นั่งบนเครื่องบิน ทิ้งร่างทิ้งเปลือกตาหนักอึ้งลงให้ปิดสนิท ต้องการพักกายและพักใจ ให้ห่างจากสิ่งน่าหวาดกลัวสิ่งเลวร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตนเองและครอบครัว มากมายเหลือเกินเพียงชั่วพริบตา เธอต้องกลายเป็นคนเร่ร่อนหลบซ่อนหนีหัวซุกหัวซุน พลัดพรากจากบิดา ทว่าตอนนี้ทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย ความจริงต่างๆ เริ่มปรากฏ และเธอได้อิสระภาพอีกครั้งจากพวกจตุรเทพที่ยอมปล่อย ลิลิธตาเลยรีบคว้าโอกาส เธอไม่รอช้าที่จะกลับไปใช้ชีวิตปกติอยู่กับครอบครัวอยู่กับบิดาสองคน... แต่ทว่ายามใดที่ลิลิธตาหลับตาลง ภาพของอธิรักษ์จตุรเทพ ก็คอยตามติดเธอทุกครั้งในมโนสำนึก ว่าเขาทำอะไรกับร่างกายนี้ของเธอเอาไว้บ้างอย่างเอาแต่ใจ มือบางเผลอยกขึ้นลูบคลำ ตามรอยตำแหน่งช้ำจ้ำแดงบริเวณหน้าอกใหญ่เกินตัว ที่สัมผัสปลายนิ้วมืออยู่ภายนอกเนื้อผ้าที่สวมใส่ปกปิดมิดชิดจนถึงลำคอ เพื่อบดบังร่องรอยรักถูกดูดดึงเป็นจ้ำบนร่างกายสาว จตุรเทพอย่างเขาทิ้งร่องรอยรักไว้ให้เธออย่างมีมลทิน ลิลิธตารังเกลียดตัวเอง ที่ไม่รังเกลียดสัมผัสจาบจ้วงของเขา ไม่ต่อต้านซ้ำยังเสนอสนองปรนเปรอรัก ให้จตุรเทพอย่างอธิรักษ์ อย่างถึงใจทุกครั้งที่ถูกรุกรานกระตุ้นเร้า ภายในโต๊ะอาหารที่ถูกจัดวางตกแต่งอย่างสวยงาม สำหรับเลี้ยงรับรองพวกเขาที่เป็นจตุรเทพ มีอัครเดช อริศรา รัชชานนท์ พิริตา ธินกร ศลิษา อธิรักษ์ ภาสกร และชินดิษฐ์ เรื่องของพวกเขาจตุรเทพคนใดคนหนึ่งในกลุ่ม... ไม่มีทางที่จะเป็นความลับหรือปกปิดเป็นส่วนตัวได้เลย ที่ยิ่งปิด ก็ยิ่งทำให้กลุ่มเพื่อนรักที่จมูกไวอย่างกับหมา แต่ละคนของเขา ทำงานกันดีเหลือเกิน “แม่กระต่ายน้อยหนีไปแล้วเหรอ ฉันนึกว่าหล่อนจะเลือกอยู่กับแกซะอีกไอ้หมอ” อัครเดชจตุรเทพแซะอธิรักษ์ ทำให้ทุกคนบนโต๊ะอาหารลอบมองใบหน้าหล่อเหลาของอธิรักษ์จตุรเทพว่าจะตอบอย่างไร อธิรักษ์หัวเราะอารมณ์ดีในความจมูกหมาของกลุ่มเพื่อน แล้วก็พยักหน้ารับไม่ตอบอะไร วางเฉยตามสไตล์ของเขา ที่ทำเอาทุกคนไม่เซ้าซี้ต่อ เพราะรู้ว่าไม่มีประโยชน์ หยั่งเชิงแล้วไม่ตอบแบบนี้ก็คงไม่ตอบ ต่อให้ถามให้ตายก็คงไม่ได้อะไรนอกจากความเงียบ เลยทำได้แต่แค่เปลี่ยนเรื่องคุย “ฉันคงต้องอยู่อเมริกาอีกซักพักเลยล่ะ มีงานทางนี้ต้องเคลียร์อีกเยอะเลย ถ้าพวกแกจะกลับไทยก็กลับกันก่อนได้เลยนะ” อัครเดชพูดพร้อมแตะหลังมืออริศราผู้เป็นภรรยาสาวเบาๆ บอกเธอกลายๆ ว่ายังคงต้องอยู่กับเขาที่อเมริกานี่อีกซักพักใหญ่ๆ เลยล่ะ ก่อนที่ทุกคนจะก้มหน้าก้มตา รับประทานอาหารและแยกย้ายกันไปพักผ่อน ด้วยเหน็ดเหนื่อยกันมาตลอดงาน สองสัปดาห์ผ่านไป ท่ามกลางเสียงเพลงดังกระหึ่มในผับหรูย่านชาญเมือง เต็มไปด้วยนักท่องราตรีนักดื่ม นักการเมือง ผู้ทรงอิทธิพลหลายพรรคหลายกลุ่มปะปนกันเต็มไปหมด แสงไฟสาดส่องยิ่งส่งให้หญิงสาวที่ก้าวเข้ามาใหม่ขลับให้เธอยิ่งดูโดดเด่นทั้งที่เธอจัดว่าเป็นผู้หญิงที่สวยจัดอยู่แล้ว ส่งให้หล่อนยิ่งดูทรงเสน่ห์ ‘ให้ตายเถอะ’ ไม่ว่าใครก็ไม่อาจละสายตาจากผู้หญิงตรงหน้าได้ ทั้งที่เป็นผู้หญิงด้วยกันก็ต่างจ้องมองไปที่เธอด้วยความอิจฉาริษยาในรูปร่างหน้าตาและบอดี้ที่เพอร์เฟคที่พระเจ้าตั้งใจปั้นแต่งมาให้กับผู้หญิงตรงหน้า โดยเฉพาะมาช่าหล่อนจ้องมองลิลิธตาด้วยความริษยา ก่อนหน้าที่ลิลิธตาจะก้าวเข้ามา มาช่าหล่อนเป็นที่หนึ่งสำหรับที่นี่หล่อนโดดเด่นที่สุด และแน่นอนหล่อนคือดาวของที่นี่ในค่ำคืนนี้ ใครๆ ต่างก็อิจฉาหล่อน ที่ได้เป็นผู้หญิงของอธิรักษ์จตุรเทพฯ อย่างคิดเอาเองไปว่าเขาสนใจหล่อน เพราะไม่เช่นนั้นหล่อนคงไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้ “นั่นใช่แม่กระต่ายน้อยของแกไหมอธิป” เสียงภาสกรชายหนุ่มผู้ทรงอิทธิพลอันดับต้นๆ หนึ่งในหกหนุ่มของกลุ่มจตุรเทพ เอ่ยขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ว่าจะใช่หล่อนจริงๆ ลิลิธตา แม่กระต่ายน้อยของอธิรักษ์เพื่อนรักของเขา หล่อนเปลี่ยนไป หล่อนดูสวยอวบอิ่มขึ้น ลุคของหล่อนดูเย้ายวน ให้ตายเถอะเขาไม่ได้โกหกหล่อนดูสวยจัด สวยเซ็กซี่เป็นบ้าขนาดเขาที่ไม่ค่อยสนใจผู้หญิงยังละสายตาจากหล่อนไม่ได้แล้วอธิปล่ะจะไม่คลั่งหล่อนเลยเหรอ เสียงของภาสกรทำให้มาช่าหลุดออกจากภวังค์ได้สติหล่อนรีบหันไปมองอธิปชายหนุ่มที่หล่อนหมายใจไว้ว่าเขาคือของหล่อน หล่อนจะต้องเป็นผู้หญิงของอธิรักษ์จตุรเทพฯ ผู้หญิงทุกคนจะต้องอิจฉาหล่อนที่จะได้ขึ้นเตียงกับเขาในค่ำคืนนี้ แต่ก็ได้แต่กำมือแน่นเมื่อเห็นสายตาของอธิรักษ์ที่เอาแต่จ้องมองผู้หญิงเบื้องหน้าที่กำลังก้าวเข้ามาในผับ ในมือของผู้ชายทรงเสน่ห์ที่ทำให้ผู้หญิงคลั่งไคล้มานักต่อนักจนเป็นที่เลื่องลือ ถือแก้วบรั่นดีคีบอยู่ในหว่างนิ้วมือเขย่าวนไปมา น้ำสีเหลืองอำพันหมุนวนอยู่ในแก้วอย่างเป็นจังหวะ มุมปากหล่อเหลาได้รูปยกยิ้มเล็กน้อยอย่างพอใจที่เห็นหล่อนผู้หญิงที่หนีเขาข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากงานแต่งของอัครเดชจตุรเทพเพื่อนรักของเขา สายตาคมกริบร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความเสน่หา หล่อนทำให้เขาอดอยากหิวโซเลยล่ะ ลิลิธตาหล่อนเดินลับสายตาของเขาหายเข้าไปในห้องน้ำ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD