มิสมิบแปดมงกุฎ

01 - มิสเบตง

หลังเวทีเต็มไปด้วยความวุ่นวาย เหล่าสาวงามที่รอคิวขึ้นโชว์ตัวต่างถูกช่างแต่งหน้าทำผมรุมล้อม ที่เข้ามาแต่งเติมเสริมความสวยกันเป็นจำนวนมาก ให้กับสาวงามที่เข้าประกวดมิสเบตงในปีนี้ ปีงานในปีนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ด้วยเงินสมทบจากเหล่าขาใหญ่ในพื้นที่

แต่ในส่วนของนางงามที่เข้าประกวด ไม่ได้มีเพียงสาวงามในพื้นที่เท่านั้น ยังมีนางงามเดินสายที่เดินทางมาร่วมเวทีในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน จากข่าวลือของเงินรางวัลที่มากกว่าทุก ๆ ปี ดึงดูดให้นางงามหลายคนไม่เกรงกลัวต่อข่าวไฟแดนใต้ที่หนาหู

ภายในงานไม่ได้มีเพียงการประกวดสาวงามเท่านั้น ยังมีบ่อนไก่ถูกกฎหมายที่ตั้งวงตีกันอยู่ภายในงานอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีของกิน ของดีสินค้าพื้นเมืองหลากหลายที่วางขายภายในงาน

“ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยสิ มาประกวดนางงามนะยะ ทำหน้าหงิกหน้างอแบบนี้แกกลัวกรรมการจะเทคะแนนให้หรือยังไง” เสียงสาวสองเจ๊ใหญ่ของทีมพี่เลี้ยงนางงามจากแดนเหนือบอกกับ ‘ดวงยิหวา’ สาวงามลูกรักที่เธอปั้นมาเองกับมือ

ไปขึ้นเวทีไหนก็กวาดเอาชัยมาทุกเวที ไม่เว้นแม้แต่เวทีนี้เช่นกันเซียนนางงามต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถึงแม้จะยังไม่ได้ประกาศผล แต่เพียงแค่ดวงยิหวาขึ้นไปเดินบนเวทีก็เหมือนกับมีมงกุฎวางอยู่เหนือฟาร่าแพงามของเธอแล้ว

“แม่จะไม่ให้หนูกลัวได้ไง วันขึ้นเครื่องเพิ่งจะอ่านข่าวระเบิดไปเอง” เสียงหวานของนางงามเอ่ยตอบ ดวงยิหวาดั่งเกิดมาพร้อมพรจากฟ้า ที่บันดาลความงดงามทุกอย่างให้กับเธอ รูปร่างหน้าตา ทรวดทรงองค์เอวที่ไม่ต้องขวนขวายพยามเสริมแต่ง ผิวพรรณผุดผ่องที่เป็นมาตั้งแต่เกิด อีกทั้งน้ำเสียงหวานสะกดคนฟัง หากเสริมด้วยรอยยิ้ม ที่เจ้าตัวเก็บไว้ใช้เพียงบนเวทีประกวดนั้น มีหรือกรรมการจะกล้าเขียนคะแนนให้ใครอื่น

“หล่อนจะกลัวอะไรนักหนา ในนี้น่ะไม่มีใครกล้าบุกเข้ามาหรอก มาเฟียทั้งนั้นที่มาตีไก่ หล่อนไม่รู้หรือไงยะ” ปิติ หรือที่รู้จักกันในนามของเจ๊ปลีนักปั้นนางงาม ผู้โชคดีที่งมได้เพชรเม็ดงามนามว่าดวงยิหวามาเป็นเด็กในสังกัด

เจ๊ปลีไม่ได้มีความสามารถเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีคนรู้จักในแวดวงมากมาย เพราะได้เดินทางไปทั่วประเทศในการพาเด็กออกประกวด เพิ่งจะมาอยู่ตัวก็ตอนที่ได้ดวงยิหวามาแรก ๆ แม้บางครั้งจะมีเรื่องที่ไม่พอใจแม่ยิหวาจอมเอาแต่ใจบ้าง

แต่เจ๊ปลีก็ต้องกัดฟันทน เพราะกลัวว่าหากใครมาเกี้ยวเอาเพชรเม็ดนี้ไป จะหาเพชรเม็ดใหม่มาเจียระไนให้ได้เท่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ดวงยิหวาทำเงินจากการประกวดนางงามให้กับเจ๊ปลีมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งบ้านทั้งรถ และเงินเก็บในบัญชีอีกจำนวนมาก ไหนจะเงินที่ได้มาจากพวกเสี่ยหน้าหม้อที่ขอนัดดวงยิหวาไปกินข้าวอีก

“ใครจะไปรู้ล่ะ ยิหวาบอกพี่ตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าไม่อยากมาพี่ก็คะยั้นคะยอให้มาจนได้” หญิงสาวทำหน้าหงิก ทั้งยังขมวดคิ้วเรียวสวย ที่ช่างแต่งหน้าบรรจงเขียนให้อย่างประณีตจนยุ่ง แต่ถึงกระนั้นความงดงามของใบหน้าเธอก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลยแม้แต่น้อย

“อ่ะ ชอบทำนักไอ้หน้างอคอเง้าแบบนี้ ทำซะให้พอ ขึ้นเวทีขอยิ้มหวาน ๆ ฟาดหวาน ๆ จริตฟาด ๆ นะคะ เงินรอบนี้เยอะมากให้มันคุ้มกับที่มาเสี่ยงตายด้วย” เจ๊ปลีไม่อยากจะบ่นอะไรมาก นักเพราะกลัวจะมีผลกับอารมณ์ของดวงยิหวาตอนขึ้นเวที เอาไว้จบการแข่งขันคงต้องอบรมกันใหม่อีกที เธอรู้ดีว่านี่เป็นผลของการที่เธอเอาใจดวงยิหวามากเกินไป แต่จะแก้ไขอะไรตอนนี้มันก็ไม่ทันเสียแล้ว หญิงสาวมีงานเข้ามารุมล้อมมากมาย จนกลายเป็นบ่อเงินบ่อทองหลัก

“เดี๋ยวนางงามเบอร์ 8 เตรียมขึ้นเวทีเลยนะครับ” เสียงของทีมงานที่เดินเข้ามาบอกกับพี่เลี้ยง ทำให้เจ๊ปลีพยักหน้ารับ ก่อนจะหันมาเชยคางแม่นางงามจอมหน้างอของเธอ เพื่อจะเรียกจิตวิญญาณดวงยิหวาหน้าหวานกลับมาประทับทรงร่าง

“ยิ้มซิ” ดั่งสั่งได้ด้วยระบบอัตโนมัติ หน้าหงิกงอพลันคลียิ้มหวานตามคำสั่งอย่างทันที

“ขอจริตตายั่ว ๆ กว่านี้อีกนิดซิ” แต่นั่นก็ยังไม่เป็นที่พึงพอใจของเจ๊ปลี ดวงยิหวาทำตามคำสั่งของคนร้องขออย่างไม่ปฏิเสธ สำหรับเธอเจ๊ปลีถือเป็นผู้มีพระคุณคนหนึ่งที่ฉุดชีวิตเธอขึ้นมาสุขสบายในวันนี้

“เจ๊ถึงเวลาแล้ว ให้มันไปรอขึ้นเวทีเถอะ หนูเชื่อมืออียิหวา งานนี้มันไม่พลาดหรอก คู่แข่งมันน่ะ 5 บาท 10 บาททั้งนั้น” เสียง ‘ชวนชม’ คนสนิทของเจ๊ปลีวิ่งแจ้นเข้ามาตาม ร่างระหงในชุดราตรียาวสีเหลืองทองลุกขึ้นอย่างสง่า ก่อนจะสาวเท้าเดินตรงไปที่ทางขึ้นเวทีด้วยท่าทางหยิ่งผยอง ทุกสายตาที่จับจ้องมาทางดวงยิหวานั้นมีหลากหลายความรู้สึก บ้างก็อิจฉาริษยาในความงดงามวิจิตของเธอ บ้างก็ชื่นชมที่ได้ยลรูปโฉมอันงดงามราวกับภาพวาดของนางในวรรณคดี

อีกฟากหนึ่งของงานชายหนุ่มรูปร่างกำยำ ผิวคล้ำแดดจากการทำงานหนัก มือที่สากด้านของเขาอุ้มประคองไก่ตัวเก่งไว้ในมือ ผมดกหนายักศกยาวถึงกลางหลังถูกมัดรวบแบบลวก ๆ แค่พอขจัดความรำคาญออกจากคอ

“ไอ้นุ้ยมึงอุ้มไอ้ทองแดงไปรอกูก่อน กูลืมของไว้ที่รถเดี๋ยวกูตามไป” เสียงเจ้านายเอ่ยปากสั่งลูกน้องก่อนจะยื่นไก่ตัวเก่งให้ ‘คีรี’ หนึ่งในสปอนเซอร์ใหญ่ผู้สนับสนุนงานนี้เขาทุ่มเงินไปจำนวนไม่น้อยเพื่อให้มีการจัดงานในครั้งนี้

จุดประสงค์หลักก็เพื่อจะเอาไก่ตัวเก่งออกมาโชว์สู่สายตาบรรดาเซียนไก่ ลำพังตีอยู่ในบ่อนก็เจอแต่คู่ซ้อมเดิม ๆ ที่เขาชนะเสียจนเบื่อหน่าย การจัดงานในครั้งนี้ถูกประกาศไปทั่วประเทศเหล่าซุ้มไก่ดัง เซียนไก่เก่งต่างแห่แหนกันมาจากทั่วทุกพื้นที่

“หมายเลข 8 ดวงยิหวา จากจังหวัดลำพูน” เสียงประกาศจากเวทีนางงามทำหนุ่มผมยาวที่กำลังจ้ำเท้าตรงไปที่รถหยุดชะงัก

ดวงยิหวา... ลำพูน... เขาหยุดเดินและรีบหันไปทางเวที ภาพของสาวงามในชุดราตรีที่กำลังเดินโชว์ตัวไม่ชัดนัก ด้วยระยะห่างจากจุดที่ยืนอยู่และเวทีค่อนข้างไกลกันคีรีไม่ลังเลที่จะเดินตรงเข้าไปยังเวทีประกวด เขาเดินกึ่งวิ่งเพื่อจะไปให้ทันเห็นหน้าแม่นางงามหมายเลข 8 ผู้ที่กำลังเดินโชว์ตัวต่อหน้ากรรมการ

“ยิหวา ยิหวาจริง ๆ” เขาบ่นพึมพำเมื่อได้เห็นใบหน้างดงามของหญิงสาวบนเวทีอย่างชัดเจน ขณะที่เธอกำลังหมุนตัวรอบสุดท้ายก่อนจะเดินลงจากเวทีสายตาของเธอได้มองมาที่เขา ยิ่งสร้างความหวังให้กับคีรีจนเต็มร้อย

“นายหัวไอ้ทองแดงมันจะเริ่มแล้วมัวมาทำอะไรอยู่นี่” เสียงนุ้ยเด็กรับใช้เอ่ยถามพร้อมกับรั้งแขนคนที่กำลังจะเดินไปหลังเวทีให้ได้สติ

“อ๋อ พอดีกู...กูเจอคนรู้จัก งั้นมึงเอากุญแจรถไปเดี๋ยวกูไปดูไอ้ทองแดงเอง เปิดประตูเข้าไปอยู่ตรงเบาะคนขับ” คีรีออกคำสั่งก่อนจะตัดใจจากสาวงามแล้วออกเดินไปที่สังเวียนไก่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ทิ้งความตั้งใจ ที่จะย้อนกลับมาที่นี่อีกครั้ง เพื่อที่จะเข้าไปหาแม่ดวงยิหวาคนสวยของเขา

“ฟาดมาก บอกแล้วแม่ว่าหนูน่ะเชื่อมืออียิหวา” ทันทีที่ดวงยิหวาเดินกลับมานั่งเก้าอี้ชวนชมก็รีบเข้ามาเสิร์ฟน้ำเติมหน้า ดูแลเอาใจใส่พร้อมกับออกปากชมยกใหญ่

“จ้า...แต่ถ้ามันยิ้มตลอดเหมือนตอนอยู่บนเวทีก็จะดี มันเจริญหูเจริญตา” เจ๊ปลีตอบกับลูกน้องก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ เด็กในสังกัดของเธอ

“พัก 5 นาที แล้วก็จะต้องขึ้นไปรวม ทีนี้ก็จะยิงยาวจนประกาศผลเลย หน้าแกอย่าหลุดเชียวนะ” เจ๊ปลีกำชับแม่นางงามหน้างออีกครั้ง

“ยิหวารู้ค่ะเจ๊ ว่าบนเวทียิหวาต้องทำอะไร เจ๊ไม่ต้องกลัว ยิหวาไม่มีทางทำให้เจ๊เสียชื่อแน่นอน”

“ได้แบบนั้นมันก็ดี อ่ะพักกินน้ำกินท่าซะให้พอ”