ตอนที่ 1 100 %

1261 Words
"ว่าไง ใครกันที่หน้าไม่อาย หืม" "เอ่อ หยี..." มนัสยากลืนน้ำลายลงคอ ขณะนั้นเขาก็ทรุดนั่งลงตรงหน้า หญิงสาวเห็นจังหวะที่จะทำให้เขาไม่สนใจคำถามที่เขาถามทิ้งไว้ ก็รีบยกมือไหว้ทำความเคารพเขาทันที "สวัสดีค่ะอาเกื้อ" เห็นเธอเปลี่ยนเรื่องโดยการยกมือไหว้ทำความเคารพเขาเป็นเรื่องเป็นราว เกื้อการุณก็หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วรับไหว้ จากนั้นก็แสดงความไม่ใส่ใจคำพูดที่เขาได้ยินเธอโพล่งออกมาก่อนหน้า "เราไม่เจอหน้ากันมากี่ปีแล้วนะ" เขาถาม ความจริงตั้งแต่พบหน้ากัน เธอกับเขาก็ไม่เคยจะมานั่งพูดคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวอย่างวันนี้ ก็เพราะมีเรื่องให้ต้องมาพูด ไม่อย่างนั้นมนัสยาก็จะไม่ขออยู่ใกล้ผู้ชายร้ายกาจอย่างเขาเช่นกัน "ตั้งแต่ไฮน์ไปเรียนต่างประเทศค่ะ" เธอตอบออกไป นอกจากเสียงหัวเราะหึๆ ที่หลุดออกมาเมื่อครู่ ดูเหมือนเขาจะกลับเข้ามาอยู่ในหมวดนิ่งสงบอีกครั้ง แต่แววตาคู่สีสนิมดูสวนทางกับท่าทางเพราะมีแววไหวระริกบางอย่างที่ชวนให้มนัสยาใจสั่น เป็นแววเดียวกับที่เธอได้สบในคืนนั้น คืนที่เขากำลังมีอะไรกับแม่นางแบบชื่อดัง บ้าจริง เอาตัวเองออกจากเรื่องราวของเขาในคืนนั้นไม่ได้เลย หญิงสาวรีบหลบตาพร้อมกับกลืนน้ำลายแรงๆ เพื่อเรียกสติ อยู่ใกล้เขา จิตใจพลอยหวั่นไหว สติกระเจิงทุกที แล้วเธอก็ได้ยินเขาพูดหมือนพึมพำกับตัวเอง "อ๋อ...ตั้งแต่คราวนั้น" เกื้อการุณทบทวนช่วงเวลาที่หญิงสาวหมายถึง ชาลิสาไปเรียนต่างต่อประเทศตั้งแต่จบมัธยมศึกษาปีที่หก นี่ก็ผ่านไปสามปีกว่าแล้ว สิบเจ็ด สิบแปด สิบเก้า ยี่สิบ อ้อ ยี่สิบปีเต็มบริบูรณ์... "หยีขอเข้าเรื่องนะคะ" เสียงของหญิงสาวปลุกสติให้เกื้อการุณกลับมาจดจ้องดวงหน้าหวานที่ดูเลิ่กลั่กอีกครั้ง มนัสยารีบเข้าเรื่อง รีบๆ คุย จะได้จบธุระแล้วขอตัวกลับเสียที อยู่ใกล้เขาเพียงลำพัง เนื้อตัวมันรุมๆ แปลกๆ ยิ่งคิดถึงความฝันอันน่าวาบหวาม ก็ยิ่งรู้สึกไม่ไว้ใจตัวเอง "ยาหยี" เกื้อการุณมองดวงหน้าผุดผาดแล้วย้ำชื่อเล่นเต็มๆ ของเธอ เขาชอบให้เธอเรียกแทนตัวเองว่า...ยาหยี มากกว่า ฟังดูระรื่นหูกว่าเยอะ "คะ?" "เรียกชื่อเล่นเต็มๆ กับอาน่ะ น่ารักดี" สาบานว่านี่ไม่ใช่การหยอด หรือหยอกเย้าอะไรใช่มั้ย! มนัสยาเม้มริมฝีปากเข้าด้วยกันทันที เขาจ้องเธอด้วยแววตาพราวและหัวเราะหึๆ เบาๆ เอาล่ะ เธอจะทำไม่สนใจแม้ภายในจิตใจจะเต้นไม่เป็นส่ำก็ตาม แล้วมือบางก็เลื่อนโฉนดไปตรงหน้าเขา เตือนให้เขารู้ว่าจุดประสงค์ที่เธอมาที่นี่เพราะอะไร เกื้อการุณยังจ้องดวงหน้าหวานจนเธออึดอัด "ไฮน์คงเล่าให้อาเกื้อฟังคร่าวๆ แล้วนะคะว่า หยี...เอ่อ ยาหยีมาที่นี่เพราะ มีเรื่องรบกวนอาเกื้อ ยาหยีมีเรื่องต้องใช้เงินจำนวนสิบล้าน จึงมาขอรบกวนอาเกื้อด้วยเรื่องนี้ และนี่ก็เป็นโฉนดที่ดินที่เป็นตึกแถวที่ยาหยีมีอยู่ ยาหยีขอใช้โฉนดนี้เป็นหลักค้ำประกันกู้ยืมเงินจากอาเกื้อค่ะ อาเกื้อได้โปรดช่วยยาหยีด้วยนะคะ" เธอกลั้นใจเข้าเรื่องจนจบ พร้อมกับกลั้นใจรอฟังคำตอบ ซึ่งเขาไม่แม้แต่จะชายตาแลโฉนดตึกแถวที่เธอมีอยู่แม้แต่น้อย ดวงตาหวามไหวยังไม่ละจากดวงหน้าของเธอเลย "เก็บโฉนดของยาหยีไปเถอะ" เกื้อการุณบอกเสียงเรียบ ขณะเดียวกันก็จับจ้องดวงหน้าผุดผาดไม่ลดละ หน้าผากมนที่มีไรผมเป็นรูปหัวใจ ดวงหน้าหวานจิ้มลิ้ม ริมฝีปากรูปกระจับสีพีชอ่อนคงนุ่มน่าดู... เรื่อยลงตามลำคอที่มีผิวอ่อนๆ พลันเขาก็เกิดอาการปากคอแห้งขึ้นมาเสียอย่างนั้น เพราะมัวแต่วิตกข้อเสนอที่ถูกเขาปัดทิ้งไป ทำให้มนัสยาไม่ได้สนใจกิริยาที่อยากจะกลืนกินเธอทั้งตัวขอเขา น้ำเสียงหวานเริ่มสั่นไหวด้วยความหวาดวิตก "อาเกื้อ... จะไม่รับพิจารณาหน่อยหรือคะ " "ไม่รับพิจารณา" เขาย้ำน้ำเสียงเรียบดุจเดิม ทว่าแววตาเริ่มหรี่ลงเหมือนนกอินทรีที่กำลังจ้องจับเหยื่ออันโอชะ แต่ดวงหน้าหวานก็ยังไม่ทันสลดกับคำปฏิเสธจากเขา เพราะว่า... "แต่อาจะยังช่วยยาหยีอยู่" "คะ?" "เพราะอามีวิธีที่ดีกว่านั้นเสนอยาหยี" ดวงตางดงามฉายแววงุนงง กระทั่งเขาเฉลยวิธีการช่วยเหลือ ถึงได้แปรเปลี่ยนประกายก้าวร้าวขึ้น "แค่ยาหยีต้องมาเป็นเด็กของอา" "อาเกื้อ!" แววตาที่สบตอบไม่มีแววล้อเล่น มันหวามไหวด้วยอารมณ์พิศวาสจนเอ่อล้น ไม่จำเป็นที่เขาจะต้องกักเก็บหรือซ่อนอาการเอาไว้ภายใต้คุณอาที่แสนสุภาพอีกแล้ว เพราะเขาถือว่าเธอเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวที่พอจะรับฟังข้อเสนออันตรงไปตรงมาจากเขาได้แล้ว "เรื่องนี้จะเป็นความลับระหว่างเรา ยาหยีอยากจะทำร้านเสื้อผ้าออนไลน์ก็ทำไปตามปกติ แต่กลางคืนแค่มาอยู่กับอา หรือบางเวลาที่เป็นพิเศษที่อาต้องการ จะไม่มีใครรู้เรื่องของเรา แม้แต่ยัยไฮน์หลานของอา เพื่อนรักของยาหยีก็จะไม่มีวันรู้เรื่องนี้" เขาพูดได้อย่างน่าไม่อาย ให้เธอมาทำเรื่องอย่างว่าลับหลังชาลิสาหรือ ไม่ได้! มนัสยาเม้มริมฝีปากแน่น แล้วปฏิเสธออกไปทันที "ไม่ค่ะ!" "คิดดูดีๆ เป็นเด็กของอา ดีกว่าเป็นเด็กของผู้ที่มีอิทธิพลในพื้นที่คนนั้น" เขากล่าวแล้วยิ้มมุมปาก ยามเห็นดวงตาหวานเกิดแววประหลาดใจ เธอคงคาดไม่ถึงว่าเขาจะรู้ไปถึงเรื่องที่มีใครคนหนึ่งที่มีอิทธิพลและมีชื่อเสียงในประเทศกำลังอยากได้ตัวเธอไปเป็นเมียน้อยอีกคนน่ะสินะ เกื้อการุณไม่สนว่าหญิงสาวจะมองเขาด้วยความสงสัยระคนหวาดระแวงแค่ไหน เขาก็รีบพูดให้จบ "เพราะในขณะที่ยาหยีอยู่กับอา อาก็จะมีแค่ยาหยีเท่านั้น แต่ถ้าอาเบื่อยาหยีเมื่อไหร่ อาก็จะไม่ยุ่งกับยาหยีอีก ทุกอย่างระหว่างเราก็จบสิ้นกันไปแค่นั้น" "รวมทั้งเงิน... สิบล้านนี่ด้วยใช่มั้ยคะ" เกื้อการุณพยักหน้ารับ มนัสยารีบหยิบโฉนดที่ดินพร้อมกระเป๋าขึ้นมา ตอบเขาด้วยน้ำเสียงกระแทก "ยาหยีขอตัวค่ะ! ยาหยีไม่น่ามาพบอาเกื้อจริงๆ!" มันเกินไปที่จะให้เธอตอบตกลงทำเรื่องอย่างว่า...เป็นเด็กของเขา นั่นก็เท่ากับนางบำเรอของเขานั่นเอง หญิงสาวกลับเข้ามาในลิฟต์ตัวเดิมอีกครั้ง พร้อมทั้งสบตากับเงาที่สะท้อนตัวเธออีกคนที่กำลังมีสีหน้าบึ้งตึงจัด นึกแล้วก็ประหลาดใจว่า ตอนที่ฟังข้อเสนออันแสนทุเรศของเขานั้น เธอต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหนนะ ที่จะไม่ปาโฉนดที่ดินใส่คนใจร้ายคนนั้น แล้วทำไมชีวิตของเธอถึงหนีไม่พ้นผู้ชายอย่างเกื้อการุณ นิวัฒน์รังสันน์สักทีนะ ทำไม! .
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD