หลายเดือนผ่านไป...
มินตราดูเอาใจใส่ภาสกรอย่างดี ความสัมพันธ์ของพวกเขาได้ก้าวข้ามเส้นแบ่งระหว่างพยาบาลกับคนไข้ไปอย่างถาวร เธอจัดตารางการทำกายภาพบำบัดให้เขาอย่างเคร่งครัดไม่เคยขาด และในตอนกลางคืน เธอก็ยังคงทำหน้าที่เยี่ยวยารักษา ให้เขาอย่างเต็มใจ
และผลลัพธ์ก็ชัดเจน เพราะอาการของภาสกรมีสัญญาณดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะขาของเขาเริ่มมีความรู้สึกตอบสนองแล้ว รวมถึงรอยยิ้มและแววตาที่สดใสกลับคืนมาสู่ใบหน้าของเขาอย่างเห็นได้ชัด
ช่วงบ่ายวันหนึ่ง หลังจากกายภาพฝึกเดินเสร็จสิ้น มินตราเข็นรถเข็นพาเขากลับมาพักผ่อนที่ห้อง ภาสกรนั่งพิงพนักรถเข็นใบหน้าเปี่ยมสุข
“วันนี้คุณทำได้ดีมากเลยนะคะคุณภาส” มินตราเอ่ยชมด้วยรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจ เธอหยุดรถเข็นไว้ตรงหน้าต่าง
“คุณเหยียดขาได้เกือบสุดแล้วนะคะ อีกนิดเดียวก็จะกลับมาเดินได้แล้ว”
ภาสกรเอื้อมมือมาจับมือของเธอไว้แน่น แล้วจูบที่หลังมือเธออย่างแผ่วเบา
“นั่นก็เพราะว่าฉันมีกำลังใจ ที่ดีอยู่ตรงนี้ไม่ใช่เหรอ” เขาตอบกลับด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก
จนหญิงสาวหน้าแดงก่ำเมื่อได้ยินคำแซวของเขา
จนกระทั่งอีกหลายเดือนผ่านไป การดูแลอย่างเข้มข้นนั้นก็ได้ผลิดอกออกผลอย่างงดงาม จากเมื่อหลายเดือนก่อนที่เขาเคยนั่งอยู่แต่บนรถเข็น บัดนี้ภาสกรสามารถใช้ไม้เท้าพาตัวเองออกไปสูดอากาศข้างนอกได้แล้ว
และวันนี้ในเช้าวันที่อากาศแจ่มใส ภาสกรยืนอยู่บนสนามหญ้าหน้าบ้าน เขาเหยียดหลังตรงอย่างสง่างาม ทิ้งน้ำหนักลงบนขาทั้งสองข้างด้วยความมั่นใจ และข้างกายมีเพียงพยาบาลพิเศษคนเดียวเท่านั้นที่อยู่ดูแลเขาไม่ห่าง ที่ดูแลทั้งร่างกายและหัวใจ มินตรายืนอยู่ด้านข้างเขา พร้อมที่จะประคองและให้กำลังใจอยู่เสมอ รอยยิ้มบนใบหน้าของภาสกรนั้นเต็มไปด้วยความสุขที่แท้จริง เขาหันมามองมินตราด้วยแววตาที่สื่อความหมายลึกซึ้ง
“เธอเป็นคนมอบสิ่งนี้ให้ฉันทั้งหมดเลยนะ... มินตรา” เขาเอ่ยเสียงแผ่วเบา
มินตราเดินเข้าไปใกล้ แล้วประคองแขนของเขาไว้ หญิงสาวไม่ได้ตอบด้วยคำพูดแต่เธอเลือกที่จะซบหน้าลงกับอกของเขาด้วยความรักและความห่วงใย
ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ได้เป็นเพียงแค่คนไข้กับพยาบาลอีกต่อไป แต่เป็นคู่รักที่ผ่านการบำบัดทางร่างกายและจิตใจมาด้วยกัน และพร้อมที่จะเดินไปข้างหน้าร่วมกัน ในทุกก้าวที่มั่นคงนับจากนี้
ในช่วงกลางวัน มินตราดูแลภาสกรอย่างใกล้ชิด แต่สำหรับช่วงกลางคืน มินตราก็ยังคงช่วยเขาทำกายภาพบำบัดบนเตียงอย่างสม่ำเสมอ เป็นการบำบัดที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ และจิตใจไปพร้อมกัน
ในห้องที่มืดสลัว ร่างใหญ่เปลือยเปล่าของภาสกรกึ่งนั่งกึ่งนอนพิงหัวเตียง เขาถ่างขาออกกว้างอย่างเชิญชวน ลมหายใจของเขากระชั้นและหนักหน่วงด้วยความเสียวซ่านที่พุ่งทะยาน
“ซี้ดดด อ่าส์ ดีมากครับ”
เสียงครางต่ำและแหบพร่าหลุดออกมาจากเขาอย่างควบคุมไม่ได้
มือข้างหนึ่งของภาสกรยกขึ้นลูบศีรษะของพยาบาลพิเศษที่กำลังทำหน้าที่อย่างขยันขันแข็ง มินตราในสภาพเปลือยเปล่าเช่นกัน เธอนั่งอยู่กลางหว่างขาของเขา หมอบลง และกำลังอมท่อนเนื้อใหญ่ที่พองตัวอย่างเต็มที่ด้วยความมัวเมา เธอใช้ปากและลิ้น ของเธออย่างชำนาญ เป็นการมอบความสุขที่พาภาสกรล่องลอยอย่างสุดสยิว
ใบหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความสุขและพึงพอใจอย่างที่สุด
ร่างใหญ่รับรู้ถึงความเสียวซ่านที่มินตรามอบให้ ท่อนเนื้อของเขากระตุกถี่ ๆ บ่งบอกว่าเขาใกล้จะถึงขีดสุดแล้ว
“อ่าส์... อ๊า... ซี้ดดดด ไม่ไหวแล้ว... ที่รัก”
เขาครางเสียงกระเส่า พยายามควบคุมความรู้สึกที่กำลังจะระเบิด จากนั้นรีบใช้มือใหญ่ของตัวเอง ดึงใบหน้าสวยที่เปียกชื้นของเธอขึ้นมา
“พอก่อนที่รัก... พอก่อนครับ” เขาเอ่ยเสียงหอบถี่
“ถ้าเธอทำต่ออีก ฉันจะแตกซะก่อน”
มินตราเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาปรือ ภาสกรไม่รอช้า เขายันตัวออกจากหัวเตียงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะจับร่างเปลือยเปล่าของมินตราให้นอนหงายราบลงกับเตียง แล้วขึ้นคร่อมอยู่เหนือเธอ
ร่างกายส่วนล่างของเขาที่กลับมาแข็งแกร่งพร้อมที่จะรุกล้ำมอบความใหญ่โตให้เธอได้เสียวซ่าน ก่อนจะใช้มือใหญ่จับข้อเท้าเรียวของมินตราทั้งสองข้างขึ้นมา แล้วพาดบ่ากว้างของเขาไว้
ท่าทางใหม่นี้ทำให้ช่องทางรักของหญิงสาว พร้อมสำหรับการรุกล้ำที่เร่าร้อนที่สุด เมื่อมินตราอยู่ในท่าที่เขาจัด ชายหนุ่มก็โน้มตัวลงไปจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความต้องการ ส่วนปลายของท่อนเนื้อที่แข็งกร้าวถูกจ่ออยู่ที่ปากช่องทางรักที่แดงก่ำและชุ่มฉ่ำของเธอ
“พร้อมไหมครับ... ที่รัก” เขาถามเสียงพร่า
มินตราไม่มีคำตอบ เธอเพียงแต่แอ่นสะโพกขึ้นเล็กน้อย เป็นการเชื้อเชิญที่สุดแสนจะเย้ายวน ร่างหนาไม่รอช้าอีกต่อไป เขากดสะโพกดันท่อนเนื้อใหญ่ของตัวเองลงไปอย่างหนักหน่วง!
“อ๊า อื้ออ”
เสียงครางของมินตราดังลั่นห้อง ความลึกและมุมของการสอดใส่ในท่านี้เสียวซ่านจนขนอ่อนในร่างกายลุกชัน รูรักชองเธอถูกยืดออก พร้อมกับความเสียวซ่านที่พุ่งทะยานจากภายใน
ภาสกรซบใบหน้าลงที่ซอกคอของเธอ เขาขยับเอวดันท่อนเนื้อเข้าออกอย่างช้า ๆ เน้น ๆ เพราะทุกจังหวะคือการเชื่อมโยงทางร่างกายที่ลึกซึ่ง
“ซี้ดดด... มินตรา...” เขาครางเสียวใกล้หูเธอ
“รู้ไหม ตั้งแต่ฉันกลับมาเดินได้ สิ่งที่ฉันชอบที่สุดไม่ใช่การเดิน”
เขาเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นอีกเล็กน้อย ขณะที่กระแทกกระทั้นเข้าสู่ส่วนที่ลึกที่สุดของเธออย่างเสียวซ่าน
ความหมายของประโยคนี้ แค่ฟังเธอก็เข้าใจได้ทันที มันทำให้มินตราถึงกับน้ำตาซึมด้วยความตื้นตัน เธอพร้อมที่จะมอบทั้งร่างกายและหัวใจให้เขาตลอดไป
“ซี้ดดด” ทั้งสองยังคงครางกระเส่าใส่กัน
ความเร็วในการขยับกายของภาสกรเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ เขาแข็งแรงขึ้นกว่าเมื่อหลายเดือนก่อนมาก ๆ ขาที่เคยอ่อนแรง บัดนี้ใช้ยันพื้นเตียงเพื่อส่งแรงกระทั้นได้อย่างทรงพลัง
“อ๊ายยยยยยยยย อ๊า... ซี้ดดดด กรี๊!”
มินตราหวีดร้องครางไม่เป็นศัพท์ เพราะความเสียวซ่านที่พุ่งทะยานอย่างรวดเร็วจนเกินกว่าเธอจะรับมือไหว ท่อนเนื้อที่ใหญ่คับรูรักของเธอเข้าถึงจุดที่เสียวซ่านที่สุดของเธอโดยตรง สะโพกที่แข็งแกร่งของภาสกรซอยใส่ช่องทางรักของเธอไม่ยั้ง
ทั้งความใหญ่และยาวของท่อนเนื้อที่บดเบียดและกระแทกจุดเสียวซ้ำ ๆ อย่างรุนแรงและแม่นยำ เสียงเนื้อกระทบกันดัง ตับ ๆ กึกก้องไปทั่วห้อง
“อื้อออ ค..คุณภาสกร อ๊ายยยยยยยยยยยยยย”
มินตราถึงจุดสุดยอดอย่างรุนแรง ร่างกายของเธอเกร็งกระตุกอย่างหนัก ความสุขที่ท่วมท้นจนเธอควบคุมร่างกายไม่ได้
ภาสกรจ้องมองใบหน้าของมินตราที่บิดเบี้ยวด้วยความสุข เขายิ้มอย่างผู้มีชัย และเมื่อเห็นว่าเธอถึงขีดสุดแล้ว เขาก็เร่งจังหวะของตัวเองตามไปอย่างรวดเร็วเพื่อปลดปล่อยตัวเองบ้าง
“อ๊ากกกกกก ที่รัก”
เขาคำรามลั่น ก่อนจะปลดปล่อยน้ำเชื้อที่ร้อนผ่าวเข้าสู่ช่องทางรักที่ยังคงตอดรัดเขาแน่น….
หลังจากคลายความเหนื่อยล้าไปครู่หนึ่ง ภาสกรก็ขยับกายออกมานอนข้าง ๆ เธอเขายื่นแขนโอบเอวของมินตราไว้หลวม ๆ
“พรุ่งนี้... เข้าบริษัทกับฉัน” เขาเอ่ยขึ้นมาเสียงเรียบ
มินตราเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ เธอพลิกตัวเข้าหาเขา
“คุณภาสจะกลับไปทำงานแล้วใช่ไหมคะ”
“ใช่” เขาตอบสั้นๆ พร้อมรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
ใบหน้าของมินตราฉายแววสับสนทันที เธอรู้ว่าการกลับไปทำงานของเขา หมายถึงการสิ้นสุดของบทบาทที่พยาบาลพิเศษของเธอ
“ถ้างั้น ก็คงหมดหน้าที่พยาบาลพิเศษของมินแล้วสินะคะ”
เธอเอ่ยเสียงแผ่วเบา แฝงด้วยความรู้สึกเสียดายที่ต้องห่างจากเขา