ตอนที่ 1 ปั้นหยากลับมาแล้ว
ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงจากสนามบินสุวรรณภูมิถึงบ้านของตระกูลไตรกิติยานุกูลด้วยรถตู้แบบส่วนตัว ในเวลานี้คุณหญิงโฉมฉาย แม่บุญธรรมของเธอได้ติดประชุมการขยายสาขาธุรกิจออนไลน์อยู่ที่ประเทศอังกฤษอีกหนึ่งสัปดาห์กว่าที่จะได้บินกลับมายังประเทศไทย ภายในบ้านยังคงเงียบสงบ เพราะในเวลายามบ่ายของวันจันทร์เช่นนี้ อนาวินคงยังไม่เลิกงานจากบริษัท เธอควรจะหักห้ามหัวใจของตัวเองเสียที การที่แอบมีใจให้กับเขา ที่ถึงแม้จะเป็นเพียงพี่ชายนอกไส้ก็ตาม ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ผิด เธอไม่ควรจะมาหวังเอาอะไรลมๆแล้งๆในสิ่งที่ไม่มีวันเป็นจริง
เขาเกลียดเธอ โดยที่เธอเองก็ไม่รู้สาเหตุว่ามาจากอะไร หรืออาจเป็นเพราะการที่เธอได้เข้ามาเป็นน้องสาวของเขา มาเป็นลูกอีกคนของคุณหญิงโฉมฉาย มันก็ไม่แปลกที่เขาจะรังเกียจคนที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า เธอเป็นได้เป็นเพียงแค่เด็กผู้หญิงที่อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ไร้ญาติขาดมิตร ปั้นหยาแทบจะนับครั้งได้ว่าตลอดเวลาที่ได้เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ อนาวินมองหน้าเธอแค่ไม่กี่ครั้ง หากแต่เป็นเพราะความบังเอิญ หรือว่าสายตาหันมามองตรงกันพอดี ทุกครั้งที่เจอกันใบหน้าของเขานิ่งเรียบมองตรงไม่เอนเอียงมองมาแม้แต่ปรายหางตา เธอต้องแอบข่มความรู้สึกในหัวใจทุกครั้งที่บังอาจไปตกหลุมรักรักเขาตั้งแต่แรกเจอ
ปีนี้ปั้นหยามีอายุครบยี่สิบสองปี ซึ่งก็ถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว คงไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่งวุ่นวายอะไรให้มากความ อนาวินจึงเลือกที่จะกลับคอนโดมากกว่าที่จะขับรถมุ่งตรงเข้าบ้าน หากต้องไปเจอหน้าของน้องสาวนอกไส้ที่เขาควรจะออกห่างจากตัวเธอให้มากที่สุด ยิ่งอยู่ไกลกันมากเท่าไหร่ยิ่งดี
เมื่อได้อยู่บ้านเฉยๆก็ยิ่งรู้สึกถึงความน่าเบื่อ ตอนที่อยู่อเมริกาเธอมักจะหางานพาร์ทไทม์ทำในระหว่างที่ยังคงเรียนควบคู่กันไปด้วย ส่วนเพื่อนสาวที่สนิทก็ยังคงไม่กลับไทย น่าจะอีกสองสามวังหลังจากที่ได้แชทคุยกันไปเมื่อคืน ด้วยความน่าเบื่อนั้นเองจึงทำให้ปั้นหยาเกิดคิดไอเดียขึ้นมา อยากตกแต่งจัดวางเฟอร์นิเจอร์ของบ้านใหม่จนเกือบทั้งหมด รวมไปถึงการทำความสะอาดทั้งนอนของตนเองและห้องนอนของโฉมฉาย รวมไปถึงห้องนอนโทนสีเทาทึบในแบบฉบับของชายหนุ่มที่มีนิสัยลึกลับแบบอนาวินด้วย เพราะได้รับคำขออนุญาตจากมารดาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในพื้นที่ส่วนตัวของอนาวินเธอเองก็ไม่กล้าหยับจับข้าวของอะไรมากนัก เพราะภายในห้องนอนของเขาเป็นระเบียบเรียบร้อยวางจัดส่วนข้าวของเครื่องใช้ไว้ดีอยู่แล้ว เธอไม่ได้เข้ามาเหยียบในห้องส่วนตัวของเขาได้บ่อยนักหรอก เพราะอนาวินได้สั่งเอาไว้ว่าห้ามไม่ให้เธอได้เข้ามาย่างกรายในห้องนี้โดยเด็ดขาด หากต้องการจะเข้ามาเอาเสื้อผ้าของเขาไปซักก็ให้เรียกมาลีขึ้นมาแทน สาวน้อยวัยสิบเจ็ดจึงต้องเจียมเนื้อเจียมตัวหาได้เทียบเท่ากับเขาไม่ พอย้อนหลังถึงวันวานก็อดไม่ได้ที่จะแอบคิดน้อยเนื้อต่ำใจ เขามองไม่เห็นเธอราวกับเป็นเศษฝุ่นละอองที่ปลิวเข้ามารบกวนสายตาให้น่ารำคาญก็ไม่ปาน
ร่างบางถือวิสาสะย่อตัวนั่งลงบนที่นอนหนานุ่ม ก่อนจะวางทาบฝ่ามือลงลูบไล้ตามผิวผ้าสีเทาอ่อนที่ยังคงมีกลิ่นกายของอนาวินคละคลุ้งอยู่ เผลอหลับตาสูดลมหายใจซึมซับเอากลิ่นแห่งตัวตนของเขาเข้ามาจนเต็มปอด จนเกิดเป็นความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้ร่างกายของหญิงสาวรุ่มร้อนด้วยพลังแห่งความต้องการบางอย่างจนต้องขยับขาเรียวทั้งสองข้างเข้าเบียดและเสียดสีกันไปมา ขยับฟันคมกัดเม้มริมฝีปากล่างเอาไว้จนมันห้อเลือด ลมหายใจที่พ่นออกมาอย่างติดๆขัดๆทำให้เธอเองก็อยากสัมผัสกับความเป็นตัวตนของเขาให้มากยิ่งขึ้นเพื่อตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่ร่างกายสั่งผ่านออกมา
“พี่วิน” เปล่งเสียงหวานสั่นเครือออกมาจากลำคอ ยากที่จะหักห้ามใจ เธอโตมากพอที่จะรู้ว่าร่างกายต้องการอะไรจากบุคคลที่ได้เอ่ยชื่อถึง เธอไม่มีโอกาสที่จะเรียกอนาวินอย่างสนิทสนม และเมื่อเธอออกปากเรียกเขาว่าพี่ เขาก็มักจะบอกว่า “เธอไม่ใช่น้องสาวฉัน”
เมื่อได้ยินเสียงเปิดล็อคประตูจากบุคคลที่อยู่นอกห้องก็ทำเอามาปั้นหยาถึงกับเลิกลั่กทำตัวไม่ถูก อย่างแรกที่จะทำคือดีดตัวออกมาจากที่นอนของเขาให้ไวที่สุด และหาที่หลบซ่อนตัวโดยพลันเพราะถ้าหากเจ้าของห้องมาเห็นว่าเธออยู่ในนี้คงเกิดเรื่องขึ้นอีก สิ่งที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุดตอนนี้ก็คือตู้เสื้อผ้า ปั้นหยารีบพาตัวเองให้ไปอยู่ในนั้นโดยเร็วที่สุดพร้อมทั้งยกมือขึ้นปิดปากตัวเองไว้แน่น
หัวใจดวงเล็กเต้นระส่ำรุนแรงแทบไม่เป็นจังหวะเมื่อเห็นบุรุษร่างใหญ่ก้าวเข้ามาอยู่ในห้องตรงกลางเตียงผ่านช่องว่างของประตูไม้บานพับ อานวินยังความเป็นชายหนุ่มที่ทรงเสน่ห์ ใบหน้าหล่อเหลาคมคายเรียบนิ่ง องค์ประกอบของรูปหน้าไม่ว่าจะเป็นคิ้วหนา กรอบตาคมกริบ สันจมูกโด่งที่รับกับริมฝีปากหยักลึก ทุกอย่างถูกจัดวางไว้อย่างเหมาะเจาะราวกับสวรรค์สรรสร้างขึ้นให้บุรุษหนุ่มผู้นี้มีความสมบูรณ์แบบเสียยิ่งกว่ารูปปั้นกรีกโบราณ ด้วยความประหม่าจึงทำให้เธอขยับตัวแต่อนาวินก็ยังคงทำตัวปกติ แสดงว่าเขาไม่ได้ยินเสียงกึกกักที่เธอดิ้นรน
ปั้นหยาแอบลอบมองพี่ชายนอกไส้อยู่นาน ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้พบเจอกัน เขาจะจำเธอได้หรือเปล่านะ ว่าในตอนนี้เธอก็โตขึ้นมากจากเมื่อก่อน เป็นสาวเต็มตัวแล้ว ต่างคนที่พบเจอต่างก็ชมกันว่าเธอสวย มันจะดีแต่ไหนกัน ถ้าหากว่าคนที่พูดคำนี้จะเป็นอนาวินเสียเอง พอจะเป็นไปได้หรือเปล่าที่เขาจะยอมพูดจาดีๆกับเธอเพียงสักครั้ง แค่ครั้งเดียวก็ยังดี
คิ้วหนาขมวดเข้าหากันในลักษณะสงสัย เมื่อเห็นรอบผ้าปูที่นอนยวบลงราวกับมีใครสักคนนั่งลงไป เขาเพิ่งกลับเข้ามาถึงไม่มีทางที่เป็นร่องรอยของตนเอง อนาวินเป็นคนที่รอบคอบและช่างสังเกต หากแต่พบความเปลี่ยนแปลงเพียงน้อยนิดเขาก็รับรู้ได้ไม่ยากนัก แสงแดดในยามเย็นส่องกระทบลอดผ้าม่านเข้ามาทางระเบียง ทำให้คนที่ช่างสังเกตมองเห็นรอยเท้าขนาดเรียวเล็กซึ่งเป็นรอยเท้าของผู้หญิงอย่างแน่นอน และที่สำคัญก้าวสุดท้ายที่หายไปก็คือด้านหน้าของตู้เสื้อผ้านั้นเอง
เขาตัดสินใจเดินออกไปนอกห้องอีกครั้งก่อนจะเอ่ยปากเรียกหามาลีสาวใช้ประจำบ้านก่อนจะถามหาปั้นหยาเพื่อความแน่ใจ และคำตอบจากมาลีก็ทำให้เขานึกโมโหเป็นอย่างมาก ทั้งที่ห้ามนักห้ามหนาแต่ทว่าเธอก็ยังทำอีกจนได้ กรามแกร่งบดเข้าหากันแน่นจนขึ้นเป็นสันนูน เขาจะต้องทำอะไรยางอย่างเพื่อที่ไม่ต้องการให้มาปั้นหยาเข้ามาใกล้เขตแดนส่วนตัวของเขาอีก
ร่างใหญ่เดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง หูของเขาแอบได้ยินเสียงปิดของตู้เสื้อผ้า สงสัยคนที่กระทำความผิดคงอยากจะออกมาเสียเต็มที เด็กวัยแรกรุ่นเมื่อสี่ปีที่แล้ว เวลาผ่านมาจนทำให้เธอเติบโตขึ้นเป็นหญิงสาวที่น่าปรารถนาต่อผู้ที่พบเห็นอยู่ไม่น้อย จากที่เขาได้ดูรูปถ่ายของเธอเมื่อหลายวันก่อน ก็ทำให้กายชายอึดอัดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ริมฝีปากรูปกระจับออกสีระเรื่อนั้น ทำให้เขารู้สึกอยากจะกระแทกกระทั้นความเป็นชายเข้าใส่ให้หล่อนได้อ้าอมดูดรูดขึ้นลงตามความยาวของลำแท่งคงทำให้เขาสุขสมน่าดู ช่างน่าเกลียดที่เขาเกิดความรู้สึกต้องการอย่างรุนแรงเพียงแค่ได้จินตนาการถึงเธอ
“บ่าฉิบ!” อนาวินสบถกับตัวเอง พร้อมกับก้มลงมองเป้ากางเกงที่นูนเด่นโป่งพองออกมาจนน่าอับอาย ลมหายใจของหนุ่มเลือดร้อนเริ่มติดขัดไม่เป็นจังหวะ เขาจะทำอย่างไรกับความต้องการนี้ ทั้งที่อยากจะเดินเข้าไปแล้วดึงร่างบางที่เป็นต้นเหตุออกมาจากที่หลบซ่อนแล้วจับอ้าขากระแทกจนถึงใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งทรมานจนต้องใช้ฝ่ามือลูบคลำความคัดแข็งเพื่อคลายอารมณ์กำหนัด แต่ทว่ามันกลับเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าทวีคูณ
หนุ่มใหญ่ตัดสินใจเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเตียงซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามกับตู้เสื้อผ้าที่มีมาปั้นหยาซ่อนตัวอยู่ในนั้น ก่อนจะหยิบรีโมทขึ้นมาเปิดทีวีที่เล่นแต่หนังโป๊เอวี ทำราวกับว่าไม่มีเธออยู่ในห้องนี้ด้วย เสียงร้องครางอืออาดังออกมานอกจอชัดเจน ดวงตาคมก็จดจ้องมองสองดาราคู่ขวัญที่เล่นเกมรักกันอย่างเมามันส์
‘บ้าที่สุด นี่มันอะไรกัน’ โทรทัศน์แขวนอยู่บนผนังด้านข้าง ทำให้เธอไม่สามารถมองเห็นภาได้ แต่เสียงที่ได้ยินมันก็ชัดเจนพอที่จะรู้ว่าเขากำลังดูหนังโป๊อยู่ เสียงภาษาญี่ปุ่นดังลั่นแต่เธอก็มิอาจรู้ได้ว่ามันหมายความว่าอย่างไร
น้ำเสียงของหญิงสาวในเรื่องที่ครางกระเส่าสลับกับกรีดร้องแสดงถึงความสุขสมจนเธอต้องขยับขาทั้งสองข้างหนีบกันไว้แน่น ส่วนตาก็ยังคงมองจ้องไปที่คนร่างใหญ่ อนาวินยังคงนั่งอยู่ตรงปลายเตียง ใบหน้าของเขายังคงเรียบนิ่งแต่ทว่ากลับขยับเปิดปากแล้วพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงและไม่เป็นจังหวะ มือใหญ่เริ่มขยับปลดเนกไทออกจากลำคอ ลดมือลงปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนจนหลุดออกไปทั้งแผง
ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าเขาสะบัดสาบเสื้อไปทางด้านหลัง เผยให้เห็นแผงอกกำยำและหน้าท้องแกร่งประดับด้วยลอนซิกแพค ยิ่งมองเธอก็ยิ่งรู้สึกอยากเข้าไปลูบไล้ โดยเฉพาะไรขนอุกอุยที่ประดับประดาลู่ลงจนถึงห้วงแอ่งใหญ่ที่อยู่ภายใต้กางเกงสแล็คสีดำเข้ม ปั้นหยาแอบสูดปากเบาๆอย่างที่ไม่รู้ตัว เขาคงไม่รู้สึกนิดว่าเธอแอบดูอยู่ตรงนี้
‘พี่วิน’ เธอได้แต่กรีดร้องเรียกชื่อของพี่ชายนอกไส้ดังกึกก้องอยู่แต่เพียงในใจ เมื่อเห็นความใหญ่โตของลำเอ็นที่ถูกปลดปล่อยออกมานอกกางเกง มันตั้งตระหง่านขึ้นตรงกลางระหว่างสองขาแกร่ง แถมส่วนหัวของมันยังมีสีแดงก่ำเบิกบานราวกับดอกเห็ด เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นกับตาตัวเอง ของอนาวินดูใหญ่เสียยิ่งกว่าพระเอกในหนังโป๊เสียอีก ขนาดพอราวๆกับข้อมือของเธอเลยด้วยซ้ำ เอ๊ะ! หรือว่าจะใหญ่กว่าล่ะ
“อื้ม...ซี๊ดดดดส์” ให้ตายเถอะ เสียวเป็นบ้า เพียงแค่คิดว่าสาวน้อยกำลังเฝ้าดูเขาอยู่ก็แทบจะแตกระส่ำออกมาด้วยความตื่นเต้นและแปลกใหม่ อนาวินไม่ได้สนใจเรื่องราวในหนังเลยสักนิด มือใหญ่กำลำแท่งร้อนไว้เต็มอุ้งมือ เรียงนิ้วเรียวยาวเป็นแถวขยับขึ้นและลงพร้อมกับใช้นิ้วหัวแม่มือบี้ตรงส่วนหัวที่ฉ่ำลื่นไปพร้อมกัน เสียงสะท้านจนต้องแอ่นเอวยกสะโพกขึ้นสู้อย่างไม่อาย
“โอ้วววว...อ่าส์...อื้ม” อารมณ์พุ่งขึ้นสูงจึงต้องรีบเร่งขยับความเร็วตามไปด้วย ร่างใหญ่ขยับยืนขึ้นเต็มความสูง ลำขาแกร่งแยกออกจากกันพอสมควร แอ่นเอวขึ้นทำให้ความเป็นชายตั้งเด่นขึ้นมาท้าทาย โดยที่เขาจงใจให้มาปั้นหยาได้เห็นโดยชัดเจน
ความต้องการทำให้เธอรู้สึกเปียกแฉะไปทั้งง่ามขาโดยเฉพาะกางเกงในลายลูกไม้ที่เธอมักจะชอบหยิบมันขึ้นมาสวมใส่อยู่เป็นประจำ มือบางขยับลูบไล้กลีบกายเบาๆ แต่แล้วก็ต้องรีบเม้มปากเพื่อกลั้นเสียงร้องที่เหมือนกับว่าจะหลุดดังออกมาได้ทุกเมื่อ ร่างกายชายแข็งแกร่งอัดแน่นด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัดไปทุกสัดส่วน โดยเฉพาะท่อนเอ็นและพวงสวรรค์ที่หดตัวเป็นลูกบอล เห็นเขาใช้มืออีกข้างบีบนวดคลำเล่นแล้วก็ร้องเสียงหลง คงจะทรมานน่าดู
“อ่าส์....เสียวหัว....ซี๊ดดดดส์...อ่าส์....เสียว” บั้นท้ายสอบเด้งสวนกับมือจนเกิดเสียงดังคล้ายเนื้อกระทบเนื้อในยามกระแทกแลกลีลารักในหวะกระชั้นจนกลายเป็นถี่ยิบ อีกเพียงแค่นิดเดียวก็จะปริแตกแล้ว
สาวน้อยเผลอส่งลิ้นเลียรอบริมฝีปากของตัวเองเมื่อเห็นหยาดน้ำเมือกสีใสที่ไหลเยิ้มออกมาจากรูเล็กสีระเรื่อที่อยู่ส่วนหัวของลำเอ็น ยิ่งได้เห็นเขาใช้ปลายนิ้วปาดละเลงแล้วครางเสียงทุ้มต่ำ ก็ทำให้ช่องทางภายในบีบรัดตัวแน่นจนรู้สึกปวดหน่วงถูกความต้องการเข้าโจมตีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“เสียวหัว....โอ้วววว...ไม่ไหวแล้ว...จะแตกแล้ว....ซี๊ดดดดดส์” เร่งแรงกระแทกกระทั้นทั้งมือแบะสะโพกสอบเมื่ออารมณ์ใกล้เข้าถึงจุดหมายเต็มทน จนในที่สุด...
“อ่าส์...อ่าส์...ซี๊ดดดดส์...อ่าส์...อ่าส์” ร่างใหญ่เกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำกามสีขาวขุ่นข้นพุ่งออกมาเป็นสายอยู่หลายระรอกในจังหวะเดียวกันกับเสียงคราง ก่อนจะหอบหายใจอย่างหนักหน่วงและเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นมาพันรอบเอวเอาไว้ แล้วก้าวเดินเข้าห้องน้ำไปเหมือนเช่นทุกวัน ทำตัวราวกับว่าไม่มีปั้นหยาอยู่ในห้องนี้ด้วย
ส่วนสาวน้อยที่เอาแต่ตะลึงงันด้วยความวาบหวามก็รีบตั้งสติก่อนจะเปิดตัวเองออกมาจากตู้เสื้อผ้าที่แสนจะอุดอู้ คราบน้ำรักของเขาเปรอะเปื้อนเจิ่งนองอยู่เต็มพื้นพรมสีน้ำตาลเข้ม ครั้นจะเอื้อมมือลงแตะสัมผัสมันดูก็ต้องหยุดชะงักเอาไว้
เธอควรจะใช้โอกาสนี้ออกไปจากห้องนอนเขาให้เร็วที่สุดเธอค่อยๆก้าวขาเดินย่องบนพื้นให้เบาที่สุด ส่วนหูก็เอียงฟังเสียงน้ำที่ยังไหลลงจากฝักบัวกระทบเข้ากับร่างกายอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดเธอเองก็หลุดพ้นออกมาจนได้ ทันทีที่ประตูห้องถูกปิดลงมาปั้นหยาถึงกับต้องถอนหายใจด้วยความโล่งอก