หนูเห็นนะว่าพี่กานต์เดินเข้ามาในบริษัทพร้อมกับผู้หญิงคนนั้น พอเข้ามาปุ๊บก็แกล้งทำเป็นเดินห่างออกจากกันเหมือนคนไม่สนิท แต่หนูรู้ว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันทั้งคืน มาทำงานพร้อมกัน และเผลอ ๆ ตอนเย็นก็อาจนัดเจอกันสักที่แล้วกลับบ้านด้วยกัน
ปาฏลีที่นั่งดื่มน้ำส้มอยู่ตรงคาเฟ่ชั้นสองของอาคารมองลงมาเห็นชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งเดินเข้ามาตรงประตูกระจกหมุนของบริษัทคิดในใจ
หญิงสาวผมสั้นปราดเปรียวสวยเฉี่ยวคนนั้นชื่อปรียาดา อายุ 30 ต้น ๆ ทั้งสวย ทั้งเก่ง เป็นหัวหน้างานเธอเอง ส่วนผู้ชายคนนั้นชื่อกานต์ เป็นรุ่นพี่คณะบัญชีของปาฏลีและเป็นแฟนคนแรกของเธอที่ตอนนี้ถูกปรียาดาแย่งไปเรียบร้อยแล้ว
พี่กานต์เรียนจบก่อนปาฏลีหนึ่งปี เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี เข้าสังคมได้ดี นิสัยสนุกสนานเฮฮาและเอาใจเก่ง เขาเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานบัญชีที่บริษัท CL Chemical บริษัทกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่มูลค่านับหมื่นล้านหลังเรียนจบ พอได้ยินว่าที่บริษัทเปิดรับนักศึกษาฝึกงานพร้อมค่าตอบแทนเขาก็รีบชวนแฟนอย่างเธอให้มาเข้าร่วมฝึกงาน ตอนแรกปาฏลีดีใจที่จะได้ทำงานที่เดียวกับแฟนหนุ่มแถมยังได้หาเงินไปด้วยพร้อมกัน ไม่คิดเลยว่าทุกอย่างจะเป็นจุดเริ่มต้นให้เธออกหักได้
ปรียาดาผู้เป็นหัวหน้าแผนกบัญชีทีม A และเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของพี่กานต์อาจเริ่มหมายตาพี่กานต์ไว้นานแล้ว แต่พอปาฏลีเข้ามาร่วมฝึกงานด้วยปรียาดาจึงต้องรีบรวบรัดเอาตัวพี่กานต์ไปจากเธอ
หลังจากฝึกงานได้ไม่ถึงสามเดือนดี พี่กานต์ก็เดินมาบอกเลิกกับเธอง่าย ๆ
“พี่ไม่อยากหลอกตัวเอง... พี่ไม่ได้รักปูลมแล้ว”
สั้น ๆ ง่าย ๆ พี่กานต์บอกเธอแค่นั้น ทั้ง ๆ ที่สี่ปีมานี้เป็นเธอที่ทำงานพิเศษงก ๆ ช่วยจุนเจือเขาจนเรียนจบ ไม่ยอมให้เขาต้องทำงานหนักเลยแม้แต่น้อย
“มันก็แค่หลอกเอาเงินจากแกหรือเปล่าปูลม? เฮงซวยมาก ฉันว่าแล้ว... หน้าตาอย่างพี่กานต์ เขาหาสาวสวย ๆ มาเป็นแฟนได้ไม่ยาก แต่คนที่จะยอมรับใช้เขาเหมือนทาสเห็นจะมีแต่แก แกต้องตัดคนอย่างพี่กานต์ให้ขาด ผู้ชายหล่อ ๆ ดี ๆ หาไม่ยาก แกแค่ต้องเปิดใจหา หาไม่ได้ก็เก็บเงินเยอะ ๆ ซื้อกินเอา ไม่ต้องแคร์เรื่องพี่กานต์” ชญาดาเพื่อนสาวที่ทั้งช่วยปลอบทั้งด่าพี่กานต์ให้บอกเธอไว้เช่นนั้น
“ปาฏลี!” เสียงแหลมของปรียาดาตะโกนเรียกชื่อสาวน้อยจากชั้นล่างดังขึ้น คงรู้สึกตัวว่าปาฏลีกำลังจับตามองเธอและชู้รักอยู่
“คะ? ค่ะ!” ปาฏลีรีบตะโกนรับคำเรียกของหัวหน้าอย่างปรียาดาเพราะเธอเองก็เป็นเด็กฝึกงานอยู่ในทีม A
ความจริงหนูก็อยากลาออกให้รู้แล้วรู้รอดหรอกนะ แต่ฝึกงานมาสามเดือนแล้ว เรียนก็ใกล้จบแล้ว เรื่องอะไรจะเอาเวลาที่เฝ้าเรียนมาตั้งสี่ปีทิ้งง่าย ๆ เพราะชายโฉดหญิงชั่ว? ฝึกงานจบก็จบกัน พี่ดาก็คงประเมินงานให้หนูแบบส่ง ๆ ไป
“มาพบฉันที่ห้องทำงานด่วน!” ปรียาดาตะโกนบอกเธอแล้วก้าวฉับ ๆ ไปขึ้นลิฟต์ น่าจะมุ่งตรงไปยังห้องทำงานของแผนกบัญชีทีม A ที่อยู่ชั้น 19 ในขณะที่พี่กานต์ก็สาวเท้าก้าวตามชู้รักแล้วหลบตาปาฏลี ไม่กล้าสู้หน้าสาวน้อย
ปาฏลียักไหล่อย่างไม่แยแสแล้วขยับขาแว่นตาเพื่อมองท่าทีคล้ายคนร้ายที่ถูกจับได้ของอดีตแฟนให้ชัดเจน
ไม่รู้หนูชอบพี่กานต์ที่ตรงไหน? นิสัยเหมือนลูกแหง่ติดแม่ ได้แฟนเหมือนได้แม่น่ะดีแล้ว จะว่าหนูชอบเขาที่หน้าตาดีก็อาจมีส่วน แต่นายท่านมาลิกหล่อกว่าตั้งเยอะ หนูชอบที่นายท่านรูปหล่อ ขอแค่นายท่านอย่าดุหนูแค่นั้นก็คงดี ชอบทำหน้าดุ เสียงดุ หนูกลัว...
ปาฏลีเผลอไผลคิดไปถึงมาลิกก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากคาเฟ่ตรงไปทางลิฟต์เพื่อที่จะขึ้นไปที่ชั้น 19 ตามคำสั่งของหัวหน้าทีมคนสวย
หลังจากที่ปาฏลีเดินทางมาถึงชั้น 19 เธอก็เดินผ่านโต๊ะพี่กานต์ไปอย่างไม่แยแส เธอเลิกกับเขาได้ไม่ถึงอาทิตย์ดี แต่ดูเหมือนพี่กานต์จะทำตัวเป็นคนห่างเหิน พอ ๆ กับเธอที่แสร้งทำเป็นไม่เห็นหัวเขา
ป่านนี้เขาคงรู้ทั่วทั้งแผนกแล้วว่าหนูกับพี่กานต์เลิกกัน แต่ไม่น่าจะรู้ว่าพี่กานต์เลิกกับหนูเพราะพี่ดา ดี! ถ้ามากลั่นแกล้งอะไรหนู หนูจะประกาศให้โลกรู้เลยว่าพี่ดากินเด็กในทีมตัวเอง
ปาฏลีคิดในใจก่อนจะยกมือขึ้นเคาะประตูห้องหัวหน้าแผนกบัญชีทีม A พอได้ยินเสียงปรียาดาบอกให้เข้ามาได้สาวน้อยจึงเปิดประตูเข้าไป
“นั่งก่อนสิปาฏลี” ปรียาดาบอกเธอเสียงเรียบ เจ้าหล่อนยังคงเรียกปาฏลีอย่างเต็มยศเช่นเคย
“พี่ดามีเรื่องอะไรเหรอคะ? เรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว?” ปาฏลีถาม เสียงเรียบเฉยไม่แพ้หัวหน้าทีมของเธอ
“อยู่ที่ทำงานก็ต้องคุยเรื่องงานสิ” ปรียาดาตอบน้ำเสียงคล้ายหงุดหงิด
“หนูไม่รู้นี่คะ อาทิตย์ก่อนตอนพี่เรียกเข้ามาคุยพร้อมพี่กานต์พวกพี่ไม่ได้คุยเรื่องงานกับหนู” ปาฏลีตอบแล้วทำหน้ายียวน ชวนให้ปรียาดาอยากจะตบใบหน้าเล็ก ๆ นั่นสักทีสองที
ปรียาดารู้สึกได้ว่าปาฏลีเปลี่ยนไปเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเปลี่ยนตรงไหน เธอรู้แต่ว่าท่าทางของสาวน้อยเปลี่ยนไปจากอาทิตย์ก่อน จากเด็กสาวที่ถูกทอดทิ้ง นั่งนิ่งกล้ำกลืนความทุกข์ ยอมให้เธอด่าและดูถูก วันนี้กลับนั่งเชิดหน้าชูคอเหมือนโลกทั้งใบเป็นของเธอ
“เรื่องเก่าตั้งเป็นอาทิตย์ หยุดฟื้นฝอยหาตะเข็บได้แล้ว ในเมื่อเธอเลิกกับแฟนฉันแล้วก็ให้มันจบอยู่ตรงนั้น แค่เธอรู้สถานะของตัวเอง เจียมตัวให้มาก หยุดยุ่งกับกานต์ ฉันก็จะไม่คุยเรื่องส่วนตัวในที่ทำงานกับเธอ” ปรียาดาตอบสาวน้อยตรงหน้า พยายามทำน้ำเสียงให้ราบเรียบ ไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ว่าเธอแอบขุ่นเคือง
“แฟร์ดีนี่คะ พี่แย่งแฟนหนู ด้อยค่าหนู แล้วมาชูคอสั่งห้ามไม่ให้หนูพูดเรื่องเก่า ๆ” ปาฏลีประชดแล้วยกมือขึ้นขยับแว่นตาครั้งหนึ่งก่อนจะเมินสายตาไปทางอื่น
ปรียาดาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดแล้วค่อย ๆ ผ่อนออกมา พยายามทำใจให้เย็นก่อนจะพูดต่อ
“เธอรู้ใช่ไหมว่าบริษัทเรากำลังจะถูกเทคโอเวอร์โดยกลุ่มบริษัทต่างชาติ?”
“ค่ะ” ปาฏลีตอบสั้น ๆ สาวน้อยเพิ่งเข้ามาฝึกงานได้สามเดือนแต่ก็ได้ข่าวมาว่ามีบริษัทจากตะวันออกกลางแถบอาหรับที่เชี่ยวชาญเรื่องธุรกิจน้ำมันติดต่อขอซื้อ CL Chemical ด้วยจำนวนเงินมหาศาลสุดประมาณการได้
“ดี เช้านี้มีโทรศัพท์มาจากผู้จัดการแผนกบุคคลบอกว่าท่านประธานของ A.S. Majestic ที่จะเข้ามาเทคโอเวอร์บริษัทต้องการเลขาเลยอยากจะขอตัวเด็กฝึกงานของแผนกบัญชีทีม A ไปเป็นเลขาของท่านประธานตอนที่ท่านจะเข้ามาเทคโอเวอร์” ปรียาดาเริ่มพูดเข้าเรื่อง
“หมายถึงหนู?” ปาฏลีขมวดคิ้วด้วยความสงสัยแล้วชี้หน้าตัวเอง
“ใช่ หมายถึงเธอ แต่วันนี้เธอกลับไปก่อนได้เลย พรุ่งนี้ให้ไปที่โรงพยาบาลในเครือของ CL Chemical ที่รับผ่าตัดเลสิกแล้วไปทำการผ่าตัดให้เรียบร้อย ค่าผ่าตัดทั้งหมดท่านประธานคนใหม่จะเป็นคนออกให้ เธอมีเวลาพักฟื้นหนึ่งอาทิตย์ อาทิตย์หน้าค่อยกลับมาทำงานใหม่ เริ่มงานเป็นเลขาท่านประธานคนใหม่ได้เลย” ปรียาดาแจกแจงให้ปาฏลีฟังตามที่ผู้จัดการแผนกบุคคลโทรหาเธอและบอกข้อมูลมาเมื่อเช้านี้
“หือ? หนูเนี่ยนะคะจะเป็นเลขาท่านประธาน? หนูที่เป็นเด็กฝึกงานเนี่ยนะ? แล้วทำไมเลขาต้องผ่าตัดเลสิกด้วย? แล้ว...”
“หยุด! หุบปากได้แล้ว! เธอจะถามฉันทำไมยะ?! ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าเธอไปทำอีท่าไหนถึงได้ตำแหน่งเลขาท่านประธานคนใหม่? ส่วนเรื่องผ่าตัดเลสิก ท่านประธานคงเห็นรูปถ่ายจากเรซูเมของเธอและไม่อยากมีเลขาเฉิ่ม ๆ แว่นหนา หน้าตาเหมือนมาจากบ้านนอก ท่านเลยอยากให้เธอเลิกใส่แว่นเหมือนตัวตลกนั่นได้แล้ว” ปรียาดาเลือกสรรคำพูดที่คิดว่าจะทิ้งบาดแผลไว้ในใจของปาฏลีมากที่สุดมาพูด
ปาฏลีเม้มริมฝีปากแน่น ปรียาดาเป็นเช่นนี้เสมอ เห็นเธอด้อยกว่า เห็นเธอเป็นเพียงผ้าขี้ริ้วที่ไม่ควรค่ากับการยกย่องหรือเหมาะสมที่จะเป็นของพี่กานต์ ปรียาดาถึงได้ทุ่มเททุกอย่างดึงตัวพี่กานต์ไปจากเธอ
“ก็ดีค่ะ ยังไม่ทันได้เป็นเลขา ค่าผ่าตัดเลสิกเป็นแสนท่านประธานยังออกให้ได้ อีกหน่อยถ้าเป็นเลขาขออะไรท่านขึ้นมาท่านก็อาจให้ หนูหยุดงานได้ทั้งอาทิตย์เลยใช่ไหมคะ? ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะ” ปาฏลีพูดรัวแล้วลุกขึ้นยืน หันตัวกลับ หมายเดินออกจากห้อง
“ได้ข่าวว่าท่านประธานของ A.L. Majestic ที่เทคโอเวอร์บริษัทไปเป็นพวกเศรษฐีอาหรับ รวยขนาดนี้คงเป็นเศรษฐีแก่ ๆ ตัณหากลับ คงเปิดเลือกสาว ๆ จากเรซูเมแล้วชอบพวกประหลาดที่ดูเหมือนเด็กมัธยม พวกนี้มีเมียในฮาเร็มเป็นสิบ เธออาจถูกใจท่านประธานและได้เข้าไปอยู่ในฮาเร็มก็ได้ ใครจะไปรู้ โชคดีนะปาฏลี แต่ถ้าเป็นฉัน ฉันเลือกกานต์ดีกว่าตาแก่เงินหนาแน่นอน เพราะเรื่องจิตใจมันสำคัญกว่าเงินทอง แค่คิดว่าต้องมีผัวแก่คราวพ่อแล้วตัวเองยังเป็นได้แค่ผู้หญิงคนหนึ่งในฮาเร็มฉันก็ปวดหัวจนอยากจะตายแล้ว" ปรียาดาพูดตามหลังปาฏลีไปด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
สาวน้อยหันขวับมาจ้องหน้าปรียาดาแล้วพูดเน้นทีละคำ
“สา-ระ-แน-ค่ะ”
“ยัย... ยัย... ยัยเด็กแว่น! นังเด็กเปรต แกว่าอะไรนะ?!” ปรียาดาได้ฟังแล้วอารมณ์โกรธพุ่งปรี๊ดขึ้นมาทันทีที่เด็กสาวท่าทางซื่อใสด่าเธอต่อหน้า
“หนูบอกว่าสะระแหน่ค่ะ สะระแหน่ใช้แก้ปวดหัว ดมแก้เป็นลมได้ค่ะ ถ้าพี่ดาปวดหัวลองดมสะระแหน่ดูนะคะ” ปาฏลีพูดแล้วส่งยิ้มหวานให้ปรียาดาก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมปิดประตูด้วยความรู้สึกของผู้ชนะ
หลังจากหนูได้นอนกับนายท่านมาแล้ว มันทำให้หนูรู้สึกได้เลยว่าตัวหนูก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพี่ดา แค่เรื่องหยามหน้าพี่ดามันจิ๊บ ๆ ไปเลย ตอนนี้ถ้าให้หนูกระโดดถีบพี่ดาหนูก็ทำได้ แต่จะทำไปทำไม? เอาเวลาไปผ่าตัดเลสิกฟรีดีกว่าตั้งเยอะ