นายท่านของปาฏลีพยุงร่างเล็กของเธอให้ยืนมั่นก่อนจะก้าวเท้าขึ้นไปบนเวทีอย่างรวดเร็ว เขาตัวสูงใหญ่ ไหล่กว้าง สง่าผ่าเผย สวมชุดสูทอย่างดีสีเนวี บลู เข้ากับผิวสีแทนสวยของเขา เหมือนสูทชุดนั้นเกิดมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ ผมยาวสีทองของเขาถูกมัดไว้ด้านหลัง ชายหนุ่มรูปงามดูเหมือนนายแบบมากกว่านักธุรกิจหลายเท่านัก
“นะ... นาย... นายท่าน? นายท่านมาทำอะไรที่นี่คะ?” ปาฏลีเอ่ยถามเขาด้วยความงุนงง
“นี่คือท่านมาลิก อัลชาร์ ประธานบริษัทคนใหม่ที่เพิ่งซื้อกิจการของ CL พวกเรามาสายเพราะรถในกรุงเทพฯ ติดหนักมากกว่าที่เราคิดไว้เสียอีก ท่านมาลิกเลยต้องขึ้นเฮลิคอปเตอร์มาแทน” เจเจ บอดี้การ์ดร่างใหญ่ที่เดินตามหลังมาลิกมาแนะนำตัวท่านประธานคนใหม่ทันที
ปาฏลีอ้าปากค้างทำตาโต ยังปะติดปะต่อเรื่องราวไม่ได้ เธอจ้องมองนายท่านของเธอไม่วางตา เขาเองก็สบตาเธอ แต่ใบหน้าหล่อคมเข้มไม่มีร่องรอยของความยินดีหรือรอยยิ้มปรากฏอยู่แม้แต่น้อย มันทำให้ปาฏลีอดใจเสียไม่ได้
ยัยปูลม! บ้าจริงเชียว นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย? ท่านประธานจะโกรธไหมที่หนูทำกับท่านเหมือนท่านเป็นโฮสต์วันก่อน? โอ๊ย! หนูจะบ้าตาย! แต่... The show must go on สินะ
“เชิญท่านประธานขึ้นไปกล่าวสุนทรพจน์ก่อนเลยค่ะ ท่านรู้ใช่ไหมคะว่าท่านต้องทำการกล่าวสุนทรพจน์? Giving the speech น่ะค่ะ” ปาฏลีคิดเสร็จแล้วพูดออกมาทันที เกรงว่างานที่ได้รับมอบหมายมาจะไม่สำเร็จ
ในเมื่อหน้าที่ของเธอคือต้องต้อนรับท่านประธานแล้วพาท่านขึ้นไปพูดบนเวทีเธอก็ต้องทำให้เสร็จสิ้น
สาวน้อยรีบดันแผ่นหลังกว้างของมาลิกขึ้นไปบนเวทีทันที ขณะที่มาลิกหันมามองคนตัวเล็กที่ด้านหลังเขาแล้วพูดเสียงขรึม
“ถ้าฉันพูดบนเวทีเสร็จเรามีเรื่องต้องคุยกันนะปูลม อยู่รอรับฉันด้วย” เขาเอ่ยเสียงเรียบขรึมก่อนจะหันหน้ากลับแล้วเดินขึ้นไปบนเวทีท่ามกลางแสงไฟที่สาดส่องมาที่ร่างใหญ่แสนสง่างามราวราชาของเขา
แก้วตาทำหน้าเสียแล้วตำหนิปาฏลีขึ้นมาทันที
“เธอรู้จักท่านมาก่อนก็ไม่บอกฉัน ปล่อยให้ฉันด่าว่าอยู่ได้ ที่แท้ก็เด็กเส้นท่านประธาน” แก้วตาว่าเธอแล้วสะบัดหน้าหนีก่อนจะเดินจากไปทางด้านหลังเวที ถึงแม้จะไม่ชอบเด็กเส้นอย่างปาฏลีเท่าไหร่แต่เธอก็ไม่อยากมีปัญหากับเด็กของท่านประธานคนใหม่หรอกนะ
ปาฏลีได้แต่มองตามหลังเลขาสาวใหญ่ไปแล้วถอนหายใจน้อย ๆ ก่อนจะหันกลับมามองบอดี้การ์ดร่างใหญ่ของนายท่าน สาวน้อยขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถามเขา
“นี่มันเรื่องอะไรกันคะพี่ขา? ทำไมนายท่านถึงกลายเป็นมิสเตอร์อัลชาร์ ประธาน A.S. Majestic ที่เข้ามาเทคโอเวอร์ CLได้คะ?”
“ผมชื่อเจเจครับคุณปูลม และท่านมาลิกไม่ได้กลายมาเป็นประธาน A.S. Majestic ท่านเป็นอยู่แล้วตั้งแต่เริ่มแรก A.S. Majestic เป็นบริษัทจากเครเซียที่ท่านมาลิกก่อตั้งขึ้นมาเองครับ” เจเจอธิบายแล้วยิ้มให้เธอน้อย ๆ ด้วยความเอ็นดู ก่อนหน้านี้เขาเผลอคิดไปว่าปาฏลีอาจเป็นนักฆ่าที่คนไม่หวังดีส่งมาลอบสังหารนายท่านของเขา แต่ดูท่าทางเขาคงคิดมากไปเพราะเธอดูซื่อใสเกินกว่าที่จะหลอกล่อใครได้
“หือ? แล้วทำไมนายท่านถึงไปอยู่ในห้องของโฮสต์ที่หนูจ้างได้ล่ะคะ?” ปาฏลีถามต่อด้วยความสงสัย
“นั่นคือห้องของนายท่านครับคุณปูลม ไม่ใช่ห้องของโฮสต์ที่คุณจ้าง ทางโรงแรมใส่คีย์การ์ดลงไปผิดซองครับ บังเอิญวันนั้นโฮสต์ที่คุณจ้างมาประสบอุบัติเหตุไม่สามารถมาทำงานให้คุณได้ ทำให้ไม่มีใครแจ้งคุณเรื่องที่ห้องถูกสับเปลี่ยน” เจเจตอบตามที่เขาได้ไปสืบค้นข้อมูลมา
สำหรับเจเจทุกอย่างเป็นเรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะ บังเอิญที่ปาฏลีได้รับซองคีย์การ์ดผิด บังเอิญที่เจเจเป็นคนแตะคีย์การ์ดขึ้นไปยังชั้น 96 พอดิบพอดี เพราะลำพังคีย์การ์ดของปาฏลีคงไม่มีทางแตะขึ้นไปที่ชั้น 96 ได้ บังเอิญที่โฮสต์ที่ปาฏลีจ้างไว้ผิดนัด บังเอิญที่ท่านมาลิกของเขากำลังอยู่ในช่วงเหงาและเปล่าเปลี่ยวเพราะต้องย้ายมาตั้งรกรากในเมืองไทยที่ไม่คุ้นเคยนัก บังเอิญที่ปาฏลีถูกตาท่านมาลิก และบังเอิญเข้าไปอีกที่สาวน้อยทำงานอยู่ในบริษัทกลั่นน้ำมันที่ท่านมาลิกกำลังเข้าเทคโอเวอร์
“งะ... งั้นก็หมายความว่า... คืนนั้นคนที่นอนกับหนูคือ... คือ...” ปาฏลีเบิกตาโตแล้วถามเจเจในคำตอบที่เธอรู้อยู่เต็มอก
เจเจยิ้มน้อย ๆ แล้วพยักหน้ารับพร้อมกับพูดสำทับขึ้นมา
“ใช่ครับ วันนั้นคนที่นอนในห้อง 961 กับคุณปูลมคือท่านมาลิก อัลชาร์ เจ้าของ A.S. Majestic ประธานคนใหม่ของ CL Chemical นายท่านของผม และเท่าที่ทราบมาท่านมาลิกตั้งใจจะเป็นนายท่านของคุณปูลมด้วยครับ”
โอ๊ย! หนูจะเป็นลม! นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย? แล้วมันดีหรือไม่ดี? หนูงงไปหมดแล้ว
ปาฏลีกรีดร้องในใจก่อนจะเอ่ยปากถามบอดี้การ์ดร่างยักษ์ต่อ
“แต่... ทำไมไม่มีใครรู้จักท่านมาลิกคะ? พี่เจเจโกหกหนูหรือเปล่า? ท่านมาลิกออกจะหล่อ แถมยังเป็นประธานบริษัทใหญ่ ขนาดพี่ดา... ปรียาดาหัวหน้าแผนกบัญชีทีม A ยังคิดว่าท่านมาลิกเป็นตาแก่เลยค่ะ”
“ท่านมาลิกไม่ค่อยเปิดตัวต่อสาธารณชนครับ เป็นไปตามกฎของการรักษาความปลอดภัย ยิ่งมีคนรู้จักหน้าตาท่านน้อยที่สุดก็ยิ่งดี เคยมีคนวางแผนลอบสังหารท่านหลายครั้งครับ อย่างเรื่องการบริหารงานที่บริษัทนี่ก็เหมือนกัน นายท่านอาจเข้ามาที่บริษัทอาทิตย์ละครั้งแค่นั้นเพราะนายท่านบริหารงานจากที่อื่นได้ครับ เพื่อความปลอดภัยของนายท่านและง่ายต่อการให้ความคุ้มครองท่านด้วยครับ หรือหากมีใครถ่ายรูปนายท่านโดยไม่ได้รับอนุญาตผมจะต้องส่งบอดี้การ์ดไปกำจัดภาพเหล่านั้นให้สิ้นซากเพื่อให้คนอื่นรู้จักหน้าตาของท่านน้อยที่สุดครับ งานนี้ก็เหมือนกัน นายท่านห้ามไม่ให้มีการบันทึกภาพใด ๆ ทั้งสิ้นครับ” เจเจอธิบาย
ปาฏลีได้แต่อ้าปากค้าง ชีวิตของนายท่านมาลิกฟังดูราวชีวิตเจ้าชายในหนังก็ไม่ปาน
“นี่นายท่านเป็นประธานบริษัทหรือเจ้าชายคะ? ทำไมมันซับซ้อนอะไรขนาดนั้น?”
คำพูดของสาวน้อยทำให้เจเจอดหัวเราะออกมาเบา ๆ ไม่ได้
“ไม่ผิดนักครับ ท่านมาลิก อัลชาร์เป็นหลานชายคนเดียวของราชาแห่งเครเซีย พระเจ้าอะดะบีมีรัชทายาทเพียงองค์เดียวคือองค์ชายอัฟซา ดังนั้นหากเกิดอะไรขึ้นท่านมาลิกคือทายาทองค์ถัดไปทันทีครับ” เจเจเล่าเรื่องราวคร่าว ๆ ให้ปาฏลีฟัง
ความจริงในราชวงศ์มันซับซ้อนกว่าที่เขาเล่ามากนัก และความซับซ้อนนั้นก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่องค์อาดัมพระบิดาของท่านมาลิกไม่อยากให้ท่านมาลิกกลับไปเครเซียอีกเป็นอันขาด
“หือ? นายท่านไม่ได้เป็นแค่ประธานบริษัทเหรอคะ? นายท่านยังเป็นกึ่ง ๆ เจ้าชายอีกเหรอคะ?” ปาฏลีนิ่วหน้าแล้วถาม
หากบอกว่ามาลิกเป็นโฮสต์ที่เธอใช้เงินซื้อได้เธอยังพอใจมากกว่าการที่เขาเป็นท่านประธานเสียอีก แล้วตอนนี้เขาไม่ได้เป็นแค่ท่านประธาน เขายังบวกความเป็นเจ้าชายเข้าไปอีก
โอ๊ย! ทำไมนายท่านห่างไกลออกไปทุกที? แล้วแบบนี้หนูก็ไม่มีหวังเก็บเงินไปเปย์นายท่านอีกแล้วในชีวิตนี้สินะ เฮ้อ! ชีวิตปูลม ทำไมมันรันทดตั้งแต่เกิดจนโตแบบนี้เนี่ย?
ปาฏลีคิดแล้วทำหน้างอทันที
สาวน้อยคุยกับเจเจเพลินจนไม่ได้ยินสิ่งที่มาลิกพูดบนเวที รู้ตัวอีกทีผู้บริหารทั้งหลายก็ปรบมือกันเกรียวเป็นสัญญาณแสดงว่ามาลิกพูดจบแล้ว
ปาฏลีรีบหันหลังกลับไปดูที่เวที เธอเห็นมาลิกเดินหน้านิ่งขรึมตรงลงมาที่เธอ ขายาว ๆ ของเขาก้าวฉับ ๆ เพียงไม่กี่วินาทีเขาก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว
“นำทางไปที่ห้องทำงานของฉัน เรามีเรื่องต้องคุยกัน” หนุ่มหล่อสั่งปาฏลีสั้น ๆ
“เออ... แต่ท่านประธานมีงานเลี้ยงต้อนรับต่อนะคะ งานจะเริ่มแล้วด้วย” ปาฏลีรีบทำหน้าที่ของเธอก่อน แก้วตาบอกเธอไว้ว่าเธอต้องพาเขาไปงานเลี้ยงต้อนรับหลังจากกล่าวสุนทรพจน์เสร็จ
“งานเลี้ยงต้อนรับใคร?” หนุ่มหล่อหน้าคมขมวดคิ้วแล้วถามเสียงดุ
“ก็... ท่านประธานไงคะ” ปาฏลีตอบเสียงเบาเหมือนกลัวโดนดุ
“ดี! งานเลี้ยงต้อนรับฉัน ฉะนั้นจะเริ่มได้ก็ต่อเมื่อมีฉันอยู่ เธอไม่ต้องกลัวว่าฉันจะสาย เพราะเมื่อฉันก้าวเข้างาน งานถึงจะนับว่าเริ่ม เราไปคุยกันให้รู้เรื่องก่อน อ้อ! อีกอย่าง... สอนไปแล้วนะ อย่ามาเรียกฉันว่าท่านประธาน คนอื่นเรียกได้ เธอห้ามเรียก” มาลิกสั่งเสียงเข้ม
“ทะ... ทำไมล่ะคะ? คุณเป็นท่านประธาน ถ้าไม่ให้เรียกท่านประธานจะให้หนูเรียกว่าอะไรคะ?” ปาฏลีถามเขาด้วยความงุนงง
“ให้คนอื่นที่บริษัทเรียกฉันว่าท่านประธานไป ส่วนเธอ... คนของฉันต้องเรียกฉันว่า ‘นายท่าน’ เท่านั้น” คำสั่งเด็ดขาดออกมาจากปากของหนุ่มหล่อก่อนที่เขาจะบุ้ยใบ้ส่งสัญญาณให้เจเจนำทางไปยังลิฟต์โดยสารแล้วก้าวเท้าออกเดินทันทีเพราะดูท่าทางปาฏลียังคงงุนงงและปะติดปะต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วไม่ถูกนัก
“มาเดินนำหน้าฉันไปที่ห้องเร็วสิ ปูลม ถ้าไม่เดินนำไปฉันจะอุ้มไปแล้วนะ ฉันทำจริง เธอก็รู้ ตัวเธอไม่ได้หนักเลยนะ ฉันอุ้มมาแล้ว” เขาสั่งย้ำกับปาฏลีจนสาวน้อยลนลานแล้วซอยเท้าขึ้นไปเดินคู่กับเขา พยายามก้าวให้ทันขายาว ๆ ของเขา
“ค่ะ นายท่าน” เธอรับคำเขาอย่างว่าง่าย
ทำไมจู่ ๆ โฮสต์ที่หนูใช้เงินซื้อ ถึงกลายมาเป็น ‘นายท่าน’ ของหนูแบบจริงจังได้กันเนี่ย? แล้วเขามีเรื่องอะไรจะคุยกับหนู? อย่าบอกนะว่าจะไล่หนูออกเพราะหนูเข้าใจผิดว่าเขาเป็นผู้ชายขายตัว? โอ๊ย! ยัยปูลม! เคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไรกันเนี่ย?