คฤหาสน์วัฒนาภักดี
“เดี๋ยววันนี้ผมกลับก่อนนะคะครับ” เหมราชเอ่ยลามารดาที่เดินออกมาส่งเขาที่หน้าคฤหาสน์หลังงานนี้
“อยู่ทานข้าวเย็นต่อก่อนไม่ได้เหรอลูก” มารดาเอ่ยด้วยความอาลัยอาวรณ์ลูกชายสุดที่รัก มีลูกอยู่คนเดียว ลูกก็ไม่อยู่ด้วยมันน่าน้อยใจจริงๆ
“วันหลังนะครับ เดี๋ยวพ่อจะหาว่าผมเป็นก้างขวางคอครับ”
ร่างแกร่งเอ่ยเย้าหยอกไปถึงผู้เป็นบิดาด้วย
“รู้ก็ดี” หิรัญผู้เป็นพ่อตอบกลับด้วยความไม่เดือดเนื้อร้อนใจ แม้ในใจเองเขานั้นก็อยากให้ลูกชายมาอยู่ด้วยก็ตาม
“ไปนะครับ” ฟอดด เหมราชเอ่ยลามารดาอีกครั้งพร้อมก้มลงหอมแก้มและกอดมารดาเหมือนเด็กน้อย
“ดูแลแม่ดีๆนะครับพ่อ” เอ่ยกำชับผู้เป็นพ่อด้วยท่าทางกวนอวัยวะเบื้องล่าง จนผู้เป็นพ่อถลึงตาใส่ และถอนหายใจกับความกวนของลูกชาย ที่คนในครอบครัวเท่านั้นจะได้เห็น…
ท่าเรือตระกูลวัฒนาภักดี
“เย้!! ในที่สุดเราก็รอดมาได้” หญิงสาวพูดอย่างดีใจในขณะที่เดินขึ้นมาจากบนเรือ
“แล้วจะไปทางไหนต่อละทีนี้” เธอพูดพร้อมกับมองซ้ายมองขวาด้วยท่าทางลังเลใจเพราะเธอไม่คุ้นเคยกับสถานที่และไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว
ตุ๊บ
“โอ๊ะ!! ขอโทษค่ะ” เธอชนเข้าอย่างจังกับร่างใหญ่ของใครสักคน จนเธอร่วงลงไปกองกับพื้น เนื่องจากเธอเป็นคนเดินไม่ระวังแล้วไปชนกับเขาเธอจึงต้องเอ่ยขอโทษออกมา
“เฮ้ยคุณ!!” เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเธอถึงกับอุทานออกมาอย่างดังด้วยความตกใจสุดขีด ไม่คิดว่ามันจะบังเอิญหรือเป็นความซวยที่สุดในชีวิตของเธอ
“เธอกล้ามากนะ ที่หนีออกมา”
ชายหนุ่มเค้นเสียงออกมาจากลำคอด้วยความโมโหที่เธอสามารถหนีมาจนถึงอีกฝั่งได้และยังขัดคำสั่งเขาเป็นครั้งที่สาม
“ธนิน!” เหมราชตะโกนเรียกมือขวาคนสนิทที่เดินตามหลังมา
“ครับนายหัว”
“กลับไปลงโทษทุกคนที่เกี่ยวข้อง ที่ทำให้เธอหนีออกมาได้ ทำงานกันยังไง แค่ผู้หญิงตัวคนเดียวยังปล่อยให้หนีรอดมาได้ คนเป็นสิบ เห็นทีคงต้องลงโทษกันเสียหน่อยแล้ว…” เหมราชพูดเสียงดังเมื่อเห็นใบหน้าซีกเผือดของคนที่หนีมา คงกลัวเขาลงโทษพวกมันมากสินะ
“นี่คุณ พวกเขาไม่เกี่ยวนะ ฉันหนีออกมาของฉันเอง”
หญิงสาวเอ่ยออกมาเมื่อได้ฟังคำสั่งของซาตานร้าย ทั้งหมดเป็นความผิดของเธอ เธอไม่อยากให้ใครต้องมารับโทษ เพราะเธอเป็นต้นเหตุ
“ไม่ต้องห่วงคนอื่นหรอก เธอก็โดนแน่ ฉันบอกเธอไว้แล้ว”
เขาแสยะยิ้มออกมาอย่างน่ากลัวผิดกับใบหน้าอันหล่อเหลา ทำให้ร่างบางนึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์เมื่อวานและเมื่อเช้า
“ฮึก ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันขอร้อง ฉันมั่นใจว่าเราไม่เคยรู้จักกัน ฉันไม่ได้ทำอะไรให้คุณโกรธแค้นเลย ขอร้องล่ะนะนะ” ความกลัวเริ่มกัดกินดวงใจน้อย ร่างบางสั่นสะท้านน้ำตาเม็ดโตๆ เริ่มอาบเปื้อนใบหน้างาม
“เธอไม่ได้ทำ แต่พี่ชายเธอทำ!!” เขาตะคอกกลับ เมื่อนึกถึงเรื่องในอดีต ความแค้นที่ไม่เคยได้รับการชำระ
“แต่ฉันไม่รู้เรื่องด้วยหนิ”
เธอไม่รู้ว่าเขากับพี่ชายของเธอเคยมีปัญหาอะไรกัน เพิ่งได้ยินจากปากเขาเป็นครั้งแรก แต่ถึงอย่างไรเธอก็ไม่รู้เรื่องไม่เกี่ยวข้องด้วย ทำไมเธอต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย
“เธอจะได้รู้แน่” เขาบอกเสียงเย็นและดวงตาแข็งกร้าวขึ้นมา….
“โอ๊ย เจ็บนะไอ้บ้า ปล่อยๆ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ฮือออ” หญิงสาวโวยวายในขณะที่ร่างแกร่งพยายามลากเธอให้เดินตามเขาไป
“หุบปาก” เหมราชตะคอกอีกครั้งเพื่อหยุดเสียงโวยวายของ
“เก็บเสียงของเธอไว้คราง ตอนอยู่ใต้ร่างฉันดีกว่านะหึหึ” เขาพูดกับเสียงเหี้ยมพร้อมทำหน้าหื่นกระหาย
“ไม่นะ ฉันไม่ยอม ช่วยด้วย!! ช่วยด้วยค่ะ เขาจาา... อื้ออออ”
หญิงสาวเมื่อได้ยินประโยคก่อนหน้าของเขา เลยทั้งดิ้นทั้งโวยวายด้วยความกลัว หวังว่าจะมีใครสักคนที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ในบริเวณนี้เข้ามาช่วยเธอ
“ทำงานต่อไปไม่ต้องสนใจ ถ้าฉันรู้ว่าใครเอาเรื่องนี้ไปพูด รู้นะจะเป็นยังไง”
ชายหนุ่มตะโกนกลับออกไปสั่งให้คนงานทุกคนกลับไปทำงาน ที่นี่เป็นท่าเรือของเขา คนทุกคนที่นี่ก็เป็นคนงานของเขา ทุกคนจึงก้มหน้าทำงานต่อไปไม่มีใครกล้ายุ่งหรือสนใจต่อเหตุการณ์เลยสักคน
แม้แต่ธนินเองก็ได้แต่ยืนมองเหตุการณ์ด้วยความสงสารหญิงสาวจับใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จึงหันไปสั่งให้บอดี้การ์ดดูความเรียบร้อยของเรือที่จะกลับไปยังเกาะมันเดรา
“ส่วนเธอพูดดีๆไม่ชอบ ชอบรุนแรงสินะได้” ชายหนุ่มพูดขณะที่ใช่ผ้ามัดปากหญิงสาวไว้ แล้วอุ้มเธอขึ้นพาดบ่า เดินไปลงเรือที่ลูกน้องเตรียมไว้…
“อื้อๆๆๆ ไอ้อ้าอ่อยอะ” ไอ้บ้าปล่อยนะ หญิงสาวก็ดีดดิ้นโวยวาย แม้จะถูกอุ้มห้อยหัวอยู่
ตุ๊บ!!
“อ่ะ เอ็บอะ”(เจ็บนะ) เขาลงมาบนเรือเข้ามาในห้องพักของเขาบนเรือ พร้อมโยนเธอลงบนเตียงนุ่มอย่างแรง แต่ก็ยังเจ็บอยู่ดีสำหรับร่างบาง
“แล้วเธอจะได้รู้ว่าคนที่กล้าขัดคำสั่งฉันจะเป็นยังไง”
เหมราชพูดพร้อมเดินเข้าไปหาหญิงสาวและแกะผ้าที่มัดปากเธอไว้ออก พร้อมทั้งนำมันไปมัดข้อมือสองข้างของเธอไพล่หลังไว้
“ฮืออออ จะ ฉันขอโทะ อื้อออออ อ่ะ อื้อออ”
เมื่อปากเป็นอิสระหญิงสาวก็ปล่อยโฮออกมา พร้อมกับจะกล่าวขอโทษขอความเมตตาจากเขา แต่ช้าไปเสียแล้วเมื่อปากหนาก้มลงมาปิดปากบางอย่างรวดเร็วและรุนแรงพร้อมสอดแทรกลิ้นเข้าไปรุกล้ำ ยึดครองพื้นที่ในปากคนตัวเล็กเรียบร้อย เขากวาดชิมทุกซอกทุกมุมอย่างโหยหา
“อือ อืออออ อ่ะ”
ลิ้นสากยังทำหน้าที่ไล่ต้อนลิ้นเล็กไปทุกหนทาง ส่วนมือใหญ่สองข้างก็ทำหน้าที่ฟอนเฟ้นทรวงอกหยุ่น ที่กั้นด้วยเสื้อยืดตัวบาง และบราเชียสีดำข้างใน…
“อ่ะเจ็บ อย่าทำ ฮือออ โอ๊ย!!”
เมื่อดูดกลืนในโพรงปากนุ่มอย่างพอใจแล้ว เขาก็เลื่อนไปจูบซับ ริมฝีปากเล็ก พร้อมทั้งเลื่อนมาจูบที่ซอกคอหอมและสร้างรอยไว้ในทุกที่ที่ริมฝีปากเขาลากผ่าน ซ้ำยังกัดซอกคอบางเบาๆ เพื่อลงโทษคนใต้ร่างที่กล้าขัดคำสั่ง
“อืม อ่า ทนไม่ไหวแล้วโว้ย ฮึ้มม” เขาสบถออกมาอย่างสุดจะทน ความหอมหวานของคนตัวเล็กที่ให้เขาทรมาน เจียนจะขาดใจ
“อ่าาาา หยุดเถอะ อ่ะ อ่ะ อื้ออออออ”
หญิงสาวเองแม้จะรู้สึกวาบหวามกับความรู้สึกแปลกใหม่เพียงใดแต่จิตใต้สำนึกก็ยังพยายามที่จะต้องห้ามเขาไม่ให้ทำ
“อ่าหอมไปทั้งตัวเลยปิ่น อืมมมม” เขาไม่สามารถรับรู้สิ่งใดได้เลยนอกจากความปรารถนาที่มีต่อร่างบาง
“ฮะ ฮึก ฮึก” คนตัวเล็กก็ได้แต่พยายามสะกดกลั้นเสียงแปลกที่จะเล็ดลอดออกมา ไม่รู้ว่าเป็นเสียงแห่งความรัญจวนใจหรือเสียงแห่งความเสียใจกันแน่
“ถึงเกาะเมื่อไหร่เธอเละแน่ ใครก็ช่วยเธอไม่ได้แล้ว”
เขาบอกอย่างสะใจ และหันกลับไปดูดกลืนความหอมหวานจาก ร่างบางไปตลอดทาง..