CHAPTER. 10

1325 Words
คฤหาสน์วัฒนาภักดี “เดี๋ยววันนี้ผมกลับก่อนนะคะครับ” เหมราชเอ่ยลามารดาที่เดินออกมาส่งเขาที่หน้าคฤหาสน์หลังงานนี้ “อยู่ทานข้าวเย็นต่อก่อนไม่ได้เหรอลูก” มารดาเอ่ยด้วยความอาลัยอาวรณ์ลูกชายสุดที่รัก มีลูกอยู่คนเดียว ลูกก็ไม่อยู่ด้วยมันน่าน้อยใจจริงๆ “วันหลังนะครับ เดี๋ยวพ่อจะหาว่าผมเป็นก้างขวางคอครับ” ร่างแกร่งเอ่ยเย้าหยอกไปถึงผู้เป็นบิดาด้วย “รู้ก็ดี” หิรัญผู้เป็นพ่อตอบกลับด้วยความไม่เดือดเนื้อร้อนใจ แม้ในใจเองเขานั้นก็อยากให้ลูกชายมาอยู่ด้วยก็ตาม “ไปนะครับ” ฟอดด เหมราชเอ่ยลามารดาอีกครั้งพร้อมก้มลงหอมแก้มและกอดมารดาเหมือนเด็กน้อย “ดูแลแม่ดีๆนะครับพ่อ” เอ่ยกำชับผู้เป็นพ่อด้วยท่าทางกวนอวัยวะเบื้องล่าง จนผู้เป็นพ่อถลึงตาใส่ และถอนหายใจกับความกวนของลูกชาย ที่คนในครอบครัวเท่านั้นจะได้เห็น… ท่าเรือตระกูลวัฒนาภักดี “เย้!! ในที่สุดเราก็รอดมาได้” หญิงสาวพูดอย่างดีใจในขณะที่เดินขึ้นมาจากบนเรือ “แล้วจะไปทางไหนต่อละทีนี้” เธอพูดพร้อมกับมองซ้ายมองขวาด้วยท่าทางลังเลใจเพราะเธอไม่คุ้นเคยกับสถานที่และไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว ตุ๊บ “โอ๊ะ!! ขอโทษค่ะ” เธอชนเข้าอย่างจังกับร่างใหญ่ของใครสักคน จนเธอร่วงลงไปกองกับพื้น เนื่องจากเธอเป็นคนเดินไม่ระวังแล้วไปชนกับเขาเธอจึงต้องเอ่ยขอโทษออกมา “เฮ้ยคุณ!!” เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเธอถึงกับอุทานออกมาอย่างดังด้วยความตกใจสุดขีด ไม่คิดว่ามันจะบังเอิญหรือเป็นความซวยที่สุดในชีวิตของเธอ “เธอกล้ามากนะ ที่หนีออกมา” ชายหนุ่มเค้นเสียงออกมาจากลำคอด้วยความโมโหที่เธอสามารถหนีมาจนถึงอีกฝั่งได้และยังขัดคำสั่งเขาเป็นครั้งที่สาม “ธนิน!” เหมราชตะโกนเรียกมือขวาคนสนิทที่เดินตามหลังมา “ครับนายหัว” “กลับไปลงโทษทุกคนที่เกี่ยวข้อง ที่ทำให้เธอหนีออกมาได้ ทำงานกันยังไง แค่ผู้หญิงตัวคนเดียวยังปล่อยให้หนีรอดมาได้ คนเป็นสิบ เห็นทีคงต้องลงโทษกันเสียหน่อยแล้ว…” เหมราชพูดเสียงดังเมื่อเห็นใบหน้าซีกเผือดของคนที่หนีมา คงกลัวเขาลงโทษพวกมันมากสินะ “นี่คุณ พวกเขาไม่เกี่ยวนะ ฉันหนีออกมาของฉันเอง” หญิงสาวเอ่ยออกมาเมื่อได้ฟังคำสั่งของซาตานร้าย ทั้งหมดเป็นความผิดของเธอ เธอไม่อยากให้ใครต้องมารับโทษ เพราะเธอเป็นต้นเหตุ “ไม่ต้องห่วงคนอื่นหรอก เธอก็โดนแน่ ฉันบอกเธอไว้แล้ว” เขาแสยะยิ้มออกมาอย่างน่ากลัวผิดกับใบหน้าอันหล่อเหลา ทำให้ร่างบางนึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์เมื่อวานและเมื่อเช้า “ฮึก ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันขอร้อง ฉันมั่นใจว่าเราไม่เคยรู้จักกัน ฉันไม่ได้ทำอะไรให้คุณโกรธแค้นเลย ขอร้องล่ะนะนะ” ความกลัวเริ่มกัดกินดวงใจน้อย ร่างบางสั่นสะท้านน้ำตาเม็ดโตๆ เริ่มอาบเปื้อนใบหน้างาม “เธอไม่ได้ทำ แต่พี่ชายเธอทำ!!” เขาตะคอกกลับ เมื่อนึกถึงเรื่องในอดีต ความแค้นที่ไม่เคยได้รับการชำระ “แต่ฉันไม่รู้เรื่องด้วยหนิ” เธอไม่รู้ว่าเขากับพี่ชายของเธอเคยมีปัญหาอะไรกัน เพิ่งได้ยินจากปากเขาเป็นครั้งแรก แต่ถึงอย่างไรเธอก็ไม่รู้เรื่องไม่เกี่ยวข้องด้วย ทำไมเธอต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย “เธอจะได้รู้แน่” เขาบอกเสียงเย็นและดวงตาแข็งกร้าวขึ้นมา…. “โอ๊ย เจ็บนะไอ้บ้า ปล่อยๆ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ฮือออ” หญิงสาวโวยวายในขณะที่ร่างแกร่งพยายามลากเธอให้เดินตามเขาไป “หุบปาก” เหมราชตะคอกอีกครั้งเพื่อหยุดเสียงโวยวายของ “เก็บเสียงของเธอไว้คราง ตอนอยู่ใต้ร่างฉันดีกว่านะหึหึ” เขาพูดกับเสียงเหี้ยมพร้อมทำหน้าหื่นกระหาย “ไม่นะ ฉันไม่ยอม ช่วยด้วย!! ช่วยด้วยค่ะ เขาจาา... อื้ออออ” หญิงสาวเมื่อได้ยินประโยคก่อนหน้าของเขา เลยทั้งดิ้นทั้งโวยวายด้วยความกลัว หวังว่าจะมีใครสักคนที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ในบริเวณนี้เข้ามาช่วยเธอ “ทำงานต่อไปไม่ต้องสนใจ ถ้าฉันรู้ว่าใครเอาเรื่องนี้ไปพูด รู้นะจะเป็นยังไง” ชายหนุ่มตะโกนกลับออกไปสั่งให้คนงานทุกคนกลับไปทำงาน ที่นี่เป็นท่าเรือของเขา คนทุกคนที่นี่ก็เป็นคนงานของเขา ทุกคนจึงก้มหน้าทำงานต่อไปไม่มีใครกล้ายุ่งหรือสนใจต่อเหตุการณ์เลยสักคน แม้แต่ธนินเองก็ได้แต่ยืนมองเหตุการณ์ด้วยความสงสารหญิงสาวจับใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จึงหันไปสั่งให้บอดี้การ์ดดูความเรียบร้อยของเรือที่จะกลับไปยังเกาะมันเดรา “ส่วนเธอพูดดีๆไม่ชอบ ชอบรุนแรงสินะได้” ชายหนุ่มพูดขณะที่ใช่ผ้ามัดปากหญิงสาวไว้ แล้วอุ้มเธอขึ้นพาดบ่า เดินไปลงเรือที่ลูกน้องเตรียมไว้… “อื้อๆๆๆ ไอ้อ้าอ่อยอะ” ไอ้บ้าปล่อยนะ หญิงสาวก็ดีดดิ้นโวยวาย แม้จะถูกอุ้มห้อยหัวอยู่ ตุ๊บ!! “อ่ะ เอ็บอะ”(เจ็บนะ) เขาลงมาบนเรือเข้ามาในห้องพักของเขาบนเรือ พร้อมโยนเธอลงบนเตียงนุ่มอย่างแรง แต่ก็ยังเจ็บอยู่ดีสำหรับร่างบาง “แล้วเธอจะได้รู้ว่าคนที่กล้าขัดคำสั่งฉันจะเป็นยังไง” เหมราชพูดพร้อมเดินเข้าไปหาหญิงสาวและแกะผ้าที่มัดปากเธอไว้ออก พร้อมทั้งนำมันไปมัดข้อมือสองข้างของเธอไพล่หลังไว้ “ฮืออออ จะ ฉันขอโทะ อื้อออออ อ่ะ อื้อออ” เมื่อปากเป็นอิสระหญิงสาวก็ปล่อยโฮออกมา พร้อมกับจะกล่าวขอโทษขอความเมตตาจากเขา แต่ช้าไปเสียแล้วเมื่อปากหนาก้มลงมาปิดปากบางอย่างรวดเร็วและรุนแรงพร้อมสอดแทรกลิ้นเข้าไปรุกล้ำ ยึดครองพื้นที่ในปากคนตัวเล็กเรียบร้อย เขากวาดชิมทุกซอกทุกมุมอย่างโหยหา “อือ อืออออ อ่ะ” ลิ้นสากยังทำหน้าที่ไล่ต้อนลิ้นเล็กไปทุกหนทาง ส่วนมือใหญ่สองข้างก็ทำหน้าที่ฟอนเฟ้นทรวงอกหยุ่น ที่กั้นด้วยเสื้อยืดตัวบาง และบราเชียสีดำข้างใน… “อ่ะเจ็บ อย่าทำ ฮือออ โอ๊ย!!” เมื่อดูดกลืนในโพรงปากนุ่มอย่างพอใจแล้ว เขาก็เลื่อนไปจูบซับ ริมฝีปากเล็ก พร้อมทั้งเลื่อนมาจูบที่ซอกคอหอมและสร้างรอยไว้ในทุกที่ที่ริมฝีปากเขาลากผ่าน ซ้ำยังกัดซอกคอบางเบาๆ เพื่อลงโทษคนใต้ร่างที่กล้าขัดคำสั่ง “อืม อ่า ทนไม่ไหวแล้วโว้ย ฮึ้มม” เขาสบถออกมาอย่างสุดจะทน ความหอมหวานของคนตัวเล็กที่ให้เขาทรมาน เจียนจะขาดใจ “อ่าาาา หยุดเถอะ อ่ะ อ่ะ อื้ออออออ” หญิงสาวเองแม้จะรู้สึกวาบหวามกับความรู้สึกแปลกใหม่เพียงใดแต่จิตใต้สำนึกก็ยังพยายามที่จะต้องห้ามเขาไม่ให้ทำ “อ่าหอมไปทั้งตัวเลยปิ่น อืมมมม” เขาไม่สามารถรับรู้สิ่งใดได้เลยนอกจากความปรารถนาที่มีต่อร่างบาง “ฮะ ฮึก ฮึก” คนตัวเล็กก็ได้แต่พยายามสะกดกลั้นเสียงแปลกที่จะเล็ดลอดออกมา ไม่รู้ว่าเป็นเสียงแห่งความรัญจวนใจหรือเสียงแห่งความเสียใจกันแน่ “ถึงเกาะเมื่อไหร่เธอเละแน่ ใครก็ช่วยเธอไม่ได้แล้ว” เขาบอกอย่างสะใจ และหันกลับไปดูดกลืนความหอมหวานจาก ร่างบางไปตลอดทาง..
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD