เมื่อกลับมาถึงห้องพักเดิมที่เคยอยู่ หญิงสาวก็นั่งลงบนเก้าอี้ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งด้วยความรู้สึกอื้ออึงในความคิด คล้ายจะโล่งแต่ไม่โล่ง แม้คุณนายงามตารับปาก แต่ใช่ว่าจะคืนคำไม่ได้เสียเมื่อไร ในเมื่อนางเคยทำแบบนั้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ทว่าคราวนี้ หล่อนไม่ยอมให้นางทำแบบนั้นกับหล่อนอีกเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน
นางเรียมที่ตามเข้ามายืนข้างๆ ลูบศีรษะหลานสาว อย่างนึกเห็นใจ อนาคตของกอหญ้าควรไปได้ไกลกว่านี้ แต่ทำไปทำมาก็กลายเป็นว่าต้องวนเวียนอยู่ที่เดิม ต้องกลับมาอยู่ในที่ที่หล่อนอยากจะหนีไปให้ไกลที่สุด
“อย่าคิดอะไรให้มากเลยนะลูก คิดเสียว่าเรามาทำงาน อย่างน้อยๆ คุณนายท่านก็ให้เงินเดือนสูงกว่าที่อื่น”
หญิงสาวนิ่งฟัง ทว่าในใจของหล่อนกลับคิดว่าทำที่อื่นถึงแม้เงินเดือนจะน้อยกว่า แต่อย่างไรก็สบายใจกว่าแน่นอน ซ้ำยังไม่ต้องพบเจอหน้าคนที่ย่ำยีหล่อนเมื่อหลายปีก่อนอีก ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่ต้องใช้เวลาอยู่ที่นี่นานจนเกินไปนัก
“หญ้าจะพยายามทำให้ดีที่สุด อย่างน้อยก็ตอบแทนบุญคุณที่ท่านเคยส่งเสียหญ้ามาจนจบการศึกษา เมื่อไรที่คุณหนึ่งดีขึ้น พวกเราจะไปจากที่นี่กัน”
แม้กอหญ้าจะบอกออกมาเช่นนั้น ทว่านางเรียมกลับรู้สึกได้ว่าหลานสาวมีความคิดที่ซับซ้อนจนนางเข้าไม่ถึงเหมือนอย่างเคย...
เมื่อรับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว นางเรียมจึงพากอหญ้าขึ้นไปส่งที่หน้าห้องของภพธร หญิงสาวมองแม่ใหญ่ของตนอยู่อึดใจจึงยิ้มให้
“หญ้าอยู่คนเดียวได้ใช่ไหม ”
“ได้จ้ะ” หญิงสาวยิ้มให้ท่าน แล้วหันไปเคาะประตูห้อง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
อึดใจเดียวประตูห้องก็ถูกเปิดออกมาพร้อมกับผู้ดูแลวัยกลางคน นางพยาบาลสาวใหญ่ยิ้มให้หญิงสาวพร้อมกับเปิดประตูกว้าง
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อหญ้าค่ะ คุณนายบอกให้มาหาท่านที่นี่ค่ะ”
“อ้อจ้ะ ท่านยังไม่มา แต่ท่านบอกป้าเอาไว้แล้ว หนูเข้ามาก่อนสิจ๊ะ”
ร่างบางเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปในห้องของภพธร ห้องที่ครั้งหนึ่งหล่อนเคยเข้ามาและ...
หญิงสาวปัดภาพความทรงจำอันเลวร้ายเหล่านั้นออกไปทันทีที่กำลังนึกถึงมันขึ้นมาอีก และมองไปยังเตียงกว้าง เวลานี้มีร่างของใครบางคนนอนอยู่บนนั้น หญิงสาวค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ แล้วหยุดนิ่งที่ข้างเตียงด้านหนึ่ง เห็นเพียงใบหน้าด้านข้างของเขา ซึ่งมีเครารกครึ้ม บ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าของขาดการเอาใจใส่ตัวเอง และคงไม่ยอมให้ใครยุ่งกับใบหน้าของเขาอีกด้วย
“มาทางนี้สิจ๊ะหนู คุณหนึ่งเพิ่งหลับไปสักพัก”
ผู้ดูแลภพธรยืนอยู่ข้างเตียงด้านที่ติดกับหน้าต่าง หญิงสาวจึงเดินอ้อมไปตามคำเรียกร้องของอีกฝ่าย
เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่หญิงสาวได้เห็นใบหน้าของภพธรเต็มตาแบบนี้ ตอนที่เดินทางกลับมาหล่อนเคยคิดว่าคงไม่รู้สึกอะไรมากไปกว่าสมเพชเขาอยู่ในใจ แต่เมื่อมาเจอเขาในสภาพนี้กับตาตัวเอง หัวใจของหล่อนพลันหวั่นไหว ความสงสารพุ่งพรวดจู่โจม
ผู้ที่ดูแลชายหนุ่มมากว่าสองเดือนสบตาหญิงสาวยิ้มๆ ก่อนจะพยักหน้าให้เดินตามไปยังโซฟาพักผ่อนที่ตั้งชิดผนังห้องด้านหนึ่ง
“เมื่อสองเดือนก่อน คุณหนึ่งขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นดอยไปกับเพื่อนๆ ตอนไปไม่มีอะไร แต่ขากลับฝนตกหนักมาก เพื่อนๆ เตือนแล้วว่าให้อยู่ก่อน แต่คุณหนึ่งห่วงคุณนายที่กำลังป่วย เลยไม่ยอมฟังใคร” ผู้ดูแลเล่าให้ฟังคร่าวๆ แล้วหยุดดื่มน้ำ “ตอนเช้าคุณนายได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนของคุณหนึ่ง ถามว่าคุณหนึ่งกลับถึงบ้านหรือยัง เพราะโทรศัพท์ไปก็ไม่ยอมรับสายเลยพากันเป็นห่วง เท่านั้นแหละ ทั้งตำรวจทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยออกตามหากันจ้าละหวั่น หาเป็นวันๆ สุดท้ายก็เจอซากรถคุณหนึ่งตกลงไปในเหว ชิ้นส่วนบางชิ้นติดกับกิ่งไม้ ส่วนตัวคุณหนึ่งหน่วยกู้ภัยไปเจออยู่ก้นเหวนู่น อาการสาหัสจนใครๆ ก็คิดว่าไม่รอด หมอบอกว่าถ้าเจอช้ากว่านี้อีกนิดคงไม่รอดจริงๆ”
แต่ก็รอดมาได้...
หญิงสาวคิดในใจ ดวงตาคู่งามมองไปยังคนที่นอนนิ่งบนเตียงกว้าง
หากไม่นับเรื่องคืนนั้น ภพธรคือคนดีคนหนึ่ง เขาชอบช่วยเหลือคนอื่นเสมอ เป็นที่รักของใครหลายคน เป็นลูกชายที่แสนดีของพ่อแม่และถ้าวันหนึ่งเขาแต่งงานไปกับใครสักคน หล่อนเชื่อว่าเขาจะเป็นสามีที่ดีของภรรยา และเป็นพ่อที่ดีของลูกๆ อย่างแน่นอน
“ส่วนอันนี้เป็นตารางสำหรับดูแลคุณหนึ่งนะจ๊ะหนู พรุ่งนี้ป้าต้องไปแล้ว ยังไงก็ฝากด้วยแล้วกัน”
หญิงสาวนั่งนิ่งไปอึดใจขณะอ่านอาการเบื้องต้นของชายหนุ่ม ก่อนเอ่ยถามสิ่งที่อยากรู้เพิ่มเติม
“คุณหนึ่งมีโอกาสกลับมาเดินได้เป็นปกติไหมคะ”
ผู้ดูแลถอนหายใจยาว แล้วมองไปยังร่างของเจ้าของห้อง
“ก็พอมีอยู่นะ ถ้าคุณหนึ่งจะไม่หมดหวังไปเสียก่อน”
ได้ฟังดังนั้นกอหญ้าก็เงียบไปนาน แล้วอ่านตารางการดูแลผู้ป่วยของภพธร ทั้งเวลาอาหารและยา การทำกายภาพบำบัดและอื่นๆ
“แล้วเรื่องการมองเห็นล่ะคะ จากที่อ่านรายละเอียดน่าจะยังสามารถกลับมามองเห็นได้นะคะ”
ผู้ดูแลส่ายหน้าบอกว่านางเองก็ไม่รู้เหมือนกัน กอหญ้าถอนหายใจยาวแล้วลุกจากโซฟาเดินตรงไปที่คนป่วยอีกครั้ง
ภพธรดูผ่ายผอมลงเล็กน้อย แก้มของเขาตอบและรกครึ้มด้วยหนวดเครา หญิงสาวนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง ยิ่งมองดูใกล้ๆ ยิ่งรู้สึกใจหาย เขาคงจะท้อแท้ใจเป็นอย่างยิ่ง จากคนที่ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ แต่แล้ววันหนึ่งกลับเดินไม่ได้ ดวงตาไม่อาจมองเห็น...