กรงรักมธุรส EP.02 กาลเวลาเปลี่ยน ใจคนก็เปลี่ยน (2)

1335 Words
ภควัตมองร่างระหงเดินหายเข้าไปในร้านอาหารด้วยสีหน้าสงสัยระคนแปลกใจ เมื่อกี้เขาได้ยินไม่ผิด ชื่อเล่นของเธอก็คือ ‘น้ำหวาน’ ผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนนี้ ใช่คนที่เขาอยากเจอหรือเปล่าหนอชายหนุ่มเดินตามเข้าไปในร้าน ดวงตาคู่คมกวาดสายตามองหาโต๊ะที่หญิงสาวที่เขาให้ความสนใจ แล้วก็เห็นเธอคนนั้นกำลังส่งยิ้มให้พนักงานที่ขยับเก้าอี้ให้เธอนั่ง “ทางนี้ไอ้พาย” เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้ภควัตละสายตาจากโต๊ะของผู้หญิงที่เขามองอยู่ แล้วก็เจอกลุ่มเพื่อนสนิทที่เขานัดมาเจอกันในวันนี้ ชายหนุ่มหันไปมองใบหน้าหวานซึ้งของเธอคนนั้นแวบหนึ่งก่อนเดินไปยังโต๊ะของตน “ทำอะไรอยู่วะไอ้พาย หรือแกสนใจสาวๆ โต๊ะนั้นอยู่” “แกรู้จักสาวๆ โต๊ะนั้นด้วยเหรอไอ้ใหญ่” ภควัตถาม ขณะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ว่างอยู่ ทว่าสายตายังหันไปมองโต๊ะที่สาวหน้าหวานคนนั้นนั่งอยู่ “ก็รู้จักสิ เพราะยัยผู้ช่วยของฉันเป็นเพื่อนสนิทกับสาวๆ กลุ่มนั้น” ใหญ่ หรือ อภิเดช รุจากร รองประธานโรงแรมรุจากร โฮเทล อธิบายให้เพื่อนสนิทฟัง อดแปลกใจไม่ได้ว่าเหตุใดภควัตถึงให้ความสนใจกลุ่มสาวสวยโต๊ะนั้นด้วย ทั้งที่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอกด้วยซ้ำ “แกถามทำไมวะไอ้พาย หรือแกรู้จักสาวๆ กลุ่มนั้นด้วย” เทียน หรือ เทียนชัย จันทกานต์ เจ้าของรีสอร์ทและไร่องุ่นที่เชียงใหม่ถาม ขณะหันไปมองสาวๆ ที่ตกเป็นหัวข้อสนทนา “ไม่แน่ใจว่ารู้จักหรือเปล่า แต่ฉันไม่ได้เจอเค้ามาสิบปีแล้ว” เพราะไม่รู้จริงๆ ว่าผู้หญิงที่เขาเจอเมื่อกี้คือมธุรสจริงหรือไม่ แต่ถ้าใช่ตอนนี้เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเข้าไปคุยกับเธออย่างไรดี เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเขากับมธุรส ไม่ได้ดีอย่างที่ใครๆ คิด “สิบปีเลยเหรอไอ้พาย” เทียนชัยเลิกคิ้วมองหน้าภควัต สิบปีนี่มันไม่ใช่เวลาน้อยๆ เลย ว่าแต่ผู้หญิงที่สามารถทำให้เพื่อนเขาจำฝังใจได้ เจ้าหล่อนคงมีความสำคัญไม่น้อยทีเดียว “เออ” ภควัตตอบ “แล้วเธอชื่ออะไร” อภิเดชถาม ตวัดสายตาไปมองโต๊ะของที่เพื่อนสนิทให้ความสนใจ เสียงหัวเราะกับรอยยิ้มอ่อนโยนของสาวหน้าหวาน ทำให้เขารู้สึกว่าโลกดูสดใสขึ้นมาทันควัน “น้ำหวาน มธุรส วรากร” “เฮ้ย! ทำไมถึงนามสกุลเดียวกับแกเลยวะไอ้พาย” เทียนชัยถามขึ้นอย่างแปลกใจ เพราะเท่าที่เขารู้มาภควัตเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของคุณลุงเกริกกับคุณป้าพัชรา แล้วทำไมถึงมีคนใช้นามสกุลเดียวกับเพื่อนเขาได้ล่ะเนี่ย ชายหนุ่มหันไปถามคนที่เอาแต่นั่งเงียบมาตั้งแต่ภควัตมาถึง “แกรู้เรื่องนี้หรือเปล่าไอ้กฤต หรือว่ารู้แล้ว” ธนกฤตมองเพื่อนสนิททั้งสามสลับกับโต๊ะที่มีสาวๆ นั่งทานอาหารกันอยู่ ตัวเขาเองก็รู้สึกแปลกใจอยู่นิดหน่อย ที่ภควัตยังไม่ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต หรือเพราะรู้สึกผิดที่เคยทำร้ายสาวน้อยที่แสนน่ารักคนนั้น “ไม่รู้หรอก ถ้าแกอยากรู้ก็ถามไอ้พายเองสิว่ะ” “ตกลงว่าไงไอ้พาย เรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่” เทียนชัยถาม “เรื่องมันยาวนะไอ้เทียน” ภควัตตอบ “แล้วมันยาวแค่ไหนกันว่ะไอ้พาย แกถึงเล่าให้พวกฉันฟังไม่ได้” อภิเดชถาม เพราะเขาเองก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน ภควัตมีความลับกับเขาด้วยหรือ ไม่อยากเชื่อเลย ให้ตายเถอะ... “ไว้ว่างๆ ฉันจะเล่าให้แกฟัง เพื่อนสนิทของผู้ช่วยแกชื่ออะไร” “น้ำหวาน หรือ มธุรส ชุติวัต” อภิเดชบอก แล้วปรายตามองไปยังโต๊ะที่ผู้ช่วยสาวของเขานั่งอยู่ “ชื่อเล่นกับชื่อจริงก็เหมือนกัน แต่นามสกุลต่างกันนะไอ้พาย” เทียนชัยเอ่ยขึ้น ในเมื่อนามสกุลต่างกัน ก็ต้องเป็นคนละคนกันแน่นอน แต่ดูเหมือนภควัตจะไม่คิดแบบนั้น ดูจากสายตามันก็รู้ ว่าแต่ผู้หญิงที่ชื่อ มธุรส วรากร เกี่ยวข้องอะไรกับเพื่อนสนิทของเขากันแน่ ภควัตไม่ตอบ แต่หันไปมองสามสาวที่นั่งทานอาหารอยู่ไม่ไกล แล้วผู้ชายอีกสองคนนั่นเป็นใครกัน มีความเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเธอหรือเปล่า แต่จะเกี่ยวข้องกับใครก็ช่าง แค่ไม่ใช่มธุรสก็พอแล้ว “แล้วคนไหนล่ะที่ชื่อ มธุรส ชุติวัต” “ก็สาวหน้าหวานในชุดสีฟ้านั่นไง” อภิเดชบอก แล้วหันมองสาวหน้าหวานที่เพื่อนสนิทให้ความสนใจ ตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่ “น่ารักดีนี่หว่าไอ้ใหญ่” เทียนชัยบอกแล้วเมื่อเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนนั้น นึกไม่ถึงว่าอภิเดชจะรู้จักผู้หญิงหน้าตาน่ารักและมีรอยยิ้มสดใสขนาดนี้ด้วย “ใช่ น่ารัก แต่ถ้าแกคิดจะจีบ แกต้องฝ่าด่านสี่คนนั้นให้ได้ก่อน โดยเฉพาะยัยผู้ช่วยของฉัน ยัยนั่นทั้งรักและหวงคุณน้ำหวานมาก” “ยัยผู้ช่วยแก ชอบคุณน้ำหวานเหรอไอ้ใหญ่” ธนกฤตถามอย่างสงสัย “เปล่า สองคนนั้นเป็นพี่น้องร่วมสาบาน” อภิเดชอธิบายสั้นๆ ภควัตนั่งเงียบไม่ออกความคิดเห็นอะไร เพียงแต่ฟังเพื่อนทั้งสามคุยกัน เขารู้สึกตกใจเสียด้วยซ้ำที่ผู้หญิงที่เขาเดินชนดันเป็นคนที่เขาอยากเจอมากที่สุด ว่าแต่จะใช้เหตุผลอะไรเข้าไปเจอมธุรสก็เท่านั้น ‘บทจะเจอ ก็เจอกันง่ายๆ เลยนะมธุรส’ เสียงหัวเราะจากโต๊ะของมธุรสยังเรียกความสนใจจากโต๊ะของสี่หนุ่มได้อย่างชะงัก โดยเฉพาะคนที่ตกเป็นหัวข้อสนทนาก่อนหน้านี้ของพวกเขา เพราะทั้งสีหน้าและรอยยิ้มอ่อนโยนที่มักส่งให้เพื่อนๆ ในกลุ่ม ทำให้ในใจรู้สึกหมั่นไส้และอิจฉาสองหนุ่มที่นั่งร่วมโต๊ะนั่นอย่างช่วยไม่ได้ ภควัตสังเกตปฏิกิริยาของสองหนุ่มอย่างพิจารณา เขามั่นใจว่าหนึ่งในสองคนนี้ต้องชอบมธุรส แต่ไม่รู้ว่าหญิงสาวจะรู้หรือเปล่าแค่นั้นขณะที่มธุรสยังคงสนทนาอยู่กับเพื่อนสนิท หญิงสาวไม่รู้เลยว่าบุคคลที่เธอหวาดกลัวที่สุดในชีวิตกำลังนั่งมองเธอ นลินทิพย์ที่เดินกลับมาจากห้องน้ำ เดินมาได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องชะงักเท้าเล็กน้อย เมื่อสายตาปะทะเข้ากับเจ้านายหนุ่ม ไม่นึกเลยว่าโลกนี้มันจะกลมขนาดนี้ อุตส่าห์เลือกร้านอาหารที่อยู่ชานเมืองแล้ว แต่กลับต้องมาเจอกันอีก ช่างเป็นเรื่องที่บ้าบอและตลกฝืดที่สุด “ให้ตายเถอะ ทำไมต้องมาเจออีตาเจ้านายขี้เก็กที่นี่ด้วยเนี่ย ร้านอาหารมีตั้งเยอะแยะ ดวงซวยจริงๆ เลยฉัน” “มีอะไรหรือลิน” ณิชาที่เดินตามมาข้างหลังถามขึ้น เมื่อเห็นนลินทิพย์หยุดเดิน ดวงตาคู่สวยหันไปมองจุดที่เพื่อนมองไป “นั่นมันเจ้านายของลินไม่ใช่เหรอ” “อืมม์” นลินทิพย์พยักหน้าตอบ “ดวงซวยสุดๆ ไปเลยล่ะณิชา ที่ดันมาเจอผู้ชายคนนี้” “เจ้านายลินมองมาทางนี้ด้วย ลินมีเรื่องอะไรกับเค้าหรือเปล่า ทำไมถึงจ้องหน้าลินแบบนั้นล่ะ” “ไม่มีอะไรหรอกณิชา ไปกันเถอะ” นลินทิพย์หันมาชวน “อืมม์” ณิชาตอบ ละสายตาจากโต๊ะที่เจ้านายหนุ่มของเพื่อนนั่งอยู่ “ปล่อยให้น้ำหวานกับพิมพ์นั่งอยู่ที่โต๊ะนานแล้ว” นลินทิพย์บอกเพื่อนสนิทแล้วดึงแขนให้เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ ก่อนเหลือบมองโต๊ะที่เจ้านายหนุ่ม มองมาแบบนี้เชื่อเถอะว่าอีกเดี๋ยวเขาต้องลุกมาหาเธอที่โต๊ะแน่ //////// ...โปรดติดตามตอนต่อไป...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD