4
ถากถาง
ภายในสตูดิโอเล็กๆ ที่อบอุ่น ปลอดภัย สวยงามและน่าอยู่ ปลื้มใจปลดกระเป๋าสะพายข้างออกจากบ่าก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานอย่างเหนื่อยล้า แผ่นหลังบางเอนกับเบาะ หน้าสวยๆ ผุดความรู้สึกเหงาหงอยขึ้นมาทันทีที่เธออยู่ในพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง
คุณป้าอัญญาเคยมีพระคุณกับแม่เธอในช่วงที่แม่เธอป่วยหนัก ตอนนั้นทั้งช่วยค่ารักษาพยาบาล ทั้งเผื่อแผ่มาถึงเธอที่ตอนนั้นยังเรียนอยู่ คุณป้าช่วยแม่เธอในฐานะเพื่อน แม่ของเธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อส่งเธอเรียน ทุ่มเท สู้จนถึงวินาทีที่ไม่ไหวจริงๆ แม่เธอพูดอยู่ทุกวัน ย้ำให้ฟังอยู่ตลอดว่าคุณป้าอัญญามีพระคุณมาก คุณป้าไม่เคยเรียกร้องอะไร หลังจากเธอเรียนจบก็ยังมาแสดงความยินดีและปล่อยให้เธอกับแม่ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ ปล่อยให้เธอทำงานเลี้ยงดูแม่เรื่อยมา จนกระทั่งวันนี้ที่คุณป้ากำลังเจอวิกฤตหนัก
‘ณิชา’ ผู้หญิงที่ลูกชายคุณป้ารักและเรียกว่าแฟนมาโดยตลอดกำลังมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ คนเป็นแม่รู้อยู่เต็มอกว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ซื่อสัตย์ ไม่ได้จริงใจ กับครอบครัวปลอมๆ ของณิชามันมีลับลมคมในที่ซ่อนอยู่ลึกกว่านั้น แต่อัทธ์ตามคนบ้านนั้นไม่เคยทัน ไม่เคยรู้ว่ากำลังโดนหลอก ไม่เคยรู้ว่ากำลังจะถูกสูบเลือดสูบเนื้อจากคนที่ทำตัวเหมือนปลิง
และเหตุผลที่เธอยอมช่วยคุณป้า และเหตุผลที่คุณป้าขอความช่วยเหลือจากเธอมันไม่ใช่เพราะเหตุผลแค่นั้น คุณป้าที่ทุ่มเททำงานหนักมาโดยตลอดเพิ่งได้รับผลการตรวจสุขภาพมาครั้งล่าสุด พบว่าท่านกำลังป่วย มะเร็งระยะที่สามกำลังกัดกินเลือดเนื้อ ร่างกาย แม้แต่หัวใจของท่าน ลูกชายตัวดียังไม่รู้เรื่องนี้ และเพราะท่านไม่อยากให้เรื่องนี้รู้ถึงหูคนนอก อีกอย่างอัทธ์อยู่ในช่วงหูดับตาบอด บอกอะไรไปก็คงไม่ฟัง ดีไม่ดีความลับจะไม่เป็นความลับ
และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นมันไม่ใช่แผนของคุณป้า เธออาจจะรู้ก่อนหน้าจริงว่าต้องเอาชีวิตมาพัวพันกับเขา ต้องเอาตัวเขาออกมาจากผู้หญิงที่ไม่ได้จริงใจคนนั้น
ในเมื่อเธอรับปากผู้ใหญ่ไว้ว่าจะช่วย เธอเลยเลือกที่จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด หลายครั้งที่เธอมองอัทธ์ในระยะไกล และเธอก็เลือกที่จะเดินเข้าไปหาเขาในวันที่เธอแค่รู้สึกว่าเขากำลังรู้สึกแย่ ไม่คิดด้วยซ้ำว่าเขาจะสนใจเธอ
รู้ว่าไม่ควรปล่อยตัวไปกับผู้ชายที่เพิ่งเจอกันในสถานที่แบบนั้น รู้ว่าเขาอาจจะแค่อยากได้เหมือนที่ผู้ชายหลายๆ คนเป็น แต่เพราะวันนั้นมันเป็นเขาเธอเลยยอม และเลือกที่จะบอกเรื่องนี้กับคุณป้าอัญญา เพราะอย่างน้อยสิ่งที่เธอเลือกและตัดสินใจแล้วสามารถรวบรัดเขาให้ไปไหนไม่ได้
มันอาจจะทำให้เขาไม่พอใจและเกลียดเธอ แต่อย่างน้อยๆ เธอก็ได้ช่วยเติมกำลังใจให้กับคนที่กังวลและหมดหวัง
เธอแค่ทำหน้าที่ตอบแทนผู้มีพระคุณ และต่อให้ในอนาคตเธอจะเจอกับอะไร เธอพร้อมที่จะยอมรับผลของมัน!
ครืด~ ครืด~
ปลื้มใจหลุดจากภวังค์เมื่อโทรศัพท์ในกระเป๋าสั่นสะเทือนขึ้น เบอร์โทรของอลัน ผู้ชายบ้านติดกันที่เธอนับถือเป็นพี่ชายอีกคนทำให้เธอไม่ลังเลที่จะรับสาย
“ปลื้มว่าจะโทรหาอยู่พอดีเลยค่ะ”
(พี่กวนปลื้มไหม… แค่จะถามว่าวันนัดของน้าปิ่นน่ะ ปลื้มสะดวกพาแม่ไปหาหมอตามนัดไหม หรือจะให้พี่เป็นคนพาไป)
“คุณหมอนัดอาทิตย์หน้าค่ะพี่ลัน น่าจะเป็นวันจันทร์ ที่จริงปลื้มก็ว่าจะพาแม่ไปหาหมอเองแหละ”
(แต่ยังให้คำตอบไม่ได้ใช่ไหมล่ะ)
คนในสายเอ่ยถามและพยายามฟังน้ำเสียงของปลื้มใจว่าโอเค หรือมีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า
“คิดว่าไม่น่าจะติดอะไรนะคะ เดี๋ยวปลื้มพาแม่ไปเอง แล้วแม่เป็นยังไงบ้างคะ เมื่อเช้าพี่ลันเจอแม่ไหม”
(เมื่อเช้าพี่ไปนั่งกินข้าวเป็นเพื่อนน้าปิ่นมา ปลาทูทอดกับน้ำพริกกะปิอร่อยโคตร อร่อยมาก พี่กินข้าวไปสามจาน)
“โห….”
ปลื้มใจคลี่ยิ้มกับสิ่งที่ได้ฟัง อลันเป็นความสบายใจมากๆ ของเธอเลยแหละ เขาเป็นพี่ชายข้างบ้านที่นิสัยดีมาก เอาใจแม่เธอเก่งมากๆ ในระหว่างที่เธอไม่อยู่บ้าน ก็คงเป็นเขานั่นแหละที่คอยช่วยดูแลแม่เธออยู่ห่างๆ
(หิวไหมๆ วันไหนว่างก็กลับมากินข้าวที่บ้าน หรือเขาไม่ให้มา?)
อลันกำลังหมายถึงคนที่ปลื้มใจจดทะเบียนสมรสด้วยนั่นแหละ เขารู้เหตุผลทุกอย่าง และรู้ด้วยว่าน้องจำเป็นต้องทำแบบนั้นและไม่มีใครห้ามไม่ให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้
เขาไม่ได้อยากให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้เลย ยอมรับว่าโคตรเสียใจ แต่เขาทำอะไรไม่ได้ เรื่องบุญคุณคือเรื่องใหญ่สำหรับปลื้ม สิ่งที่เขาทำได้คือการดูแลและคอยห่วงใยเธออยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ
“ไม่หรอก วันไหนปลื้มสะดวกปลื้มกลับไปกินข้าวฝีมือแม่แน่นอน ขอบคุณพี่ลันมากนะคะที่ช่วยดูแลแม่แทนปลื้ม”
(พี่เต็มใจ ข้าวที่กินไปสามจานมื้อเช้าไม่เหลือในท้องแล้วนะ ตอนนี้หิวข้าวมาก ออกมากินข้าวเป็นเพื่อนพี่หน่อย พี่แวะมาแถวนี้ บอกน้าปิ่นไว้แล้วว่าจะแวะเยี่ยมปลื้ม เดี๋ยวถ่ายรูปกลับไปให้น้าปิ่นดู)
“ได้ค่ะ ร้านไหนดีคะ หิวเหมือนกัน”
เมื่อเช้าเธอเองก็ทานข้าว แต่ทานได้น้อยมาก เพราะอยากออกจากบ้านเร็วๆ อีกอย่างเธออยากถามข่าวคราวของแม่ด้วย คิดถึงมาก และอยากจะเลี้ยงข้าวคนที่คอยช่วยเหลือเธอทุกอย่างสักมื้อ
อลันแชร์โลเคชั่นร้านอาหารมาให้ และปลื้มใจออกจากสตูดิโอของเธอทันที วันนี้จะมีลูกค้าแวะมารับชุดที่สั่งตัดไว้ช่วงบ่ายสาม แปลว่าตอนนี้เธอว่าง
@ร้านอาหาร
“ปลื้ม”
เสียงเรียกส่งผลให้คนที่ก้าวเข้าไปในร้านอาหารมองตามเสียงเรียก ปลื้มยิ้มให้คนที่โบกมือให้เธอ อลันเลือกโต๊ะด้านใน เธอกวาดสายตาไปที่โต๊ะนั้นแล้ว เห็นเขาแล้ว แต่เธอไม่ได้เห็นแค่อลัน แต่หางตาของเธอมันเห็นคนที่ตอนนี้เขาเกลียดเธอยิ่งกว่าอะไรกำลังมองมาที่เธอเหมือนกัน
คุณอัทธ์อยู่ที่โต๊ะติดทางเดินก่อนถึงโต๊ะที่อลันจองไว้ เขามองหน้าเธอก่อนจะหันกลับไปมองอลันที่อยู่ด้านหลัง เช่นเดียวกับเธอที่มองผู้หญิงของกายของเขา
เธอจำนางแบบคนนี้ได้ ‘ณิชา’ ผู้หญิงที่เขารัก ผู้หญิงที่ใครก็กีดกันเขากับผู้หญิงคนนี้ไม่ได้
“มีอะไรหรือเปล่าคะอัทธ์?”
ณิชาเอ่ยถามพลางปรายตามาที่ปลื้ม เธอทำเป็นไม่มองคนทั้งคู่ เพราะคิดว่าเขาก็คงไม่อยากคุยอะไรกับเธอ จังหวะที่กำลังจะเดินผ่าน เธอได้ยินในสิ่งที่เขาพูดกับผู้หญิงคนนั้นอย่างชัดเจน
“อัทธ์รู้จักเหรอคะ”
“ไม่ครับ เขาหน้าโหล ตอนแรกผมคิดว่าผมรู้จัก แต่พอมองชัดๆ ผมแค่ดูคนผิด”
“เหรอคะ แต่ณิชาเห็นเขามองอัทธ์นะคะ”
“ผมเห็นเขามองไปทั่ว… เหมือนคนหนีผัวมาหาชู้!”
จังหวะที่พูดจบ ปลื้มกำลังจะเดินผ่านเขาพอดี มันอดไม่ได้ที่จะมองหน้าเขาอีก และสายตาของเขาที่เธอเห็นในตอนนี้เหมือนเขากำลังเยาะเย้ย และถากถางเธอ
“ขอโทษนะคะ ปลื้มไม่ได้หนีผัวมาหาชู้”
ปลื้มสบตากับคนที่มองเธอตาแข็ง
“ปลื้มไม่ได้หนีผัวมาหาชู้ ผัวปลื้มแค่ไม่อยู่เพราะเขาเอาเวลาที่มีไปใส่ใจผู้หญิงที่ไม่ใช่เมีย”
———————————
อยากเกิดก็เปิดมาค่ะคุณอัทธ์ แน่จริงก็ฉีกทะเบียนสมรสต่อหน้าเมียเลยค่ะพรี่ 😅
กดไลก์ + กดติดตาม + คอมเมนต์
เนมมีกำลังใจอัปไวมากคับ ><
**เนมอ่านทุกคอมเมนต์เยย**