“เฮ้อ~เป็นท้อ” มะม่วงหน้างอคอตก เบนหน้าหนีไปอีกทาง พลางเอียงคอลงซบที่พนักวางแขนนิ่งๆ
“เป็นท้ออะไรยะ…นี่นังน้องมะม่วง…หลับแล้วเหรอว่ะ” เอสซี่ชะเง้อคอยาวมองรุ่นน้องต่างคณะด้วยความสงสัย
เมาหลับไปแล้วเหรอว่ะ คนอะไรคออ่อนชะมัด เขาส่ายหน้าไปมาเบาๆ ก่อนจะหันไปคาดโทษไนท์ที่นั่งยิ้มกริ่มไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย
“พี่เอสซี่ขา”
“เชี่ย! ตกใจหมด” ร่างบางของมะม่วงยกตัวขึ้นมาสบตาเขา ฉีกยิ้มหวานเหมือนที่ทำเป็นประจำ เอสซี่ที่ไม่ทันตั้งตัวเด้งหลบจนแผ่นหลังกว้างชนเข้ากับโซฟา
“หนูไม่ได้น่ากลัวสักหน่อย ออกจะสวย นมก็ตูม แถมยังไม่เคยโดนจิ้มอีกต่างหาก”
“พูดบ้าอะไรเนี่ย พี่ว่าน้องมะม่วงเมาแล้ว เดี๋ยวพี่ไปส่งที่บ้านนะ” เอสซี่เลิกลักไม่ไหว เมื่อเธอคว้ามือของเขาไปจับนมตูมๆ ที่บดเบียดอยู่ในเสื้อสายเดี่ยวตัวเล็ก แค่เห็นก็รู้แล้วว่าใหญ่ ไม่ต้องให้สัมผัสแนบเนื้อแบบนี้ก็ได้ย่ะ
“ไม่เอา ยังไม่อยากกลับ หนูอกหักอยู่นะ คืนนี้ไม่เมาไม่กลับ”
“น้องเมาแล้วจ้ะ มาไม่เมาไม่กลับอะไร แล้วไหนบอกว่าไม่อกหักไง”
“หืม? หนูพูดตอนไหน แต่ก็นะ คิดแล้วมันก็เศร้า” จากที่ร่าเริงสดใส มะม่วงเปลี่ยนเป็นใบหน้าเศร้าลงทันที เพียงแค่อีกฝ่ายพูดก็ทำให้เธอนึกถึงเรื่องก่อนหน้าที่อยากจะลืม
“อกหักไม่ตายหรอกน้องมะม่วง เดี๋ยวพี่ชงให้ใหม่”
“ชงหนุ่มหล่อใช่มั้ยคะ” มะม่วงเอ่ยถามไนท์ที่เสนอตัวด้วยความตื่นเต้น แอลกอฮอล์ในร่างกายทำให้เธอรู้สึกกลัวคนตรงหน้าน้อยลง
“ชงเหล้าครับน้อง เอาแก้วมา”
“ใจร้ายชะมัด มะม่วงนึกว่าตัวเองจะได้ผัวซะแล้ว” มือบางยกแก้วเหล้าให้ไนท์ ก่อนเอ่ยตัดพ้อเสียงเบา
“แฟนเก่าน้องมันแย่รึไง ถึงได้เลิกกับมัน” ไนท์เอ่ยถามแทนเพื่อนสนิทที่ใคร่อยากรู้ไม่ต่างกัน
“ได้ข่าวว่าคบกับพี่มาร์คไม่ใช่เหรอ” เสียงเยือกเย็นของคิงส์เอ่ยขึ้น อาทิตย์ก่อนเขาไปหามาร์คที่คณะ อีกฝ่ายยังเอ่ยบอกเขาอยู่เลยว่าคุยๆ อยู่กับรุ่นน้องสาวคนนี้
“คบตรงไหน แค่คุยๆ กันสองอาทิตย์ได้มั้งค่ะ”
“แล้วยังไง โดนพี่มาร์คทิ้งว่างั้น”
เสียงของเอสซี่เอ่ยถามขึ้นทำให้มะม่วงนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า
~~เหตุการณ์ก่อนหน้า~~
มาร์คชวนมะม่วงไปดูหนังที่ห้อง พร้อมกับเตรียมอาหารเย็นไว้ให้ ไม่พอยังมีไวน์แดงหนึ่งขวดที่ถูกเตรียมแช่เอาไว้จนเย็นเฉียบ
หลังจากทั้งคู่ทานอาหารเย็นแสนอร่อยกันเสร็จ มาร์คก็ชวนมะม่วงมานั่งที่โซฟาตัวกว้าง เบื้องหน้าคือทีวีห้าสิบห้านิ้วที่ภาพชัดตาแตก มาร์คเปิดเข้าแอปดูหนังพลางเอ่ยถามมะม่วงที่นั่งอยู่ข้างกายด้วยท่าทางเขินอาย
สองมือของเธอชุ่มเหงื่อ บีบเข้าหากันแน่นด้วยความประหม่า แถมบรรยากาศก็ช่างเป็นใจสุดๆ ฝนที่กำลังกระหน่ำเทลงไม่หยุด อากาศเย็นพลางทำให้สมองของมะม่วงคิดไปไกล
“ชอบดูหนังแนวไหน”
“อืม…ได้หมดค่ะ” แม้ตัวเองจะไม่ชอบดูหนังรักก็เถอะ เวลาดูทุกทีแล้วมันอิจฉาอยากมีโมเมนท์เหมือนในหนังบ้าง แต่ในชีวิตจริงของเธอกลับสวนทางโดยสิ้นเชิง ไร้คู่ ไร้คนจีบ ไม่รู้ว่าตัวเองมีจุดด้อย ด่างพร้อยตรงไหน แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอด้วยค่าของตัวเองหรอกนะ เธอก็ยังคิดเสมอว่าสักวันคนที่ใช่จะมาในเวลาที่เหมาะสม และวันนี้แหละเป็นวันที่เหมาะสมที่สุด
“งั้นเรื่องนี้ก็แล้วกัน” เสียงของมาร์คไม่ได้เรียกความสนใจให้มะม่วงเบนสายตาไปมองทีวีเลยสักนิด ดวงตาของเธอยังจับจ้องใบหน้าหล่อของหนุ่มรุ่นพี่นิ่ง ราวกับหลงใหลในรูปลักษณ์ภายนอกที่ทั้งดูสะอาดสะอ้าน หล่อเหลา แถมยังสุภาพ ให้เกียรติเธอมาตลอด แม้บางครั้งเธอจะรุกหนักใส่เขาด้วยคำพูดก็เถอะ
“เรื่องนี้ก็น่าสนุกดีค่ะ” มะม่วงเอ่ยตอบ มาร์คละสายตาจากหน้าจอทีวีแล้วหันมาสบสายตาที่มองมาทางเขา
“รู้เหรอครับว่าพี่ชวนเราดูหนังเรื่องอะไร”
“จะเรื่องอะไรก็ช่าง มะม่วงดูได้หมดค่ะถ้ามีพี่มาร์คดูด้วย”
“หึ! อย่าร้องดังล่ะ เดี๋ยวข้างห้องตกใจ”
“คะ? อ่อ…ได้ค่ะ มะม่วงจะร้องเบาๆ” ประโยคนั่นของมาร์คทำให้มะม่วงคิดไปไกล ทั้งที่ตอนนี้เธอควรหันไปมองจอทีวีห้าสิบห้านิ้วได้แล้ว แต่กลับละสายตาไปจากใบหน้าหล่อของรุ่นพี่ไม่ได้เลย
“พี่มาร์ค”
“ครับ” มาร์คเอ่ยตอบ แต่สายตาคมยังคงจับจ้องจอทีวีอย่างจริงจัง หนังที่ผ่านไปสิบห้านาทีเริ่มสนุก จนทำให้ไม่สามารถมีอะไรเรียกความสนใจให้เขาละจากจอทีวีไปได้
“ทีวีพี่ชัดมากเลย ไม่อยากเห็นอะไรที่ชัดกว่านั้นบ้างเหรอคะ”
“อะไรครับ”
“ก็เช่น…หน้ามะม่วงแบบใกล้ๆ” ไม่รอให้อีกฝ่ายอนุญาตมะม่วงขยับตัวขึ้นคร่อมบนตักของรุ่นพี่หนุ่มอย่างรวดเร็ว พลางขยับใบหน้าเข้าไปใกล้จนสันจมูกของเราทั้งคู่ชนกัน
“พี่ว่ามะม่วงลงไปนั่งบนโซฟาดีๆ ก่อนมั้ย หนังกำลังสนุกเลย หรืออยากนั่งบนตักพี่ก็หันไปอีกทางให้ดี”
“…” มะม่วงเลิกคิ้วขึ้นสูง มองใบหน้าหนุ่มรุ่นพี่ด้วยความสับสน ใบหน้าสวยชาอย่างบอกไม่ถูก ถึงนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อีกฝ่ายปฏิเสธการถึงเนื้อถึงตัวก็ตาม จะบอกว่าแค่จับมือกัน ก็ยังไม่เคยทำด้วยซ้ำ หรือเพราะเธอรุกเขาหนักเกินไป
“ว่าไงครับ ลุกเร็ว”
“ค่ะ” มะม่วงลุกออกจากตักอีกฝ่ายอย่างไม่มีทางเลือก พลางหันไปมองคนที่จดจ่อกับหน้าจอทีวีนิ่ง
หนังมันก็น่าสนใจอยู่หรอก แต่ไหงมันน่าสนใจกว่าร่างกายอวบอิ่มของเธอไปได้
หรือเป็นเธอที่คิดไปไกลเองคนเดียว พี่มาร์คอาจจะแค่ชวนเธอมาดูหนังที่คอนโดจริงๆ แต่ถ้าอยากดูหนังเฉยๆ ทำไมเราไม่ไปดูที่โรงหนังกันล่ะ มาดูที่ห้องทำไมทนอกซะจากจะชวนทำเรื่องอย่างว่าหรือข้อมูลที่เธอได้ยินมามันผิด
“พี่มาร์คค่ะ มะม่วงร้อน ขออาบน้ำหน่อยได้มั้ยคะ” มะม่วงตัดสินใจลองอ่อยอีกครั้ง
แขนเสื้อสายเดี๋ยวถูกปลดออกทั้งสองข้าง ทำให้เสื้อตัวบางหล่นลงไปกองอยู่ที่เอวคอด เผยให้เห็นอกอวบอิ่มที่บดเบียดกันอยู่ ภายในมีเพียงแผ่นบราปีกนกที่ปกปิดได้เพียงครึ่งเต้า
“อึก” สายตาคู่คมละจากหน้าจอทีวี กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
ภาพที่เห็นมันช่างยั่วยวนชวนมองจนไม่อาจละสายตาไปได้ ยิ่งใบหน้าสวยที่มีท่าทางเขินอายนั่นดูใสซื่อจนน่าขย้ำ
“เข้าไปอาบในห้องได้เลยครับ เดี๋ยวพี่เอาเสื้อให้เปลี่ยน”
“คะ?” ท่าทางของหนุ่มรุ่นพี่ที่เหมือนชอบใจแต่สุดท้ายก็ปฏิเสธเธออย่างไร้เยื่อใย มันคืออะไรกัน? ร่างกายเธอมันไม่น่ามอง ไม่น่าสนใจเหรอหรือเพราะอะไรกันแน่
มะม่วงมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง พลางส่งสัญญาณให้เธอเดินตามไป เธอจึงรีบตามไปอย่างไม่รอช้า
บางทีเขาอาจจะอยากทำในห้องนอนก็ได้ พี่มาร์คอาจจะเขินอายมาก แล้วทำทีว่าไปเอาเสื้อให้ จากนั้นพอเธอเข้าห้อง พี่เขาก็จะจู่โจมฉุดรั้งเธอไปที่เตียงและขึ้นคร่อม…อร้าย๊ย แค่คิดก็เขิน
มะม่วงก้มหน้าเขินให้กับความคิดของตัวเอง ก่อนที่เธอจะวิ่งดุ๊กดิ๊กตามเข้าไปในห้องนอนด้วยความตื่นเต้น หัวใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำ ในสมองก็พลางคิดถึงฉากวาบหวิวไม่หยุด จนกระทั่ง…
“เสื้อผ้าครับ ชุดนี่มะม่วงน่าจะใส่ได้ กางเกงมันมีเชือกอยู่ เสร็จแล้วตามออกมานะ เดี๋ยวพี่ดูหนังรอ” ประโยคยาวเหยียดที่หนุ่มรุ่นพี่เอ่ยบอกทำมะม่วงมองตามตาค้าง สิ่งที่คิดในหัวสลายไปในพริบตา พร้อมใบหน้าที่แตกสลายเป็นเศษร่วงลงไปกองที่พื้น เธอได้แต่ยืนนิ่งมองตามแผ่นหลังที่เดินห่างออกไปในทุกวินาที
“มันผิดพลาดตรงไหนอะ” เธอกวาดตามองร่างกายตัวเองด้วยความสงสัย ก้มมองซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่พอเธอยังไปยืนหน้ากระจกบานใหญ่หมุนซ้ายหมุนขวาสำรวจตัวเองยกใหญ่ด้วยความมึนงง