ขณะเดียวกัน กษิดิศก็ได้แต่นั่งเบื่อหน่าย เขาอยากกลับบ้านเต็มที อยากพักผ่อน อยากกลับไปนอนบนเตียงที่มีร่างนุ่มนิ่มอวบอิ่มของอันธิตา ความคิดออกนอกลู่นอกทางนั้นทำให้ชายหนุ่มสะดุ้ง หันมองคนรักที่เอนศีรษะซบไหล่เขาอย่างแนบชิดด้วยความรู้สึกสับสน ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องคิดถึงผู้หญิงที่เขาพยายามบอกกับตัวเองว่าไม่รักถี่ขึ้นทุกวันทุกคืน เขาถอนใจยาว กวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างเบื่อหน่าย ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่สายตาของเขาปะทะเข้ากับสายตาของคนที่กำลังคิดถึงเข้าอย่างจัง หัวใจของเขากระตุกวาบ ไม่คิดฝันว่าจะได้พบเจอกันที่นี่ วูบหนึ่งเขารู้สึกตัวเหมือนสามีที่กำลังถูกภรรยาจับได้เมื่อยามทำผิด
“อัน...” ชื่อที่หลุดออกจากปากกษิดิศอย่างเผลอๆ ทำให้คนที่เอนซบขมวดคิ้ว ผงกศีรษะขึ้นมองเขาอย่างทันใด
“เมื่อกี้ดิศว่าอะไรนะคะ”
กษิดิศชะงัก หลุบตามองคนรักพลางขยับตัวอย่างอึดอัด ทั้งที่เขาไม่ควรรู้สึกอะไรกับสายตาของภรรยาเลยสักนิด ในเมื่อหล่อนเองก็รู้เรื่องราวของเขาและไม่คิดจะยุ่มย่ามกับเรื่องของเขา แต่ไยจึงต้องร้อนรนทุกหนที่สบตาหม่นเศร้าคู่นั้น
“เอ่อ เปล่า ไม่มีอะไร” เขายิ้มกลบเกลื่อน รีบหลุบตามองแก้วเครื่องดื่มในมือ ปาริสามองคนรักพลางขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะเอียงคอซบไหล่เขาอีกครั้ง ฟังเพลงที่กำลังบรรเลงอย่างเพลิดเพลินใจ
อันธิตาเมินหน้าจากภาพนั้นด้วยความรู้สึกปวดแปลบจนเกินจะทนมองเขาได้อีกต่อไป จึงผุดลุกพร้อมกระเป๋าสะพาย ทำเอาเพื่อนรีบคว้ามือแล้วเรียกเอาไว้
“เฮ้ยจะไปไหน” กมลชนกและยิหวารีบถาม อันธิตาเม้มปากนิดก่อนจะบอก
“ฉันจะไปห้องน้ำ แล้วว่าจะกลับบ้านเลย พวกแกไม่ว่าอะไรนะ พอดีพรุ่งนี้มีประชุมเช้า” หญิงสาวอ้างงาน ทว่าความจริงคือหล่อนไม่อาจทนมองสองคนรักที่นั่งซุกซบกันในความสลัวของสถานที่แห่งนี้ได้อีกต่อไป
ยิหวาและกมลชนกมองเพื่อนอย่างเข้าใจและเห็นใจอย่างลึกซึ้ง ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ นึกอยากจะเข้าไปฉีกอกผู้หญิงหน้าด้านกับผู้ชายไร้ยางอายคู่นั้นแทน
“ไม่ว่าหรอก ขับรถดีๆ แล้วกันนะ”
หญิงสาวยิ้มให้เพื่อนรัก บอกลาคนทั้งหมดแล้วจากไป ไม่มองไปยังกษิดิศอีก ในขณะที่มาร์คยังคงมองหล่อนเป็นระยะด้วยแววตาหลากหลาย หญิงสาวเข้ามาในห้องน้ำแล้วผ่อนลมหายใจยาว มองคนในกระจกผ่านม่านน้ำตาแล้วสั่นหน้าแรงๆ ไล่หยาดน้ำตาที่เอ่อท้นทำนบ เรียกกำลังใจและความเข้มแข็งให้กลับมาเคียงข้างตนเองอีกครั้ง เมื่อปรับอารมณ์เป็นปกติได้แล้ว จึงพาตนเองออกจากห้องน้ำ
กษิดิศที่คอยมองอยู่แล้วก้มลงกระซิบคนรักว่าขอไปทำธุระส่วนตัวแล้วจะกลับมา ฝ่ายนั้นพยักหน้า ร่างสูงจึงรีบเดินออกไป ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่มาร์คแยกตัวจากกลุ่มเพื่อนทันทีที่เห็นอันธิตาก้าวออกไป
“แอนนี่ครับ”
เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้คนที่เดินออกมาหยุดอยู่ด้านหน้าของร้านหันกลับไปมอง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่กษิดิศตามออกมาแล้วต้องชะงักนิ่งอยู่กับที่ เมื่อพบว่ามาร์ค ผู้ชายที่เขาพบในตอนกลางวันกำลังยืนต่อหน้าภรรยาของเขา
“จะกลับแล้วหรือครับ ผมว่าจะเข้าไปคุยกับคุณพอดี” ดึกอีกนิดที่นี่จะมีช่วงเวลาของคู่รักโดยเฉพาะ ดีเจจะเปิดเพลงรักโรแมนติกและเขากำลังคิดจะเข้าไปขอหล่อนเต้นรำ ไม่ใช่อย่างคนรักแต่สำหรับเพื่อนคงไม่น่าเกลียดจนเกินไป
อันธิตาสบตาคู่คมของมาร์คแล้วยิ้มน้อยๆ กำลังจะปฏิเสธถ้าสายตาไม่เหลือบไปเห็นเงาของกษิดิศด้านหลังมาร์คเสียก่อน วูบหนึ่งจึงเกิดความคิดบางอย่างขึ้น รอยยิ้มตามมารยาทเมื่อครู่จึงแย้มกว้างและเต็มไปด้วยความหวานจนคนมองใจกระตุก...
“แหม เกือบไปแล้วนะคะ ฉันกำลังจะกลับพอดี ไม่ทราบว่าคุณมาร์คมีอะไรจะคุยกับฉันหรือคะ”
มาร์คยิ้ม สบตาคู่สวยด้วยความพึงพอใจ ที่หญิงสาวไม่ได้มีทีท่าลำบากใจหรืออึดอัดอย่างตอนแรกที่พบกัน
“ก็เรื่องทั่วๆ ไปครับ แต่ถ้าคุณอยากจะกลับไปพักผ่อน ผมก็ไม่รบกวน”
ดวงตาคู่สวยตวัดแวบไปเบื้องหลังของชายหนุ่มอีกครั้ง ก่อนยิ้มหวานหยด จนคนมองตาพร่า
“ไม่หรอก พอดีสองสาวนั่นเขามีคนรักมาด้วย อันเลยไม่อยากจะเป็น กอขอคอ ก็เลยขอตัวกลับ”
“ถ้าอย่างนั้น ไปนั่งฟังเพลงด้วยกันอีกสักพักนะครับ”สายตาคมสบตาหญิงสาวอย่างเว้าวอน
“แล้วเพื่อนๆ คุณมาร์คล่ะคะ” หญิงสาวเอียงหน้านิดๆ ดูน่ารักนักหนาในสายตาของมาร์ค ต่างจากอีกคนที่กำลังเดือดปุดๆ อยู่ด้านหลัง
“ไม่ต้องห่วงครับ พวกนั้นไม่สนใจหรอก เห็นว่านัดสาวๆ มาด้วยเหมือนกัน ส่วนผมก็คงจะเป็นส่วนเกินของพวกนั้น”เขาบอกพลางทำตาเศร้าให้หญิงสาวเห็นใจ อันธิตาสบตาเขายิ้มๆ ก่อนตอบตกลงในที่สุด
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ”
คำตอบของอันธิตาทำให้ดวงตาคมเข้มของคนมองแวววาวขึ้นด้วยความยินดี รีบเปิดทางให้ร่างงามเดินนำหน้า โดยมีเขาตามไปติดๆ ในขณะที่กษิดิศหลบวูบเข้ามุม กัดฟันกรอด รอจนคนทั้งสองเดินผ่านหน้า จึงก้าวออกมามองตามด้วยสายตาวาววับ อันธิตาตวัดสายตามองแวบหนึ่ง แสร้งไม่เห็นว่ามีใครบางคนแอบตามมา พลางยิ้มร้าย คิดเอาคืนเขาบ้าง สักเล็กน้อยก็ยังดี ให้รู้กันไปว่าคนที่เขาตั้งใจทิ้งไว้ข้างหลัง ไม่ใช่ของตายของใครหรือผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้น!
มาร์คพาหญิงสาวกลับเข้าไปอีกครั้งพร้อมแยกโต๊ะนั่งกับเพื่อน ทำให้ยิหวาและกมลชนกที่มองเห็นโดยบังเอิญต่างสบตากันด้วยความไม่เข้าใจนัก
“เอ๊ะ! นั่นมันยัยอัน ไหงกลับเข้ามากับพ่อรูปหล่อคนนั้นอีกได้”
“เฮ้ยเดี๋ยว นั่นคุณดิศ เดินตามกลับเข้ามาทีหลังนี่ เอ๊ะ มีอะไรกันหรือเปล่า” กมลชนกกล่าว ไล่ตามองคนทั้งสามด้วยหัวใจเต้นระทึก ขณะที่ยิหวาครุ่นคิด ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างสะใจลึกๆ เมื่อคิดว่าเข้าใจเจตนาของเพื่อนรัก
“ฉันว่ายัยอันของพวกเรามีแผนเรียกผัวกลับมาซบอกแบบสวยๆ ไม่ต้องเต้นแร้งเต้นกาให้เสียภาพ ฉลาดและร้ายกาจจริงๆ นะเพื่อนฉัน”
ยิหวามองตาเป็นประกาย นึกพออกพอใจแผนร้ายของเพื่อนรัก ทำให้กมลชนกที่มองคนทั้งสามตาไม่กะพริบหันมาพยักหน้ายิ้มกว้างอย่างเข้าใจความหมายดี
ด้านกษิดิศกลับมานั่งกับปาริสาด้วยสีหน้าบึ้งจัด เขาถอนหายใจเฮือกๆ พลางชำเลืองมองไปยังภรรยาและผู้ชายที่เขาไม่ชอบหน้านับแต่เมื่อกลางวันเป็นระยะ
“เป็นอะไรคะดิศ” ปาริสาเอ่ยถาม เมื่อคนรักมีสีหน้าบึ้งตึง ท่าทางหงุดหงิดงุ่นง่าน
“เปล่า น้อง ขอเหล้าเพิ่มซิ!” เขาหันไปเรียกพนักงานพร้อมสั่งเครื่องดื่มเพิ่ม ทำให้ปาริสามองเขาด้วยแววตาไม่เข้าใจมากยิ่งขึ้น
“ดิศ นี่มันอะไรกัน ทำไมต้องดื่มเหล้าด้วย” ก่อนหน้านี้ หล่อนคะยั้นคะยอเขาดื่มบรั่นดีเขายังอิดออด แต่เวลานี้กลับเรียกร้องเหล้าดีกรีแรงจัดแล้วกระดกเอาๆ ราวกับน้ำเปล่า! ยิ่งดวงตาคมกริบสบตากลับมาวาววับ ปาริสาก็สะดุ้งวาบในใจ
“เปล่า แค่อยากกิน กินให้เมาเท่านั้น!” พูดจบเขาก็กระดกรวดเดียว พร้อมรินใหม่ ทำให้ปาริสาเริ่มไม่พอใจในพฤติกรรมของคนรักมากขึ้น