๓
ไม่รักไม่ต้องแคร์
จากที่เคยคิดว่าสิ่งที่คนรักทำกับภรรยาเป็นเรื่องธรรมดา ไม่จำเป็นต้องเก็บเอามาใส่ใจ ออกจะเป็นการดีเพราะช่วยตอกย้ำให้อันธิตายืนอยู่ในที่ของหล่อน ทว่าหลังจากได้รับคำขอโทษจากภรรยา เขาต้องกลับมาขบคิดใหม่อีกครั้ง และตั้งคำถามกับตนเองว่าใครกันแน่ที่ควรสำนึกผิด หลังจากนั้นกษิดิศจึงพยายามทำดีกับหญิงสาว กิริยาท่าทางที่แสดงออกราวกับว่ารักหล่อนมากมายทำให้ทุกคนต่างมองด้วยสายตาชื่นชม ขณะที่หญิงสาวมองด้วยสายตาที่แปลกออกไป ทั้งไม่เข้าใจและไม่มั่นใจว่าสิ่งที่เห็นอยู่ในตอนนี้คือเรื่องจริง...
คุณอารยาและคุณเกษมมองบุตรเขยที่เอาอกเอาใจเมียแล้วหันมาสบตากันยิ้มๆ กษิดิศตักอาหารให้หญิงสาวและชวนหล่อนคุยเบาๆ เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะแผ่วเบาจากอันธิตาได้ไม่ยาก บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเป็นไปอย่างชื่นมื่น เพราะตั้งแต่กลับมาจากฮันนีมูนชายหนุ่มเอาใจภรรยาจนทุกคนต่างล้อเลียนเป็นเสียงเดียวกันว่า น้ำผึ้งพระจันทร์คงหวานสู้เขาไม่ได้ แต่หารู้ไม่ว่าชายหนุ่มมีเรื่องบางอย่างกวนใจและคิดว่าตนเองมีส่วนผิด ทำให้เขาต้องพยายามทำดีกับหญิงสาวให้มาก แต่เมื่อทำติดต่อกันมาเรื่อย ก็กลายเป็นความเคยชิน ไม่ใช่แค่เขาแต่เป็นหญิงสาวด้วยที่รู้สึกดีเมื่อมีเขาอยู่ข้างกายเสมอ
ชายหนุ่มขับรถไปส่งหญิงสาวที่บริษัทของหล่อนเพราะเป็นทางผ่าน แล้วจึงเลยไปบริษัทของเขา ทำให้คนนอกต่างยิ่งคิดว่าเขาทั้งรักและหลงภรรยาสาวสวย สิ่งเหล่านั้นตกอยู่ในสายตาของภาวินี เพื่อนรักของปาริสาตลอดมา จึงตัดสินใจถามเพื่อนรักถึงความสัมพันธ์ระหว่างอีกฝ่ายกับกษิดิศ
“ว่าไงภา” เสียงปาริสาแว่วมาตามสาย ทำให้ภาวินีซึ่งกำลังก้าวเข้าอาคารเอ่ยออกมาเบาๆ ขณะเดินตามอันธิตาไปห่างๆ
“ไม่ว่ายังไงหรอก ก็แค่อยากจะโทร.มาคุยกับเธอก็เท่านั้น ว่าจะถามข่าวคราวบางอย่างด้วย”
คนอยู่ไกลอีกซีกโลกขมวดคิ้ว
“ถามอะไรล่ะ”
คนถูกถามกลับมองร่างงามของอันธิตาที่ก้าวเข้าไปในลิฟต์แล้วหันกลับมากรอกเสียงอีกครั้ง
“ก็เรื่องเธอกับคุณดิศยังไงล่ะ นี่เธออย่าบอกนะว่าเลิกกับเขาแล้วจริงๆ น่ะ”
คำถามของเพื่อนทำให้คนที่อยู่ไกลถึงกับนิ่วหน้า จากที่นอนเล่นบนเตียงกว้างก็ผุดลุกขึ้นนั่งตรงทันที
“บ้าสิ! ฉันกับดิศยังไม่เลิกกัน และยังรักกันเหมือนเดิม โทร.คุยกันเกือบทุกวัน”
คนฟังเลิกคิ้วสูง พลางเอ่ยถาม
“โทร.คุยกันทุกวันก็ใช่ว่าเขาจะยังรักเธอมั่นคงเหมือนเดิมนี่นะ”
“เอ๊ะ พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงภา” ชักโมโหที่เพื่อนพูดจาไม่เป็นมงคล
“ก็หมายความตามที่พูด เมื่อกี้ฉันเพิ่งเห็นคุณดิศมาส่งเมียเขาที่หน้าบริษัท ท่าทางหวานจ๋อย ใครๆ เขาลือกันให้แซดว่าตั้งแต่กลับมาจากฮันนีมูนคราวนั้น คุณดิศเอาอกเอาใจเมียราวกับเจ้าหญิง ดูรักใคร่จนสาวๆ อิจฉาตาร้อนกันเป็นแถว เพราะแบบนี้ไง ฉันเลยต้องถามว่าเธอกับเขาเลิกกันแน่นอนแล้วใช่ไหม”
ปาริสาไม่ได้ยินคำบอกเล่าของเพื่อนอีกต่อไป เพราะหล่อนกำลังโกรธจนหูอื้อตาลาย เจ็บใจทั้งคนรักพานเกลียดไปถึงอันธิตา เพราะผู้หญิงคนนั้นคนเดียว เรื่องของหล่อนและกษิดิศจึงต้องวุ่นวาย หล่อนกลายเป็นเมียลับทั้งที่มาก่อน ไม่ได้การแล้ว! ถ้าขืนเป็นแบบนี้คงจะต้องกลับเมืองไทยด่วน!!
หลังจากกลับจากฮันนีมูน กษิดิศได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานใหญ่ระหว่างสองบริษัทที่ทำโครงการร่วมกัน อย่างที่ทราบกันดีว่าเมื่อครอบครัวธุรกิจสองครอบครัวเกี่ยวดอง ก็มีการรวมบางอย่างเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เกินความคาดหมายนัก ที่สำคัญชายหนุ่มยังเป็นนักธุรกิจหน้าใหม่ที่ถูกจับตามองและถูกเกี้ยวพาจากหลายแหล่งให้ร่วมงาน แต่สุดท้ายเมื่อเขาแต่งงานกับอันธิตาทุกอย่างก็เป็นข้อสรุปว่าเขาเลือกใคร
ดังนั้นบริษัทรับออกแบบและผลิตเฟอร์นิเจอร์ทุกชนิดตั้งแต่เล็กสุดจนไปถึงใหญ่สุดของกษิดิศกับบริษัทส่งออกสินค้าระดับประเทศของอันธิตาร่วมมือกัน สิ่งที่จะตามมาตามความคาดหมายของบรรดานักธุรกิจคือความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ชายหนุ่มจึงมุ่งมั่นกับงานอย่างเต็มที่จนได้รับคำชมจากหลายฝ่ายไม่ขาดปาก
วันนี้ ทั้งครอบครัวของกษิดิศและครอบครัวของอันธิตาได้ร่วมงานเปิดตัวบริษัทส่งออกแห่งใหม่ของเพื่อนนักธุรกิจ ทั้งสองครอบครัวได้รับความสนใจจากทุกสายตา โดยเฉพาะดาวและเดือนของงานอย่างกษิดิศและอันธิตา ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนทั้งสองจะถูกจับตามองทุกฝีก้าวและตามมาด้วยเสียงชื่นชมถึงความเหมาะสมของทั้งคู่
“คู่นี้เขาเหมาะกันดีมากเลยนะเธอ” ใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเมื่อสองหนุ่มสาวเดินผ่านหน้าไป
“จริง แต่ฉันคิดว่าพ่อแม่ของทั้งสองนั่นฉลาดนะ ที่จับสองคนนี่มารวมกันได้ เธอคิดดูสิ เก่งทั้งคู่ ฮึ เรือล่มในหนองแล้วทองจะไปไหนจริงไหม”
“ใช่ๆ ฉันเห็นด้วย” แล้วเสียงหัวเราะก็ดังคลอเสียงเพลงขณะมองตามหนุ่มสาวทั้งสองที่เดินเคียงกันเข้าไปทักทายนักธุรกิจคนอื่นๆ ด้วยสายตาชื่นชมแกมอิจฉา
ทว่ามีอยู่สองคน ที่มีความรู้สึกต่างกันออกไป คู่หนึ่งมองตามด้วยสายตาอิจฉา อีกคู่หนึ่งมองด้วยสายตาตัดพ้อ...
ปาริสาและณภัทรมองคนทั้งสองอยู่ในมุมหนึ่งของงาน แล้วคนตัดสินใจบินกลับประเทศไทยด่วน อีกทั้งโชคดีที่บิดาและมารดาของหล่อนเองก็ได้รับเชิญมาในงานนี้เหมือนกัน แม้จะไม่เป็นที่สนใจของใครก็ตามที!จึงถือโอกาสติดตามมาด้วยเมื่อรู้ว่ารายชื่อแขกอันดับต้นๆ มีกษิดิศและอันธิตา แต่ภาพที่ได้เห็นทำให้อยากจะออกไปอาละวาดแล้วกรีดร้องบอกคนทั้งงานว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่คนหน้าด้านชอบแย่งคนรักของชาวบ้าน ไม่ได้น่าชื่นชมดั่งคำกระซิบกระซาบนั่นสักนิด
ส่วนณภัทร ชายหนุ่มรุ่นพี่ซึ่งอยู่ในวงการเดียวกันได้แต่มองหญิงสาวในดวงใจของเขาด้วยความเศร้าหมอง ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาพยายามเปิดใจให้หล่อนรู้ว่าเขาคิดกับหล่อนเช่นไร แต่กลับไม่เคยได้รับความเหลียวแล แต่เขาไม่ได้ย่อท้อเพราะยังหวังว่าสักวันหล่อนจะหันมามองเห็นความจริงใจจากเขา แต่แล้ววันหนึ่งก็เหมือนฟ้าผ่าลงมากลางใจ เมื่อทั้งสองครอบครัวประกาศว่าคนทั้งสองจะเข้าพิธีวิวาห์ นั่นทำให้เขารู้ตัวว่าได้พลาดทุกอย่างไปเสียแล้ว
กษิดิศยิ้มให้ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เขาแวะทักทาย จนเมื่อถูกกระเซ้าจากหลายท่านเขาก็หันมามองภรรยาที่วันนี้งดงามจนเขาตะลึงเมื่อได้เห็นหล่อนครั้งแรกที่ลงมาจากห้อง
“วางแผนไว้หรือยังล่ะว่าเมื่อไรจะมีตัวเล็ก”
คำถามจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งทำให้อันธิตาแก้มร้อนผ่าว กษิดิศเหลือบตามองภรรยาของเขาแล้วอมยิ้ม ก่อนจะถือวิสาสะโอบไหล่มนที่เปลือยเปล่าเพราะชุดที่หญิงสาวสวมใส่ในวันนี้เป็นราตรีเกาะอกสีน้ำตาลทอง ขับผิวจนผ่องละมุนละไมตาใครก็ตามที่พบเห็นเป็นต้องเหลียวหลัง
“คงต้องถามอันแล้วล่ะครับ ว่าพร้อมตอนไหน” เขาแสร้งหยอดให้หล่อนเป็นคนตอบ ทำให้อันธิตาตวัดสายตาค้อนขวับ แก้มแดงเรื่อแล้วโต้เขาอย่างไว้ลายผู้ช่วยนักธุรกิจใหญ่
“อันนี้มันก็อยู่ที่ว่าพี่ดิศจะมีความสามารถสักแค่ไหนนะคะ”
สิ้นเสียงหวานๆ ที่ตอบกลับมา เสียงหัวเราะก็ดังครืนจากเหล่าบรรดานักธุรกิจชายหญิงที่ยืนล้อมวงคุยกัน ทำเอากษิดิศต้องหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะสบตาคู่สวยของภรรยาแล้วกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น ด้วยหัวใจอิ่มเอิบอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน เช่นเดียวกันกับอันธิตาแม้จะรู้ว่าไม่จริง แต่หล่อนกลับรู้สึกมีความสุขกับคำพูดหยอกเย้าของสามี...
กระทั่งเมื่อสามีภรรยาคู่ใหม่ต่างแยกออกไปคุยเรื่องงานกับนักธุรกิจคนอื่นๆ ปาริสาจึงหาโอกาสที่จะได้พบกับอันธิตาเงียบๆ ซึ่งเวลานั้นณภัทรเองก็ลอบมองคนที่เขามีใจให้เป็นระยะด้วยสายตาอาวรณ์ กระทั่งหญิงสาวแยกตัวออกจากกลุ่มนักธุรกิจเพื่อเข้าห้องน้ำ ปาริสาก็รีบแทรกตัวผ่านคนอื่นๆ ตามอันธิตาทันที เช่นเดียวกับณภัทรที่ก้าวตามออกไปอีกคน เพราะหวังได้กล่าวอวยพรหญิงสาวตามลำพัง เนื่องจากวันงานของหล่อน เขาไม่ได้ไปเพราะทำใจไม่ได้นั่นเอง...