KEEP IN MIND 1 l FUCK TO MEET!

1750 Words
กองทัพขับรถไปเรื่อย ๆ ท่ามกลางความมืดมิดของท้องฟ้าและเห็นจะมีเพียงแค่แสงจากหลอดไฟข้างถนนเท่านั้นที่สาดส่องลงมาให้พอเห็นทางข้างหน้าได้บ้าง ในเมื่อติดต่อเด็กคนนั้นไม่ได้เขาก็เลิกสนใจ โทรศัพท์เครื่องนั้นถูกโยนไปเบาะข้างกันด้วยความหงุดหงิดผสมขัดใจนิดหน่อยที่ปั้นจั่นปิดเครื่องหนีเขาแบบนี้ จะว่ากองทัพแคร์ความรู้สึกปั้นจั่นมากกว่าคนอื่น ๆ ก็ได้ เพราะเขาแคร์เด็กนั่นมากเกินไปแล้วจริง ๆ กึก! เอี๊ยดดดด…!!! “บ้าชิป! ไอ้เหี้ยเอ๊ย!” เด็กหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น จู่ ๆ ก็มีรถราคาแพงเหยียบสิบล้านขับปาดหน้า จากัวส์สีดำขัดเงาคันนั้นหลับตามองแล้วให้ฟังแค่เสียงกองทัพยังรู้เลยว่ามันเป็นรถของใคร! ร่างโปร่งทุบพวงมาลัยอย่างหงุดหงิด เขาบีบแตร์รถจนเกิดเสียงดังวุ่นวายตรงนั้นไปหมด ดีที่มันไม่ใช่ชุมชนหรือหมู่บ้าน ไม่งั้นเด็กคนนั้นคงหนีไม่พ้นเสียงด่าทอและรองเท้าเละ ๆ สักคู่ปาใส่รถแน่! อีกฝั่งเดินออกมาจากรถ... เขากัดริมฝีปากแล้วเสยผมที่ปรกหน้าผากขึ้นนิดหน่อย รอยยิ้ม...ไม่สิ ถ้าจะเรียกให้ถูกคือแสยะยิ้ม จากริมฝีปากผู้ชายตัวสูงคนนั้นมันยั่วไม้ยั่วมือดีชะมัด กองทัพกัดกรามกรอด ๆ เพราะนึกในใจแล้วมันดันตรงเผง! “ไอ้เรียว!” กองทัพเรียกเขาเสียงเข้มในรถ ไม่อยากเดินลงไปเท่าไหร่นักแต่เพราะมันจอดรถขวางไว้แบบนี้เห็นทีต้องมัดต้องมวยกันสักตั้ง! คิดแล้วเด็กหนุ่มก็กระชากเปิดประตูรถเดินลงไป อีกคนที่ยืนพิงฝากระโปรงหลังรถอยู่แล้วก็ยิ้มกริ่ม เรียวมะชอบความมั่นอกมั่นใจของกองทัพนะ...เด็กนี่ดูมั่นใจไปหมดว่าตัวเองอยู่เหนือคนอื่น โดยที่กองทัพไม่รู้เอาซะเลยว่าที่ทำอยู่น่ะมันน่าสมเพช เพื่อนเขามันจิตใจอ่อนไหวง่าย...คิรินทร์มันแค่ไม่อยากรังแกเด็กหัดเดินแบบมันเฉย ๆ หรอกว่ะ “มึงคิดว่ามึงเป็นใคร! มึงเป็นใครห๊ะ! คิดจะขับรถเหี้ย ๆ แบบนี้ก็ได้เหรอสัด!” “ขี้โวยวายจังวะ... อีกอย่างนะ เมื่อกี้มันก็แค่อุบัติเหตุมึงก็เห็นนี่หว่า แล้วนี่กูก็ออกมารับผิดชอบแล้วไง?” เรียวมะพูดท่าทางเล่น ๆ แต่สายตาเขาไม่ขำ ไม่ตลกสักนิด เป็นผู้ชายที่รู้จักกันทั่วทั้งพื้นที่นี้ในตอนนี้... ว่ากันว่า... ‘เรียวมะ’ คือลูกชายท่านทูติคนสำคัญของญี่ปุ่นท่านหนึ่ง แต่เรื่องลับ ๆ แบบนั้นมันก็แค่พูดมาปากต่อปาก พวกกองทัพบางคนก็เชื่อปักใจและหวาดกลัวเขา แต่บางคนก็ไม่เชื่อ...แน่นอนว่ากองทัพจัดอยู่ในจำพวกที่ไม่เชื่อ ไม่กลัว ไม่ยี่หระใด ๆ ทั้งนั้น เรียวมะเป็นเพื่อนของ คิรินทร์หรือคิงส์ ไอ้ตัวเกะกะที่กองทัพเกลียดมันเข้าไส้ กองทัพทำทุกทางที่จะให้คิรินทร์ยอมหมอบใต้อำนาจตนเองแต่ผู้ชายคนนั้นยิ่งโตขึ้นนับวันก็ยิ่งน่ากลัวมากขึ้นจนกองทัพจัดการได้ยากเข้าทุกที ช่วงนี้เรียวมะกับกองทัพเลยมักได้เจอกันโดยบังเอิญบ่อย ๆ กองทัพไม่รู้หรอกว่าเรียวมะคิดอะไรอยู่ เรียวมะเป็นผู้ชายหน้านิ่งเรียบเหมือนคนไร้ความรู้สึกและน่ากลัว หากว่ามองจากรูปลักษณ์ภายนอกแบบนี้ ด้วยเครื่องหน้าที่ลงตัวอย่างธรรมชาตินั่น ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่เปรียบเสมือนอัญมณีเม็ดหนึ่งที่ล้ำค่าแต่มันก็แฝงไปด้วยความลึกลับน่าค้นหาและอันตราย... แต่...ความหลงใหลภายนอกพวกนั้นมันไม่ได้เข้าตากองทัพเลยแม้แต่นิดเดียว เขาไม่ชอบอะไรที่ดูแล้วป่าเถื่อน ไม่ชอบอะไรสักอย่างที่เจาะตามร่างกายของไอ้มนุษย์ไร้สีหน้าคนนั้น กองทัพไม่นิยมการสักลายตามร่างกายเพราะมันดูรก เพราะแบบนั้นเด็กหนุ่มถึงมีผิวพรรณที่ขาวเนียนแล้วก็นุ่ม ใช่แล้ว...ระหว่างเขากับเรียวมะต่างคนละขั้วโลก ผู้ชายคนนั้นป่าเถื่อน ดิบห่ามแถมยังดูไม่น่าเข้าใกล้! “กูไม่ต้องการให้มึงมารับผิดชอบอะไรทั้งนั้น ถ้าจะให้ดี...ช่วยเอารถเน่า ๆ ของมึงถอยให้พ้นทางด้วย กูจะกลับบ้าน!” “นี่...ไอ้หนูกูจะบอกอะไรมึงสักอย่าง” เรียวมะพูดเสียงปกติแล้วเขาก็ไม่สนใจด้วยว่าเมื่อกี้กองทัพพล่ามอะไรยาวยืดใส่เขา เหมือนลมพัดแล้วมันก็ผ่านไปแบบนั้นซึ่งนั่นเป็นอะไรที่ทำให้คนอย่างกองทัพน็อตหลุดง่ายที่สุด เด็กคนนั้นเคยชินกับการเอาแต่ใจ อยากได้อะไรต้องได้มา ไม่สนวิธีการด้วย! “มึงไม่ได้ฟังที่กูพูดเลยใช่ไหมห๊ะ!!” พรึ่บ!!! “เฮ้ย!!!” เรียวมะตรงปรี่มากระชากคอเสื้อเด็กหนุ่มแล้วแกล้งตะเบ็งเสียงใส่หน้ากองทัพดัง ๆ เล่นเอาเด็กคนนั้นผงะถอยหลัง ริมฝีปากสีชมพูเป็นกระจับสั่นขึ้นมาเล็กน้อยเพราะใบหน้าคมเข้มและดุจัดอยู่ใกล้ ๆ กับใบหน้าตนเองแค่ไม่ถึงห้าเซ็นติเมตร ลมหายใจที่เจือปนไปด้วยกลิ่นบุหรี่ของเรียวมะลอยมาประทบที่ปลายจมูกกองทัพ ซึ่งเขารับกลิ่นมันเข้าไปเต็ม ๆ ดวงตาคมเรียวประดุจพญาเหยี่ยวของเรียวมะจดจ้องใบหน้าของกองทัพ ผู้ชายคนนั้นไม่ได้แสดงความรู้สึกใด ๆ ออกมาแต่กองทัพก็ดันไปรับรู้ไอสังหารที่ระเหยออกมาจนได้! “...” “เราไม่ได้สนิทถึงขั้นที่มึงจะมาตะโกนใส่หน้ากูได้นะ รู้ใช่ไหมกูกับไอ้คิงส์ไม่เหมือนกัน” “อึก...!” กองทัพกลืนน้ำลายลงคอ เรียวมะไม่ได้ปล่อยคอเสื้อเขากลับกันมันยังดึงจนตัวเขาจะลอยเหนือพื้นอยู่รอมร่อ ผู้ชายตัวสูงตรงหน้าแค่นยิ้มเหมือนจะเยาะแล้วผลักอกกองทัพจนเด็กหมุ่นเซถลาไปนอนราบอยู่บนฝากระโปรงรถตนเอง เรียวมะตามเข้าไป เขาใช้แขนล่ำ ๆ กักกั้นตัวกองทัพเอาไว้จนหมดหนทางหนี ใบหน้าครึ่งเสี้ยวญี่ปุ่นที่กองทัพแสนชังคืบคลานเข้ามาใกล้มากขึ้นจนเด็กหนุ่มต้องหดคอหนี! “กูรู้นะ” “รู้? ระ รู้เหี้ยอะไร!” “รู้ว่ามึงเคยทำเรื่องชั่วไว้กับบ้านพี่ปืนไง หึ ๆ พี่ชายมึง...ลอบฆ่าพ่อกับแม่พี่ปืนใช่ไหม ไอ้ทัพ” “มะ มึงเอาอะไรมาพูด! พี่ชายกูมันตายไปแล้วมึงยังจะกล้าปรักปรำคนตายอีกเหรอห๊ะ!” กองทัพกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากแววตากลมโตของเด็กคนนั้นสั่นวูบไปมาแต่ก็เปลี่ยนเป็นปกติได้ในทันที เรื่องในอดีตที่ตัวเองพยายามปกปิดมันเอาไว้กำลังโดนใครที่ไหนก็ไม่รู้มาซักไซ้เค้นถาม แล้วกองทัพก็ไม่ยอมให้มันมาแตกเอาตอนนี้แน่! “คนอย่างกูไม่เคยพูดอะไรลอย ๆ อยู่แล้ว” “!!!” “เพราะงั้นที่มาวันนี้ กูมาเตือน...กูเอาจริงแน่ไอ้ทัพ ถ้ามึงยังยุ่งวุ่นวายกับไอ้คิงส์ไม่เลิก ถ้ามึงตามรังควานมันกับเด็กคนนั้น ถ้ามึง! ทำให้เพื่อนกูต้องกลายเป็นคนผิดอีกครั้งละก็...” เขายิ้มแล้วก็เว้นวรรคเอาไว้ให้กองทัพได้คิดเอง แค่เท่านี้ก็รู้แล้วว่าปั้นจั่นปิดเครื่องทำไม ป่านนี้ก็คงจะอยู่กับคิรินทร์ ไอ้ชาติชั่วนั่น! จับคนของเขาไปงั้นเหรอ! “พะ พวกมึงทำอะไรปั้นจั่น... ไอ้เรียว! เด็กคนนั้นไม่เกี่ยว!!!” เรียวมะเดินออกไปได้สามก้าว กองทัพถึงมีสติแล้วตะโกนตามหลังเขา และคำพูดพวกนั้นมันทำให้เรียวมะหันกลับมา ผู้ชายคนนั้นจ้องกองทัพตาแข็งกร้าวและเดินเข้าใส่เด็กหนุ่มไร้ซึ่งความกลัว! ผลั่ก! “กูไม่สนเด็กคนนั้น! กูไม่สนคนอื่นหรือใครหน้าไหน!!” เรียวมะผลักกองทัพอีกครั้งแต่คราวนี้เด็กคนนั้นไม่ล้มเพราะตั้งตัวทัน เขาจับฝ่ามือที่ดันหน้าอกตัวเองยึดมันเอาไว้ด้วยความโกรธ แววตากองทัพแดงก่ำเมื่อนึกถึงความปลอดภัยของปั้นจั่น ต่อให้ครอบครัวเขาจะเกลียดครอบครัวของเด็กคนนั้นและแม้ว่าตัวเขาเองจะเกลียดทุกอย่างที่ครอบครัวปั้นจั่นมีก็ตาม ความจริงกองทัพเองก็เกลียดปั้นจั่นแทบเป็นแทบตาย แต่ไม่รู้ว่าทำไมจิตใจมันถึงบอกว่าเด็กคนนั้นสะอาดเกินกว่าจะเปื้อนเลือด... “ละ แล้วมึง...! เพื่อนมึงจับปั้นไปทำไม! ถ้าทำอะไรปั้นจั่นกูฆ่าพวกมึงแน่!” “หึ ๆ ๆ ๆ” “…” “ก่อนจะฆ่ากัน...กูว่ามึงหยุดความคิดกูให้ได้ก่อนดีกว่าเด็กดี” “อื้อ! อื้ออ!!!” ดวงตากลมโตสีครามเข้มเบิกโพลง เมื่อผู้ชายร่างสูงกว่าตนเองเพียงนิดโน้มหน้ามาประกบริมฝีปากหยักลงปิดริมฝีปากของตนเองจนมิดชิด เพราะว่ากองทัพจิกหลังมือของเรียวมะยึดไว้ ทำให้หนุ่มญี่ปุ่นคนนั้นจิกต้นคอของอีกคนเอาไว้เพราะร่างโปร่งพอดีมือเขาเริ่มมีอาการดีดดิ้นไปมาจนเขาชักจะรำคาญ แรงเยอะมากนัก ปากเสียดีนัก! เขาคนนี้นี่แหละจะดูดออกไปให้หมด!! “อ่ะ...ซี้ด ชอบแบบเจ็บ ๆ ใช่ไหมมึง!” เรียวมะผละออกมาพูดเสียงน่ากลัว เพราะอีกฝ่ายกัดปากเขาจนแตกแล้วเลือดก็ไหลซึมเข้าสู่โพลงปาก จากที่เขาจะแกล้งให้มันตกใจเล่น ๆ ตอนนี้กลับก้มลงไปบดจูบใหม่แต่รุนแรงจนกลิ่นบุหรี่ รสคาวเลือดคละคลุ้งอยู่ในโพลงปากเล็ก ๆ กองทัพทุบเขาพร้อมกับร้องประท้วงเมื่อเรียวมะมันเล่นขบกัดปากล่างเขาจนมันแตกหลายจุด รสคาวของเลือด ปลายลิ้นร้อนดันปลายลิ้นเล็ก ๆ เล่นก่อนจะเกี่ยวมันออกมาดูดแรง ๆ ตรงปลายลิ้นเล็กจนกระทั่งกองทัพหน้าซับสีเลือดด้วย เด็กหนุ่มยืนงง มึน เบลอ แม้ว่าเรียวมะจะทิ้งเขาและขับรถออกไปได้หลายสิบนาทีแล้วก็ตาม “อึก! มะ มึง!... ไอ้เหี้ยเรียว มึง!!!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD