KEEP IN MIND 2 l DEVIL vs PLANTOM

2316 Words
วันต่อมา... คำพูดของเรียวมะมันกวนใจจนทำให้กองทัพนอนไม่หลับ และเพราะเพื่อนของไอ้บ้านั่นมันตั้งใจเอาปากสกปรกมาจูบตัวเองด้วยยิ่งทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกว่าโกรธอยู่ตลอดเวลา ใบหน้าเกลี้ยงเกลาขมวดคิ้วจนยุ่ง กองทัพขับรถออกมาจากคอนโดส่วนตัวของตนเองเพื่อจะตามหาบางสิ่ง... “ไอ้เหี้ยคิงส์ มึงเจอกูแน่!” กองทัพกัดฟันแน่นตอนที่ขับรถมารอใต้คอนโดคิรินทร์ได้สักพักแล้วเห็นไอ้ตัวการมันเดินหัวเสียลงมา จากนั้นคิรินทร์ก็ขับรถออกไปด้วยความเร็วสูง เสียงล้อบดกับพื้นถนนของจากัวร์สีดำวิ่งตามออกไปทันที ไม่ว่ายังไงวันนี้ เขาต้องพาปั้นจั่นกลับมาเป็นของตัวเองให้ได้! เอี๊ยดด...!!! ตามมาไม่เท่าไหร่คิรินทร์ก็เหมือนจะรู้ตัวว่ากองทัพอยู่ด้านหลังเขา แล้วไอ้เด็กผีนั่นมันก็ไล่บี้ เปิดไฟกระพริบใส่เขาไม่เลิกรา คิรินทร์เบรกเอี๊ยดเป็นจังหวะที่กองทัพขับปาดขึ้นข้างหน้าแล้วขวางทางคิรินทร์เอาไว้ “มึงลงมาเลย ไอ้เหี้ย” กองทัพเปิดประตูรถราคาแพงของตัวเองแล้วลงมายืนพิงฝากระโปรงรถรอคิรินทร์ก่อนแบบไม่เกรงกลัว แม้ว่าคิรินทร์จะอายุเยอะกว่าเกือบสิบปีก็ตาม อีกฝ่ายเปิดประตูรถลงมาได้ก็ขมวดคิ้วใส่กองทัพอย่างแปลกใจ แต่ว่ากองทัพไม่สน ประเด็นของวันนี้คือปั้นจั่นไม่กลับบ้านตั้งแต่เมื่อคืนแล้วกองทัพก็รู้ว่าเป็นฝีมือไอ้เวรนี่! “ขับรถแบบนี้ มึงไปขับเล่นที่สวนหญ้าหน้าบ้านมึงนะ” “ปั้นจั่นอยู่ไหน” กองทัพจ้องหน้าคิรินทร์ตาเขียวปั๊ด สาบานเลยวันนี้เขาจะต่อยมันให้ปากแตก! “หืม? ถามหาคนของตัวเองกับคนอื่นแบบนี้นี่บ่งบอกสันดานได้เลยนะเว้ย หึ ๆ” “อย่ามาเล่นลิ้นกับกู ไอ้คิงส์! กูรู้นะว่ามึงจับเมียกูไป! อยากแดกอ้วกที่กูคายไว้จริง ๆ ด้วยสินะ?” บางอย่างมันทำให้กองทัพพูดออกมาแบบนั้น เด็กคนนี้ไม่รู้หรอกว่าทำไมตัวเองต้องอยากเอาชนะคิรินทร์ไปเสียทุกเรื่องด้วย รู้แค่ว่าเขาจะพูด จะทำทุกอย่างเพื่อที่จะเหยียบข้ามหัวไอ้บ้านี่ไปให้ได้! “เมีย? เมียมึงเหรอ...คนไหนล่ะวะ ยัยเมมินที่กำลังจะร่วมหุ้นโชว์รูมด้วย หรือว่ายัยผู้หญิงรุ่นแม่มึงที่เอาเงินมาล่อให้มึงเอากับเธอ... บอกตามตรงนะเว้ยว่ากูโคตรสมเพชมึงว่ะทัพ” พอโดนพูดใส่แบบนั้นเข้าหน่อย เด็กคนนั้นก็โมโหง่าย ๆ เหมือนตัวเองเป็นกองฟืนแค่รอคิรินทร์มาสะกิดด้วยสะเก็ดไฟ กองทัพก็ลุกโชนขึ้นมาแบบทันที ซึ่งนั่นคือจุดอ่อนของกองทัพและเด็กคนนี้ไม่มีวันรู้ตัวเอง “เมียกูก็คนเดียวกันกับที่มึงจ้องจะงาบไงวะ แต่เสือกทำไม่ได้…เพราะเขารักกูว่ะ” เด็กหนุ่มแสยะยิ้มเมื่อพูดออกไปแบบนั้นแล้วคิรินทร์หน้าเสีย ความจริงเป็นยังไงพวกเขาต่างรู้กันดี แค่ตอนนี้ปั้นจั่นยังอยู่ในอำนาจของกองทัพเท่านั้น “…” “ไม่รู้เหรอ พี่คิงส์... ปั้นจั่นน่ะเกลียดมึงเข้าไส้ เขาบอกกูตลอดนะว่าเขารังเกียจคนอย่างมึง เวลาที่มองหน้ามึงแล้วโคตรอยากจะอ้วกออกมาให้หมดไส้หมดพุง!” “....!” “เลิกยุ่งกับคนของกูได้แล้ว!” “ถ้าเด็กนั่นอยู่กับกูจริง ๆ แล้วมึงจะทำไม?” “ง่าย ๆ เลยนะ มึงก็แค่คืนของ ๆ กูมา เรื่องเดิมพันคืนนั้นกูก็ให้เงินมึงไปแล้วไง และเงินมันก็มากพอที่จะแลกกับตัวปั้นจั่นดะ-” ผัวะ!!! กองทัพยังพูดไม่ทันจบประโยคดีด้วยซ้ำ คิรินทร์ก็ก้าวเข้ามาซัดหมัดหนัก ๆ ใส่ข้างแก้ม แรงนำพามหาศาลของคิรินทร์ส่งผลให้กองทัพเซไปกระแทกกับรถตัวเองที่จอดอยู่ด้านหลัง มุมปากที่มีบาดแผลอยู่ก่อนเริ่มซึมหยาดเลือดแล้วมันก็ไหลเข้าสู่โพรงปากเด็กคนนั้น ถ้าคิดว่ากองทัพจะยืนให้คิรินทร์มันต่อยเอา ต่อยเอาฝ่ายเดียวละก็...คิดผิด! “ถุ้ย! มึงจะเอาใช่ไหม!” “เด็กเหี้ย ๆ แบบมึงไม่มีสิทธิ์ตีค่าปั้นจั่นแบบนั้น!” “กูจะทำยังไงกับคนของกูก็ได้! มึงอย่าสะเออะให้มากไอ้คิงส์!” กองทัพหันกลับมามองคิรินทร์ด้วยสายตาไม่ยอมแพ้แล้วยืนนวดหน้าตัวเองฝั่งที่โดนมันต่อยเมื่อครู่ ทั้ง ๆ ที่เป็นผู้ชายเหมือนกันแล้วคิดเหรอว่าเขาจะปล่อยให้ตัวเองปากแตกอยู่คนเดียว! ผัวะ!!! เด็กหนุ่มกระชากคอเสื้อคิรินทร์แล้วซัดหมัดใส่หน้าคิรินทร์จัง ๆ คนสองคนตะคอกใส่หน้ากันอย่างเดือดดาล กระทั่งคิรินทร์ถีบเข้าที่กลางลำตัวกองทัพแล้วเด็กหนุ่มก็จุกจนตัวงอ สีหน้าบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บและที่สำคัญคือมันจุกจนพูดไม่ออก คิรินทร์ชี้หน้าด่ากองทัพเสียงดังลั่นข้างถนนแล้วแต่ละประโยคก็ฟังไม่ได้เลย เพราะว่าหยาบคายเหมือนปากผู้หญิงร้าย ๆ ไม่มีผิด! “อะ อึก... อย่าเสือกมาสอนกู!!” เขาลุกขึ้นแล้วกระหน่ำกำปั้นใส่หน้าคิรินทร์อีกครั้ง ในจังหวะที่กำลังจะเสยปลายคางไอ้บ้านี่แรง ๆ สักที คอเสื้อกองทัพก็ถูกกระชากออกอย่างรุนแรง! “กัดกันข้างถนนเพื่อ!? พวกมึงเป็นหมาใช่ไหมห๊ะ!!!” รสคาวเลือดไหลเข้าตามร่องปากได้กลิ่นมันติดจมูกตลอดทั้งความเจ็บ เรียวมะกระชากกองทัพออกแล้วตบแก้มเรียกสติสองทีติด ๆ เด็กคนนั้นมึนไปเลย พอลืมตาได้สติขึ้นมา เรียวคิ้วสวยก็ขมวดเข้าหากันด้วยความไม่เข้าใจ! ไอ้เรียวมะอีกแล้วเหรอ!!! “ยะ อย่ามายุ่ง!!!!” กองทัพตะคอกใส่หน้าเรียวมะ ผู้ชายคนนั้นหัวเราะหึในลำคอเบา ๆ ด้วยความชอบใจ ไอ้เด็กนี่ สงสัยเตือนด้วยวาจาดี ๆ แล้วไม่ชอบใช่ไหมวะ... ตุ้บ!!! “อย่ามาตะโกนใส่หน้ากู” กำปั้นหนัก ๆ แบบผู้ชายซัดเข้ากลางท้องกองทัพที่เดิมเน้น ๆ เด็กคนนั้นตาค้างแล้วเลือดก็กระเซ็นออกมาจากริมฝีปากอิ่มเพราะแรงต่อยเมื่อครู่นี้ของเรียวมะมันก็ไม่ใช่เบา ๆ เหมือนตั้งใจต่อยแล้วก็รู้ด้วยว่าต่อยตรงไหนมันจะเจ็บมากกว่ากัน “มะ มึง...!” “กูกลับมาคิดบัญชีกับมึงแน่ไอ้ทัพ” เรียวมะพูดแค่นั้นจริง ๆ ด้วยสายตาน่ากลัว เขาผลักกองทัพให้ล้มลงไปนอนกับพื้นแบบไม่แยแสว่ามันจะเจ็บมากน้อยแค่ไหน ร่างสูงเดินกลับไปดึงตัวเพื่อนที่โดนเด็กมันเล่นสภาพดูไม่ได้ เรียวมะหันกลับมาปรายหางตามองด้วยความเยาะเย้ย แค่หมัดเดียวก็ลุกไม่ขึ้นแล้วเหรอวะ... เรียวมะพาคิรินทร์ไปทำแผลก่อนแล้วแวะเข้ามาดูเด็กอีกคนที่โดนเพื่อนเขาล่ามติดเตียงเอาไว้ ปั้นจั่นที่เคยเห็นตอนแรกก็แค่เด็กตัวเล็ก หน้าดุตาเฉี่ยวคม ดูสวยราวกับผู้หญิงผมสั้น แต่ขอเถอะ... พออาละวาดทีแล้วข้าวของในห้องพังเละเทะแบบนี้ สวยแค่ไหนเขาก็ขอบาย... พอมาเจอแล้วเหมือนเด็กบ้าคลั่งสติแตก ร้องไห้ตาแดงก่ำ ตามเนื้อตัวก็เขียวฟกช้ำซึ่งสภาพคิรินทร์ก็ไม่ต่างกันเลย คิรินทร์ทะเลาะกับปั้นจั่นรุนแรงจนเสียงดังออกมาข้างนอก ยอมรับว่าเพื่อนเขาตอนที่มันบ้าขึ้นมาก็ไม่ต่างอะไรกับคนโรคจิต มันไม่สนใคร ไม่แคร์ด้วย รู้แค่ต้องได้เลือดเท่านั้น คิรินทร์ทำอะไรได้มากกว่าที่ใครหลายคนคิดและเรียวมะก็ไม่เสี่ยงที่จะโดนมันฆ่า เขาโดนไล่ตะเพิดออกมาจากห้องเพราะถ้าเป็นเรื่องปั้นจั่นละก็...คิรินทร์ไม่สนใครหน้าไหน เพื่อนเขาเลือกแต่เด็กคนนั้นเท่านั้น “เมียไอ้คิงส์แม่งน่ากลัวฉิบหาย” ‘ภีรภรณ์’ เพื่อนในกลุ่มเอ่ยขึ้นตอนที่พวกเขายืนอยู่ในลิฟต์ด้วยกัน เรียวมะแค่แสยะยิ้มร้ายกาจเท่านั้น ไม่ได้ตอบอะไร ใบหน้าก็ไร้อารมณ์... “แล้วกูหวังว่าไอ้คิงส์มันจะไม่ฆ่าไอ้เด็กนั่นตายห่าก่อนนะ” “มันกล้าเหรอ...มึงก็รู้มันรักของมันแค่ไหน” “แต่อารมณ์มันน่ากลัวไง มึงไม่คิดเหรอวะ บางทีเด็กนั่นอาจจะกลัวมันแล้วคิดสั้นก็ได้” “ให้แม่งตายห่าไปเลยก็ดี กูรำคาญมามากล่ะ...ส้นตีนอะไรก็ไอ้เด็กเหี้ยนั่น กูไม่เห็นแม่งจะมีดีอะไร” เรียวมะพูดจบก็แค่นหัวเราะออกมาอีก ถ้าไม่ติดว่าคิรินทร์คือคนที่เรียวมะยกให้ขึ้นหิ้งล่ะก็...สาบานเลยว่าเขาจะดักตีหัวไอ้เด็กที่ชื่อปั้นจั่นสักวัน แต่เพราะว่าสำหรับเรียวมะแล้วคิรินทร์คือของสูงที่แตะต้องไม่ได้ ถ้ามันรักใคร เขาก็รักด้วย แต่ขอเลยอย่ามาทำร้ายจิตใจมัน แค่เท่านี้เพื่อนเขาก็รับไม่ไหวแล้ว... “แล้วนี่มึงจะไปไหน การงานไม่คิดจะทำกันแล้วใช่ไหมพวกมึง วัน ๆ เอาแต่คิดเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ” “คนมีเมียเป็นตัวเป็นตนอย่างมึงมีสิทธิ์พูดแบบนี้เหรอ” แม้แต่กับเพื่อนกันเรียวมะยังจิกกัดเหมือนโกรธกันมาเป็นชาติ ไอ้ใบหน้าไร้ความรู้สึก ไร้อารมณ์เหมือนน้ำเย็น ๆ ในมหาสมุทรแบบนั้นเมื่อไหร่เรียวมะจะเลิกทำ ปั้นหน้าเดียว 24 ชั่วโมงก็น่ากลัวไม่อยากเข้าใกล้พอแล้ว แถมมันยังมาพูดแรงต่อยหนักแบบนี้อีก ชาตินี้ทั้งชาติก็ฝันไปเถอะว่ามึงจะมีเมียดี ๆ สักคน ไอ้เพื่อนยาก... “มึงก็หาสักคนสิวะ แต่หน้าหล่อ ๆ อย่างมึงแค่กระดิกนิ้วผู้หญิงสวย ๆ ก็วิ่งมาเป็นขบวนแล้วเถอะ” “แค่ของกินเล่นมึงเข้าใจไหมพี กูไม่อยากมีใคร มันน่ารำคาญจะตายไป” “กูเลือกได้แบบพวกมึงบ้างก็ดีซิ ทุกวันนี้ที่มีอยู่ก็พ่อแม่หาไว้ให้ละวะ เหอะ ๆ” ภีรภรณ์พูดแล้วหัวเราะเยาะตัวเอง เรียวมะมองด้วยสายตาน่ารำคาญ เขาเปิดประตูรถแล้วขับออกไปทันที ขนาดเพื่อนยังไม่ล่ำลา... กองทัพนั่งอยู่กลางบ้านรุ่นพี่ของตัวเอง ‘หัสดินทร์’ หรือ หัสด์ พวกเขาค่อนข้างสนิทกันเพราะเรียนมาด้วยกันตั้งแต่ตอนที่กองทัพยังอยู่ต่างประเทศ กระทั่งย้ายมาประเทศไทย หัสดินทร์ก็ยังตามมาด้วย แม้มันจะน่าแปลกใจแต่กองทัพก็รู้สึกขอบคุณหัสดินทร์จริง ๆ ที่ไม่เคยทิ้งเขา “โอ๊ย! มันเจ็บนะเว้ย!” “กูจิ้มแรงกว่านี้ดีไหมห๊ะ สอนกี่ครั้งแล้วว่าพูดกับผู้ใหญ่ให้พูดเพราะ ๆ เด็กนี่!” หัสดินทร์จิ้มสำลีชุบแอลกอฮอล์ล้างแผลใส่มุมปากกองทัพแรงขึ้น เด็กหนุ่มเบ้หน้าด้วยความแสบแล้วต่อยหน้าขารุ่นพี่แบบไม่แรงนัก “แม่ง!” “เมื่อไหร่มึงจะหยุดไปกวนตีนมันสักที ก็รู้อยู่ว่าพี่คิงส์มันบ้าเลือด วอนตีนพี่เขาก็โดนกลับมาแบบนี้ทุกที มึงจะพอได้รึยังกองทัพ” พูดถึงกองทัพกับคิรินทร์ก็มีแต่เรื่องต่อยตีกัน สองคนนี้ไม่เหมือนพวกคนเกลียดขี้หน้ากันทั่วไป เจอกันเมื่อไหร่คือใส่กันยับเยินทุกรอบ กองทัพก็ส่วนกองทัพ คิรินทร์ก็เหมือนคนบ้าจี้ที่พอโดนเด็กแหย่นิดแหย่หน่อยไม่ได้ “มึงเรียกมันว่าพี่เพื่ออะไรห๊ะ!” “ก็เขาเป็นรุ่นพี่ แล้วมึงก็ควรเรียกกูว่าพี่ซะบ้าง!” “ไม่เรียกเว้ย!” “เออดี! อย่าให้ได้ยินว่าเรียก เพราะกูก็ไม่ได้อยากเป็นพี่มึงมากนัก” หัสดินทร์พูดสื่อนัยบางอย่างที่เด็กโง่ ๆ อย่างกองทัพไม่เคยทำความเข้าใจมันสักครั้ง หัสดินทร์รู้ว่ากองทัพนิสัยแบบไหน ที่จริงแล้วเด็กคนนี้ก็แค่ขาดความอบอุ่นจากครอบครัวเท่านั้น ครอบครัวที่ไม่เคยมอบความรักให้ มีแต่เงินทอง อำนาจ ศักดิ์ศรีบ้าบออะไรที่กองทัพไม่เคยต้องการ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ “พล่ามเหี้ยอะไรห๊ะ” “อะไรก็ได้ที่มึงไม่เคยเข้าใจกูเลย กองทัพ…” “พูดมาก น่าเบื่อ! กูกลับล่ะ...” เด็กหนุ่มกระชากเสียงเจือปนความหงุดหงิดใส่เขาเสมอ แต่หัสดินทร์ก็ไม่ได้คิดมากอะไรเพราะรู้ว่ากองทัพก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหน... เสียงประตูบ้านเขากระแทกปิดดังลั่นตามประสาเด็กวัยรุ่นเอาแต่ใจคนนั้น หัสดินทร์ส่ายหน้าไปมากับความดื้อของกองทัพ และเขาไม่รู้จะแก้มันยังไงแล้ว... กองทัพขับรถออกมาจากบ้านหัสดินทร์ด้วยอารมณ์ไม่คงที่เท่าไหร่นัก ยอมรับว่าหงุดหงิดเรื่องคิรินทร์มาก ไหนจะปั้นจั่นอีก จิตใจเด็กหนุ่มไม่สงบสักวินาทีเลย เอาแต่คิดวนไปวนมาว่าจะหาวิธีติดต่อกับปั้นจั่นยังไง รู้ตัวอีกทีตอนที่ขับรถมาจอดนิ่งใต้คอนโดของตัวเอง กองทัพใช้เวลานั่งอยู่ในรถสักพัก ร่างโปร่งถึงได้เดินออกมา แต่พอมองไปที่ทางเดินเข้าของคอนโดเห็นว่าใครยืนอยู่ก่อนแล้วเด็กคนนั้นก็ถึงกับชะงัก... เรียวมะมาทำอะไรที่นี่!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD