ตอนที่ 5: สัมผัสแรกแห่งมนต์ป่า

1395 Words
เช้าวันรุ่งขึ้น แพรวพรรณตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่นอย่างประหลาด แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องผ่านช่องว่างของผนังไม้เข้ามาภายในกระท่อม พร้อมกับเสียงนกร้องเจื้อยแจ้วที่ขับขานบทเพลงแห่งป่า ข้อเท้าของเธอที่เคยปวดบวมเมื่อคืนนี้กลับรู้สึกปกติราวกับไม่เคยเกิดอะไรขึ้น แพรวพรรณลองขยับข้อเท้าไปมา ก่อนจะลองยืนและเดินช้าๆ “หายสนิทเลยเหรอเนี่ย?” เธอพึมพำกับตัวเองด้วยความทึ่ง พลังของพฤกษ์...หรือเจ้าป่านั้นมันเหลือเชื่อจริงๆ เธอเดินออกมานอกกระท่อม อากาศยามเช้าในป่าเย็นสบายและบริสุทธิ์ กลิ่นดินชื้นๆ ผสมกับกลิ่นดอกไม้ป่าหอมจรุงใจ แพรวพรรณสูดหายใจเข้าเต็มปอด รู้สึกถึงพลังชีวิตที่ไหลเวียนเข้ามาในกาย “ตื่นแล้วหรือ?” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น ทำให้แพรวพรรณหันขวับไปมอง พฤกษ์ ยืนอยู่ริมลำธาร ไม่ไกลจากกระท่อม เขากำลังยืนหันหลังให้เธอ ท่อนบนเปลือยเปล่าเช่นเคย มีหยดน้ำเกาะพราวบนผิวสีแทนที่รับกับแสงแดดยามเช้า ร่างกายของเขาสมบูรณ์แบบราวกับรูปปั้นเทพเจ้ากรีก แพรวพรรณรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งใบหน้า เธอไม่เคยเห็นชายใดเปลือยท่อนบนที่ดูดีเท่านี้มาก่อน พลันสายตาก็เหลือบไปเห็น เสือดำตัวใหญ่ กำลังเลียมือของพฤกษ์อย่างเชื่องๆ ราวกับลูกแมวตัวน้อย แพรวพรรณเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เสือดำ...สัตว์นักล่าที่น่ากลัวที่สุดชนิดหนึ่งในป่า กลับทำตัวเหมือนสัตว์เลี้ยง! พฤกษ์หันมามองเธอพลางคลี่ยิ้มบางๆ ที่มุมปาก ดวงตาคมกริบสีเขียวอมฟ้าของเขาสะท้อนแสงแดดยามเช้าเป็นประกายระยิบระยับ “เข้ามาสิ อากาศยามเช้าในป่าดีต่อสุขภาพ” แพรวพรรณเดินเข้าไปหาพฤกษ์อย่างลังเล เธอพยายามควบคุมสีหน้าและอาการใจเต้นของตัวเอง “เสือ...เสือดำ...” เธอเอ่ยเสียงเบา พลางชี้ไปที่สัตว์นักล่าที่กำลังคลอเคลียพฤกษ์อย่างไม่คิดกลัว “มันเป็นเพื่อนของข้า” พฤกษ์ตอบเสียงเรียบ ก่อนจะลูบหัวเสือดำเบาๆ อย่างอ่อนโยน เสือดำตัวนั้นหันมามองแพรวพรรณ ดวงตาของมันไม่ได้แสดงความดุร้ายเลยแม้แต่น้อย มีเพียงความอยากรู้อยากเห็นเท่านั้น แพรวพรรณยังคงยืนนิ่ง ไม่กล้าขยับเข้าไปใกล้กว่านี้ พฤกษ์สังเกตเห็นความลังเลของเธอ เขาจึงหันไปพูดกับเสือดำด้วยภาษาที่แพรวพรรณไม่เข้าใจ เสียงของเขาฟังดูเหมือนเสียงกระซิบของสายลมและเสียงน้ำไหล เสือดำพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังเดินหายเข้าไปในพุ่มไม้ราวกับไม่เคยมีตัวตนอยู่ตรงนั้นเลย “ไม่ต้องกลัว มันไม่ทำร้ายเจ้าหรอก” พฤกษ์บอกกับเธอ แพรวพรรณถอนหายใจโล่งอก “คุณคุยกับสัตว์ได้ด้วยเหรอคะ?” แพรวพรรณถามด้วยความประหลาดใจ พฤกษ์พยักหน้า “ข้าเข้าใจภาษาของธรรมชาติทุกสรรพสิ่ง” เขายื่นผลไม้สีแดงสดใสที่อยู่ในมือมาให้เธอ “เจ้าคงหิวแล้ว” แพรวพรรณรับผลไม้มาอย่างงงๆ ผลไม้นั้นมีลักษณะแปลกตาไม่เหมือนที่เธอเคยเห็นมาก่อน แต่ก็มีกลิ่นหอมหวานน่ารับประทาน เธอรับมาลองกัดดู รสชาติหวานฉ่ำ ชื่นใจ ทำให้เธอรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที “มันคือผลไม้ชนิดใดคะ? ฉันไม่เคยเห็นเลย” “เป็นผลไม้แห่งป่าลึก ไม่ได้มีให้เห็นทั่วไป” พฤกษ์ตอบ ดวงตาของเขาทอประกายแห่งความภาคภูมิใจในผืนป่าของเขา ตลอดช่วงเช้านั้น แพรวพรรณใช้เวลาเรียนรู้สิ่งต่างๆ จากพฤกษ์ เขาพาเธอไปดูต้นไม้สมุนไพรหายาก บอกสรรพคุณและวิธีใช้ เขาชี้ให้ดูร่องรอยสัตว์ป่า และสอนวิธีการสังเกตธรรมชาติรอบตัว แพรวพรรณรู้สึกเหมือนได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ ทั้งหมดที่เธอเคยเรียนรู้มาจากตำราดูเหมือนจะเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่พฤกษ์สอนเธอ พฤกษ์แสดงพลังบางอย่างให้เธอเห็นโดยไม่ได้ตั้งใจหลายครั้ง เช่น การที่เขาสามารถหาปลาในลำธารได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ใช้มือสัมผัสน้ำ หรือการที่เขาชี้ไปที่ดอกไม้ตูมๆ แล้วดอกไม้นั้นก็บานสะพรั่งทันตาเห็น “คุณ...คุณทำได้ยังไงคะ?” แพรวพรรณถามด้วยความทึ่งเมื่อเห็นดอกไม้บาน พฤกษ์ยิ้มเล็กน้อย "ทุกสรรพสิ่งในป่าล้วนเชื่อมโยงกัน เมื่อใจเราเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ เราก็สามารถเข้าใจและสื่อสารกับมันได้" ขณะที่กำลังเดินสำรวจป่าด้วยกัน พฤกษ์ก็พลันเหลือบไปเห็นกิ่งไม้ใหญ่ที่หักโค่นขวางทางอยู่ เขามองมันด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อย แพรวพรรณมองตาม “มันอันตรายเหรอคะ?” “มันขวางทางที่สัตว์ป่าใช้อยู่ประจำ” พฤกษ์ตอบ ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้กิ่งไม้ เขายกมือขึ้นสัมผัสกิ่งไม้นั้น แพรวพรรณสังเกตเห็นว่า แสงสีเขียวจางๆ เปล่งประกายออกมาจากมือของเขาอีกครั้ง ทันใดนั้น กิ่งไม้ที่ใหญ่และหนักอึ้งนั้นก็ค่อยๆ ขยับตัวช้าๆ ราวกับมีชีวิต ก่อนจะเลื่อนออกไปจากเส้นทางอย่างราบรื่นราวกับถูกยกด้วยแรงที่มองไม่เห็น แพรวพรรณอ้าปากค้างอีกครั้ง สิ่งที่เธอเห็นนั้นมันมหัศจรรย์เกินกว่าที่มนุษย์ทั่วไปจะทำได้ เธอมองพฤกษ์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความทึ่งและศรัทธา “นี่แหละคือพลังของเจ้าป่า” เธอนึกในใจ ตอนนี้เธอเชื่อแล้วอย่างสนิทใจว่าเขาไม่ใช่แค่คนธรรมดา แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่เหนือธรรมชาติ เป็นดั่งเทพผู้พิทักษ์ผืนป่าแห่งนี้จริงๆ เมื่อฟ้าเริ่มคล้อยต่ำลง ทั้งสองก็เดินทางกลับมายังกระท่อม แพรวพรรณรู้สึกเหนื่อยล้าแต่ก็เปี่ยมไปด้วยพลังงานใหม่ๆ ที่ได้รับจากธรรมชาติและพฤกษ์ ขณะที่พฤกษ์กำลังก่อไฟในเตาผิง แพรวพรรณก็เดินเข้าไปช่วยจัดเตรียมสมุนไพรที่เขาเก็บมา เธอเหลือบมองเขาเป็นระยะ พฤกษ์ในยามที่กำลังทำอะไรบางอย่าง ดูน่ามองอย่างประหลาด แสงไฟจากเตาผิงกระทบกับแผงอกของเขาเป็นเงาตะคุ่ม ดูมีเสน่ห์และลึกลับ “ขอบคุณนะคะสำหรับวันนี้ ฉันได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะเลย” แพรวพรรณกล่าวด้วยรอยยิ้ม พฤกษ์เงยหน้าขึ้นมองเธอ ดวงตาเขียวอมฟ้าของเขาจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของเธอ ราวกับจะอ่านความคิดของเธอ แพรวพรรณรู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ แล่นไปทั่วร่าง หัวใจของเธอเต้นแรงอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย “เจ้าเป็นมนุษย์ที่พิเศษ แพรวพรรณ” พฤกษ์กล่าว น้ำเสียงของเขาแหบพร่าเล็กน้อย “เจ้ามีจิตใจที่บริสุทธิ์และเปี่ยมด้วยความเมตตา” คำพูดของเขาทำให้ใบหน้าของแพรวพรรณเห่อร้อน เธอรู้สึกเขินอายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ฉัน...ฉันก็แค่พยาบาลธรรมดาคนหนึ่งค่ะ” เธอตอบ พฤกษ์คลี่ยิ้ม “แต่เจ้าต่างจากคนธรรมดา ข้ารู้สึกได้” แพรวพรรณไม่รู้จะตอบอะไร เธอทำได้เพียงหลบสายตาไปที่กองสมุนไพรในมือ แต่ความรู้สึกใจสั่นหวิวก็ยังคงอยู่ เธอไม่แน่ใจว่าความรู้สึกนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจจะตั้งแต่ที่เขาเข้ามาช่วยเธอตอนบาดเจ็บ หรือตอนที่เห็นเขาในร่างเสือโคร่ง หรือแม้แต่ตอนนี้ที่เขากำลังมองเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้งเกินกว่าจะเข้าใจได้ คืนนั้น แพรวพรรณนอนไม่หลับ เธอพลิกตัวไปมาบนเสื่อที่ปูไว้ให้ มองดูเปลวไฟที่เตาผิง พลางนึกถึงดวงตาคมกริบสีเขียวอมฟ้าของพฤกษ์ ภาพเสือดำที่เชื่องกับเขา ภาพที่เขาสามารถบงการธรรมชาติได้ผุดขึ้นมาในห้วงความคิด เธอมาที่นี่เพื่อเยียวยาบาดแผลในใจ แต่กลับพบกับความลึกลับและสิ่งมีชีวิตที่เหนือธรรมชาติ และที่สำคัญที่สุด เธอพบกับความรู้สึกใหม่ที่ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ ในใจของเธอ...ความรู้สึกที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วราวกับเมล็ดพืชที่ได้รับน้ำ ตอนนี้แพรวพรรณเริ่มเห็นถึงพลังและความพิเศษของพฤกษ์แล้วนะคะ และความรู้สึกดีๆ ก็เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างชัดเจนในใจเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD