เสียงเพลงอึกทึกและแสงไฟหลากสีส่องสลับไปมาภายในผับชื่อดัง ผู้คนมากมายต่างกำลังดื่ม กำลังเต้น แต่ในมุมหนึ่งของผับ ริวกำลังนั่งอยู่กับเพื่อนสามคน ใบหน้าของเขาเคร่งเครียด มือข้างหนึ่งถือแก้วเหล้า ส่วนอีกข้างหยิบขวดเทใส่แก้วไม่หยุด
"เฮ้ย ไอริว มึงจะแดกให้ตายเลยหรือไง!" มาวิน เพื่อนสนิทของริวเอ่ยขึ้น เขาจ้องมองเพื่อนด้วยสายตาตำหนิ ริวดูเหมือนไม่ใส่ใจคำพูดนั้นเลย
"เออ ตาย ๆ ไปก็ดี!" ริวตอบเสียงดัง ฟังดูเหนื่อยล้าและเจ็บปวด เขายกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด ก่อนวางลงเสียงดัง
"อาการหนักละมึง" คริส เพื่อนอีกคนพูดด้วยน้ำเสียงกึ่งล้อเลียนแต่แฝงความเป็นห่วง
"ทำไมวะ ทำไมพ่อกับแม่กูต้องบังคับให้กูแต่งงานกับคนที่กูไม่รู้จัก แถมไม่ได้รักด้วย!" ริวระบายออกมาพร้อมรินเหล้าใส่แก้วอีกครั้ง ก่อนจะกระดกเหมือนน้ำเปล่า ความโกรธแค้นและเสียใจในน้ำเสียงของเขาชัดเจน
"เอาหน่า ไอริว บางทีพ่อแม่มึงอาจจะเห็นอะไรบางอย่างที่มึงไม่เห็นก็ได้" วาคิม พูดด้วยน้ำเสียงใจเย็น พยายามปลอบใจเพื่อน
ริวหันไปมองหน้าวาคิม สายตาเต็มไปด้วยความโมโห
"เห็นอะไร! กูรักไคร่า! เธอเป็นคนดี และเป็นคนที่กูอยากใช้ชีวิตด้วย! คนที่สมหวังในความรักอย่างมึงไม่มีวันเข้าใจหรอก!" คำพูดของเขาเหมือนคมมีดที่ทิ่มแทง
มาวินขยับตัวเข้ามาใกล้ ก่อนจะพูดพร้อมหัวเราะเยาะ
"เออ ปล่อยแม่งให้มันแดกให้ตายไปเถอะ ไอริวนี่มันกระจอกจริง ๆ แทนที่จะไปแก้ปัญหา กลับมานั่งแดกเหล้าเหมือนคนหมดอาลัยตายอยากแบบนี้"
ริวหันขวับไปมองเพื่อน แต่ไม่มีแรงจะเถียง เขาแค่ก้มหน้าแล้วกระดกเหล้าต่อ สายตาเต็มไปด้วยความว่างเปล่า
อีกฟากหนึ่งของผับเดียวกัน น้ำหวานกำลังเต้นโยกย้ายร่างกายไปตามจังหวะเพลงที่ดังกระหึ่ม ร่างบางในชุดเดรสเกาะอกสีแดงสดรัดรูป เน้นรูปร่างที่สมส่วน ความยาวของกระโปรงไม่ถึงเข่า เผยให้เห็นเรียวขาขาวและรองเท้าส้นสูงที่ทำให้เธอโดดเด่นในหมู่ฝูงชน
สายตาของชายหนุ่มหลายคนมองตามเธอด้วยความสนใจ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ แต่น้ำหวานไม่สนใจ เธอเต้นอย่างไม่แคร์ใคร ราวกับต้องการระบายความอึดอัดที่เก็บกดอยู่ในใจ
"วู้ว! ไอชีวิตเฮงซวย!" น้ำหวานตะโกนออกมาดัง ๆ เรียกความสนใจจากคนรอบข้าง
สายฝนและนานิ เพื่อนสนิทของเธอที่นั่งอยู่ไม่ไกลมองหน้ากันอย่างเหนื่อยหน่าย ตั้งแต่มาถึงตอนหัวค่ำ น้ำหวานก็ไม่ยอมพักเลยแม้แต่นิดเดียว
"น้ำหวาน ฉันว่าแกพอเถอะ!" สายฝนลุกขึ้นเดินเข้าไปหาน้ำหวาน สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเป็นห่วง สายฝนรู้ดีว่าความสวยของเพื่อนตัวเองกำลังดึงดูดสายตาของผู้ชายในผับหลายคน และเธอไม่ไว้ใจใครเลยแม้แต่คนเดียว
"ปล่อย!" น้ำหวานพูดเสียงห้วน พร้อมปัดแขนเพื่อนออก
สายฝนชะงักไป เธอถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะหันไปสบตานานิที่ยกมือขึ้นพนมหน้าผากอย่างปลงตก
น้ำหวานยังคงเต้นต่อไป ความคิดในหัวของเธอวนเวียนถึงคำสั่งของพ่อ และความอิสระที่เธอไม่เคยได้ครอบครอง ขณะโยกตัวไปตามเสียงเพลงที่ดังราวกับโลกทั้งใบของน้ำหวานจมหายไปในจังหวะนั้น
เช้าวันต่อมา
แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ้าม่านเข้ามาในห้องพัก ทำให้น้ำหวานค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นอย่างเชื่องช้า ความเพลียและปวดหัวจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เมื่อคืนยังคงหลงเหลือ เธอขยับตัวเล็กน้อย แต่ต้องชะงักเมื่อความเจ็บแปลบ ๆ ปรากฏขึ้นตรงกลางร่างกาย ความรู้สึกตึงและเจ็บที่ท้องน้อยทำให้น้ำหวานขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
น้ำหวานพยายามตั้งสติ พลิกตัวมองไปรอบ ๆ ห้องอย่างงุนงง ที่นี่ไม่ใช่ห้องของเธอแน่ ๆ และทันทีที่เธอก้มลงมองตัวเอง ความตกใจก็พุ่งเข้าจู่โจมราวกับฟ้าผ่า น้ำหวานเบิกตากว้างเมื่อพบว่าตัวเองอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ผิวเนื้อขาวผ่องของเธอไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้นปกปิด
"นี่มัน...เกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน?" น้ำหวานพึมพำเสียงสั่น หัวใจเต้นรัวจนแทบจะหลุดออกมา
น้ำหวานรีบลุกขึ้นจากเตียง สายตาเหลือบไปเห็นรอยเลือดที่เปื้อนอยู่บนผ้าปูที่นอน ราวกับหลักฐานที่ยืนยันสิ่งที่เกิดขึ้น น้ำหวานยกมือขึ้นปิดปากด้วยความช็อก ดวงตาเริ่มร้อนผ่าว น้ำตาคลอเบ้า
น้ำหวานพยายามตั้งสติ สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากเตียง เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อย น้ำหวานออกมาและเริ่มมองหาข้าวของของตัวเอง ร่างบางที่ยังรู้สึกปวดเมื่อยและอ่อนแรงเดินไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง
ทันใดนั้น เธอก็พบกับเงินจำนวนหนึ่งวางอยู่ถัดจากกระเป๋า ธนบัตรสีเทาสิบสองใบเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ เธอหยิบขึ้นมาดูด้วยความสับสน
"เงิน" น้ำหวานพูดพึมพำพลางมองไปรอบห้องอีกครั้ง หวังว่าจะพบใครสักคนที่จะตอบคำถามให้เธอได้ แต่ไม่มีใครอยู่ที่นี่เลย
หัวใจของน้ำหวานเต้นรัว เธอรู้สึกทั้งอับอาย สับสน และเจ็บปวด ไม่ใช่แค่ที่ร่างกาย แต่รวมถึงจิตใจที่กำลังแตกสลายที่เธอพลาดมีอะไรกับใครที่ไม่รู้ว่าเขาคนนั้นเป็นใคร น้ำหวานวางเงินก้อนนั้นกลับลงที่เดิม มือบางกำแน่นด้วยความรู้สึกคุกรุ่น เธอสูดลมหายใจลึกพยายามกักเก็บน้ำตาเอาไว้ ก่อนจะรีบเก็บกระเป๋าของตัวเองและเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว
เสียงฝีเท้าของเธอสะท้อนไปตามทางเดินของโรงแรม หัวใจที่ยังสั่นไหวและคำถามมากมายยังคงวิ่งวนในหัว น้ำหวานรู้ว่าเธอจะไม่มีวันลืมเช้าวันนี้ได้เลย...