ตอนที่ 8 เมียน้อย

1442 Words
หลังจากพิธีแต่งงานที่ดำเนินไปอย่างราบรื่น น้ำหวานถูกส่งมายังเรือนหอ ซึ่งคุณหญิงปันฑารีย์ แม่ของริว เป็นคนจัดหาให้ ทุกอย่างในห้องถูกตกแต่งอย่างประณีต แต่ความหรูหรากลับไม่ได้ช่วยทำให้ความหวาดกลัวในใจของน้ำหวานลดลงเลย น้ำหวานนั่งอยู่ที่ปลายเตียง กุมมือตัวเองแน่นจนเหงื่อชุ่ม มือเล็กๆ ที่สั่นไหวสะท้อนให้เห็นถึงความกังวล เธอเหลือบมองไปยังริวที่ยืนพิงระเบียงพร้อมพ่นควันบุหรี่ออกมาอย่างไม่สนใจสิ่งรอบตัว ใบหน้าของเขาเย็นชา ดวงตาคมกริบจ้องมองวิวเบื้องล่าง แต่กลับทำให้น้ำหวานยิ่งรู้สึกเหมือนติดอยู่ในกรงขัง หัวใจของน้ำหวานเต้นแรง เธอพยายามคิดหาวิธีที่จะหนีออกไปจากห้องนี้ แต่เมื่อหันไปมองประตู เธอก็รู้ว่ามันไร้ประโยชน์ พ่อของเธอ คณกร และคุณหญิงปันฑารีย์ ได้สั่งให้คนเฝ้าประตูไว้แน่นหนา เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำหวานจะไม่มีโอกาสหนีออกไป ขณะที่น้ำหวานกำลังครุ่นคิด เธอก็สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงริวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่แฝงไว้ด้วยความกวนประสาท "กำลังหาทางหนีอยู่เหรอ?" น้ำหวานหันไปมองริวแวบหนึ่ง ก่อนจะรีบหันกลับ เธอเมินคำพูดของริวและพยายามไม่ตอบโต้ เพราะไม่อยากให้เกิดการทะเลาะกัน ริวที่เห็นน้ำหวานเมินเฉยก็ชะงักไปเล็กน้อย ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อยพร้อมกระตุกมุมปากขึ้นนิดๆ แต่ในใจกลับเริ่มเดือดพล่านด้วยความหงุดหงิด น้ำหวานที่รู้ดีว่าหนีไปไหนไม่ได้และยังต้องอยู่ในห้องนี้กับริวทั้งคืน เธอจึงตัดสินใจลุกขึ้นไปหยิบเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนและเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ เธอหวังว่าการอาบน้ำอาจช่วยทำให้จิตใจสงบลงได้บ้าง แต่เมื่อถึงตอนที่น้ำหวานพยายามจะรูดซิปชุดเจ้าสาวที่ค่อนข้างยาวออก เธอกลับพบว่าแขนของตัวเองไม่สามารถเอื้อมไปถึงได้ แม้จะพยายามดึงและแกะออกอย่างสุดกำลัง แต่ก็ยังไม่สำเร็จ น้ำหวานถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย ริวที่ยืนพิงระเบียงมองเธออยู่จากมุมหนึ่งของห้องเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ดวงตาคมกริบของเขาเป็นประกายเจ้าเล่ห์ทันที เขายกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มบาง ก่อนจะทิ้งก้นบุหรี่ลงแล้วเดินเข้าไปหาน้ำหวานอย่างเงียบเชียบ น้ำหวานที่กำลังวุ่นวายกับชุดของตัวเองไม่ได้ทันสังเกต จนกระทั่งเธอรู้สึกได้ถึงมือใหญ่ที่สัมผัสเบาๆ บริเวณหลังของเธอ ริวเอื้อมมือมาจับซิปชุดเจ้าสาวก่อนจะรูดลงช้าๆ "ฉันช่วยเอง" ริวเอ่ยเสียงต่ำเบา แต่มันกลับทำให้น้ำหวานตัวแข็งทื่อ ความเงียบเข้าปกคลุม น้ำหวานชะงักและไม่กล้าขยับ เธอรู้สึกถึงความอุ่นร้อนจากมือของริวที่สัมผัสแผ่นหลังเนียนของเธอผ่านผิวที่ปราศจากเนื้อผ้า เมื่อริวดึงซิปลงจนเกือบสุด น้ำหวานเริ่มรู้สึกจั๊กจี้จนต้องสะดุ้ง น้ำหวานรีบหันกลับมาพร้อมสายตาตกใจ แต่ก็ต้องพบกับสายตาคมของริวที่มองเธอด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความนัย "นี่! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!" น้ำหวานพยายามพูดเสียงแข็ง พร้อมดันตัวริวออก แต่ริวกลับไม่ปล่อยน้ำหวาน เขาคว้าเอวน้ำหวานไว้แน่นก่อนจะกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงที่ชวนให้ขนลุก "เป็นเมียฉันแล้ว...ก็ทำหน้าที่เมียหน่อยสิ" พูดจบ ริวก็ก้มลงจูบเบาๆ ที่แผ่นหลังของน้ำหวาน น้ำหวานที่ตกใจพยายามดันตัวริวออกไป แต่แรงของเธอเทียบเขาไม่ได้เลย น้ำหวานจึงได้แต่ยืนตัวแข็งปล่อยให้ริวทำตามใจตัวเอง ดวงตาของน้ำหวานเริ่มเอ่อคลอด้วยน้ำตา เธอรู้สึกทั้งหวาดกลัวและอึดอัดกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ยิ่งพยายามต่อต้าน ริวกลับยิ่งรุกล้ำเธอมากขึ้น ความเงียบภายในห้องถูกแทนที่ด้วยเสียงลมหายใจที่หนักหน่วง น้ำหวานได้แต่ภาวนาให้ค่ำคืนนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็วที่สุด ช่วงสายของวัน น้ำหวานค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมความรู้สึกเพลียและปวดเมื่อยตามร่างกายจากเหตุการณ์เมื่อคืน เธอขยับตัวเล็กน้อยแล้วพลิกไปมองข้างเตียง แต่กลับไม่พบร่างของริว ชายผู้ที่ใช้เวลาทั้งคืนกับเธอ น้ำหวานลุกขึ้นนั่งบนเตียง ห่มผ้าขึ้นปิดตัวเล็กน้อยด้วยความรู้สึกประหม่าปะปนไปกับความโล่งใจ น้ำหวานสวมเสื้อคลุมผ้าซาตินสีขาวที่วางอยู่ข้างเตียง เดินไปที่ระเบียงเพื่อตรวจดูว่าเขาอยู่หรือไม่ เมื่อมองไปก็พบแต่เพียงความว่างเปล่า ความสงสัยทำให้น้ำหวานเดินสำรวจไปทั่วห้อง แต่ไม่ว่าจะมองหาที่มุมใดก็ไม่มีวี่แววของเขา น้ำหวานถอนหายใจออกมาเบาๆ ความโล่งใจผสมกับความรู้สึกว้าวุ่นทำให้เธอพึมพำกับตัวเอง "ดีแล้วที่ไม่เจอ...ไม่งั้น ไม่รู้จะมองหน้ายังไง..." น้ำหวานหยุดคิดครู่หนึ่งก่อนจะกรี๊ดเบาๆ "กรี๊ดดด ยัยน้ำหวาน เมื่อคืนแกทำอะไรลงไปเนี่ย" หลังจากนั้นน้ำหวานเดินไปยังประตูเพื่อดูว่ามันยังล็อกอยู่หรือไม่ และเมื่อพบว่าประตูไม่ได้ล็อกเหมือนเมื่อคืน น้ำหวานก็ใจเต้นแรง แต่ตัดสินใจพึมพำกับตัวเองอีกครั้ง "ไม่... เราจะไม่ยอมเจอตานั่นเด็ดขาด!" น้ำหวานรีบตรงดิ่งเข้าห้องน้ำทันทีเพื่อเตรียมตัวออกจากที่นี่โดยไม่รีรอ เมื่อทุกอย่างพร้อม น้ำหวานก็หนีออกจากเรือนหอโดยที่ไม่หันกลับไปมอง เธอรีบมุ่งหน้ากลับมายังคอนโดของตัวเอง ทันทีที่มาถึง น้ำหวานสูดลมหายใจลึกแล้วรีบตรงไปยังห้องพักของตัวเอง แต่ในขณะที่กำลังเดินไปตามทางเดินในคอนโดนั้น เธอก็ชะงักเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นริว เขายืนอยู่หน้าห้องพักห้องหนึ่ง ดูเหมือนกำลังพูดคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมีลักษณะเป็นหญิงสาวลูกครึ่ง ผิวขาวอมชมพู ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนดูเศร้าหมอง น้ำหวานรีบหลบไปอยู่หลังมุมกำแพงเพื่อไม่ให้ทั้งสองคนเห็น เธอตัดสินใจแอบฟังบทสนทนาของพวกเขาทั้งสอง "ไคร่า ทำไมย้ายคอนโดไม่บอกเรา?" ริวพูดด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความไม่พอใจ เขาจับมือของหญิงสาวคนนั้นแน่น หญิงสาวทสะบัดมือออก ก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด "ริว ต้องการอะไรจากเราอีกละ เราย้ายออกมามันก็ดีแล้ว ถ้าเกิดภรรยาของริวรู้ว่าเรา อยู่คอนโดกับริว เธอคงเสียใจมากเลยนะ" ริวถอนหายใจลึกก่อนเอ่ยเสียงดื้อดึง "เรื่องนั้นเราไม่สน เขาจะคิดยังไงก็เรื่องของเขา แต่ตอนนี้ไคร่าต้องกลับไปอยู่คอนโดกับเรา" คำพูดนั้นทำให้ไคร่าเบิกตากว้าง เธอถอยหลังเล็กน้อยก่อนส่ายหน้าช้าๆ น้ำตาเริ่มเอ่อคลอ "ริว... เราอยู่กับคนที่แต่งงานแล้วไม่ได้ เราไม่อยากเป็นเมียน้อยใคร... ริวแคร์เราบ้างไหม?" น้ำหวานที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้นรู้สึกเหมือนหัวใจเธอถูกบีบจนเจ็บแปลบ ความเจ็บปวดบางอย่างที่เธอไม่สามารถอธิบายได้ถาโถมเข้ามา "ไม่ ไคร่าคือคนที่ริวอยากแต่งงานด้วย ไคร่ารอหน่อยนะ เราจะรีบหาทางหย่าให้ได้" ริวพูดพร้อมพยายามดึงไคร่าเข้ามากอด แต่เธอถอยออกห่างพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม "ริวคิดว่าได้หรอ ริวก็รู้ว่าแม่ริวไม่ชอบเรา ริวก็เห็นว่าเราพยายามมาตลอด เพื่อที่จะให้แม่ของริวชอบเรา" น้ำหวานซึ่งแอบอยู่หลังมุมกำแพงได้ยินทุกอย่างชัดเจน ริวพยายามจะอธิบายอะไรบางอย่าง แต่ในที่สุดไคร่าก็เดินเข้าไปในห้องของตัวเองปิดประตูใส่หน้าเขา ทิ้งให้ริวยืนนิ่งอยู่หน้าประตูด้วยความหัวเสียก่อนเดินจากไป น้ำหวานรอจนสถานการณ์สงบลง เธอเดินผ่านหน้าห้องของไคร่าไปโดยไม่แม้แต่จะหยุดมอง เธอกลับไปยังห้องของตัวเองด้วยจิตใจที่สับสนอย่างหนัก ความรู้สึกแปลกประหลาดที่ไม่สามารถบรรยายได้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวใจของเธอ...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD